|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปุ๋ยอินทรีย์นรก
เฮียปลาวาฬผู้นำเข้าปุ๋ยเคมียักษ์ใหญ่อนาถประเทศ กำลังยิ้มหวานกับการเก็งกำไรราคาปุ๋ยเคมีที่นำเข้า จากประเทศเซาว์ดี้ ที่มีของเสียจากการผลิตน้ำมัน สามารถแปรรูปเป็นสารเคมีประเภทปุ๋ยเคมีส่งออกได้ รวมทั้งค่าเงินบาทลดลงไปมากแล้ว ขณะเดียวกันราคาพืชผลผลิตก็ดีมาก ชาวไร่ชาวนาชาวสวนต่างต้องการปุ๋ยไปใช้มาก เรียกว่าผลผลิตราคาดี ราคาปุ๋ยและการใช้ปุ๋ยจะดีตาม แต่ราคาพืชผลไม่ดี ราคาปุ๋ยกับการใช้ปุ๋ยจะลดลงทันที เป็นสมการที่ผกพันและต่อเนื่องซึ่งกันและกัน ตอนนี้เฮียปลาวาฬเก็บปุ๋ยเคมี อยู่ในโกดังไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นตันแล้ว พร้อมกับค่อย ๆ ดึงปริมาณปุ๋ยเคมี ให้ออกสู่ท้องตลาดน้อยทีละน้อย ๆ ปริมาณออกสู่ท้องตลาดน้อยเท่าไร เรียกว่ากำไรจะงอกงามมากเท่านั้น หลักการค้าง่าย ๆ คือ ให้มีของ(สินค้า)ขาดตลาดบ้าง คนจะต้องการซื้อมากกว่าของเหลือกินเหลือใช้ (ตัวอย่างผลไม้ออกก่อน/หลังสุดกว่าเจ้าอื่น หรือผลไม้ทะวาย ที่มีของขายในตลาดน้อยราย) ตัวเลขประมาณการตอนนี้กำไร กำไร กำไร โชคชะตาฟ้าลิขิต ชะตาคนหรือจะสู้ลิขิตฟ้า รัฐบาลประกาศนำเข้าเสรี งดเว้นภาษีนำเข้าปุ๋ย กับมีมาตรการช่วยเหลืออีกหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะชาวบ้านร้องเรียนผ่านนักการเมืองท้องถิ่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร วุฒิสมาชิก หลายคนว่า ปุ๋ยแพงเหลือเกิน ใส่ลงไปต้นทุนหาย กำไรหด รัฐบาลจะช่วยอย่างไร ช่วยที มิฉะนั้นจะเดินขบวน ปิดถนนเป็นมาตรการเด็ดขาด พร้อมกับเทกองผลไม้ลงบนท้องถนน ประท้วง ประท้วง ประท้วง ปุ๋ยแพงเกินไป ปุ๋ยแพงเกินไป ปุ๋ยแพงเกินไป เฮียปลาวาฬเลยต้องรีบเร่งขายปุ๋ยในโกดัง แต่ช้าไปแล้วต๋อย รายย่อยนำเข้าแล้วขายในราคาต่ำกว่ามาก เพราะรัฐบาล subsidy (อุดหนุน) ลดภาษีนำเข้า ยกเว้นเบ็ดเตล็ด กับอื่น ๆ อีกมากมาย ๆ งานนี้เฮียปลาวาฬเรียกว่า เข้าเนื้อ เข้าเลือด หรืออ๊วกเป็นเลือดเหมือนจิวยี่ในสามก๊ก ทุนหาย กำไรหมด ชะตาใกล้ขาดแล้ว เจ้าหนี้ธนาคารที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใส รีบเดินกางร่มให้เฮียปลาวาฬก่อนแดดออก ตอนนี้รีบดึงร่มคืนแล้ว ก่อนฝนจะตกปรอย ๆ (เรียกคืนเงินกู้พร้อมทั้งดอกเบี้ย กับเร่งรัดชำระหนี้) จะทำอย่างไรดีหนอ จะทำอย่างไรดีหนอ เฮียปลาวาฬคร่ำครวญกับตนเอง เฮียปลาวาฬเลยเรียกประชุมด่วน กรรมการชุดย่อยแต่มีอำนาจใหญ่สุดในบริษัท มี ปลาฉลาม เต่า เข้าร่วมประชุมด่วน " ไอ้ฉลาม ไอ้เต่า หาทางแก้ไขปัญหาด่วน ตอนนี้คุณภาพปุ๋ยลดลงแล้ว ราคาขายให้โรงงานผลิตเจ้าอื่น ตอนนี้ให้ราคาต่ำกว่าพื้นดินแล้วฟะ (หรือถูกกว่าทรายถมที่ซะีอีก) " หมายเหตุ ปุ๋ยเคมีตามท้องตลาด/โกดังสินค้า ที่เก็บไว้มีอายุเกินกว่าสามเดือนขึ้นไป คุณภาพปุ่ยเคมีจะลดลงไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่รีบใช้งานให้หมดหลังจากนำเข้าหรือเปิดถุงปุ๋ยใช้แล้ว ถ้าทิ้งไว้นานไม่ต่างกับการสะสมกรวดทรายไว้ในโกดัง/ถุงปุ๋ย ยกเว้น แต่ปุ๋ยที่เคลือบสารสีต่าง ๆ ปุ๋ยแบบละลายช้า ยี่ห้อ อิดออด ๆ อะไรทำนองนี้ " เท่านั้นยังไม่พอ จะทิ้งก็เสียดาย เก็บไว้ก็รกรุงรัง จะทำอย่างไรดีฟะ ถามไอ้หอยแครง มันบอกว่า เจ้าประจำที่รับเหมา ขนทิ้งเศษวัสดุหรือขยะโรงงาน คิดแพงกว่าเดิมอีกตันละหลายร้อย อ้างว่า น้ำมันแพง กับหาที่ทิ้งยากแล้ว กับกลัวระเบิดเวลาขนปุ๋ยเคมีมาก ๆ ไม่รู้มันไปรู้มาจากไหนฟะ รวมทั้งหน่วยราชการเพ่งเล็งมาก เวลาขนย้ายปุ๋ยกับสารเคมีจำนวนมาก ๆ เพราะปุ๋ยบางตัวราชการควบคุม กลัวว่าพวกโจรก่อการร้ายมาลายู แถวสามจังหวัดชายแดนอนาถประเทศ นำไปผสมกับวัตถุตั้งต้นระเบิดได้ ทำให้ระเบิดรุนแรงกว่าเดิมมากฟะ " เฮียปลาวาฬพร่ำบ่น พึมพำ ๆ " ไอ้เต่า อย่ามัวหดหัวในกระดองคิดหาทางเร็ว ๆ หน่อย อย่าให้บริษัทชิกหายมากกว่านี้อีกฟะ " เฮียปลาวาฬถาม สภาพเฮียปลาวาฬตอนนี้ หัวฟู หน้าแดงกร่ำ เคร่งเครียด ผมร่วงหมดหัว แปลงร่างเป็น คนหัวล้านแดงเถือกแล้ว สภาพเหมือนปลาวาฬเกยน้ำทะเลตื้น หรือเปรียบเหมือนนิยายกำลังภายใน มังกรเกยน้ำตื้น กุ้งฝอยก็เยาะเย้ย เพราะเหินฟ้าออกฤทธิ์ไม่ได้ หรือว่ายคึกคะนองในทะเลลึกไม่ได้แล้ว แถมตอนนี้เจ็บตัวมากกว่ารายย่อยกับรายอื่น ๆ เรียกว่า เจ็บนี้อีกนาน ๆ เจ็บนี้ไม่ลืม ๆ สักครู่ใหญ่ เต่า ก็โผล่หัวออกจากกระดอง เพราะคิดหาวิธีการแก้ไขออกแล้ว " เฮีย ของในโกดังเหลืออีกมากใช่ไหม " " ใช่ มากกว่าห้าหมื่นตัน ปุ๋ยใกล้หมดสภาพแล้ว บางส่วนก็หมดสภาพแล้ว ยังไม่รวมของตกทอดเก่า ๆ อีก ขายทั้งหมดตอนนี้ราคาหน้าโรงงาน ราคาถูกกว่าทรายถมที่ซะอีกฟะ " เฮียปลาวาฬตอบ " เฮีย แล้วกำลังการผลิตปุ๋ย เราเหลืออยู่อีกไหม " เต่าถามอีก
" ไอ้เต่า มึงจะบ้าเหรอ ไม่รู้เหรอ กำลังผลิตเหลือเฟือ ตอนนี้แทบไม่มีการผลิตเลย เครื่องจักรหลายตัวแมงมุมขึ้นไปทำรังแล้ว ขืนผลิตปุ๋ยไม่มีคุณภาพมาตรฐานออกไป ราชการกับชาวบ้านได้เอาเรื่องกัน ได้ตายห่าทั้งโรงงาน ไอ้ห่า ใช้ส่วนไหนของสมองคิดฟะ หรือมีหัวไว้กั้นหูกับเส้นผมฟะ " เฮียปลาวาฬด่าสำทับ " ไม่ใช่อย่างนั้นเฮีย ผมคิดว่าเราน่าจะผลิตปุ๋ยในอีกสูตรหนึ่ง แล้วนำขยะในโรงงานปุ๋ยที่หมดสภาพแล้ว หรือปุ๋ยที่ใกล้หมดสภาพแล้ว มาผลิตทำปุ๋ยขายในสูตรใหม่ ยี่ห้อใหม่ โดยใช้การตลาดกับการโฆษณาชวนเชื่อนำ จะได้ทั้งราคาสินค้า กับขจัดของเสีย/ขยะ ในโรงงานได้ " เต่า นำเสนอเฮียปลาวาฬ " เออ ไอเดียดี แต่ไอคิวต่ำฟะ ถ้าโผล่ยี่ห้อหรือที่ตั้งโรงงานเราผลิต เสียชื่อเสียงตายห่าหมด ชาวบ้านกับราชการรู้เรื่อง จะได้เอาเรื่องโรงงานถูกตัวถูกคน ได้ชิกหายตายห้ามากกว่านี้ฟะ " เฮียปลาวาฬด่าเต่า " ไอ้ฉลาม มีความคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ฟะ " เฮียปลาวาฬถาม " ผมเห็นด้วยกับไอ้เต่านาเฮีย ทำอีกยี่ห้อหนึ่งขาย หาชื่อยี่ห้อปุ๋ยที่เราจดชื่อตั้งไว้ตั้งหลายชื่อมาใช้บ้าง หรือตั้งชื่อยี่ห้อปุ๋ยใหม่เอี่ยมเลย ส่วนโรงงานก็หาโรงงานย่อยที่ใกล้เจ๊งแล้วหรือเจ๊งแล้ว ขอซื้อชื่อหรือเช่าชื่อมาว่าเป็นผู้ผลิตสินค้านี้ พร้อมกับมีที่ตั้งโรงงานว่าอยู่ที่ไหน จดทะเบียนบริษัทใหม่เอี่ยม ที่อยู่หาเอาจากที่ไหนก็ได้ บ้านร้าง บ้านเช่า เยอะแยะไป หาลาวเขมรพม่าหรือคนสยามโง่ ๆ มาเป็นกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ทำตามพิธีกรรมราชการ เวลามีปัญหาคดีความ ก็ฟ้องร้องไม่ถึงพวกเรา ไม่กระทบชื่อเสียงบริษัท หรือเกี่ยวพันกับโรงงานเราแต่อย่างใด ส่วนปุ๋ยชุดใหญ่ทั้งหมดผลิตที่โรงงานเราเอง ประเภทรับจ้างผลิตปุ๋ยให้โรงงานภายนอก โยกบัญชีไปบัญชีมา กำไรก็รับเข้ากระเป๋า ขาดทุนก็โยนไปบริษัทผีที่ตั้งใหม่ แต่เวลาส่งขายชาวบ้านให้ขายในนาม ยี่ห้อใหม่ โรงงานใหม่ บริษัทใหม่ " ฉลามตอบ " เออ เข้าท่าทั้งสองคนฟะ แล้วจะขายสูตรไหนได้ราคาดีละฟะ " เฮียฉลามตอบ " ผมว่าใช้สูตรอินทรีย์เคมี (สารเคมีเก่าเก็บ) หรืออินทรีย์(กาก/เศษดิน ไม่มีธาตุอาหารเลย) นำเอาปุ๋ยตกค้างในโกดังมา Reproduct (ผลิตใหม่อีกครั้ง) แล้วขายในรูปปุ๋ยอินทรีย์ จะมีส่วนผสมอะไรก็ใส่ ๆ ลงไป นักเคมีโรงงานของเราก็มี ห้องแล็ป (Laboratary) ของเราก็มีอยู่แล้ว เท่านี้ก็ขายได้แล้ว ในรูปปุ๋ยสูตรใหม่ " เต่าเฉลยคำตอบเพิ่มเติม " เฮีย ผมเห็นด้วยเพราะตอนนี้ ราชการเหมือนเป็ดง่อย Lamb duck (รัฐบาลยังรักษายามอยู่ (เฝ้าประเทศ) รอเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่) ยังโง่่งมทำอะไรไม่ค่อยถูก ไม่เข้าท่าเข้าทางอยู่เยอะเลย รวมทั้งเกษตรกรรายย่อยหลอกง่ายจะตาย โฆษณาชวนเชื่อเยอะ ๆ ทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ ใช้นักวิชาการเกษตร ประเภทขายตัว มาก ๆ ตัว หลาย ๆ หน้า หลาย ๆ ตา มานำเสนอหน้าจอทีวี โม้ ๆ เข้าไป โม้เป็นประจำ โม้ทุก ๆ วัน พวกส่งเสริมเกษตรเอามาเป็นพวก หรือกล่อมให้เป็นพวกหรือหลงเชื่อเป็นพวก
เหมือนเจ้ากากน้ำตาลที่ทำไว้แต่ก่อน เงินถึง งานถึง เงินดี งานเดิน เจริญตาเจริญใจ เอาคนพวกนี้บอกเล่า โฆษณาชวนเชื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกเล่า บอกย้ำ โม้แต่เรื่องดีของปุ๋ยอินทรีย์ ให้เปอร์เซ็นต์คนขาย/เซลแมนส์ ขายสินค้าได้มาก ๆ แบบพวกขายตรง หรือเครือข่ายสินค้าขายตรง แชร์ลูกโซ่ ประเภทนี้มาสร้างสาย สร้างเครือข่าย ลูกโซ่ ไปเรื่อย ๆ มาร่วมด้วยช่วยกันยืนยัน แต่ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์ตัวใหม่ของเรา เน้นย้ำแต่ข้อดีของเกษตรอินทรีย์ หรือ โม้เรื่อง Green Good Product/Agriculture ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ศัพท์อังกฤษหรือคำยาก ๆ ไว้ขลังดี เหมือนโฆษณายาฟอกหน้าขัดสิวใบหน้า หรือแปลงผิวดำให้ขาวเป็นกระจกเงา สูตรยาบ้าน ๆ ไม่มีหรอก ภาษาอังกฤษเคมีเพรียบ (สารเคมีทาหน้าราคาแพง ทำไมต้องล้างออกทุกวัน ทำไมไม่พอกหน้าไว้ทั้งวันทั้งคืน เรื่องแซวกันเล่นภายในครอบครัว) แล้วเน้นย้ำแต่เรื่อง ผลผลิตกับราคาสินค้าจากปุ๋ยอินทรีย์ ผลผลิตปีแรกไม่ค่อยจะดีหรอก แต่ปีต่อ ๆ ไป ดินดี ดินดำ พืชงอกงาม ต้นทุนผลิตต่อไร่จะต่ำลง ราคาขายผลผลิตต่อไร่ต่อหน่วย จะได้ราคาดีมากเหมือนเมืองนอก (แต่ต้องไปขายที่เมืองนอกไม่ใช่ในประเทศ) แต่เวลาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ถ้าคำนวณกับคิดต้นทุนกันจริง ๆ แล้ว ต้นทุนปุ๋ยอินทรีย์ต่อไร่/ตัน/หน่วย จะแพงกว่าปุ๋ยเคมีตั้งหลายเท่า ชาวบ้านจำนวนไร่น้อย ๆ คิดไม่ทันหรอก โม้เข้าไปมาก ๆ เดี๋ยวหลงเชื่อเอง " ฉลาม ยืนยันอีกคน สรุปผล ปุ๋ยเคมีหมดคุณภาพในโรงงานหมดไป ด้วยการกลายสภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์นรก ภายใต้ชื่อใหม่ โรงงานใหม่ บริษัทใหม่ ก่อนที่ราชการจะเข้ามาควบคุม ให้มีสูตรในการผลิตที่ชัดเจน พร้อมกับมีกฎหมายบังคับ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยอินทรีย์เคมี ที่ช่วงหลังมีการขายทราย/ดินเปล่า ๆ หรือหลอกต้มปุ๋ยอินทรีย์ให้กับเกษตรกรรายย่อย แต่โรงงานเฮียปลาวาฬในอนาถประเทศ กลายร่างเป็นมังกรไปอีกครั้งแล้ว เพราะของเสียโรงงานขจัดทิ้งของตกค้างได้หมด ยิ่งกว่าการทำ 5 ส. Kaizen JIT ซะอีก แถมได้แปลงสินทรัพย์(ขยะ) เป็นเงินทั้งหมด ตอนนี้เฮียปลาวาฬหยุดผลิตหยุดขายปุ๋ยอินทรีย์นรก เพราะไม่อยากปวดหัวกับราชการ/ชาวบ้าน หรือมาแข่งด้านขายราคาต่ำกับชาวบ้าน ที่เร่งผลิตปุ๋ยอินทรีย์มาร่วมวงแข่งขัน สู้หันไปทำธุรกิจแบบเดิมดีกว่า นำเข้าปุ๋ยเคมีได้อย่างราคาต่ำกว่าเดิมมาก เพราะอานิสงค์จากการเกื้อหนุนของรัฐบาล หมายเหตุ นิทานครับ นิทาน ไม่ใช่เรื่องจริงเป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการ ที่มาของปฐมบทปุ๋ยนรก- กากน้ำตาล : Link ย่อ //goo.gl/VY8NJ
ข้อมูลเปรียบเทียบการใช้ปุ๋ยเคมี กับ ปุ๋ยอินทรีย์
กระทู้เต็มเกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยไปที่ Link ย่อ Panitp.com เดิม //goo.gl/wj2nF
ผมได้วางภาพไว้ในกระทู้และแหล่งที่ download ต้นฉบับได้ที่ //goo.gl/yRNGp
Create Date : 25 มีนาคม 2556 |
Last Update : 2 สิงหาคม 2557 16:42:18 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1917 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: lovereason วันที่: 25 มีนาคม 2556 เวลา:23:43:32 น. |
|
|
|
โดย: ไพฑูรย์ IP: 113.53.51.247 วันที่: 30 กรกฎาคม 2557 เวลา:5:48:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]

|
เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา
เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง
ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้
ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน
|
|
|
|
| |
|
|
|