Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

ร่างบทความ หนังสือที่ระลึกงานเกษียณอายุราชการ 2556

เนื่องในโอกาสเกษียนอายุราชการของคุณครูดิเรกด้วงน้อย คุณครูวรรณพงษ์ บุญยโอวาส และ คุณครูวันชัย กลิ่นหอม ผมขอยกบทพูดที่รวบรวมและแต่งขึ้นมาเพื่อใช้ในสโมสรฝึกการพูดกำแพงเพชร มาเป็นเครื่องบูชาครู

กราบขอบพระคุณครูอาจารย์ทุกท่านที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้พระคุณของครู ยังอยู่ในใจศิษย์เสมอ

นพ.พนมกร ดิษฐสุวรรณ์

วันวานที่พากเพียร วันเกษียณที่ภาคภูมิ

คำว่า“เกษียณ” แปลว่าสิ้นไป ซึ่งในทางราชการจะใช้คำว่า “เกษียณอายุราชการ”หมายถึงครบกำหนดอายุรับราชการ เมื่ออายุตัวครบ 60 ปี แต่ถ้าใช้เกษียณอายุ สั้น ๆ ก็อาจแปลความหมายว่า อายุสิ้นไปทำให้คนเข้าใจผิดได้

การเกษียณอายุราชการเป็นการสิ้นสุดอาชีพเดิม แต่ เป็นการเริ่มชีวิตใหม่ ชีวิตที่เรากำหนดได้เองไม่ต้องไปขึ้นกับหัวหน้าลูกน้องหรือกฎระเบียบราชการ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่อยากจะทำอะไรก็ไม่ต้องทำจนมีผู้ตั้งชื่อช่วงอายุนี้ว่า วัยทอง ส่วนจะเป็นทองคำ หรือ ทองเหลืองก็ต้องติดตามกันต่อไป

ผู้ที่พึ่งเกษียณอายุราชการ มักประสบปัญหา 3 ประการคือ

1. ใจ

มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปเมื่อถึงวันต้องเกษียณที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ได้ทำงานเหมือนที่เคยทำมานานเกือบตลอดชีวิต คนที่เคยเป็นใหญ่เป็นโตเป็นผู้บัญชาการทหาร เป็นปลัดกระทรวง เป็นอธิบดี ก็ต้องทำใจให้ได้ เพราะอำนาจต่างๆ ที่เคยมีหายวับไปโดยพลัน หากทำใจไม่ได้ก็จะห่อเหี่ยวหัวใจไปจนตาย อีกทั้งสิทธิพิเศษที่เคยมีจะถูกหลวงยึดกลับคืนไปจนหมดเช่น รถหลวงบ้านหลวง โทรศัพท์หลวง เป็นต้นมีอย่างเดียวที่หลวงไม่ยอมยึดกลับก็คือ เมียหลวง

ถ้าต้องการมีความสุขหลังเกษียณจะต้องเข้าใจชีวิตว่า เกิดมาเป็นคนก็เป็นเช่นนี้แล คือ โชคดีบ้าง โชคร้ายบ้างสบายบ้าง ลำบากบ้าง เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเองก็อย่าไปกังวลเพราะความทุกข์จะอยู่กับเราไม่นาน เช่นเดียวกับความสุขก็อยู่กับเราไม่นานเช่นกัน ทุกคนเกิดมาจะต้องมีวิถีการเดินทางของชีวิตเหมือนกันคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงควรอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดโดยตัดความกังวลทุกอย่างออกไป และถ้าไม่อยากแก่มากกว่านี้ทำง่ายนิดเดียวคือให้รีบตายเสียก่อน

พระมหาสมปอง บอกว่าอย่าได้คิดเด็ดขาดว่าชีวิตไร้ค่าหรือเป็นภาระให้กับลูกหลานต้องเลี้ยงดู??

" เกษียณตัวได้แต่อย่าเกษียณใจ อย่าเกษียณจากการทำความดี”เพราะการเกษียณจากการทำงานทำให้สามารถปล่อยวางจากความวุ่นวาย ทั้ง 3 กคือ ก. การ= การดิ้นรน ก. กิน = การแสวงหาและ ก.เกียรติ = การแบกหาม เป็นวัยที่เหมาะสำหรับการเริ่มพัฒนาจิตใจกันอย่างจริงจังเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร วัยนี้เรียกได้ว่าเป็น “วัยสะสมบุญและสร้างกุศลไว้ให้เป็นที่จดจำ” ต่อให้ร่างกายและอายุบ่งบอกว่าชราแค่ไหนแต่ถ้าหัวใจเข้มแข็งและเต็มไปด้วยพลังความดี ชีวิตจะยืนยาว ไม่เกษียณอายุง่ายๆแน่นอน

2. เจ็บ อายุมากขึ้น สังขารย่อมทรุดโทรม ให้ยึดหลัก5 อ.ไว้ คือ

อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

อากาศปลอดโปร่งบริสุทธิ์

ออกกำลังกายทุกวัน

อุจจาระให้เป็นเวลาทุกเช้า

อารมณ์ให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ

การปลูกต้นไม้ ปฏิบัติธรรม ออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว และ ช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอำนวย

อ.หมอเสกกล่าวว่า ท่านที่ประสงค์จะมีอายุยืนยาว 150ปีชีวีสุขสันต์ ให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ 5 ประการคือกินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินกล้วยน้ำหว้าเป็นของว่าง เดินทางวันละ 5,000 ก้าว คุยกับหนุ่มสาวทุกวัน

3. จน เมื่อก่อนเคยรับเงินเดือนใช้สบาย แต่พอมารับเงินบำนาญจะจนทันทีเพราะจะได้รับเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของเงินเดือน จึงควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ยึดหลักประหยัดและประโยชน์เป็นสำคัญ อย่าให้คนอื่นกู้เงิน ถ้ามีให้ทวงคืนมาให้หมดเพราะนานไปจะไม่ได้คืน และให้ระวังการหลอกลวงอะไรที่รู้สึกว่าจะทำให้ได้เงินมาง่าย รวยเร็ว ก็หยุดคิดสักนิดว่า ถ้ามันง่ายมันดี จริง ป่านนี้ คนทำคงรวยไปหมดแล้ว อะไรที่รู้สึกว่ามันดีเกินจริงก็ให้ระวังไว้ โดยเฉพาะ พวกอาหารเสริมต่าง ๆ ขวดละ สองสามพันกินแล้วหายทุกโรค ดีทุกอย่างถ้าหลงเชื่อไปซื้อมากิน นอกจากเสียเงิน เสียรู้แล้ว อาจหายไปจากโลกด้วย

ที่สุดของความเสียดาย คือ...ตายไปแล้ว ยังใช้เงินไม่หมด

ที่สุดของความสลด คือ...ใช้เงินหมดแล้ว ยังไม่ตาย




Create Date : 13 กันยายน 2558
Last Update : 13 กันยายน 2558 23:21:37 น. 0 comments
Counter : 1117 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 763 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]