tuk...tuk more than one or cannot run
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
28 พฤศจิกายน 2554

เชียงใหม่ - วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร








เป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด

อยู่เชียงใหม่มาตลอดจนเรียนจบ

บ้านอยู่ห่างวัดพระสิงห์ 1.5 ก.ม. รวมยูเทอร์น

ไปซื้อผลไม้ดอง และ ไปหาเพื่อนแถวหลังวัดพระสิงห์เป็นประจำ

แต่เพิ่งได้เข้าวัดพระสิงห์ครั้งแรกเมื่อ 16 พ.ย. 2554 นี่เอง







ภาพถ่ายเก่าวัดพระสิงห์

อยู่ในพระอุโบสถของวัด







หอตรัย



















จากเอกสารทางประวัติศาสตร์มีว่า

พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ ราชวงศ์เม็งราย รัชกาลที่ 7

โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888

ขั้นแรกให้ก่อสร้างเจดีย์สูง 23 วา

เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู กษัตริย์เชียงใหม่ รัชกาลที่ 6 พระราชบิดา

ต่อมา พ.ศ. 2088 หักลงมาเพราะแผ่นดินไหว

จึงได้รับบรูณะซ่อมแซมมาโดยตลอด







แต่ทางทิศเหนือของอุโบสถ มีกู่อีกองค์หนึ่ง

และเมื่อครั้งครูบาศรีวิชัยมาปฏิสังขรณ์วัด

ได้พบโกฏิบรรจุอัฐิ พร้อมของมีค่าอื่นๆ

ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยว่าสิ่งที่พบ

พบที่มหาเจดีย์หรือที่กู่องค์นี้

เป็นที่น่าเสียดายว่า สิ่งของเหล่านั้นสูญหายไปแล้ว

เมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ.2485

กู่นี้ปัจจุบันเรียกว่า กู่อัฐิพญาคำฟู





ต่อมาอีก 2 ปี จึงได้สร้างพระอาราม เรียบร้อยตั้งชื่อว่า วัดลีเชียง

เดิมบริเวณหน้าวัดเป็นตลาดมาก่อน ชื่อว่า " กาดลี " ( ตลาดลี )







เมื่อสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขึ้นครองนครเชียงใหม่

โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย

เมื่อขบวนช้างอัญเชิญมาถึงหน้าวัด ช้างก็ไม่ยอมเดินทางต่อ

พระเจ้าแสนเมืองมาจึงโปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐาน

ณ วัดลีเชียง เรียกว่า วัดลีเชียงพระ

ประชาชนทางเหนือนิยมเรียกพระพุทธสิหิงค์ ว่า "พระสิงห์"

จึงเป็นที่มาของชื่อ " วัดพระสิงห์ "







พระอุโบสถ แบบล้านนา

โครงสร้างไม้ฐานล่างก่ออิฐถือปูน







ด้านหน้าทิศใต้ทางขึ้นลงเป็นมังกรคายนาค สองข้างตั้งสิงห์ปูนปั้นข้างละตัว

โบสถ์ด้านนี้เป็นของภิกษุณี







ด้านทิศเหนือบันไดตัวเหงา สองข้างตั้งสิงห์ปูนปั้นข้างละตัว







ตรงกลางพระอุโบสถเป็นซุ้มปราสาท

เชื่อว่าเป็นการแบ่งเขตสังฆกรรม ของภิกษุ ภิกษุณี

เรียก

อุโบสถสองสงฆ์












ใต้หอระฆังเป็นหอกลอง






วิหารพระนอน












วิหารลายคำ












ภายในประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์







ที่จะนำมาแห่ให้พุทธศาสนิกชน สรงน้ำ ในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี







จิตกรรมฝาผนังในพุทธศตวรรษที่ 25







***



ทางทิศเหนือ เป็นสกุลช่างเชียงใหม่ เขียนเรื่องสังข์ทอง






เราว่า

รูปนี้น่าจะพระสังข์ชุบตัวลงในบ่อทอง

แล้วสวมชุดเงาะ รองเท้าทอง และไม้เท้า หนีนางยักษ์พันธุรัต







รูปนี้ น่าจะสะท้อนการแต่งกายชาวเหนือสมัยก่อน







รูปนี้น่าจะ เจ้าเงาะกับหกเขย ( เพราะใส่เสื้อน่าจะเป็นเจ้า ) สักที่ต้นขา

ไปล่าเนื้อ เพราะเห็นถือหอก ... อย่าเชื่อมากเด้อ เดาทั้งเพ







เจ้าเงาะอาศัยกับนางรจนาที่กระท่อมปลายนา ... เล่นกับเด็กเลี้ยงวัว












รูปที่ดูไม่ออก







ขายเครื่องดื่มแน่ ๆ







แต่งต้วแบบนี้ ใครหนอ












รูปนี้ดูทีแรกสงสัยว่า สาวนี้ใครหนอ

เพราะหนุ่ม ๆ ทุกคนมองมาทางเดียวกันหมด

พอรู้ว่าเรื่องสังข์ทอง ก็น่าจะเป็นรจนาเลือกคู่





***


ด้านทิศใต้เป็นเรื่องสุพรรณหงส์ ช่างสกุลกรุงเทพ

เรื่องนี้เราไม่รู้จัก

รูปจะเสียหายมากกว่า

















ลาด้วยภาพหลวงพ่อในวิหารวัดพระสิงห์











Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2566 14:28:31 น. 24 comments
Counter : 279 Pageviews.  

 
สวยงามมากๆค่ะวัดนี้
ตอนนี้อยากปาย อีกแล้วค่ะพี่ตุ๊ก


โดย: kwan_3023 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:19:06 น.  

 
เข้าตำราใกล้เกลือกินด่างป่าวค่ะพี่ตุ๊ก

วัดสวยงามมากค่ะ


โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:23:27 น.  

 
สวัสดีครับคุณตุ๊ก

บล็อกนี้ยอดเยี่ยมครับ ทั้งถ่ายรูปทุกซอกทุกมุม มีประวัติวัดและยังบรรยายรูปภาพได้ด้วย เก่งมากมายอะไรอย่างนี้นะจ๊ะ

ขอบคุณมากนะครับกับความวิริยะอุตสาหะเอาความรู้มาให้เพื่อน ๆนะ น่ารักมากมากเลยจ๊ะ



จะเป็นเทียนน้อยยามที่มืดมนจะส่งแรงใจในยามอ่อนแอ


โดย: find me pr วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:00:12 น.  

 
ประวัติ์ศาสตร์ลัวนๆ

ฮูปถ่ายชัดแจ๋ว...

เข้าขั้น"อาจ๋าน"

แต่เป๋น "หมอฟัน" นับถือๆ...

ป.ล. แลงนี้กิ๋นข้าวละยังครับ.


โดย: NHEURFARR IP: 110.49.234.200 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:23:12 น.  

 
ผมไปเชียงใหม่ครั้งแรก ผ่านวัดพระสิงห์ต้องแวะชมทันที เพราะสะดุดตากับภาพพระอุโบสถที่ประดับด้วยลวดลายสีทองงามอร่ามตาครับ อย่างนี้จะเรียกว่าคนไกลได้ชมก่อนคนใกล้ได้หรือไม่ แต่การเข้าชมครั้งนั้นไม่ละเอียดเท่าการนำชมจากคุณตุ๊กในบล็อกนี้

ภาพฝาผนังภาพหนึ่งมีการโชว์รอยสักที่ต้นขา
สมัยนี้โชว์กันที่ต้นแขน ต้นคอ คงไม่ถนัดถ้าเป็นต้นขา
น่าสนใจตรงที่เป็นรอยสักรูปสัตว์ต่างๆ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:55:06 น.  

 
โครงสร้างภาพทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่เหมือนทางภาคกลางเนอะ

ถาพนี้น่าจะเขียนหลังรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา


โดย: VET53 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:27:07 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตุ๊ก

เป็นวิหารหลวงที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ผมไปถ่ายรูปหลายครั้งแล้วเหมือนกันครับ อิอิอิ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:59:33 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันอังคาร
มีความสุขตลอดวันค่ะคุณตุ๊ก

บ้านไม้....
บรรยากาศเหมือนกินข้าวอยู่กับบ้านเราเลยนะค่ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:57:50 น.  

 

 



โดย: Kavanich96 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:45:10 น.  

 
สวัสดีครับคุณตุ๊ก

มาชมวัดต้องมาตอนเช้าอากาศร่มรื่นครับ



โดย: find me pr วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:52:32 น.  

 
งามมากครับพี่
วันแห่งนี้ผมก็เคยไปเยี่ยมชมมาแล้ว
ดูเหมือนจะเป็นที่แรก ๆ เลยที่เพื่อนที่เชียงใหม่
แนะนำว่าต้องไปกราบให้ได้

ข้อมูลแน่นเลยนะครับพี่ตุ๊ก....


โดย: peeradol33189 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:58:32 น.  

 
ไปเที่ยวเชียงใหม่เมือเมษาที่แล้ว
ยังเที่ยววัดได้ไม่กี่วัดเองครับ
วัดพระสิงห์ งดงามทั้งวิหารและภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ชอบภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามมากครับ


โดย: the mynas วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:45:25 น.  

 
ไม่อยากเชื่อพี่ตุ๊กที่บอกว่า
เพิ่งเข้าวัดพระสิงห๋นี้เป็นครั้งแรก(จริงเหรอคะพี่)
หนูไปวัดพระสิงห์หลายครั้งแล้ว
ไปไหว้หลวงพ่อที่พิพิธภัณฑ์สถานพระนคร
ก็สามครั้งแล้วค่ะ
เสียดายภาพจิตรกรรมฝาผนังนะคะพี่
อีกหน่อยคงหนักกว่านี้ ทำไมถึงไม่มี
หน่วยงานไหนเข้าไปดูแลรักษาหนอ
เท่าที่หนูสังเกตุดูช้างในสมัยก่อนมีบทบาท
ในการสร้างวัดของเชียงใหม่นะคะพี่
วัดสวนดอกกับวัดพระธาตุดอยสุเทพ
ก็เรื่องแบบเดียวกันเลยเนอะ
ช้างไทยอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทยจริงๆค่ะ


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:17:07 น.  

 
กินผักอิ่มแล้วก็มาชมโบราณสถานสวยๆด้วยคนนะพี่ตุ๊ก


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:40:53 น.  

 
มาแอ่วเชียงใหม่ด้วยค่ะ

แหมวันนี้ไม่มี...ข้าวซอย...กำลังอยากกิน



โดย: Calla Lily วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:23:12 น.  

 
เราชอบวัดนี้นะคะ เราว่างามดีอะค่ะ


มาเฟิร์มว่า กระเบนแดดเดียวร้านนี้อร่อยจริงจังค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:53:13 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายๆ ครับคุณตุ๊ก .....

วัดนี้สวยมากครับ ศิลปะแบบล้านนา สวยจริงๆ .....

ผมไปเชียงใหม่มาก็หลายรอบ แต่ยังไม่เคยเข้าไปเที่ยววัดในเชียงใหม่เลย ทั้งที่มีวัดสวยๆ เยอะมาก เพราะมัวแต่ไปเที่ยวที่เที่ยวทางธรรมชาติอยู่ครับ .....

ไว้เบื่อเที่ยวธรรมชาติแล้ว คงได้แวะเข้าไปเที่ยววัดในเชียงใหม่ดูบ้าง .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:48:39 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ

เอา ขนมหวานๆ เย็นๆ มาฝากยามบ่ายๆค่ะ



ขอให้มีความสุขนะคะ


โดย: iamorange วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:28:04 น.  

 

งามมากเลยค่ะ พี่ตุ๊ก ทั้งภายนอก ภายในอุโบสถ ภาพจิตรกรรมฝาผนังอีก...

วัดพระสิงห์ ใครไปเชียงใหม่มักไม่ค่อยพลาด หนูไปเชียงใหม่มา 3 ครั้ง ยังไม่ได้ไปซักทีค่ะ พี่ตุ๊กอยู่ห่างแค่ 1.5 กม. ไม่ได้ไป...เพราะใกล้ไปรึป่าวค่ะ เหมือนคุ้นเคยมาเมื่อไหร่ก็ได้

....แปลว่า เขาค้อหนาวกว่าเชียงใหม่ใช่มั้ยคะ







โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:49:11 น.  

 
วัดพระสิงห์ที่บ้านฝ่ายผู้หญิงก็มี
แต่อยู่ที่สทิงพระ จังหวัดสงขลา
(ตำบลบ่อดาน ที่ไก่แก่แม่ปลาช่อนชอบ
แต่ตำบลที่อยู่ติดกัน ตำบลบ่อแดง
ภริยาไม่ชอบอย่างแรง ถ้ารู้ถูกฆ่าแน่)
เป็นวัดร้าง ไม่มีพระภิกษุจำพรรษา
แต่มีการทำบุณย์ทุก ๆ ปี จำวันประจำปีไม่ได้
มีการเก็บเิงินรวบรวมไว้ทำนุบำรุงศาลาการเปรียญ
กับค่่ำำาไฟฟ้าบ้างเล็กน้อย
ไว้ว่าง ๆ จะไปถ่ายรูปมาแลกเปลี่ยน
แต่ขอบอกว่า บ่มีอะไรก๊อ (ไม่มีอะไรจริง ๆ)
แพ้วัดพระสิงห์ที่เจียงใหม่เจ๊า


โดย: ravio วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:15:50 น.  

 
ถ้าชอบตึกแดงต้องไปดูที่พิพิธภัณฑ์สานแก่งชาติครับ นั่นคือตึกแดงหลังแรกที่เล่าเป็นตึกเดี่ยวที่ใหญ่และสวยงามมากครับ

เรื่องพระแก้วมรกตไม่เข้าใจอะไรหรือครับ ไม่เคยอ่านละเอียดแต่พระแก้วนี่มาจากสกุลช่างทางเหนือถ้าจะเคยประดิษฐานที่เชียงใหม่ก็ไม่น่าแปลก วัดพระสิงห์ก็น่าจะเป็นเหมือนวัดหลวงในสมัยนั้นเลยมั้ง


โดย: vet53 IP: 27.130.167.165 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:35:38 น.  

 
วัดแถวนนท์นี่เก่าเกือบทุกวัน ี่เหลือแต่ชื่อก็มาก มีวัดร้างแห่งหนึ่งสมัยอยุธยาสามารถรับกฐินได้ถึงปีละ 2 ครั้ง หนึ่งนั้นเป็นกฐินหลวงด้วย ไม่ธรรมดา เมื่อเมืองหลวงย้ายมาที่กรุงเทพแล้ววังหน้ารับวัดเขมาเป็นวัดในกฐินของตน แสดงว่าวัดนี้น่าจะเป็นวัดที่มีความสำคัญมาก ในสมัย่ี่การคมนาคมไม่สะดวดเหมือนเดี๋ยวนี้


โดย: vet53 IP: 27.130.167.165 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:49:35 น.  

 
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 11 ธันวาคม 2554 12:08:40 น. ลบ Blog แก้ไข Blog 23 comments
Counter : 5424 Pageviews.


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:14:27:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tuk-tuk@korat
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 148 คน [?]




งานหลักคืองานอดิเรก

10 บล็อกล่าสุด


This I Promise You - NSYNC ... ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 350


What I Did For Love - Josh Groban ... ความหมาย


วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง



Oh, Pretty Woman - Roy Orbison ... ความหมาย


I Will Whisper Your Name - Michael Johnson ... ตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349


เชียงใหม่ - วัดสันทรายหลวง อำเภอสันทราย



In Dreams - Roy Orbison ... ความหมาย



ลำปาง - วัดพระธาตุหมื่นครื้น ... อย่างฉุกละหุก ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 348



For Lovin' Me - Gordon Lightfoot ... ความหมาย


เชียงใหม่ - วัดสันทรายมูล อำเภอสันทราย















ของแต่งบล็อกจาก
ป้าเก๋า "ชมพร"
คุณญามี่
คุณ Rainfall in August
ขอบคุณค่ะ

[Add tuk-tuk@korat's blog to your web]