BlogGang.com : : tuk-tuk@korat : เชียงใหม่ - กำแพงเวียงเจ็ดริน จุดชมวิวดอยสุเทพ ห้วยแก้ว วัดหมูบุ่น อำเภอเมือง

เชียงใหม่ - กำแพงเวียงเจ็ดริน จุดชมวิวดอยสุเทพ ห้วยแก้ว วัดหมูบุ่น อำเภอเมือง

ออกจากวัดผาลาด ก็ขึ้นดอยสุเทพไปต่อที่จุดชมวิว

ตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง

อ่างเก็บน้ำที่เห็น ... สมัยเราเป็นศูนย์เกษตรภาคเหนือ ที่มีร้านอาหารกาแล

เคยเดินขึ้นดอยสุเทพด้านนี้ ทางลัด 7 กม. ไปตามถนน 14 กม.

ที่มองเห็นในภาพ หลังมอ ( ม.ช.)

เจดีย์วัดสวนดอก

โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่

ด้านหน้ามอ

ที่เห็นคืออ่างแก้ว

หอพักข้าง ๆ สมัยเราคือหออ่างแก้ว หรือหออีแก่

ด้านหน้าคือโค้งขุนกัน

พ.ศ. 2477

การสร้างทางรถยนต์ขึ้นดอยสุเทพ มาถึงช่วงสุดท้ายอีก 1 กม.

เป็นภูเขาหินสูงชัน

คณะสำรวจมีความเห็นว่าควรจะตัดถนนอ้อมไปทางม่อนสน

ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับดอยสุเทพ

ขุนกัน หรือขุนกันชนะนนท์ ต้นสกุล ชนะนนท์

เดิมชื่อ ส่างกันนะ คหบดีชาวไทใหญ่

ท่านมีประสบการณ์ในการสร้างทางลากขอนไม้ซุงที่ อ.พร้าวมาก่อนหน้านี้

อาสาสร้างถนนช่วงโค้งหักศอกนี้

ทั้งกำลังคน และทุนทรัพย์ส่วนตัวของท่านจึงสำเร็จลงได้

ท่านครูบาศรีวิชัย จึงตั้งชื่อโค้งนี้ว่า “โค้งขุนกัน”

ขึ้นไปถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ

วนที่จอดรถใกล้ ๆ มีคนเข้าไปก่อน

จึงไหว้พระธาตุข้างล่างแล้วลงดอยคืน แปลว่า กลับลงดอย

เลยโค้งขุนกันลงมานิดหนึ่งวิวสวยจึงแวะเก็บภาพอีกรอบ

ท่านผ่านมาพอดี

ขาขึ้นดอยสุเทพ

เลยห้วยแก้วมาหน่อย

เลยวัดศรีโสดามานิด

จะเห็นคุ้มห้วยแก้ว

ของเจ้าไชยสุริวงศ์ ณ เชียงใหม่

ขาลง ซ้ายมือคือสถานีตรวจแผ่นดินไหว

แวะไหว้ครูบา

เก็บรูปน้ำตกห้วยแก้วมาฝาก

เก็บรูปของเก่าที่น้ำตกห้วยแก้วมาฝาก

เวียงเจ็ดริน

เป็นเวียงโบราณ ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ

มีอายุประมาณ 1,500 – 1,600 ปี ก่อนเมืองหริภุญไชยและเมืองเชียงใหม่

กำแพงล้อมรอบเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 950 เมตร

ตามตำนาน กล่าวว่า เป็นเวียงของคนไทและลัวะ

ที่ฤาษีดอยผาลาดชี้สถานที่ให้สร้าง

ได้ยินมาว่ากำแพงของเวียงเจ็ดริน

บางส่วนถูกตัดถนนขึ้นดอยสุทพทับ

เล็งจากแผนที่จะเป็นแนวเมืองวงกลมดังนี้

แนวกำแพงชั้นใน สีฟ้า แนวกำแพงชั้นนอก สีเหลือง

ระหว่างกำแพงสองชั้นเป็นคลอง

จากอนุสาวรีย์ครูบา จึงข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม

เป็นที่ทำการ อุทยานแ่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

เผื่อจะมีแนวกำแพงเก่าให้เห็นบ้าง

เดินตรงไป เล็ดลอดเข้าประตูบ้านที่เขาเปิดไว้

ซ้ายมือก็เห็นแนวคันดิน

ด้านหลังที่ทำการอุทยาน

มีถนนไปยังวัดหมูบุ่น หรือ วัตโชติกุนสุวรรณาราม

ถนนไปวัดหมูบุ่น ราวกับว่าอยู่ระหว่างกำแพงสองชั้น

เนินดินที่คาดว่าเป็นกำแพงชั้นใน

หลังแนวเสาไฟฟ้า เหมือนเนินกำแพงชั้นนอก

ถนนตัดแนวคันดินเข้ามายังวัด

ร่องที่เห็นจึงน่าจะอยู่ระหว่างสองกำแพง

วัดหมูบุ่น ... วัตโชติกุนสุวรรณาราม

เป็นวัดเดียวที่พบในเขตกำแพงเวียงเจ็ดลิน

หมูเป็นคำนาม แปลว่าหมู บุ่นภาษาเหนือ เป็นกริยา แปลว่า มุด

พญามังราย

เมื่อมาถึงบริเวณนี้เห็นฝูงหมูป่าจำนวนมากกำลังหากินอยู่

เมื่อเดินมาดูฝูงหมู่ป่าก็วิ่งหนีหายไปต่อหน้าต่อตา

และเห็นหมูทองคำนอนอยู่บ่อน้ำ

พระองค์จึงสร้างวัดขึ้น ตั้งชื่อว่าวัดหมูบุ่น

ปัจจุบันมีการก่อสร้างอาคารหลายหลังในพื้นที่

ก่อนการปรับพื้นที่สร้างอาคารได้พบเศษอิฐสีแดงขนาดใหญ่

เศษกระเบื้องดินขอ กระจายอยู่มากมาย

เจดีย์นั้นได้ถูกทำลายไปตอนปรับเป็นสถานที่เลี้ยงสัตว์

แต่ อ.จำเหลาะ สมจิตต์ ได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเจดีย์ที่วัดหมูบุ่นนี้ว่า

เป็นเจดีย์ทรงมณฑป ... นี่คือที่สร้างขึ้นใหม่

หมดชั่วโมงประวัติศาสตร์แล้วเจ้า

Create Date : 11 มิถุนายน 2557

Last Update : 8 มิถุนายน 2565 14:53:10 น. 23 comments

Counter : 400 Pageviews.

Share
Tweet

ฮือ .. ฮือ ..

คนอะไรเนี่ย ..

ใจร้ายที่สุดเลย..

เซี้ย .. ใจ ..

เซีย .. ใจ ..

5555555555

อืมมม..

ลังเล อ่ะ ..

ระหว่าง ท่องเที่ยว กะ ธรรมะ ..

แต่ ..

ชอบไหว้พระมากค่ะ ..

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: foreverlovemom

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:15:40:41 น.

มาชมวิวด้วยตนค่ะ

โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe

) วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:15:45:25 น.

ตามมาเข้าคลาสประวัติศาสตร์ เอ๊ย..ตามมาเที่ยวด้วยเช่นเคยค่ะ
หมดตัวเช่นกันจ้า.. ไว้มาใหม่เนาะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:16:01:35 น.

กด Like ให้เป็นคนที่ 1
อุ้มมาเดินตามพี่ตุ๊กต่อค่ะ อิอิอิ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:16:16:44 น.

ปี้ตุ๊กเดินเก็บรายละเอียดได้นั๊กขนาดเลยครับ
จุดชมวิวเดือนแล้วก้าขึ้นไปโปรยเถ้ากระดูกอ้ายบ่าวผมบนนั้นครับ

เป๋นสถานที่ตี้อ้ายบ่าวของผมเปิ้นซอบขนาดเลย

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:16:17:33 น.

ขอบคุณสำหรับ comment
สลับรูปพร้อมเพิ่มคำอธิบายไต้ภาพล่ะ
บางทีเหมือนเขียนเอง อ่านเอง
ไม่ยอมบอกคนอื่นว่าอะไรเป็นอะไร
นิสัยอย่างนี้ไปเป็นครูไม่ได้หนึ่งอาชีพ

แสดงว่าสมัยก่อนตรงนั้นต้องมีลำธารที่ไหลมาจากยอดดอย
เมืองดูเล็กๆ แต่คงเป็นที่นิยมตามคติโบราณที่อิงภูเขาสูงอันถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์

เก่งนะไปสืบหาจนเจอเรื่องนี้ ผมเองก็ตามหาเมืองโบราณด้วย google earth บ่อยๆ
แบบว่าต่อให้เราขัยรถไปดูก็ไม่ได้เห็นอย่างนั้น
เพราะมันเปลี่ยนสภาพเป้นไร่น่ไปหมดแล้ว
แต่เรายังสมารถเห็นร่องรอยได้ไม่ต่างไปจากเมืองนี้

โดย: ปลาทอง สมองน้อย

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:16:20:34 น.

พี่ตุ๊กเป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่เล่าประวัติศาสตร์แล้วไม่ง่วงเลยค่ะ

กำลังอ้าปากหวอฟัง อ้าว จบแล้ว

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Book Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:16:55:58 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านัั้น

ภาพเปิดสวยมากค่ะพี่ตุ๊ก

โดย: สมาชิกหมายเลข 861805

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:18:42:45 น.

~ ขอบคุณค่ะพี่ ดีใจที่พี่ชอบค่ะ

โดย: ~ ริมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa

) วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:19:34:10 น.

ทักทายสวัสดีครับคุณตุ๊ก

ช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่คณะแพทยศาสตร์ มช. และองค์กรของเทศบาล และจังหวัด จัดให้มีการประชุม รื้อฟื้น จัดเขตแนว และอนุรักษ์เวียงเจ็ดริน รวมถึงทำหนังสือให้มีข้อมูลล่าสุดกันด้วยครับ
เคยมีโอกาสไปเข้าประชุมแทนหัวหน้าอยู่ 2-3 ครั้งเหมือนกันครับ

โดย: ถปรร

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:21:08:38 น.

สวัสดียามค่ำคืนครับ

โหวต ส่งกำลังใจไปให้คุณตุ๊กด้วยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: **mp5**

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:21:28:48 น.

สวัสดีครับคุณตุ๊ก

เชียงใหม่มีที่เที่ยวแยะมากเลยนะครับ
เฉพาะวัดอย่างเดียวก้ดูกันเพลินทั้งวันเลยนะครับ

ปล.มะละกอที่บ้านสงสัยจะเป้นฮอลแลนด์แบบที่คุณตุ๊กว่าแหละครับ อ.เต๊ะ ได้เมล็ดมาตอนแรกก้ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ 555

โดย: multiple

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:22:05:35 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mastana Literature Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ไปเที่ยวด้วยคนค่าาาา

โดย: Close To Heaven

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:22:12:27 น.

ดีแล้ว...
เวลาพายุสุริยะไม่อยากเห็นหน้าพวกเผด็จการ
หรือว่าไม่อยากเจอใครบางคน จะได้ "บุ่น"
หลบไปเสียเลย ฮิ ฮิ

โดย: พายุสุริยะ

วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:22:21:33 น.

จากมุมสูงมองลงมายังเขียวนะครับ ดีจริงๆ

ทุกอย่างมีที่มาจริงๆ น่าเสียดายในเรื่องการปรับพื้นที่นะครับ

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:22:31:40 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 12 มิถุนายน 2557 เวลา:3:36:01 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ตุ๊ก

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 12 มิถุนายน 2557 เวลา:6:23:25 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะ ชาวบอลคงได้อดหลับอดนอนกันอีกแล้วนะคะ อิอิ

โดย: ญามี่

วันที่: 12 มิถุนายน 2557 เวลา:9:10:29 น.

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ

บ้านนี้นักท่องเที่ยวตัวจริงๆเลย

โดย: never the last

วันที่: 12 มิถุนายน 2557 เวลา:10:04:38 น.

ตอนไปดอยสุเทพ หนูพยายามจะถ่ายภาพวิวมุมสูงที่จุดชมวิว

แต่ถ่ายออกมาไม่ค่อยเห็นวิวด้านล่าง มีแต่ต้นไม้บัง

สงสัยความสูง(ของคนถ่าย)จะน้อยไปหน่อย T T

ปล. เจ้าของอูฐตามแหล่งท่องเที่ยวที่อียิปต์ส่วนใหญ่จะเหลี่ยมจัดมากค่ะพี่ แต่ถ้าไปกับทัวร์เค้าจะบอกไว้ล่วงหน้า ว่าตรงนี้ห้ามขี่เด็ดขาด แต่ก็จะมีบางส่วนที่เจ้าของอูฐไว้ใจได้ สุภาพและไม่ขี้โกง ซึ่งไกด์จะรู้และแนะนำลูกทัวร์ค่ะ

ตอนที่ไปก็มีนักท่องเที่ยวโดนบังคับอุ้มขึ้นอูฐ แต่เค้าโวยวายเสียงดังจนตำรวจต้องมาจัดการค่ะ รอดตัวไป

โดย: พจมารร้าย

วันที่: 12 มิถุนายน 2557 เวลา:10:08:01 น.

สวัสดีค่า พี่ตุ๊ก ^^

กาแลเคยไปตอนเด็กๆค่ะ ที่อยู่หลัง มช.ใช่มั๊ยคะ
มองลงมาเห็นวิวเมืองสวยมากเลยชอบค่ะ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆค่า
คิดถึงเชียงใหม่จัง

โดย: lovereason

วันที่: 12 มิถุนายน 2557 เวลา:16:43:35 น.

ทักทายครับผม

โดย: konseo

วันที่: 13 มิถุนายน 2557 เวลา:1:04:43 น.

Create Date : 11 มิถุนายน 2557
Last Update : 11 มิถุนายน 2557 14:43:57 น. ลบ Blog แก้ไข Blog 22 comments
Counter : 2859 Pageviews.

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 8 มิถุนายน 2565 เวลา:14:50:55 น.