บันทึกการออกกำลังกาย วันที่ 56
บันทึกการออกกำลังกาย วันที่ 56(Wednesday,February 03, 2559 BE)
เช่นเคยค่ะ นี่คือบันทึกการออกกำลังกาย ไม่สนใจข้ามเลยค่ะ

วันนี้เป็นวันแห่งการชดใช้กรรม เป็นวันที่ออกกำลังหนักมากจนน่าตกใจ ทดแทนมหกรรมกินแหลก กระเพาะครากเมื่อวาน แทบคลาน ขาสั่นไม่หยุดเลยทีเดียว แขนนี่แทบยกไม่ขึ้น ถึงจริงๆแล้วแค่ไม่กินน่าจะง่ายที่สุด แต่คนส่วนใหญ่มักจะกินกระหน่ำ แล้วไปร้องไห้บนลู่วิ่งแทน ทำไมๆๆๆ ไม่เข้าใจแต่ก็ทำเหมือนกัน ถ้าไม่กินซะเรื่องก็จบแล้ว สวยแล้ว ฮือออออออ

แบบอิจฉาเพื่อนที่กินเท่าไหร่ๆก็ไม่อ้วน ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมาหนอ ชีวิตเธอช่างดีงามสยามประเทศอะไรเช่นนี้ และเบื่อพวกที่โพสสเตตัส 'อ้วนจัง' 'พุงออกละ' แต่ในรูปคือยังไง ตัวเท่าตะเกียบ บางเฉียบไปไหน โพสแบบนั้นต้องการอะไร อิจฉาพวกนางมาก ริษยาตาติดไฟ อยากจะโพสรูปตัวเองในคอมเม้นละบอกพวกนางว่า 'นี่สิเรียกอ้วน' แต่ก็เป็นการประจานความอ้วนของตัวเองไปอีก

หลายคนที่อ้วนแล้วโพสรูปตัวเองแบบเต็มตัวนี่นับถือใจ คุณนับถือตัวเองมากๆในระดับที่เราไปไม่ถึง ทุกครั้งที่มีการถ่ายรูป อยากยื่นไปแค่หน้าเท่านั้น ไม่อยากให้ใครเห็นตัวเลย หรือไม่ก็ต้องให้ใครสักคนบังหน้าเรา รู้สึกว่ารูปร่างเรามันน่าอาย แต่เอาเข้าจริงมันน่าอายมากกว่านะที่เราอายตัวเอง...

ความหวังในตอนนี้ก็คงจะต้องมีสักวันที่ถ่ายรูปแล้วเราอยู่หน้าได้อย่างสบายใจ ชีวิตคงจะดีมาก และเราคงเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับมาได้มากขึ้น หวังว่าเราจะศรัทธาในตัวเองได้มากกว่านี้

พูดถึงความมั่นหน้าคนเราก็มีความขี้อายและมั่นหน้าในระดับที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น เราไม่อายที่จะติดดอกไม้อันโตไว้บนหัว แต่อายที่จะถ่ายรูปแบบเต็มตัว ซึ่งเอาจริงๆแปะดอกไม้ไว้บนหัวประหลาดกว่าอีก แต่ถ้าถามว่าให้ติดไว้ตอนนี้ยังโอเคอยู่มั้ย ก็โอเคนะไม่ได้คิดว่ามันแย่ แค่รู้สึกว่ามันแปลก แปลกกว่าคนทั่วไปตรงที่เขาไม่ทำกัน แต่แค่คนอื่นไม่ทำมันไม่ได้เป็นบรรทัดฐานว่ามันพูกหรือผิดนี่นา ศิลปะยังไม่มีคำจำกัดที่ชัดเจนนะยูว ความสวยงามก็เช่นกัน ถ้าต้องสวยเหมือนเทรนสมัยนี้ เราคงเจอตัวเองบนตัวคนอื่นเต็มไปหมด ซึ่งรู้สึกว่าไม่โอเค

ถ้าพูดถึงเรื่องลดน้ำหนักกับความสวยงาม ถามว่าจริงๆแล้วถ้าไปอยู่อินเดีย เราคงฮอตมาก เพียงแต่เราไม่ได้ไหลไปตามค่านิยมของคนในพื้นที่นั้นๆ จึงทำให้การหาเสื้อผ้าใส่เป็นเรื่องลำบาก ความสวยแบบฝังหัวรุ่นสู่รุ่นมันยิ่งห่างไกล ทำให้ทุกๆวันที่มองไปที่คนอื่น ยิ่งเห็นปมด้อยของตัวเองในนั้น ทั้งๆที่จริงมันก็ไม่ใช่ปมอะไร แค่เพราะเราต่างออกไปสุดท้ายเราเลยตัดสินว่าตัวเองผิด

แต่เรื่องอ้วนถ้าพูดกันในแง่สุขภาพ มันก็เป็นประเด็นที่ดี เพราะสุขภาพจะแย่ ภูมิต้านทานอ่อนแอ ความดันโลหิตสูง-ต่ำ เป็นเบาหวาน โรคแทรกซ้อนอีกมากมายจากภาวะอ้วนเป็นจุดเริ่มต้น จริงๆเมื่อก่อนก็ไม่ได้คิดถึงจุดนี้ แต่อย่างว่า ถ้าไม่เห็นโลงศพเราก็ไม่หลั่งน้ำตา มาถึงจุดที่อ่อนแอมากจนเห็นได้ชัดคือ การปวดท้องประจำเดือน คือเมื่อก่อนงงมาก ทำไมเวลามีประจำเดือนแล้วเพื่อนๆทำหน้าเหมือนจะตาย คืออะไรไม่เข้าใจจริงๆ พอมาวันนี้ ปวดท้อง ปวดหลังมาเต็ม จะตายพอๆกับเพื่อน คือมันอเมซิ่งมาก แถมยังป่วยง่าย นิดๆหน่อยๆไข้กิน หวัดกิน เป็นมิตรกับโรคมาก ล่าสุดก็ทอลซิลอักเสป เป็นมันให้หมด มีภาวะเสี่ยงเป็นความดันต่ำด้วย อะไรจะขนาดนั้น ก่อนที่จะพังไปกว่านี้ บันทึกลดน้ำหนักนี้จึงได้เกิดขึ้นมาและจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่วางไว้ สู้ต่อไป...

*พรุ่งนี้เจอกันใหม่




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2559 22:37:48 น.
Counter : 253 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

fuseki
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



A big fat girl who wants to lose her weight.
กุมภาพันธ์ 2559

 
2
4
24
25
26
27
28
29
 
 
All Blog