มาสิมา พี่นี้จิพาน้อง ไปนั่งรถเมล์เที่ยว Aizu One Day Pass



Aizu One Day Pass



ONE DAY PASS

AIZU WAKAMATSU  TOWN BUS

TOURIST ROUTE


Aizu One Day Pass ถูกและดีมีจริง ควัก 500 เยนแล้วสองเท้าก็ก้าวฉับๆ นั่งรถเมล์เที่ยวได้ทั้งวัน ขึ้นลงกี่ครั้งกี่รอบก็ได้ แถมจุดแวะเที่ยวเต็มไปหมดแบบเวลาวันเดียวแทบไม่พอ เที่ยวถูกๆ แบบนี้กันได้ที่ Aizu Wakamatsu เมืองน่าเที่ยว

บันทึกการเดินทาง Day4 วันนี้จะพาไปนั่งรถเมล์เล่นกันครับ ไปทัวร์กันให้ทั่วๆ เมือง Aizu Wakamatsu

สำหรับตอนที่แล้ว

ตอนที่ 1 ลัดฟ้าสู่ไอสึวาคามัตสึ
ตอนที่ 2 ใบไม้เปลี่ยนสีที่หมู่บ้านโบราณ และหน้าผาหินล้านปี
ตอนที่ 3 เดินเทรลกลางสายฝน ชมบึง5สี Goshikinuma Nature Trail

ไอสึวาคามัตสึ เมืองเล็กๆ กลางโอบกอดของขุนเขาaizu wakamatsu view from limoriyama



เช้านี้เราพกร่มลงมากินข้าวด้วย ก็แหงล่ะ เมื่อวานสายฝนเล่นเราซะอ่วม ท้องฟ้าเช้าวันนี้ดูๆ ไปแม้จะสดใสขึ้นเยอะแต่ก็ยังระแวงครับ ไม่กล้าไว้วางใจ

aizu washington hotel

นี่เป็นเมนูทุกเช้าของผมที่นี่ Aizu Washington Hotel ปลาๆๆ และก็ปลา ราดบนข้าวก้องต้ม เหยาะซี่อิ๊วลงไปอีกหน่อย หูย อร่อย



ฟ้าใสใสแดดรำไร อย่าได้เชื่อใจ พกร่มไปด้วยดีที่สุด แพลนของเราวันนี้ก็คือนั่งรถเมล์เตร็ดเตร่ในเมือง อันเนื่องมาจากว่าบัตรเบ่ง Aizu Gurutto Card ของเรานั้นเบ่งไม่ออกแล้ว มันหมดอายุเอ็กซะปายไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้เลยหันมาพึ่ง pass แบบใหม่ สดใสไฉไลประหยัดกว่าเดิมอีกโข นั่นคือ Aizu One Day Pass ตามมาครับ

aizu wakamatsu station




AIZU BUS TERMINAL

aizu bus terminal

aizu bus terminal

สถานที่ออกตั๋วก็คือที่นี่ บัสเทอร์มินอล มองหาง่ายๆ หันหลังให้สถานีรถไฟไอสึวาคามัตสึ หันหน้าออกมาเจอถนน มองเยื้องมาทางซ้ายเล็กน้อย ตึกตรงหน้าสีแดงๆ แบบนี้ นี่แหละ ข้ามม้าลายแล้วตรงเข้าไปเลย บอกเค้าไปว่าซื้อ one day pass







แถ่มแท้ม อยู่ในมือล่ะ ใบละ 500 เยน

AIZU ONE DAY TICKET

พร้อมแผนที่ที่มีตารางเวลาเดินรถอยู่ด้านหลัง ถ้าไม่ใช้ pass นี้ค่าโดยสารปกติก็จะอยู่ที่ 210 เยนต่อครั้ง ใช้เถอะถ้าจะขึ้นเกินสองครั้ง

aizu one day ticket

สำหรับใครที่ต้องการดูแผนที่และตารางเวลาฉบับเดียวกับที่ผมถืออยู่ในมือนี่ก็ ตามลิงค์นี้ไปครับ >> https://www.aizubus.com/rosen/pdf/machinaka-shuyu-unkokeiro_201707.pdf ซึ่งก็ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า No English เหอะๆ นั่นเป็นเหตุผลให้ผมมานั่งทำรีวิวอันนี้ เดี๋ยวจะพาไปทำความเข้าใจกัน รับรอง โนอิงลิสก็โนอิงลิสเหอะ

เมื่อได้ตั๋วมาแล้วจุดเริ่มต้นก็คือข้ามถนนกลับไปฝั่งสถานีรถไฟ ลานกว้างๆ หน้าสถานีก็จะเป็นที่คอยรถเมล์ มี 6 ล็อค เราก็ตรงเข้าไปล็อค 6 หรือป้ายที่หก ป้ายในสุดหัวแถว

จะมีรถออกทุก 15 นาทีเลยล่ะ สลับกันระหว่างสองสายนี้

Haikara-San (สายสีเขียว) และ Akabe (สายสีแดง)

ส่วนคันนี้ที่แล่นเข้ามาเทียบท่าทายซิสายอะไร … ผิด อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเป็น Akabe ซึ่งผมเพิ่งบอกไปว่าสีแดง คือ akebe หน่ะแดงแน่ๆ สีเดียวกับน้องวัวแดงสัญลักษณ์ของเมืองไอสึ แต่ว่าคันนี้คือ haikara san ครับ สายสีเขียวคาดเหลืองซึ่งไม่เขียวทุกคัน มันจะมีบางคันเป็นแดงคาดเหลืองแบบนี้ ผมเองก็เข้าใจผิดในตอนแรก งงไปเลย เพราะมันวิ่งเข้ามาเทียบท่าด้วยเวลาของ haikarasan แต่พอมันแล่นออกไปถึงได้รู้ เพราะว่า

HAIKARA-SAN วิ่งทวนเข็มนาฬิกา … ส่วน AKABE นั้นวิ่งตามเข็ม

haikara san bus timetable

และนี่คือตารางเดินรถของ Haikara-San ครับ ผมแทนชื่อญี่ปุ่นด้วยชื่ออิงลิสให้สำหรับป้ายสำคัญๆ อย่างป้ายแรก H1 ก็คือป้ายหน้าสถานีaizu

Haikara-San Bus เดินรถวันละ 20 เที่ยวๆ แรก 8:00 เที่ยวสุดท้าย 17:30 วิ่ง 39 ป้ายรถเมล์ ออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ตรงกับ x.00 และ x.30

ส่วน Akabe Bus เดินรถวันละ 18 เที่ยวๆ แรก 9:15 เที่ยวสุดท้าย 16:15 วิ่ง 39 ป้ายรถเมล์เช่นกัน ออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ตรงกับ x:15 และ x:45

ทำให้สองสายนี้เมื่อผนวกกันก็กลายเป็นมีรถออกทุกๆ 15 นาทีนั่นเอง ถือว่าขึ้นๆ ลงๆ ได้ทุกป้ายนะครับ ไม่เสียเวลารอรถเที่ยวถัดไปเลย

หมายเหตุ รถเที่ยวที่ 7-11 (รอบ 11:00-13:00) ไปสุดแค่หมู่บ้านซามูไร (sumurai residences) (ป้ายAizu Bukeyashiki) แล้วก็จะยูเทิร์นกลับนะครับ จะไม่วิ่งเข้าไปใน  Higashiyama Onsen ถ้าต้องการไปจริงๆ ให้รอสายแดง Akabe Bus คันที่ 8 และ 11 (รอบ 11:15 และ 12:15) แทน ดูตาราง akabe ได้ตามลิงค์ pdf ด้านบนครับ

สำหรับคันนี้เป็นหน้าตาคันเขียวคาดเหลือง สีออริจินอลของ Haikara-San ยืมรูปเดิมมาจากรีวิวตอนก่อน จะได้เห็นสีกันชัดๆ

haikara san bushaikara san bus route map

และนี่คือเส้นทาง Route ของ Haikarasan ส่วน Akabe ก็จะคล้ายๆ กันวิ่งแทบจะทับเส้นเดียวกันนะครับ ต่างกันเพียงเล็กน้อย เพียงแต่หลักๆ อย่างที่บอก คือ Haikarasan วิ่งทวนเข็ม ส่วน Akabe นั้นวิ่งตามเข็มนาฬิกา

ยกตัวอย่าง ดูจากแผนที่ ถ้าเรานั่ง Haikarasan จะไปปราสาทนกกระเรียน Tsuruga เราต้องนั่งไปลงป้าย H14 หรือป้ายhaikarasanที่สิบสี่นั่นเอง แต่ถ้าเรานั่ง Akabe มันจะวนตามเข็มไปคนละทางแต่ก็มาถึงป้ายหน้าทางเข้าปราสาทนกกระเรียนป้ายเดียวกันนั่นแหละแต่จะนับเป็น A27 หรือป้าย akabe ที่ยี่สิบเจ็ดนั่นเอง คือต้องนั่งไปยี่สิบเจ็ดป้าย ไกลโฮก ดังนั้นเลือกสายรถเมล์ดีดีครับถ้าจุดหมายเราแน่ชัดว่าจะไปไหน แต่ถ้าต้องการจะวนๆ ไปรอบเมืองแล้วล่ะก็สายไหนก็ได้ทั้งนั้นครับ

อธิบายแผนที่
เส้นเขียนทึบคือ เส้นที่วิ่งจริง! มันต่างกันนิดหน่อยกัน route ในแผนที่ที่แจก (ส่วนที่แตกต่างคือเส้นเขียวจางๆ ) ผมนั่งสองรอบมันก็วิ่งแบบนี้สองรอบเลยต้องหมายเหตุเอาไว้ อย่างเช่นป้าย H2 ในแผนที่คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Aizu Machikata ใช่มั้ยครับ แต่รถวิ่งจริงๆ ไม่ยักกะผ่าน ผมนั่งเมื่อ 27 กับ 30 ตค. ทั้งสองวันก็ไม่ผ่าน , อีกจุดนึง H21 ป้ายที่จะลงไปเที่ยวสวน Oyakuen garden แต่รถวิ่งจริงๆ ก็ตีโค้งเลี้ยวซ้ายออกไปเลย งงเหมือนกัน เป็นต้น

มันไม่ได้น่าสนใจและน่าแวะทุกป้าย แต่ผมจะคัดมาให้พอสังเขป

ป้ายที่ 2 H2 ชื่อป้าย Machikata Densyoukan
ชื่อสถานที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Aizu Machikata
เปิด 9:00-18:00 ปิดวันจันทร์
ค่าเข้า: Free
สิ่งน่าสนใจ ชั้นสองเป็นที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของไอสึ ชั้นล่างขายของที่ระลึกพวกงานหัตถกรรม
คุณสามารถแวะหยิบข้อมูลต่างๆ ติดตัวไว้ เผื่อมีประโยชน์

aixu machikata



ป้ายที่ 4 H4 (A35) << ในวงเล็บแบบนี้คือป้ายของ Akabe bus นะครับ ชื่อป้าย Nanokamachi Shirokiya
ชื่อสถานที่น่าสนใจ  ร้าน Shirokiya Shiryokan
เปิด 9:00-17:30
สิ่งน่าสนใจ เป็นร้านขายพวกงานหัตถกรรมเก่าแก่ เปิดร้านมา 300 ปีแล้ว เป็นอาคารแนวตะวันตก

shirokiya shinyokan



ป้ายที่ 5 H5 (A34) ชื่อป้ายNanokamachi Chuo
ชื่อสถานที่น่าสนใจ อนุสรณ์รำลึก กลุ่ม Aizu Shinsengumi
เปิด 10:00-17:00
ค่าเข้า: 300 Yen
สิ่งน่าสนใจก็คือเป็นสถานที่เก็บประวัติศาสตร์พวกกลุ่มตำรวจพิเศษที่เรียกว่า Shinsengumi รวมถึงเรื่องราวของกองทัพของโชกุน และกองกำลังของรัฐบาลใหม่ มีชุด Haori ให้ใส่ถ่ายรูปด้วยไม่เสียคชจ.

aizu shinsengumi



ป้ายที่ 6 H6 (A33) ชื่อป้ายNanukamachi Station
ชื่อสถานที่น่าสนใจ สถานีรถไฟ Nanukamachi
สิ่งน่าสนใจก็คือ เป็นสถานีที่ดูสวยดี คลาสสิค จะรอดักถ่ายภาพคู่กับรถ Haikarasan หรือ Akabe ก็ดูเข้าที ตรงนี้จะเป็นจุดที่รถทั้งสองสายต้องมากลับรถหน้าสถานี

nanukamachi station



ป้ายที่ 10 H6 ชื่อป้าย Noguchi Hideyo Seisyunkan
ชื่อสถานที่น่าสนใจ ที่พำนักวัยเยาว์ของหมอ ฮิเดะโยะ โนะงุชิ
สิ่งน่าสนใจก็คือ ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณหมอฮิเดะโยะ โนะงุชิ เป็นใครมีความสำคัญอย่างไร ลองหยิบธนบัตรใบละ 1000 yen ในมือขึ้นมาดู รูปคุณหมอคนนี้อยู่ในแบงค์นั่นแหละ เป็นบุคคลสำคัญของญี่ปุ่นและของโลกคนหนึ่งในด้านการค้นพบทางการแพทย์ เป็นนักแบคทีเรียวิทยา และที่บ้านหลังนี้อดีตเป็นสถานพยาบาล เป็นที่ที่คุณหมอเคยใช้ชิวิตวัยเยาว์อยู่ที่นี่

Noguchi Hideyo

แล้วถัดไปอีกป้ายรถเมล์นึง H11 ก็จะมีอนุสรณ์สถานรูปปั้นของคุณหมอท่านนี้ด้วย อันที่จริงลงรถที่ป้าย 10 แวะบ้านคุณหมอแล้วเดินเที่ยวมาเรื่อยมาดูอนุสรณ์สถานของคุณหมอแล้วรอขึ้นรถเมล์ที่ป้าย 11 ก็เข้าทีอยู่

ฮิเดะโยะ โนะงุชิ

ภาพคุณหมอ ฮิเดะโยะ โนะงุชิ บนธนบัตรชนิด 1,000 yen ซีรีย์ D พิมพ์ใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.2004

ภาพจากเวป wikipedia https://goo.gl/x4fHHG





ป้ายที่ 12 H12 (A29) ชื่อป้าย Aizuwakamatsu City hall
ชื่อสถานที่น่าสนใจ Aizu City Hall
สิ่งน่าสนใจก็คือ เป็นศาลากลางครับ ถ้าอยากแวะลงไปถ่ายรูปนะ และปีนึงเค้าจะมี light up ด้วย เหมือนที่ปราสาทซึรุกะ วันที่ผมมานี่ก็มี light up เสียดายผมไม่รู้ ไม่งั้นแวะเข้ามาแล้ว

aizu city hall




Haikara-san ขณะมุ่งหน้าสู่ปราสาทนกกระเรียน Tsuruga-Jo Castle

เห็นมุมตรงแบบนี้ก็แปลว่ารถกำลังแล่นเข้าหาป้ายทางเข้าปราสาทนกกระเรียน H14 Tsurugajo Iriguchi แต่เดี๋ยวก่อน มันจะยังต้องผ่านป้าย 13 สถานที่น่าสนใจอีกที่หนึ่ง…

tsuruga castle




ป้ายที่ 13 H13 (A28) ชื่อป้าย Kitademaru Odouri
ชื่อสถานที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์เหล้าสาเก Aizu Miyaizumi Sake Museum
สิ่งน่าสนใจก็คือ ชื่อก็สื่ออยู่แล้วนะครับ ใครอยากชมการผลิตสาเก และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเหล้าสาเกก็แวะกันได้เลย

ค่าเข้าชม 300 yen

aizu sake museum




ป้ายที่ 14 H14 (A27) ชื่อป้าย Tsurugajo  Iriguchi


ปราสาทนกกระเรียน TSURUGA CASTLE

The must visit ครับ ป้ายไหนก็ผ่านได้แต่ป้ายนี้ห้ามผ่านเลย ป้าย 14 ทางเข้าปราสาท Tsuruga ผมก็ลงป้ายนี้แหละ ลงแล้วก็ข้ามถนน ฝั่งตรงข้ามก็จะมีตรอกเล็กๆ นั่นแหละ เดินตรงเข้าไปเลย ตามป้ายที่ติดไว้บนเสาในรูป

tsuruga jo iriguchi

เพียงแค่ 250 เมตรจากป้ายรถเมล์ เราก็จะไปถึงทางเข้าปราสาท สองภาพนี้หยิบยืมมาจากรีวิวตอนที่ 1 เช่นเคย  อะมาดูบรรยากาศจริงใน Day4 กัน


เป็นการมาซ้ำอีกครั้งในทริปเดียวกัน ครั้งแรกมาเยือนค่ำๆ ในวันแรกที่มาถึงวันนั้นมาชม light up สวยๆ ส่วนวันนี้ขอมาชมภาคกลางวันบ้าง ท้องฟ้าสวยเลยวันนี้ แจ่มอลัง ใบไม้เปลี่ยนสีก็เลยยิ่งสวยสดใส

aizu season fallaizu season fall

กลุ่มนี้ใบไม้แดงบนกำแพง แต่เดี๋ยวก่อน!!! สามวันผ่านไปมันร่อยหรอไปเยอะมาก

aizu season fall

เปลี่ยนเทียบกับภาพที่สามวันก่อนมา ยังดกรกทึบแดงฟ่อง ปลิดใบกันเร็วจริงๆ

aizu season fall

ตรงนี้เหลืองก็เหลืองสะใจ ไม่ผิดหวังเลยที่มาเยือนปราสาทนกกระเรียนในวันนี้

aizu season fall

เดินบันไดหินขึ้นด้านบนของกำแพงคูเมือง

tsuruga jo

วิวจากบนคูเมืองมองไปเกาะที่ตั้งปราสาท ใบไม้เปลี่ยนสีสวยได้ใจมาก

tsuruga jo

จากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานที่ทอดข้ามเข้าสู่เกาะที่ตั้งตัวปราสาท มองเห็นปราสาท Tsuruga ขาวสวยเด่น แต่เดี๋ยวนะ!! นั่นอะไร ท้องฟ้าสีฟ้าหายไปไหนแล้ว!!! เร็วเหมือนโกหก ม่านหมอกปกคลุมทั่วท้องฟ้าอีกครั้ง อิทธิพลไต้ฝุ่นยังไม่หมดไปแค่จางไปชั่วประเดี๋ยวเท่านั้น โธ่

tsuruga jo

ก็เลยกินแห้วตามเคย เก็บภาพปราสาท Tsuruga Jo ได้แค่เพียงบนม่านหมอกฝน

tsuruga joaizu season fallaizu season fall

ย้อนกลับออกมาถ่ายใบไม้แดงแถวคูเมืองอีกครั้ง ในจังหวะที่แดดผลุบมากกว่าโผล่ก็ต้องรีบกดชัตเตอร์กันครับ

aizu season fallaizu season fall



จากนั้นเราก็โบกมือลา Tsuruga Jo ไปดักรถเมล์เพื่อขึ้นป้ายต่อไป และเราก็ได้ Haikara-San คันแดงอีก ไหงวันนี้ชวดคันเขียวตลอด

ตามเส้นทางปกติก็จะวิ่งผ่าน
ป้าย 18 H18 ชื่อป้าย Aizu Fugado
สถานที่น่าสนใจ Aizu Fugado
มันเหมือนเป็นสถานีที่น่าสนใจแหละ แต่ไม่รู้มีอะไร มีที่จอดกว้างขวาง แต่หาข้อมูลไม่ได้

aizu fugado




ป้ายถัดไป
ป้าย 21 H21 ชื่อป้าย Oyakuen
สถานที่หน้าสนใจ สวน Oyakuen Garden
ซึ่งจัดว่าเป็นสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น แต่วันนั้นรถเมล์ไม่วิ่งผ่านป้ายครับ อย่างที่แสดงเส้นเขียนทึบให้ดูในแผนที่ข้างบน ก็เลยไม่รู้แล้วก็พลาด มารู้อีกทีตอนนั่งทำรีวิว

oyakuen garden




และที่พลาดอีกก็คือ (พลาดเยอะจริงตรู) เรานั่ง Haikara-San เที่ยวที่ 7 อย่างที่บอกไว้ตอนต้นอีก ว่าคันที่ 7-10 11:00- 13:00 นั้น จะไม่วิ่งไปหมู่บ้านออนเซ็น HigashiyamaOnsen  คือเราตั้งใจมากวันนี้ว่าจะไปหมู่บ้านออนเซ็นนี้ให้ได้  มันแล่นไปถึงหน้าหมู่บ้านซามูไร (Samurai residences) แล้วมันก็เลี้ยวกลับเลย โถๆๆ ตอนนั้นก็เลยตั้งตัวไม่ติด งงๆ กลับรถทำไม และไม่ได้เฉลียวใจว่าเรามาอยู่หน้าหมู่บ้านซามูไรแล้ว บรรยากาศมันเงียบๆ ไม่มีรถจอดไม่มีคนลง ไม่ได้เหมือนในภาพนี้นะครับ ภาพแคปจากกูเกิ้ล

ป้าย24/30 H24, H30 (A11, A17) ชื่อป้าย Aizu Bukeyashiki
หมู่บ้านซามูไร Sumurai Residences

samurai residences

จากนั้นรถก็ย้อนทางเดินมาเรื่อยๆ แล้วก็เลี้ยวขวาขึ้นทิศเหนือ มีภูเขา Iimoriyama ขนาบอยู่กาบขวา แล้วก็มาจอดที่นี่
ป้ายที่ 34 H34 (A7) ชื่อป้าย Wada
Bansho Handmade Crafts
ใครอยากหาซื้อของที่ระลึก งานฝีมือสวยๆ แวะที่นี่ได้เลย ลงได้สองป้าย H34 (A7) Wada กับ H35 (A8) Iimoriyama Danchi

bansho handmade crafts




รถเมล์พาเรามาถึงสามแยกแล้วก็เลี้ยวซ้ายหัวถนนที่จะวิ่งตรงกลับสถานีรถไฟไอสึ ที่อยู่ห่างออกไปทางทิศตต. ราวๆ สองโล หัวถนนตรงนี้ก็จะเป็นจุดแวะสำคัญของเราที่เล็งไว้ก่อนแล้ว 
ป้ายที่ 36 H36 (A5) ชื่อป้าย Iimoriyama Shita

ภูเขา LIMORIYAMA

ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจมากหลายอย่าง ที่เราตั้งใจอย่างแรกเลยคือมาชม เจดีย์ไม้ Sazaedo เป็นเจดีย์โบราณอายุสองร้อยกว่าปีที่มีความพิศดารในการสร้าง

limoriyama shita




ทางขึ้นเขา Imoriyama เจดีย์ไม้อยู่บนนั้น รวมทั้งสุสาน 19 ซามูไรที่ฆ่าตัวตายจนเป็นตำนาน aizu แดน Last samurai ด้วย ก็อยู่บนนั้นเช่นกัน ทางขึ้นเป็นบันได 132 ขั้น เดินนับมาแล้วตอนลง ใครไม่อยากเดินขึ้น ข้างๆ จะมี Slope conveyer หรือทางเลื่อนขึ้น จ่ายค่าบริการนิดหน่อย คนละ 250 yen แต่ว่า บัตร one day pass ที่เราซื้อมาสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดค่าทางเลื่อนได้ วันนั้นผมก็ไม่รู้อีกล่ะครับ 555 ก็จ่ายไป 250 ขาเดียว ส่วนขาลงก็บันได้ครับ เดินลงสบายๆ

sazaedo slopesazaedo slope

ขึ้นมาแล้วก็มองย้อนลงไปหน่อย 132 ขั้นสูงลิบ ดีแล้วที่ตัดสินใจขึ้นทางเลื่อนมา

limoriyama stair



บรรยากาศแรกที่เจอคืออนุสรณ์และสุสาน 19 ซามูไรที่ปลิดชีพตัวเองด้วยการคว้านทอง สมัยสงครามที่สิ้นสุดยุคโชกุนและมีการต่อต้านกองทัพจากรัฐบาลใหม่ ซามูไรวัยเยาว์กลุ่มนี้ ที่เรียกว่ากลุ่มเสือขาว หนีกองทัพรัฐบาลใหม่มาถึงเขาลูกนี้ พอเห็นปราสาทท่านโชกุนนายของตน ก็ปราสาท Tsuruga นั่นแหละ มีควันไฟออกมา ก็นึกว่าเสียท่าแล้ว ก็เลยขอปลิดชีพตัวเองตายตาม ตัวสุสานจริงๆ เหมือนจะต้องเดินไปตามเทรลเดินทางขวามือ เราไม่ได้เดิน ก็ชมแค่บรรยากาศรอบๆ บริเวณด้านหน้านี้

limoriyama

limoriyama

white tiger

limoriyama




จากนั้นก็มองหาเส้นทางที่จะเดินไปชมเจดีย์ไม้ Sazaedo

วิวเมืองไอสึ มองจากบนเขา Limoriyama นั่นๆ มองเห็น Haikara-san คันเขียวละ กำลังเข้าป้ายที่เราเพิ่งลงมาตะกี้

aizu wakamatsu view from limoriyama

ทางเดินไปเจดีย์ไม้ Sazaedo ตามเด็กนักเรียนไปนั่นครับ อยู่หัวมุมบันได 132 ขั้นนั่นแหละ

sazaedo



แถ่มแท้ม และเราก็มาถึง เจดีย์ไม้โบราณปรากฏแก่สายตาละ

เจดีย์ไม้โบราณ SAZAEDO

sazaedosazaedo




มีค่าเข้าชมนะครับ และเราก็ว่าคุ้มนะ แหม มาทั้งที่ต้องขอมาเห็นทางเดินบิดเกลียวขึ้นทางลงทางอันเลื่องชื่อ

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 400 yen เด็ก 200 yen

ทางเดินภายในครับ มาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ แปลกตา อะเมซซิ่ง

sazaedo

เค้าสร้างเป็นเกลียว เดินๆ ขึ้นไปถึงยอดเกลียวก็จะสลับเป็นเกลียวทางลง ซึ่งตลอดทางขึ้นและลงนั้นจะไม่มีโอกาสมองเห็นกันเลย

sazaedo

และระหว่างที่เราอยู่ในตัวเจดีย์ Sazaedo นั่นเอง มองออกไปนอกเจดีย์ก็ต้องพบกับ ฝน! ฝนตกแล้ววว เซ็ง ดีว่าเตรียมร่มมานะ

sazaedosazaedo




ฝนซาเราก็ลงจากเขา รอรถป้ายเดิน H36 กลับไปตั้งหลักที่โรงแรมก่อนครับ ไปหาข้าวกินด้วย ไปนั่งขบคิดว่าทำไมรถมันไม่พาไปหมู่บ้านออนเซ็น จากนั้นเมื่ออิ่มท้องแล้วสมองก็แล่น และรู้ว่าเราขึ้นไม่ตรงรอบนั่นเอง สองเท้าก็ก้าวออกจากที่พักตั้งหลักกันใหม่ ตรงไปป้ายหน้าสถานีรถไฟ H1 ล็อก 6 รอขึ้นรถเมล์กันอีกรอบ 5555 One Day Pass นี่ใช้คุ้มมาก

คราวนี้ได้เที่ยวรถคันที่ 16 คันเขียว Haikara-San เช่นเคย ไม่ได้ขึ้น Akabe สักที รถออก 15:30 จะถึงหมู่บ้านออนเซ็น 16:07 ใช้เวลาวิ่ง 37 นาที แล่นออกไปตามเส้นทางเดิมๆ ที่เราผ่านมาแล้วรอบเช้า ได้นั่งชมวิวเมืองกันอีกรอบ ก่อนจะมาถึงหน้าป้ายหมู่บ้านซามูไรอีกครั้ง ลุ้นอยู่ว่ามันจะกลับรถอีกมั้ย ทีนี้ไม่แล้ว รถแล่นฉิวหลังส่งคนลง ตรงต่อไปเขาสู่หลืบเขา สู่ หมู่บ้านออนเซ็น Higashiyama

higashiyama onsen map

สวยมาก นี่วิวแรกหลังลงจากรถเมล์ ตรงนี้คือสุดสายละ รถเมล์จอดให้ลงแล้วก็ยูเทิร์นกลับออกไป

higashiyama onsen




ป้ายที่ 27 H27 (A14) ชื่อป้าย  Higashiyama Onsen
นี่ครับ รถเมล์ยูเทิร์นใต้ตึกนั่นเลย เค้าทำที่พิเศษไว้ให้กลับรถโดยเฉพาะพอดีเป๊ะ
higashiyama onsen

^ ลงรถแล้วเราก็ถ่ายป้ายรถเมล์ไว้ มันมีตารางเวลาว่ารถจะมากี่โมงบ้าง เรามาถึง 16:07 ดูแถบเขียวใต้ภาพด้านบนไว้นะครับ เวลาที่เหลือก็คือ 16:37 17:07 17:37 และเที่ยวสุดท้าย 18:07 เลยจากเที่ยวนี้ไปก็ตกรถ เท่ากับว่าเรามีเวลาเพียงสองชั่วโมงเต็มที่สำหรับเดินเล่นที่นี่


ตรงป้ายรถเมล์ยังมีแผนผังบริเวณโดยรอบของ Higashima Onsen ด้วย ใหญ่เท่าข้างฝา เลยถ่ายมาอีก ส่วนเส้นแดงๆ ในแผนผังนั่นคือผมมาเติมทีหลัง เป็นเส้นทางที่เราเดินกันวันนั้น

higashiyama onsen map

น้ำตกนี้คือยังไม่ทันเดินครับ หลังป้ายรถเมล์เลยแหละ มีวิวเรียวกังเป็นฉากหลัง สวยอ่า ชอบๆ

higashiyama onsen

higashiyama onsen



ขวามือนี่เป็นเรียวกังชื่อดัง Mukaitaki ryokan ช่วงพีคๆ คืนนึงน่าจะเป็นหมื่น

บริเวณโดยทั่วไปของที่นี่ก็คืออยู่ในหลืบเขาแคบๆ ขนาบสองด้าน ขวามือเป็นลำธารน้ำที่ไหลแรงมาและตกเป็นน้ำตกเป็นจุดๆ แยกที่เห็นในภาพเนี่ยเดินทางไหนก็ได้ เดี๋ยวมันวกไปเจอกันเอง เราก็เลือกเดินทางขวาครับ ขอเลาะลำธารก่อน

higashiyama onsen

มุมมองย้อนกลับ Mukaitaki ryokan น่าจะเป็นไฮไลท์สุดของที่นี่เลย

mukaitaki ryokan



ที่นี่เต็มไปด้วยที่พักสไตล์ออนเซ็นทุกหลังล่ะครับ และออกแบบหลากสไตล์ ทั้งเรียวกัง ทั้งโฮเท็ลสไตล์โมเดิ้ลบ้าง เรโทรบ้าง ผสมๆ กันไป ทำให้ดูมีสีสันสวยมาก ดูๆ ไปก็แฝดกับแม่กำปองเหมือนกันนะ เพียงแต่แฝดคนละฝา คือแม่กำปองบ้านเราก็แบบนี้แหละอยู่ในหลืบเขาแคบและมีสายน้ำอยู่ตรงกลางแบบนี้เลย

higashiyama onsen



เดินมาจนทางตัน อ้าวไหงตะกี้บอกว่าทางจะมาบรรจบกัน นี่ครับ ต้องเดินขึ้นมาตรงนี้ ออนเซ็นสาธารณะนี่ ทางจะเลี้ยวไปบรรจบกันเอง นี่ยังนึกเสียดายวันนั้นทำไมไม่นั่งแช่เท้าเล่นตรงนี้ดูหน่อย

higashiyama onsen


ก็เดินถ่ายวิวไปเรื่อยนะครับ Sightseeing อย่างเดียว ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้

higashiyama onsen



ตรงมุมนี้มีความปรักหักพัง แสดงว่ามันก็จะมีทั้งที่รุ่งและเจ๊งนะ เหมือนกันทุกที่ คงเป็นเรียวกังร้างๆ

higashiyama onsenhigashiyama onsenhigashiyama onsen



และก็สุดท้ายนะครับ เราเดินกันไปได้แค่ครึ่งกิโลดูนาฬิกาแล้วก็จำเป็นต้องกลับละ สี่โมงกว่า แปลว่าดวงตะวันใกล้ลับฟ้าแล้ว ท้องฟ้าก็ทำท่าจะฝนตกเอามากๆ อากาศไม่ดีแต่เย็นดีชอบ ห้าโมงเย็นก็เก็บแสงทไวไลค์ที่หน้า Mukaitaki Ryokan นี่เองที ถ่ายไปมองนาฬิกาไป รถเมล์จะมาในอีกสองสามนาทีข้างหน้า ยังอุ่นใจว่าป้ายรถเมล์อยู่ด้านหลังเรานี่แหละ ไม่พลาดแน่ ถ่ายเสร็จเก็บขาตั้งก็เห็นรถเมล์มาพอดี แล้วก็ไม่ตกรถครับ จบ Day 4 ไปแบบฝนปราณีเรามากๆ อีกวันหนึ่ง

mokaitaki ryokan

รอติดตามตอนหน้า จะพาไปขับรถขึ้น UraBandai และเที่ยวน้ำตกสวยๆ กันครับ




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2560 16:05:00 น. 6 comments
Counter : 5189 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณlovereason, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณtoor36, คุณชีริว, คุณKavanich96


 
สวัสดีค่า ^^
มาตามชมภาพสวยๆค่ะ
ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก น้ำตกยิ่งสวยค่ะ
ญี่ปุ่นแบบว่ามีหลายอารมณ์ในประเทศเดียวเลย
อิจฉาอะ น่าไปค่ะ อิอิ
มีทำแผนที่ด้วยครบเลย
แบบนี้ตามรอยได้ง่ายเลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า



โดย: lovereason วันที่: 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา:22:31:17 น.  

 
สวัสดีคะ...

ยังไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยคะ...

ไปเที่ยวกับบล็อคของคุณตาหยีและของน้องริน..ก็สบายล่ะ

ได้ความรู้เยอะเชียวคะ...ขอบคุณคะ..

โหวตให้เลยคะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา:23:01:28 น.  

 
มื้อเช้าเติมพลังด้วยข้าวต้มปลาก่อนเลย ปลาเน้นๆ หลากหลายชนิดเลย

บัตรวันแบบนี้ใช้เกิน 2 ครั้งก็คุ้มแล้วจริงๆ ครับ เค้ามีตารางเวลาแน่นอนแบบนี้นี่ดีจัง

คุณหยีลงข้อมูลละเอียดมาก คนละอารมณ์กับคุณรินเลยแม้จะเที่ยวที่เดียวกันก็ตาม เรียกได้ว่าคนที่หาข้อมูล เก็บข้อมูลได้เต็มทีเลย



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2560 เวลา:0:15:22 น.  

 
สวดยวดเลยพี่หยีรีวิวทั้งสายรถเมล์ทั้งเส้นทาง คนยิ่งไม่ค่อยได้ไปไอซุกัน
ไปญี่ปุ่นผมขึ้นรถไฟได้ แต่รถเมล์นี่งงตลอดเลยครับ
ปราสาทนกกระเรียนสวยเด่น สุสานซามูไรก็น่าทึ่งในความเด็ดขาด ทีแรกคุ้นๆคิดว่าอ่านบล็อกนี้ไปแล้ว ที่แท้นั่นนั้นบล็อกรินนี่นา ไปด้วยกันหนิ
บ้านเมืองเขาสะอาดจริงๆ ทางระบายน้ำยังสวยใสน่าลงไปว่ายเลยครับ


โดย: ชีริว วันที่: 2 ธันวาคม 2560 เวลา:10:37:53 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 4 ธันวาคม 2560 เวลา:2:51:43 น.  

 
ขอบคุณสำหรับการเดินทาง และภาพสวยๆนะคะ อยากไปเที่ยวเลยต่ะTT


โดย: สาวนิรนาม IP: 1.20.253.222 วันที่: 18 พฤษภาคม 2566 เวลา:11:26:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 186 คน [?]







ทำไมต้อง น้ำ ฟ้า ป่า เขา
เริ่มท่องเที่ยวไกลบ้านครั้งแรกตอนอายุได้ 12 ขวบ ไปไกลถึงเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ครั้งนั้นได้วิ่งไล่จับเมฆบนดอยปุย ก็ใจแตกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ชอบถ่ายภาพเพราะหนังสือถ่ายภาพท่องเที่ยวของ"ทอม เชื้อวิวัฒน์"
รักภูเขาเพราะหนังสือ "คืนสู่ภูเขา" ของดวงดาว สุวรรณรังษี
ภาพถ่ายผลงานของคุณดวงดาวในหนังสือเล่มนั้นมันสร้างแรงบันดาลใจแก่ผม ให้ผมหลงรักเหลี่ยมเขา และอยากถ่ายทอดเป็นภาพถ่าย เมื่อถึงเวลาต้องใช้นิคเนม เลยเลือกคำสั้น ๆ 4 คำที่เกี่ยวกับธรรมชาติที่เราชอบมาเป็นชื่อ น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
ความตั้งใจ: ยังมีอีกหลายภู หลายดอย ที่ยังไม่ได้พิชิต เรี่ยวแรงก็เริ่มน้อยถอยลง พักนี้ของชีวิตก็ได้แต่เที่ยวฉาบฉวย สไตล์แคมป์คาร์ ไปเรื่อย ๆ
ยังจะเดินทางต่อไป ต่อไป ... และต่อไป

รู้จักจขบ.เพิ่มเติมได้ที่บทสัมภาษณ์พิเศษ
Interview The Blogger น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา




Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2560
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 พฤศจิกายน 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.