ตะลอนเกาหลีปลายฤดูใบไม้ผลิ 6วัน 10เมือง ตอนที่ 1 Paju, Gimpo, Ansan, Suwon, Yongin



บล็อกนี้มีเสน่ห์ที่เลย์เอาท์ หากชมผ่านมือถือโปรดคลิกสู่โหมด Desktop Version เพื่อความว้าวในการรับชม จุ๊บุ๊ๆ





ตะลอนเกาหลีใต้
6วัน 10เมือง!!


จัดเต็มมาก สำหรับทริปแรกรู้จักเกาหลีใต้ของนายน้ำฟ้า ตะลอนซะคุ้มเบย

ทริปนี้เกิดขึ้นปลายพค. ถือเป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ ย่างเข้าต้นซัมเมอร์ อากาศก็เย็นๆ ในช่วงเช้าๆ และค่ำๆ นอกนั้นก็มีร้อนบ้างตามกำลังแรงของแดด

เมืองแรกที่มาก็คือนี่เลย ลงเครื่องบินปุ๊บก็บึ่งมานี่
Skin Anniversary
N37° 42.808' E126° 41.229'
ณ เมือง PAJU
ห่างจากสนามบินมา 55 กิโลเมตร


ฉันมาทำอะไรที่นี่
เค้าพามามาร์กหน้า มีเอาเครื่องมือมาตรวจแยกประเภทผิวหน้าแล้วก็เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม จากนั้นก็สาธิตทดลองทำจริงกันเลย นอนให้ทำเพลินเกือบชั่วโมง เผลอหลับไปตื่นอีกทีหน้าปิ๊ง ดูสิครัช หน้านายน้ำฟ้าก็ใส แต่ไม่อยากโชว์เดี๋ยวหนุ่มสองคนนี้จะดูหมอง 5555







เราใช้บริการสายการบิน Thai AirAsia X เครื่องบิน Airbus A330-300 บินไป-กลับวันละเที่ยว จากดอนเมือง-โซล DMK-ICN ออก 1:55 น. ถึงปลายทาง 9:10 น. ระยะเวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง ( เวลาที่เกาหลี + 2 ชม. จากไทย)
เที่ยวกลับจากโซล-ดอนเมือง ICN-DMK ออก 11:15 น. ถึงดอนเมือง 14:50 น. ทุกวัน
* ตารางบินนี้เป็น Summer Schedule
** มีบริการเสริมสั่งจองอาหารล่วงหน้าออนไลน์ เมนูอาหารไทยเพียบๆ เช่น ข้าวกระเพราไก่ ข้าวเหนี่ยวไก่ย่าง ผัดไทยกุ้งสด ฯลฯ











ออกจากสกินแอนนิเวอร์ซารี่ก็แวะนี่เลย ใกล้กัน + ใกล้เที่ยง

เราแวะเข้าห้องสมุด เข้ามาทำไม! เข้ามากินข้าวเที่ยงครับ สุดห้องสมุดเป็นห้องอาหาร dining Noeul เมือง Paju เนี่ยเค้ามีสมญาว่าเมืองแห่งหนังสือ ห้องสมุดเยอะมาก (ทำไมไม่เรียกห้องหนังสือ สงสัยมาตั้งแต่เด็กแระ) สำนักพิมพ์ชื่อดังต่างๆ ก็อยู่กันในเมืองนี้



นี่เป็นเส้นทางท่องเที่ยววันแรกของเรา









อิ่มแล้วก็ออกจากเมือง Paju มุ่งหน้าลงมาทางกรุงโซล แล้วไปแวะเที่ยวชมแหล่งช๊อบปิ้งขนาดใหญ่
Hyundai Premium Outlet
N37° 35.881' E126° 47.206'
ณ เมือง GIMPO

เป็นช๊อบปิ้งเอาท์เลตขนาดใหญ่ของอาณาจักรฮุนได ร้านสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย และก็แปลกใจแต่ละร้านที่เห็นป้ายเซลกระหน่ำ เขาก็ไม่ได้เบียดกันเข้าร้านแบบบ้านเรา เขาจัดให้ต่อคิวกัน แถมที่แปลกกว่านั้นคือให้เดินเข้าไปช๊อปในร้านทีละราย คือใครจูงกันมาสองคนก็เดินเข้าไปสองคน ใครมาคนเดียวก็เข้าไปคนเดียว แล้วก็ช๊อบเสร็จถึงจะให้คิวต่อไปเข้าร้าน!! บร๊ะเจ้า ตอนเดินในร้านท่ามกลางคนขายและสายตาคนต่อคิวคงรู้สึก VIP แถมกดดันมาก 555

การเดินทางจากโซลนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานีเดวา และนั่ง bus สาย 16 ต่อมาถึงเลย
หรือจากตัวเมือง Gimpo ก็นั่งบัสสาย 16 มาได้เช่นกัน










Ansan Starlight Village
N37° 20.365' E126° 51.831'

ออกจากเอาท์เลตก็มุ่งหน้าลงใต้ ปลายทางคืนนี้เราจะพักที่เมือง Suwon เมืองหลวงของจังหวัดคย็องกี่ ระหว่างทางเราผ่านเมือง Ansan และแวะเที่ยวที่นี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นที่สุดคือเป็นสวนที่ประดับตกแต่งไปด้วยดวงไฟเล็กๆ คอนเซ็บเป็นดวงดาว และนอกจากั้นจะตกแต่งด้วยผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลกแวนโก๊ะ ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นการจำลองผลงานมาแสดงครับ ที่นี่โชว์แสงไฟดาวบนดินนับล้านดวงก็แน่นอนว่าฟ้ามืดเมื่อไหร่ทั่วบริเวณจะต้องสวยสะพรั่งแน่


ค่าเข้าผู้ใหญ่ 5,000 วอน
เด็ก 3-12 ปี 3,000 วอน







ระหว่างรอเวลาพลบค่ำเพื่อชมความงามของแสงไฟเราก็ทานข้าวกันก่อนครับ ร้านอาหารเกาหลีในวิลเลจนี้นี่เอง กินกันชั้นบนของร้าน มุมมองโอเพ่นวิวกินไปชมวิวไป และมื้อนี้เป็นมื้อแรกที่ได้ลิ้มชิมรสเมนูประจำชาติเกาหลีด้วย นั่นคือกิมจิ บอกเลยอร่อยมากกก ตักแล้วตักอีก อิอิ








ดาวบนดินนับล้านดวง



พลันพลบค่ำ ทั่วทั้งวิลเลจก็สว่างสไว สวยมากครับ สวยจริงๆ ถ่ายรูประรัวๆมือเป็นลิงเลย 555 ผู้คนก็ทยอยมากันหนาตามากขึ้นด้วย เรียกว่าทริปวันแรกมาถูกใจที่สุดเอาจุดแวะสุดท้ายนี่แหละก่อนจะเดินทางสู่ที่พัก ibis hotel ณ เมือง Suwon โดยเราจะพักกันอยู่ที่ ibis นี้ 2 คืน







ป้อมชูวอน ฮวางซอง
37.288246, 127.023074

Suwon Hwaseong Fortress







ป้อมฮวาซองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อายุเก่าแก่กว่า 200ปี เป็นกำแพงเมืองสร้างตามลาดเชิงเขา ล้อมเมืองชูวอนและพระราชวัง ความยาว 5.5 กิโลเมตร มีป้อมเรียงรายบนกำแพงกว่า 50 ป้อม ป้อมที่เป็นด่านประตูเมืองเนี่ยบางจุดล้อมด้วยกำแพงถึงสามชั้นกันเลย เรียกว่าป้องกันการโจมตีจากอริราชศัตรูอย่างแข็งแกร่ง จะใช้เวลาเที่ยวให้ทั่วอย่างน้อยคงต้องครึ่งวัน หรือไม่ก็นั่งรถบริการทัวร์ไปทั่วๆ เป็นรถหัวมังกร แต่ว่าแต่พวกเรามีเวลาไม่มากนักก็เลยเดินสำรวจเฉพาะป้อมที่ใกล้ๆ พอจะเดินไปถึง ท้องฟ้าแจ่มใสมาก อากาศก็ไม่ร้อน ค่อนมาทางเย็นนิดๆ เป็นการเปิดทริปวันที่ 2 ที่เลอค่ากว่าวันแรกมว้าก



ราคาค่าเข้าชม 1,000 วอน หรือซื้อตั๋วมรวม 3,500 เข้าได้หมดทุกที่ทั้งวังพิพิธภัณฑ์
เดินทางจากท่ารถบัสเมืองซูวอนมาเองด้วยการนั่ง taxi ไม่เกิน 10 นาที







นี่คือป้อมปราการรักษาเมืองอันน่าเกรงขาม ก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีชั้นยอดในสมัยนั้น นั่นคือใช้ปั้นจั่นในการช่วยสร้างเป็นครั้งแรก การออกแบบผสมผสานตะวันออกกับตะวันตก




มุมมองสวยๆ มองย้อนกลับจากป้อมสู่ป้อมที่เรียงรายบนกำแพงตามราดเชิงเขา สีสันของดอกไม้ปลายใบไม้ผลิกำลังเบ่งบานกลางพื้นหญ้าสีเขียว แสงแดดและท้องฟ้าสดใสในวันที่ยังไม่ร้อนจัดแบบฤดูร้อน ฟินครับ








ที่บริเวณข้างล่างพื้นราบมีสนามฝึกยิงธนูด้วย เห็นเด็กๆ ชาวเกาหลียืนเรียงหน้ากระดานมีครูฝึกคอยสอนท่าพื้นฐานให้
ได้ยินมาว่านักรบสมัยก่อนที่เฝ้ารักษากำแพงเมืองต้องมีความสามารถยิงธนูได้ระยะไกล ซึ่งต้องไกลถึงตรงกลางระหว่างป้อมสู่ป้อม เพื่อรับประกันว่าไม่ว่าข้าศึกจะปีนมาจากระยะไหนของกำแพงก็ไม่พ้นระยะยิงของธนู //ไกลมาก







Hwaseong HaengGung
N37° 16.920' E127° 00.792'
ใกล้ๆ กับป้อมชูวอน ฮวาซอง มีพระราชวังเล็กๆ อยู่ที่หนึ่ง ห่างออกไปเพียง 1 กิโลเมตร





ออกเสียงว่าพระราชวังฮวาซอง แฮงกุง ไกด์บอกว่าเป็นพระราชวังที่สร้างไว้เวลากษัตริย์ชองโจแปรพระราชฐานมาพำนักนอกเมือง ก่อนจะถึงประตูทางเข้าชมวังด้านหน้าจะเป็นลานโล่งมาก ชาวเมืองชูวอนมาทำกิจกรรมพักผ่อนกันเยอะ เด็กๆ ก็ขี่จักรยานไปมาเป็นที่เพลิดเพลิน สังเกตดูพื้นลานจะเห็นภาพเขียนภาพวาดเต็มไปหมด





วัง Hwaseong Hanggung Palace 
ค่าเข้าราคา 1,500 วอน หรือซื้อตั๋วมรวม 3,500 เข้าได้หมดทุกที่ทั้งป้อม พิพิธภัณฑ์



หน้าวังจะมีทหารเฝ้าประตู หนุ่มเกาหลีที่ผมเห็นไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบทหารโบราณแบบนี้ หรือเครื่องแบบตำรวจ ทหาร ดูน่ารัก เด็กเรียน ซ่อนแววความดุดันไว้มิดชิดเลย อิอิ









ได้เวลามื้อเที่ยง เข้าใจกลางเมืองชูวอนไปหม่ำอาหารเกาหลีอีกมื้อ เนื้อย่างเกาหลีมื้ออร่อยมากอีกมื้อหนึ่ง


วิธีกินเนื้อย่างเกาหลี เอาผักของเค้าแบแบใส่เครื่องเคียงนั่นนี่และเนื้อลงไป ห่อๆ แล้วขยุ่มเข้าปาก






อิ่มเที่ยงแล้วก็เดินทางออกจากเมืองชูวอน มุ่งหน้าไปเมืองใกล้ๆ กันนั่นคือเมือง YONGIN ในจังหวัดเดียวกันนั่นแหละ คือจังหวัดคย็องกี่ นั่งรถออกไปแค่สิบกิโลถึงแล้ว ที่นี่เราแวะมาเที่ยวคล้ายๆ กับเมืองโบราณบ้านเราแต่ไม่ได้สร้างมาเน้นจำลองโบรารณสถาน ที่นี่สร้างขึ้นมาให้เราได้ย้อนยุคไปดูวิถีชีวิตดั่งเดิมคนเกาหลีสมัยเก่าก่อน
Korean Folk Villege
N37° 15.454' E127° 06.999'





Korean Folk Village
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 15,000 วอน
เด็ก 10,000 วอน

ห้ามพลาดบอกเลย ย้อนยุคสุดๆ ผ่านประตูเข้าไปแล้วเหมือนนั่งยานย้อนเวลาหาอดีต ภาพซ้ายมือคือพวกเครื่องบูชาประมาณว่าตั้งหน้าหมู่บ้าน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทางอะไรประมาณนั้น ถนนหนทางในนี้ทั้งหมดเป็นทางดินแบบยุคโบราณเลย บ้านเรือนสองข้างทางล้วนย้อนยุค แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือจะมีคนแฝงเดินปะปนมาในหมู่นักท่องเที่ยว บ้างเป็นคนเมา เป็นชาวบ้าน เป็นคนขายของข้างทาง เป็นจอหงวน เป็นเศรษฐี เป็นนักเลง ให้ความรู้สึกอินมาก เหมือนอดีตกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นักท่องเที่ยวก็สนุกสนานกับการไปขอถ่ายภาพรร่วมด้วย เซลฟีด้วยก็เยอะ ผมไปเจออีกคนแฝงมาเป็นจอมยุทธนะ โหย พี่แกดูตอนแรกนึกว่าแค่หนุ่มชาวบ้านหน้าตาดี อารมณ์ดีอีกต่างหาก สาวห้อมล้อมขอถ่ายรูปเพียบ เล่นกับกล้องสักพักแกก็โบกมือไล่นักท่องเที่ยวให้ถอยหน่อยๆ ขอพื้นที่หน่อย จากนั้นแกก็โชว์ลีลายุทธวิชา โหย ตื่นตามาก โชว์ไปหลายกระบวนเพลง เสียดายที่มัวแต่ตะลึงลืมถ่ายคลิบ






มาเรียนรู้จักหลักการสร้างบ้านของคนเกาหลียุคอดีตหน่อย บ้านเข้าจะมีประตูใหญ่แบบภาพทางขวา เดินเข้ามาจะมีบ้านหัวหน้าครอบครัวอยู่หลังแรกทางซ้าย ถัดเข้าไปข้างในสุดถึงจะเป็นเรือนสำหรับสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้หญิง ซึ่งตรงกลางลานบ้านจะปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อไม่ให้แขกที่ย่างเท้าเข้ามาในเขตบ้านมองเห็นผู้หญิงได้ถนัด สามีภรรยาก็แยกเรือนกันนะ สามีต้องมาอยู่เรือนด้านหน้า พ่อสามี หรือปู่ หรือลุง ไม่ว่าใครถ้าเป็นชายล่ะก็ต้องมาเรือนด้านหน้า ยกเว้นเด็กๆ ผู้ชาย ถ้ายังตัวน้อยๆ อยู่ ก็อาศัยกับแม่ในเรือนด้านในได้

ภาพกลางขวา ลักษณะเรือนห้องเจ้าบ้านยกพื้นสำหรับนอนเล่น ฐานที่นอนออกแบบให้ลมผ่าน แม้แต่หมอนข้าง (แขวนอยู่ตรงผนัง) ก็ทำเป็นคล้ายชะลอมให้นอนกอด โปร่งๆ ลมผ่าน

ภาพล่างขวา ลักษณะเรือนบางหลังจะทำยกพื้นเพื่อสอดฟื้นเข้าไปเก็บ และใช้ฟื้นสำหรับห้องครัว โดยออกแบบให้ความร้อนจากการทำครัวส่งผ่านทางท่อกระจายออกทั่วพื้นบ้าน เพื่อให้ความอบอุ่นเหมือนระบบฮีทเตอร์ยามหน้าหนาว

ภาพล่างซ้าย มุมถ่ายภาพเล่นกับเหล่าดาราแดจังกึม ที่นี่เคยเป็นที่ถ่ายทำของละครทีวีเรื่องนี้






จากนั้นเราก็ไปสถานที่แวะสุดท้ายของวันที่ 2 ยังอยู่ในเมืองเดียวกันครับ Yongin เมืองนี้ภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นภูเขา และพื้นที่บนเขาที่เรากำลังจะแวะไปคือสถานที่ยอดนิยมอีกที่หนึ่ง นั่นคือสวนสนุก Everland ระยะทางจากหมู่บ้านเกาหลี ถึงเอเวอร์แลนด์ ประมาณ 19 กิโลเมตรเท่านั้นเอง









EVERLAND
N37° 17.633' E127° 12.152'

สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ อารมณ์ประมาณสวนสนุกในบ้านเรามั้ย ทำไมต้องมาเที่ยวสวนสนุกถึงต่างประเทศ อย่างแรกเลยที่นี่อยู่กลางหุบเขา อย่างถัดไปที่สำคัญคือไม่ร้อนเหงื่อแตกเหมือนบ้านเรา แค่นี้ก็น่าเที่ยวกว่าแล้ว เพราะว่าสวนสนุกขนาดใหญ่กลางแจ้งแบบนี้อากาศร้อนเกินไปก็ไม่อยากเที่ยวนะครับ ว่าไปแล้วถ้าเข้าฤดูหนาวที่นี่คนคงมาเที่ยวแล้วร้องบรื๋อเหมือนกัน สวนสนุกเอเวอร์แลนด์นับเป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ สมญาดิสนี่แลนด์แห่งเกาหลีเลยล่ะครับ เป็นของบริษัทซัมซุงที่กำลังจะครองโลกอยู่ทุกวันนี้แหละ มีใครใช้มือถือซัมซุงมั้ยครับ นั่นแหละ เค้าเป็นเจ้าของที่นี่และหุบเขาเป็นแถบๆ ย่านนี้เลย คือไม่ได้มีแค่สวนสนุกล่ะ รีสอร์ทอะไรก็มี





สามหนุ่มถูกพามาเที่ยวสวนสนุกนะครัช แหม่ มาแบบโสดๆ แฟนไม่มีให้ควงอย่างงี้จะไปเล่นเครื่องเล่นอะไรล่ะครับ เค้าปล่อยให้อยู่ที่นี่หลายชั่วโมงด้วย ก็เลยมามุมหมู่บ้านฮอลแลนด์นั่งจิบเบียร์ฟังดนตรีสดกัน ชมวิว ชมคนเดินควงแขนผ่านไปผ่านมา ใครมาเป็นคู่หรือพากันมาเป็นครอบครัวหรือเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่ล่ะก็แนะนำเลยที่นี่ สนุกทั้งวันยันค่ำแน่ๆ เครื่องเล่นเพียบ





//มีใครแอบเห็นพระจันทร์ยิ้มมั้ยครับ


แล้วเราก็อยู่ยันค่ำจริงๆ ครับ กินมื้อเย็นกันในนี้ เดินเก็บแสงเย็น แล้วปิดท้ายด้วยการชมขบวนพาเหรดโชว์อันตระการตามากตอนกลางคืน เหมือนกับพาเหรดนี้จะมีทุกคืนนะ พอพาเหรดจบผู้คนก็ทยอยเดินทางกลับ เรียกว่าได้เวลาปิดสวนสนุกพอดี สำหรับทริปเกาหลีผมขอแบ่งเป็น 2 ตอนนะครับ สำหรับตอนที่ 1 นี้ขอลาไปแต่เพียงเท่านี้ครับ พวกเราออกจากที่นี่ก็ตีรถกลับเข้าชูวอนไปนอน ibis กันอีกคืน



ฝากคอมเมนท์ไว้เป็นกำลังใจ หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา นายน้ำฟ้า นะครับ พบกันใหม่บล็อกหน้าค้าบ










<<< Previous Blog :Tour of I-san Loei Classic ... ปั่นชิคชิค เลย-เชียงคาน สารบัญบล็อก >>>Next Blog : ตราด เมืองเกาะในฝัน ... ตอนที่ 1



Create Date : 10 กรกฎาคม 2558
Last Update : 30 กรกฎาคม 2558 12:04:00 น. 26 comments
Counter : 8184 Pageviews.

 
แหม วงเบียร์ขาดเราไปคนนึง


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 กรกฎาคม 2558 เวลา:15:30:16 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยือน


โดย: กระรอกบิน IP: 110.164.159.30 วันที่: 10 กรกฎาคม 2558 เวลา:17:01:21 น.  

 
อิอิ แวะมาเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: พลอยสีขาว วันที่: 10 กรกฎาคม 2558 เวลา:19:10:26 น.  

 
อิอิ ดีใจวันนี้มาสะดวกโยธิน

แต่จะกดโหวด ลืมไปเลยว่าโหวดให้นายอู๊ดดี้ไปแระ พรุ่งนี้มาใหม่เด้อ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 10 กรกฎาคม 2558 เวลา:19:21:19 น.  

 






ดูเพลิน .. เพลิน ..

กะลังจะจากไป ..

อ้าว ?? ดันบอกให้ทิ้งร่องรอย ซะงั้น ..

ก้อ ด้าย ..




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น






โดย: foreverlovemom วันที่: 10 กรกฎาคม 2558 เวลา:19:44:52 น.  

 
เกาหลีดูนี่รับวัฒนธรรมจากจีนมาเยอะ แต่ก็มีจุดที่ดูแล้วรู้ว่ามันต่างกัน แต่จะว่าไปบ้านเราก็รับวัฒนธรรมของจีนมาเยอะเหมือนกัน ไปพูดถึงเค้าแบบนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่

มียิงธนูด้วย น่าไปลองนะครับ (ฮา) ไปแย่งเด้ก

เห้นเนื้อย่างแล้วหิวขึ้นมาเลย ไปเกาหลีก็ต้องเนื้อย่างนี่แหละ ตอบอยู่จีนมีร้านอาหารเกาหลี เพื่อนเกาหลีมันก็บอกให้กินเป็นห่อแบบนั้นแล้วเราห่อซะใหญ่มันบอกห้ามกัดแบ่งต้องใส่ทั้งคำ เคี้ยวอยู่นานเลน แหะๆ

ไม้ที่แกะสลักที่เป็นหน้าคน ผมเคยเจอในเกม เป็นปีศาจ (ของเกาหลี) ไม่คิดว่าของจริงก็มี จะว่าไปเค้าฉลาดไม่ใช่ย่อยที่เอาวัฒนธรรมของตัวเองใส่ของไปในเกมแล้วส่งขายทั่วโลก

สำหรับสวนสนุกที่เกาหลีผมเคยไปแต่ล็อตเต้เวิลด์ครับ



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2558 เวลา:0:51:47 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 11 กรกฎาคม 2558 เวลา:2:15:31 น.  

 
มาดู มาอ่าน มาชม มาโหวต....สุดยอดเช่นเคยค่ะ

ครบเครื่องทุกอย่าง เสร็จแล้วก็สมควรแก่เวลา ไปแระ อิๆ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 11 กรกฎาคม 2558 เวลา:10:44:40 น.  

 
สวยงาม น่าเที่ยวทุกแห่งเลยค่ะคุณหยี
ไฟนับล้านดวงที่ Ansan Starlight Village น่าตื่นตามากค่ะ
ส่วน Korean Folk Village ชอบการออกแบบบ้านมีเหตุมีผลและใช้งานได้ดีตามวิถีชีวิตนะคะ

ภาพสวยมาก บล๊อกสวยมากเช่นเคยค่ะ
โหวตท่องเที่ยวค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog

------------------------


โดย: Sweet_pills วันที่: 12 กรกฎาคม 2558 เวลา:0:24:47 น.  

 
ร้อนเลยค่ะ ดูแล้วตาร้อน อยากไปค่ะ อิ อิ


โดย: mariabamboo วันที่: 12 กรกฎาคม 2558 เวลา:11:51:19 น.  

 
อ่านทีแรก 6 เมือง 10 วันเหนื่อยแน่... เอ้ย 6 วัน
10 เมือง...ผมว่าเหนื่อยสุด ๆ

แต่พอเห็นภาพ... คลายเหนื่อยเลยแหละ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
lovereason Literature Blog ดู Blog
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 กรกฎาคม 2558 เวลา:12:29:29 น.  

 
แหม่ ภาพจิบเบียร์ช่างสุขจริงๆไรจริง
ว่าแต่ อาหารการกินน่าสนใจมากกกกกก
อยากไปเกาหลีอ่ะนะ


โดย: Mintra-april วันที่: 12 กรกฎาคม 2558 เวลา:21:04:03 น.  

 
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog

วันนี้มาโหวดให้แล้วน้า


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 12 กรกฎาคม 2558 เวลา:21:21:33 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
มาบล็อกคุรภาพของคุณหยี
เหมือนได้ไปเยือนเกาหลีด้วยตนเอง


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog




โดย: หอมกร วันที่: 13 กรกฎาคม 2558 เวลา:8:01:39 น.  

 
เออ ที่ลาดเชิงเขาสะกดอย่างงี้นะคุณหยี 555



โดย: หอมกร วันที่: 13 กรกฎาคม 2558 เวลา:8:06:20 น.  

 
ไปถึงก็ต้องมาร์กหน้า กันก่อนเลยสำหรับประเทศนี้
ไม่ยอมโชว์หน้าด้วยว่า มาร์กแล้วดูดีขึ้นป่ะ

สวนสนุกน่าเที่ยวเนาะ แต่ไม่เหมาะกับหนุ่มโสด โสด โสด

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 15 กรกฎาคม 2558 เวลา:16:34:46 น.  

 
ว้าวๆ....ภาพลูกพี่นี่เจ๋งสุดๆเลยค่ะ สวยมาก สวยจนอยากกระโดดเกาะกระเป๋ากล้องตาม ท่านอาจารย์ไปศึกษาถ่ายภาพ คริๆ......


โดย: auau_py วันที่: 15 กรกฎาคม 2558 เวลา:19:03:56 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Photo Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 16 กรกฎาคม 2558 เวลา:1:25:13 น.  

 





หวัดดี ฮับ ..











โดย: foreverlovemom วันที่: 16 กรกฎาคม 2558 เวลา:11:46:54 น.  

 




แวะ เวียน มา ..












โดย: foreverlovemom วันที่: 18 กรกฎาคม 2558 เวลา:12:21:21 น.  

 
ทริปจัดเต็มขนาดนี้พลาดไม่มาชมไม่ได้นะครับเนี่ย ถึงจะมาเอาสายโด่งแล้วก็เถอะ
ห้องสมุดเป็นที่กินข้าวนี่เข้าทางผมมาก กินข้าวไปอ่านการ์ตูนไป... ห๊ะ?! ไม่มีการ์ตูนให้อ่านเหรอ?
เอาท์เล็ตให้เข้าร้านทีละคนนี่โดนเซลล์รุมง่ายดายเลย ช้อปไม่เป็นสุขแน่ๆครับ แต่ไฮโซอาจชอบ
ไฟยามค่ำคืนก็สวยดี นึกถึงงานสวนแสงลอยฟ้าหน้าตรงราชประสงค์ช่วงปีใหม่ อิอิ

ผมว่าเนื้อแท้ของเกาหลีมันไม่ได้มีอะไรให้เที่ยว แต่เขาก็ทำจนน่าเที่ยวได้ เก่งอะเก่ง
อย่างป้อมฮวาซองอายุแค่ 200 ปีได้ขึ้นมรดกโลกด้วยอ่ะ เราขอป้อมวิไชยประสิทธิ์เป็นมรดกโลกมั่งซิ
เอเวอร์แลนด์นี่ก็ดังสุดๆ ไม่ต้องง้อยี่ห้อดิสนี่ย์แลนด์ ซัมซุงเป็นแบรนด์ทรงอิทธิพลที่คนเกาหลีภาคภูมิใจมากๆ เวลาคนเกาหลีเถียงกับคนชาติอื่นก็จะยกมาคุยว่า "บ้านฉันมีซัมซุงนะ บ้านยูมีอะไร?" ส่วนของไทยบริษัทไหนใหญ่เข้าหน่อยก็จะโดนขุดคุ้ยจับผิดจนไม่เป็นอันขยายธุรกิจกัน

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ชีริว วันที่: 18 กรกฎาคม 2558 เวลา:21:42:02 น.  

 
มาแปะโหวต หน้าแตก แปะแล้ว คริ ๆ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 กรกฎาคม 2558 เวลา:10:31:59 น.  

 
มาแอบจิ๊กภาพ และ ข้อมูล


โดย: tummeng IP: 171.4.241.194 วันที่: 20 กรกฎาคม 2558 เวลา:15:56:47 น.  

 
เป็นบล็อกที่มีเลย์เอ้าท์สวยงามอลังการจริงๆ เห็นแล้วอยากทำบ้าง แต่แค่ย่อหน้าผมยังทำไม่เป็นเลย 555+

ถ้าให้ต่อคิวซื้อสินค้าลดราคาทีละคนนี่ผมคงสละสิทธิ์ครับ เกรงใจคนต่ออยู่ข้างหลัง

คราวหน้าจะตามไปเที่ยวต่อครับ เพราะผมยังไม่เคยไปเที่ยวเกาหลีเลย แต่ดูซีรีส์เกาหลีประจำนะครับ


โดย: 9A วันที่: 24 กรกฎาคม 2558 เวลา:17:46:27 น.  

 
เต็มมากๆเลยครับจานหยี

เยี่ยมยอด ภาพสวย ข้อมูลเพรียบ



โดย: แซงค์ (ชายคาตะวัน ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2558 เวลา:20:17:28 น.  

 
ถ้าได้ไปอีก เอเวอร์แลนด์ต้องไปต่อแถวขึ้นรถไฟเหาะแน่ๆ คุ้มมากกก
ชอบเกาหลีเที่ยวเองได้เลย
ตั๋วถูก ๆ หามาเหอะคุ้มๆ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ซองขาวเบอร์ 9 Home & Garden Blog ดู Blog
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 28 กรกฎาคม 2558 เวลา:23:49:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 186 คน [?]







ทำไมต้อง น้ำ ฟ้า ป่า เขา
เริ่มท่องเที่ยวไกลบ้านครั้งแรกตอนอายุได้ 12 ขวบ ไปไกลถึงเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ครั้งนั้นได้วิ่งไล่จับเมฆบนดอยปุย ก็ใจแตกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ชอบถ่ายภาพเพราะหนังสือถ่ายภาพท่องเที่ยวของ"ทอม เชื้อวิวัฒน์"
รักภูเขาเพราะหนังสือ "คืนสู่ภูเขา" ของดวงดาว สุวรรณรังษี
ภาพถ่ายผลงานของคุณดวงดาวในหนังสือเล่มนั้นมันสร้างแรงบันดาลใจแก่ผม ให้ผมหลงรักเหลี่ยมเขา และอยากถ่ายทอดเป็นภาพถ่าย เมื่อถึงเวลาต้องใช้นิคเนม เลยเลือกคำสั้น ๆ 4 คำที่เกี่ยวกับธรรมชาติที่เราชอบมาเป็นชื่อ น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
ความตั้งใจ: ยังมีอีกหลายภู หลายดอย ที่ยังไม่ได้พิชิต เรี่ยวแรงก็เริ่มน้อยถอยลง พักนี้ของชีวิตก็ได้แต่เที่ยวฉาบฉวย สไตล์แคมป์คาร์ ไปเรื่อย ๆ
ยังจะเดินทางต่อไป ต่อไป ... และต่อไป

รู้จักจขบ.เพิ่มเติมได้ที่บทสัมภาษณ์พิเศษ
Interview The Blogger น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา




Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.