ข้อคิดวันนี้
จะเห็นได้ว่าในช่วง 2 นี้ อาหารการกินเข้มงวดน้อยลงกว่า ช่วง 1 เพราะเน้น เรื่องการล้างระบบมากกว่า แต่ยังคงปรับระบบการเผาผลาญให้เพิ่มขึ้นเหมือนช่วง 1 พบว่าการกินถั่วดำกับนมถั่วเหลือในช่วงเช้า อิ่มและสามารถอยู่ท้องไปจนถึงมื้อที่ 2 แถมได้โปรตีนและกากใยครบครันทีเดียว ร่างกายได้สารอาหารที่ดี ต่อระบบ (มื้อที่ 2 ถ้าใครหาส้มโอกินไม่ได้ ก็กินส้มอย่างอื่น แทน เรายังต้องการใช้ประโยชน์จากสารในส้มโอ และส้มต่าง ๆ ) ส่วนมื้อ 3 ถ้าเป็นข้าวโอ๊ตจะได้ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ประโยชน์คนละแบบกับข้างกล้อง (เลือกเอาว่าจะเอาอะไร สลับกันได้) จัดมื้อ 4 เป็นโปรตีน เพราะพี่ปลาต้องไปออกกำลังกาย ก็เลยลองใช้โปรตีน แต่วาจะสลับมากินนมก่อน และกินโปรตีนก็ได้นะ เป็นไข่ต้มก็ดีค่ะ รู้สึกว่ากล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วกว่า งดมื้อหลังออกค่ะ ที่สำคัญคือ ไม่อ้วนนะ โปรตีนไปซ่อมแซมส่วนสึกหรอ ค่ะ
พอดีกลับมาอ่านที่น้องจุ๋มเม้นไว้ ที่กลัวว่าพี่จะทานน้อยไป ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ แต่ไม่น้อยหรอกค่ะ อย่างเช้าก็ถั่วดำ 1 ถ้วยตวงกับนมอีก 1 กล่อง อยู่ท้องพอสมควรค่ะ มื้อ 2 ส้มโอ 1/ 2 ลูก อิ่มนะคะ ไม่น้อยเลย เทียบกับผลไม้ทั่วไปก็ 20-25 บาทจ้ะ มื้อ 3 โจ๊กข้าวโอ๊ต ชามใหญ่มาก ๆ ค่ะ (พี่น่ะเป็นคนกินน้อยไม่เป็นนะ ถ้าไม่อิ่มจะหงุดหงิดมาก ๆ เรียกว่าทุกอย่างกินจนอิ่มค่ะ) เรียกว่าอิ่มเลยมาจนถึงเวลาออกกำลังกายเลยทีเดียว แต่ก็ยังดื่มนมไป 1 กระป๋อง โดยพบว่า การดื่มนมไม่ว่าจะเป็นนมสดหรือนมถั่วเหลืองจะทำให้มีแรงมากขึ้นสำหรับออกกำลังกายค่ะ
นอกจากนั้นพอเล่นเสร็จ การกินโปรตีน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อชนิดใดหรือไข่ ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น มีความสุขค่ะ อ๋อ ดูเหมือนอาหารน้อยชนิด เพราะกินเป็นอย่าง ๆ ไป แต่ว่าปริมาณที่กินจริง ไม่น้อยจ้ะ
ช่วงนี้แนตจะหนักไปทางทอดๆเยอะ มิแปลกใจค่ะว่าทำไม นน.ไม่ลด อันนี้รู้ตัวดีค่ะ แต่ถ้าไม่ได้กินบ้างสังเกตุตัวเองว่าจะเครียด และพาลไปมีผลต่อระบบอื่นด้วย เลยใช้ฟังเสียงร่างกายตัวเอง ตามใจบ้าง แต่ก็ต้องรู้ลิมิตตนเองค่ะ
ปล. แนตรู้แล๊ะว่าทำไมอยากของหวาน และเกือบทนไม่ได้ถ้าไม่ได้กินก็เพราะความเครียดนะค่ะ เหมือนอาการเครียดๆข้างใน บางทีไม่รู้ตัว แต่แสดงอาการออกมาทางร่ายกายโดยความอยาก อันนี้วิเคราะห์ตัวเองและอ่านๆดูจากเน็ตบ้างนะค่ะ