|
กรรมที่มองไม่เห็น
เหตุการณ์เกิดขึ้นกับบุคคลที่ได้รับเคราะห์กรรมนั้น ส่วนมากก็มักจะโทษโชคชะตาหรือที่ไม่เชื่อโชคชะตาก็มักจะพูดว่า เหตุบังเอิญหรือไม่ก็โทษเพราะพรหมลิขิต แต่ไม่ค่อยจะมีใครโทษตัวเองที่สร้างกรรมไว้ ส่วนมากโยนให้เป็นบาปกับเคราะห์เพื่อให้พ้นตัว แล้วเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านไปในความรู้สึกง่าย ๆ ไม่มีผู้ใดที่จะหาต้นเหตุที่จะเกิดผลเคราะห์กรรม
หากมนุษย์เชื่อกรรมแล้ว ค้นคว้าหาสาเหตุต้นเรื่อง “กรรม” ก็คงจะเห็นได้ว่าผลนั้นย่อมเกิดจากต้นเหตุ จะเปรียบเทียบก็ไม่ผิดอะไรกับเราปลูกข้าว ผลก็ออกมาเป็นเมล็ด จะเป็นพืชอื่นไปไม่ได้ นอกจากอดีตจะมีกรรมชั่วติตตามมาสนอง
ซึ่งข้าพเจ้าได้พยายามรวบรวมเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว จะให้เห็นว่า “กฏแห่งกรรม” นี้ ถ้าได้พิจารณาหาเหตุผลด้วยจิตใจเที่ยงธรรมค้นคว้าให้ถึงแก่นแล้ว ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเป็นกฏของสากลทั่วไปมิได้ยกเว้นชาติใดภาษาใด หรือศาสนาใดในโลก ซึ่งสัตว์โลกและมนุษย์เกิดมาก็ต้องตกอยู่ภายใต้ “กฏแห่งกรรม” ด้วยกันทุกรูปทุกนาม
บางทีเหตุการณ์ตัวอย่างที่เกิดขึ้นผ่านไป แล้วอาจจะช่วยชี้ให้เห็นความกระจ่างแจ้งขึ้นบ้าง เช่น วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ไปหาคุณพี่ที่ฝั่งธนฯ เมื่อได้นั่งสนทนากันพอสมควรแล้ว คุณพี่ก็เล่าเรื่องซึ่งได้รับฟังมาจากโรงพยาบาลทหารเรือว่า
มีนายทหารเรือไทยผู้หนึ่งได้เดินทางไปต่างประทศ และเป็นผู้ที่ได้เห็นมาด้วยตนเองเล่าให้ฟังว่า กัปตันเรือเดินทะเลคนหนึ่งเป็นฝรั่ง เมื่อนำเรือเข้าจอดเทียบท่าแล้ว ได้มีแมวเจ้ากรรมตัวหนึ่งเข้าไปอยู่ในห้องกัปตัน และบังเอิญกัปตันผู้นั้นเป็นคนเกลียดแมวอย่างเข้ากระดูกดำ แทนที่กัปตันจะไล่แมวออกมาให้พ้นจากห้องแล้วคิดว่า เหตุการณ์อะไรก็จะไม่เกิดขึ้น แต่กัปตันผู้นี้แกมีความโกรธความพยาบาทแมว คล้ายจะเป็นศัตรูคู่จองเวรกันมาก่อน กลับปิดประตูขังไว้ไม่ยอมให้ออกจากห้อง หลังจากนั้นก็ใช้ท่านไม้ไล่ตี แมวเคราะห์ร้ายตัวนั้นก็วิ่งหนีวนเวียนอยู่ในห้องหาทางออกไม่ได้ เมื่อถูกตีอย่างเจ็บปวด ก็ยิ่งร้องวนเวียนวิ่งหนีอยู่ภายในห้อง อย่างหัวซุกหัวซุนด้วยความกลัวจนสุดขีด
เป็นธรรมดาของสัตว์โลกไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ ตลอดทั้งมนุษย์เห็นจะมีความรู้สึกตรงกันก็คือ กลัวความตาย กลัวความเจ็บปวดด้วยกันทุกรูปทุกนาม แมวตัวนั้นก็เช่นเดียวกัน หนีอย่างสุดชีวิต ทั้งร้องก้องคล้ายจะร้องขอชีวิต เพราะความเจ็บปวดที่ถูกตีหนัก มันเป็นเรื่องสลดใจกับผู้ได้พบเห็นเหตุการณ์ครั้งนั้น พวกลูกเรือกุลีและกะลาสีและพวกต้นเรือ ซึ่งต่างก็รู้ดีว่า ไม่มีใครสามารถจะยับยั้งห้ามปรามกัปตันผู้นั้นได้ นอกจากกัปตันจะเป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในเรือแล้ว ยังเป็นคนมีใจคอดุร้าย ทำให้นายทหารเรือไทยผู้นั้นต้องทำจิตใจให้เป็นอุเบกขา เพราะสิ่งใดที่ไม่สามารถจะช่วยได้ ก็ต้องทำจิตใจให้ปกติไม่ยินดียินร้ายทำให้อยู่กลาง
เพราะพวกลูกเรือกะลาสีเหล่านั้นรู้ดีว่า หากใครจะไปตบประตูขัดขวาง ก็เท่ากับไปยุให้กัปตันเพิ่มความบ้าโกรธมากขึ้น นึกถึงคำโบราณของคนไทยเราว่า ใครฆ่าแมวก็บาปหนักเท่ากับฆ่าเณรผู้มีศีล แต่แล้วเสียงโครมครามและสียงแมววิ่งร้อง และวิ่งไล่ให้ห้องกัปตันก็เงียบลง
ต่อมา ประตูห้องกัปตันก็เปิดออก กัปตันเดินออกมาเหงื่อโทรมกาย หน้าตายังมีริ้วรอยความดุร้าย ในมือจับหางแมวหิ้วตัวห้อยออกมาปรากฏว่า แมวตัวนั้นเลือดไหลออกทางปากทางจมูกตายอย่างสนิทไม่ดิ้นรนได้อีก แต่แล้วกัปตันหิ้วเดินมาทางกราบเรือ เหวี่ยงศพแมวตัวนั้นโยนลงน้ำไปท่ามกลางสายตาผู้พบเห็นอย่างติเตียน ต่างก็มีความรู้สึกสะอิดสะเอียนการกระทำของกัปตันในครั้งนั้น
เหตุการณ์มิได้หยุดเพียงนี้ เพราะหลังจากกัปตันได้ตีแมวตาย ในวันรุ่งขึ้นตัวกัปตันก็หายไป ไม่มีใครทราบว่าไปไหนเหตุการณ์ก็โกลาหล เพราะรองกัปตันก็ต้องทำงานแทนไปก่อน แต่แล้วต่อมาศพของกัปตันก็ลอยอืดขึ้นมาในบริเวณที่จอดเรือ นี่ก็เป็นเรื่องลึกลับอัศจรรย์ ตามสันนิษฐานว่ากัปตันตกน้ำตายอย่างธรรมดา เพราะดื่มเหล้าเมาจัด ทางการได้สอบสวนร่างกายไม่พบร่องรอยบอบช้ำ พอจะยกขึ้นมาพิสูจน์หาสาเหตุข้อสงสัยว่าถูกฆาตกรรม
นี่ถ้าถือตามหลักธรรมก็พอบอกได้กรรมที่ได้รับผลทันตาเห็น หากมีผู้ที่ไม่รู้เรื่องกรรมก็บอกว่า กัปตันกินเหล้าเมาตกน้ำตายโดยบังเอิญ นี่เป็นธรรมดาเรื่องหนึ่งที่นายทหารเรือผู้เห็นเหตุการณ์ ท่านได้นำมาเล่าเป็นเรื่องที่น่าคิด เมื่อฟังเรื่องราวกัปตันฝรั่งตกน้ำตาย กรรมสนองที่ได้ฆ่าแมว เพราะความอาฆาตพยาบาท ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงครั้งข้าพเจ้าได้ไปหาเพื่อนผู้คุ้นเคยกันมานาน และเป็นทันตแพทย์
เนื่องจากสุขภาพของหมอไม่ค่อยจะปกตินัก ข้าพเจ้าจึงไปถามข่าว เยี่ยมเยียนในฐานะผู้ที่รักใคร่คุ้นเคยกันมานาน ก่อนที่จะเข้าบ้านของหมอ ข้าพเจ้าก็เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งกำลังเดินสวนออกจากบ้าน พระรูปนั้นมีลูกศิษย์จูงนำเดินหน้า ทำให้นึกว่าพระภิกษุรูปนั้นคงตาพิการหรือบอด คิดสงสัยว่า ตาท่านบอด ทำไมถึงบวชได้ เมื่อได้เข้าไปในบ้านหมอผู้คุ้นเคยแล้ว เราจึงทักทายปราศรัยกันพอสมควร ข้าพเจ้าจึงเอ่ยถามหมอว่า “นี่หมอ ผมเห็นพระองค์ที่ออกไปจากบ้านหมอ เมื่อครู่นี้สวนทางก่อนหน้าผมจะเข้ามานั้น ท่านตาบอดใช่ไหม จึงมีลูกศิษย์จูง”
หมอยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ท่านเป็นมหา 3 ประโยค ตาท่านบอดภายหลังเมื่อท่านบวชหลายปี”
ข้าพเจ้าสงสัยจึงถามต่อไป “ทำไมไม่หาหมอแผนปัจจุบันมารักษา ผมคิดว่าสามารถจะรักษาให้หายได้”
หมอหัวเราะแล้วพูดว่า “รักษาแล้วไม่หายท่านได้เล่าให้ผมฟังเรื่องในอดีต ที่ท่านได้ทำกรรมไว้ และท่านได้รู้ตัวว่ากรรมตามสนองในชาตินี้ ท่านก็ต้องใช้กรรมที่ท่านได้ทำไว้จนกว่าจะหมดหนี้”
ข้าพเจ้าฟังแล้วก็เกิดความสนใจ จึงขอร้องให้หมอช่วยเล่าเรื่องอดีตของท่านมาให้ข้าพเจ้าฟัง หมอก็ได้กรุณาเล่าให้ฟังมีใจความว่า
“เมื่อครั้งท่านมหาสมัยเมื่อยังไม่บวช และอยู่ในวัยรุ่น บ้านของท่านอยู่ติดกับคลองมีกระไดท่าน้ำ เวลานั้นชาวบ้านส่วนมากไม่ชอบใส่รองเท้า ถนนยังไม่ดี หน้าฝนเละเป็นโคลน เมื่อไปไหนมาไหนกลับมาถึงบ้านก็ต้องไปที่กระไดท่าน้ำ เพื่อล้างเท้าให้สะอาดก่อนจะขึ้นบ้านขึ้นเรือน
วันหนึ่งท่านได้กลับมาจากเที่ยวก็ไปที่ท่าน้ำลงไปล้างเท้า เป็นเวลาที่มีปลาแขยงชุกชุม เมื่อมีคนลงมาล้างเท้าพวกปลาก็พากันมาตอด ท่านมีความโกรธมากตามอารมณ์ร้อนแรงของคนวัยหนุ่ม ขาดสติมีความประมาทคิดแต่จะแก้เผ็ด ที่เจ้าพวกปลาแขยงมาตอดเท้า นึกพยาบาทคิดจะต้องทำให้หายแค้น จึงรีบขึ้นบนเรือนคว้าได้สวิงรีบลงมาเพราะอารมณ์โกรธ รีบลงไปตีนท่า ทำเป็นล้างเท้า กระทุ่มน้ำพอเป็นพิธี พวกฝูงปลาแขยงต่างก็ว่ายเข้ามาตอดเท้า ทันใดนั้นท่านก็เอาสวิงช้อนปลาขึ้นมาได้ 6-7 ตัว คิดว่าจะทุบตีให้มันตายก็ง่ายเกินไป ยังไม่สมกับอารมณ์แค้นและความโกรธ จะต้องทรมานให้สาสมจึงจะสมแค้น จึงรีบวิ่งขึ้นเรือนหาด้ายเข็มรีบจัดแจงลงมาที่ท่าน้ำ แล้วก็เอาเข็มแทงลูกนัยน์ตาทั้งสองข้างทุกตัวแล้วก็ปล่อยลงน้ำไป เมื่อทำแก่ปลาเหล่านั้นได้ก็คลายความโกรธลงบ้าง ในใจนึกสมน้ำหน้าที่มันมาตอดเท้า
ครั้นหลายปีต่อมา เมื่ออายุครบบวช ก็เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ได้ศึกษาเล่าเรียนในทางธรรมสอบได้เป็นมหาเปรียญ 3 ประโยค ท่านก็เริ่มเจ็บตาข้างหนึ่ง แม้จะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ทั้งเจ็บทั้งปวดแสนสาหัส แทบจะทนไม่ไหว เมื่อให้แพทย์แผนปัจจุบันตรวจก็บอกว่าต้องผ่า มิฉะนั้นก็ไม่มีโอกาสหาย ที่สุดหมอก็ได้ผ่าตา แต่ก็ไม่สามารถจะรักษาได้ ที่สุดตาก็บอดลง ท่านก็นึกรู้ได้ทันทีนั้นว่า กรรมที่ท่านได้มีจิตอาฆาตพยาบาทกับปลาแขยงในสมัยวัยรุ่นนั้น บัดนี้กรรมได้ติดตามมาทันแล้ว ต่อมาไม่นานตาที่ยังใช้ได้ดีข้างหนึ่งก็เกิดปวดขึ้นมา รู้สึกว่า ความเจ็บปวดมากมายแทบจะปะทุออกมา ต้องไปหาแพทย์ แพทย์ก็ลงความเห็นว่าไม่มีทางอื่นจะต้องผ่าอีก เมื่อไม่มีทางอื่นเลือกท่านก็ยอมเสี่ยงอีกครั้งหนึ่ง ที่สุดตาของท่านก็บอดสนิททั้งสองข้าง ท่านจึงนึกว่าโรคกรรมเวรนี้หมอเก่งเพียงไรก็ไม่สามารถจะรักษาหายได้”
นี่ก็ชี้ให้เห็นว่ากรรมใดที่พวกเราก่อขึ้น ด้วยอำนาจจิตคิดพยาบาทอาฆาต ย่อมจะก่อให้เกิดผลขึ้นมาได้ เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังหมอเล่าแล้วรู้สึกเศร้าใจ ที่มนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อกรรม ฉะนั้น โลกในยุคปัจจุบันนี้จึงมีการฆ่าฟันเอาชีวิตกันง่าย เพราะไม่เกรงกรรมไม่เกรงเวร เกรงบาป จิตใจจึงเหี้ยมโหดชั่วร้ายหากมีผู้เชื่อกรรม เชื่อบุญ เชื่อบาปแล้วโลกที่เราอยู่นี้ก็จะเกิดความสงบขึ้นอีกมาก เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังหมอเล่ามาแล้วก็เกิดความสนใจมากจึงบอกว่า “หมอจะกรุณาช่วยติดต่อขออนุญาตท่านมหา เพื่อให้ผมได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นได้ไหม” หมอยิ้มแล้วบอกว่า “ผมยินดีจะติดต่อขออนุญาตให้ คิดว่าท่านคงไม่ขัดข้อง เพราะท่านเองก็รู้ตัวแล้วว่าท่านกำลังรับใช้กรรม และก็ไม่อยากให้ผู้อื่นได้สร้างกรรมเช่นนี้ต่อไป”
หมอพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แม้หมอจะมีสุขภาพในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก แต่กำลังใจของหมอยังดีแล้วหมอก็พูดต่อไปว่า “เมื่อก่อนผมก็ไม่เชื่อเวรกรรม ผมเคยล่าสัตว์ทำบาปมามาก แต่บัดนี้ผมเชื่อแล้วไม่มีอะไรสงสัยอีก ผมเองก็เจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ไม่รู้จักหาย ไม่มีความสุขความสบาย นึกเบื่อชีวิต เงินทองทรัพย์สินก็ไม่ช่วยอะไรได้มากนัก เช่น ท่านมหาเป็นตัวอย่าง เวลานี้ผมคิดได้ว่า เราเกิดมาในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประเสริฐที่สุดในโลก แต่เราก็ยังไม่รู้จักศาสนาดี เมื่อคิดแล้วก็นึกละอายในใจว่า เรานี้ไม่น่าจะเสียชาติเกิดเลย ใช้ชีวิตเวลาวัยหนุ่มให้หมดในการทำบาป
เมื่อบั้นปลายรู้ตัวก็ควรจะทำอะไรในทางบุญกุศล ให้สมกับได้เกิดมาในพุทธศาสนาบ้าง ฉะนั้น บั้นปลายในชีวิตของผม ถ้ายังสามารถทำอะไรได้ก็อยากจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์เป็นแก่นสาร เมื่อเรายังมีลมหายใจยามมีชีวิต จะได้ทันตาเห็น เพราะผมมองเห็นเแล้วเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย บางครั้งก็ทำให้คิดว่าทรัพย์สินเงินทอง เมื่อเราไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ยามมีชีวิตอยู่ เมื่อเราจะตายทรัพย์สินก็ไม่สามารถจะถ่ายชีวิตเราได้ แล้วเราหาทรัพย์สินตั้งแต่หนุ่มจนแก่เพื่อประโยชน์อะไร
ตัวอย่างความไม่เที่ยง ตามพระท่านว่าที่เราพอจะเห็นได้ มีมากมาย เรื่องเด่นชัดที่รู้ทั่วไปของโลกในยุคนี้ก็เห็นจะมีนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คนต่อไปสมัยหน้า ซึ่งกำลังอยู่ในท่ามกลางประชาชน
เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีที่ชนะได้คะแนนเสียงข้างมาก จากประชาชนที่นิยมตัวเขา แม้ตัวเองก็กำลังมีความตื่นเต้นดีใจ เพราะมองเห็นตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ ฯ กำลังรอเวลาคอยอยู่ข้างหน้า แต่ทางพระท่านบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ที่ไหนมีสุขที่นั่นมีทุกข์ ท่ามกลางประชาชน โห่ร้องกึกก้องไปทั้งเมือง เพื่อแสดงความยินดี และรับขวัญนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ อย่างลิงโลดทั่วท้องถนน ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นข้างตัวนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ หลายนัด ทำให้ผู้ชนะเลือกตั้ง ซึ่งกำลังตื่นเต้นดีใจก็ดับวูบลงอย่างไม่รู้ตัว
ท่ามกลางผู้คนแสดงความโลดเต้นโห่ร้องก็เงียบลงทันที เพราะตกตะลึงพึงเพริดสิ่งที่ทั่วทั้งโลก ไม่มีใครเคยนึกฝันว่า จะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น แต่ก็เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่ความฝันเป็นความจริง เสียงร้องโห่กึกก้อง แผ่นดินแทบจะถล่มทลายลง ของพวกสนับสนุนโห่ร้องรับขวัญ ความหวังว่า นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่อายุน้อย สำหรับตำแหน่งอันสูงส่งของสหรัฐอเมริกา ในอนาคตก็ดับลงเหมือนแสงสว่างอันมีรัศมีแก่กล้าแสงสุกใส ไม่มีแสงใดมาเทียบเท่าก็ดับมืดลงทันที
ทางพุทธศาสนาก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าทุกสิ่งเป็นของไม่เที่ยง อย่ามัวทะนงหลงตัวว่ายังหนุ่มสาว ยังแข็งแรงไม่ตายง่าย ชีวิตกับความตายไม่แน่นอนไม่มีใครรู้ล่วงหน้า สิ่งที่แน่ก็คือทุกคนต้องผจญทุกข์ แม้นายเคนเนดี้เป็นคนหนุ่มมีเกียรติสูงที่จะมีอนาคตอีกไกล แต่ก็ตายอย่างไม่ทันรู้ตัว จะมีเงินมากมายหลายล้าน แต่เงินเหล่านั้นก็ไม่สามารถจะช่วยแลกซื้อชีวิตของนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ คืนมาได้
เมื่อพิจารณาดูแล้วก็คงจะเป็นกรรมในอดีต เห็นชัดแจ้งตามหลักธรรม ทำให้ผมเกิดความรู้สึกตัวคิดได้ เวลานี้ผมจัดการเลี้ยงพระทำบุญ ทำทาน ถวายอาหารคาวหวานให้ท่านมาฉันที่บ้านทุกวันอาทิตย์ เอาเงินทองทรัพย์สินมาแลกเป็นบุญกุศลเพื่อจะได้บารมี มีทานติดตามวิญญาณ เมื่อสังขารดับสูญไปแล้ว แต่วิญญาณเป็นอมตะไม่สูญสิ้น และผมก็มีโอกาสได้สนทนากับพระ ท่านทำให้จิตใจผมสบายขึ้น และคิดจะทำประโยชน์อะไรให้แก่ส่วนรวมต่อไป”
เมื่อได้ทราบว่า เวลานี้หมอได้เริ่มก่อการสร้างกุศล ทำให้ข้าพเจ้าพลอยปลื้มปีติ เพราะหมอเป็นผู้มั่งคั่งผู้หนึ่ง สามารถจะทำประโยชน์สร้างกุศลในทางศาสนาได้มาก จึงบอกว่า “ผมขอแสดงความยินดีด้วยที่หมอได้เกิดความรู้สึกในทางดี ในบั้นปลายของชีวิต ขออนุโมทนาด้วยความจริงใจ ขอให้ช่วยกันสร้างประโยชน์ในเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ และได้เห็นผลงานของเราเพื่อจะได้เป็นกรรมดี เกิดกุศลบารมีติดตามไปสู่ที่สุคติในชาติต่อไป เพราะเรายังไม่มีโอกาสบรรลุนิพพาน ยังต้องวนเวียนว่ายตายเกิดยังไม่รู้สิ้นสุด ผู้ไม่ประมาทย่อมคิดได้”
ที่มา : //www.mindcyber.com ภาพจาก : //www.our-teacher.com
Create Date : 31 ธันวาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 31 ธันวาคม 2552 21:21:38 น. |
Counter : 1048 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สำนึกดี IP: 124.121.229.34 3 มกราคม 2553 20:36:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
----ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ และ ทีมคณะแพทย์ชื่อดังระดับโลกที่ทำการศึกษาวิจัยจากผู้ ป่วยกว่า 500000 คนท่วโลก ใช้เวลากว่า 7 ปี โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ กว่า 12000 คน
น่ากลัวคาดว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ ๆ เพิ่มอีกกว่า
เนื้อสัตว์ เป็นบ่อเกิด ต้นตอของนานาโรคร้ายหลากหลายชนิด
เช่นโรคมะเร็ง เต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และจากการวิจัยล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ ฮาวาด์ แห่งสหรัฐ และ
มหาลัยแพทย์ ลีด แห่ง ประเทศอังกฤษ เนื้อสัตว์ ยังเป็นต้นเหตุหลัก ๆ ของ
มะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งรังไข่
ข้อมูลโดยมหาลัยแพทย์ชื่อดังระดับโลก
มหาลัยเทกซัส สหรัฐ
มหาลัยชิคาโก สหรัฐ
มหาลัยฮาวาย สหรัฐ
มหาลัยฮาววาด สหรัฐ
มหาลัยแพทย์ แห่งออสเตอเรีย
มหาลัยคิวเบค แห่งแคนาดา
มหาลัยออกฟอร์ด แห่งอังกฤษ
มหาลัยลีด แห่งอังกฤษ
มหาลัยแฟงค์เฟิต แห่งเยอรมัน
โดยการสนับสนุนสถาบันวิจัย โรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ
National Cancer Research Institue - USA
สถาบันโรคมะเร็ง แห่ง WHO
The World Cancer Research Fund ( WCRF )
และวารสารสุขภาพชื่อดังระดับโลกกว่า 100 ฉบับรวมถึง
เอกสารทางการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก
ไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วเราจะตายหรือไม่ (พุทธศาสตร์+วิทยาศาสตร์
มุมมองความเห็นจากพระสงฆ์ไทย
และจากพระ อาจารย์ บัญฑิต พระฝรั่งชาวอังกฤษ
ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ประเทศอังกฤษ ประชากรกว่า40% หรือเกือบ 30 ล้านคน
ได้ละเลิกการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารมังสะวิรัติ
ปลอดเนื้อสัตว์ เพื่อสุขภาพ และ หวั่นเกรงมหันตภัยโรคร้ายจากเนื้อสัตว์ ที่เคยคุกคามฆ่าชีวิตชาวอังกฤษเป็นจำนวนมากจากโรคมะเ ร็ง ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ ปีละจำนวนมาก ๆ ต่อเนื่องด้วยโรควัวบ้าระบาด เมื่อ 6 ปีก่อน และอีก 3 ปีถัดมาโรคไข้หวัดนกระบาด ทำให้ชาวอังกฤษหวาดผวาภัยจากเนื ้อสัตว์
ข้อมูลที่น่าสนใจในเวปข้างล่าง
//www.watisan.com/wizContent.as...&txtmMenu_ID=7
//www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080
*************************************
ยังมีข้อมูลอีกมากมายนับไม่ถ้วน อาจมากกว่า 100 บทความที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตอเรีย
ถึงผลร้ายของการบริโภคเนื้อสัตว์ในเชิง สุขภาพ และการระบาดของโรคมะเร็งร้าย นอกจากโรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ อันเป็นผลจากเนื้อสัตว์
ที่แน่ ๆ การบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากผลดีต่อสุขภาพ ยังเป็นการละบ่วงเวรกรรมจากการร่วมทำลายล้าง สัตว์อื่น ๆ
โรคมะเร็ง ต้นเหตหลักที่แท้จริงจากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
จากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากหลายหลาย
มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก โดยทุนสนับสนุนจาก สถาบันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งโลก (The World Cancer Research Fund (WCRF)
รายละเอียดหาอ่านได้จากข้อมูลในเวป
//www.dhammajak.net:80/board/viewtopic.php?t=14583
//www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17241
//board.palungjit.com/showthread.php?t=145201