Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 
31 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

กรรมที่มองไม่เห็น



เหตุการณ์เกิดขึ้นกับบุคคลที่ได้รับเคราะห์กรรมนั้น
ส่วนมากก็มักจะโทษโชคชะตาหรือที่ไม่เชื่อโชคชะตาก็มักจะพูดว่า เหตุบังเอิญหรือไม่ก็โทษเพราะพรหมลิขิต
แต่ไม่ค่อยจะมีใครโทษตัวเองที่สร้างกรรมไว้
ส่วนมากโยนให้เป็นบาปกับเคราะห์เพื่อให้พ้นตัว แล้วเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านไปในความรู้สึกง่าย ๆ
ไม่มีผู้ใดที่จะหาต้นเหตุที่จะเกิดผลเคราะห์กรรม

หากมนุษย์เชื่อกรรมแล้ว ค้นคว้าหาสาเหตุต้นเรื่อง “กรรม” ก็คงจะเห็นได้ว่าผลนั้นย่อมเกิดจากต้นเหตุ
จะเปรียบเทียบก็ไม่ผิดอะไรกับเราปลูกข้าว ผลก็ออกมาเป็นเมล็ด จะเป็นพืชอื่นไปไม่ได้
นอกจากอดีตจะมีกรรมชั่วติตตามมาสนอง

ซึ่งข้าพเจ้าได้พยายามรวบรวมเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว จะให้เห็นว่า “กฏแห่งกรรม” นี้
ถ้าได้พิจารณาหาเหตุผลด้วยจิตใจเที่ยงธรรมค้นคว้าให้ถึงแก่นแล้ว
ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเป็นกฏของสากลทั่วไปมิได้ยกเว้นชาติใดภาษาใด หรือศาสนาใดในโลก
ซึ่งสัตว์โลกและมนุษย์เกิดมาก็ต้องตกอยู่ภายใต้ “กฏแห่งกรรม” ด้วยกันทุกรูปทุกนาม

บางทีเหตุการณ์ตัวอย่างที่เกิดขึ้นผ่านไป แล้วอาจจะช่วยชี้ให้เห็นความกระจ่างแจ้งขึ้นบ้าง เช่น
วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ไปหาคุณพี่ที่ฝั่งธนฯ เมื่อได้นั่งสนทนากันพอสมควรแล้ว
คุณพี่ก็เล่าเรื่องซึ่งได้รับฟังมาจากโรงพยาบาลทหารเรือว่า

มีนายทหารเรือไทยผู้หนึ่งได้เดินทางไปต่างประทศ และเป็นผู้ที่ได้เห็นมาด้วยตนเองเล่าให้ฟังว่า
กัปตันเรือเดินทะเลคนหนึ่งเป็นฝรั่ง เมื่อนำเรือเข้าจอดเทียบท่าแล้ว
ได้มีแมวเจ้ากรรมตัวหนึ่งเข้าไปอยู่ในห้องกัปตัน และบังเอิญกัปตันผู้นั้นเป็นคนเกลียดแมวอย่างเข้ากระดูกดำ
แทนที่กัปตันจะไล่แมวออกมาให้พ้นจากห้องแล้วคิดว่า เหตุการณ์อะไรก็จะไม่เกิดขึ้น
แต่กัปตันผู้นี้แกมีความโกรธความพยาบาทแมว คล้ายจะเป็นศัตรูคู่จองเวรกันมาก่อน
กลับปิดประตูขังไว้ไม่ยอมให้ออกจากห้อง หลังจากนั้นก็ใช้ท่านไม้ไล่ตี
แมวเคราะห์ร้ายตัวนั้นก็วิ่งหนีวนเวียนอยู่ในห้องหาทางออกไม่ได้
เมื่อถูกตีอย่างเจ็บปวด ก็ยิ่งร้องวนเวียนวิ่งหนีอยู่ภายในห้อง อย่างหัวซุกหัวซุนด้วยความกลัวจนสุดขีด

เป็นธรรมดาของสัตว์โลกไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ ตลอดทั้งมนุษย์เห็นจะมีความรู้สึกตรงกันก็คือ
กลัวความตาย กลัวความเจ็บปวดด้วยกันทุกรูปทุกนาม แมวตัวนั้นก็เช่นเดียวกัน
หนีอย่างสุดชีวิต ทั้งร้องก้องคล้ายจะร้องขอชีวิต เพราะความเจ็บปวดที่ถูกตีหนัก
มันเป็นเรื่องสลดใจกับผู้ได้พบเห็นเหตุการณ์ครั้งนั้น พวกลูกเรือกุลีและกะลาสีและพวกต้นเรือ ซึ่งต่างก็รู้ดีว่า
ไม่มีใครสามารถจะยับยั้งห้ามปรามกัปตันผู้นั้นได้ นอกจากกัปตันจะเป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในเรือแล้ว
ยังเป็นคนมีใจคอดุร้าย ทำให้นายทหารเรือไทยผู้นั้นต้องทำจิตใจให้เป็นอุเบกขา
เพราะสิ่งใดที่ไม่สามารถจะช่วยได้ ก็ต้องทำจิตใจให้ปกติไม่ยินดียินร้ายทำให้อยู่กลาง

เพราะพวกลูกเรือกะลาสีเหล่านั้นรู้ดีว่า
หากใครจะไปตบประตูขัดขวาง ก็เท่ากับไปยุให้กัปตันเพิ่มความบ้าโกรธมากขึ้น
นึกถึงคำโบราณของคนไทยเราว่า ใครฆ่าแมวก็บาปหนักเท่ากับฆ่าเณรผู้มีศีล
แต่แล้วเสียงโครมครามและสียงแมววิ่งร้อง และวิ่งไล่ให้ห้องกัปตันก็เงียบลง

ต่อมา ประตูห้องกัปตันก็เปิดออก กัปตันเดินออกมาเหงื่อโทรมกาย หน้าตายังมีริ้วรอยความดุร้าย
ในมือจับหางแมวหิ้วตัวห้อยออกมาปรากฏว่า
แมวตัวนั้นเลือดไหลออกทางปากทางจมูกตายอย่างสนิทไม่ดิ้นรนได้อีก แต่แล้วกัปตันหิ้วเดินมาทางกราบเรือ
เหวี่ยงศพแมวตัวนั้นโยนลงน้ำไปท่ามกลางสายตาผู้พบเห็นอย่างติเตียน
ต่างก็มีความรู้สึกสะอิดสะเอียนการกระทำของกัปตันในครั้งนั้น

เหตุการณ์มิได้หยุดเพียงนี้ เพราะหลังจากกัปตันได้ตีแมวตาย ในวันรุ่งขึ้นตัวกัปตันก็หายไป
ไม่มีใครทราบว่าไปไหนเหตุการณ์ก็โกลาหล เพราะรองกัปตันก็ต้องทำงานแทนไปก่อน
แต่แล้วต่อมาศพของกัปตันก็ลอยอืดขึ้นมาในบริเวณที่จอดเรือ นี่ก็เป็นเรื่องลึกลับอัศจรรย์
ตามสันนิษฐานว่ากัปตันตกน้ำตายอย่างธรรมดา เพราะดื่มเหล้าเมาจัด
ทางการได้สอบสวนร่างกายไม่พบร่องรอยบอบช้ำ พอจะยกขึ้นมาพิสูจน์หาสาเหตุข้อสงสัยว่าถูกฆาตกรรม

นี่ถ้าถือตามหลักธรรมก็พอบอกได้กรรมที่ได้รับผลทันตาเห็น หากมีผู้ที่ไม่รู้เรื่องกรรมก็บอกว่า
กัปตันกินเหล้าเมาตกน้ำตายโดยบังเอิญ
นี่เป็นธรรมดาเรื่องหนึ่งที่นายทหารเรือผู้เห็นเหตุการณ์ ท่านได้นำมาเล่าเป็นเรื่องที่น่าคิด
เมื่อฟังเรื่องราวกัปตันฝรั่งตกน้ำตาย กรรมสนองที่ได้ฆ่าแมว เพราะความอาฆาตพยาบาท
ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงครั้งข้าพเจ้าได้ไปหาเพื่อนผู้คุ้นเคยกันมานาน และเป็นทันตแพทย์

เนื่องจากสุขภาพของหมอไม่ค่อยจะปกตินัก ข้าพเจ้าจึงไปถามข่าว เยี่ยมเยียนในฐานะผู้ที่รักใคร่คุ้นเคยกันมานาน
ก่อนที่จะเข้าบ้านของหมอ ข้าพเจ้าก็เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งกำลังเดินสวนออกจากบ้าน
พระรูปนั้นมีลูกศิษย์จูงนำเดินหน้า ทำให้นึกว่าพระภิกษุรูปนั้นคงตาพิการหรือบอด
คิดสงสัยว่า ตาท่านบอด ทำไมถึงบวชได้ เมื่อได้เข้าไปในบ้านหมอผู้คุ้นเคยแล้ว
เราจึงทักทายปราศรัยกันพอสมควร ข้าพเจ้าจึงเอ่ยถามหมอว่า
“นี่หมอ ผมเห็นพระองค์ที่ออกไปจากบ้านหมอ เมื่อครู่นี้สวนทางก่อนหน้าผมจะเข้ามานั้น
ท่านตาบอดใช่ไหม จึงมีลูกศิษย์จูง”

หมอยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ท่านเป็นมหา 3 ประโยค ตาท่านบอดภายหลังเมื่อท่านบวชหลายปี”

ข้าพเจ้าสงสัยจึงถามต่อไป
“ทำไมไม่หาหมอแผนปัจจุบันมารักษา ผมคิดว่าสามารถจะรักษาให้หายได้”

หมอหัวเราะแล้วพูดว่า
“รักษาแล้วไม่หายท่านได้เล่าให้ผมฟังเรื่องในอดีต ที่ท่านได้ทำกรรมไว้
และท่านได้รู้ตัวว่ากรรมตามสนองในชาตินี้ ท่านก็ต้องใช้กรรมที่ท่านได้ทำไว้จนกว่าจะหมดหนี้”

ข้าพเจ้าฟังแล้วก็เกิดความสนใจ จึงขอร้องให้หมอช่วยเล่าเรื่องอดีตของท่านมาให้ข้าพเจ้าฟัง
หมอก็ได้กรุณาเล่าให้ฟังมีใจความว่า

“เมื่อครั้งท่านมหาสมัยเมื่อยังไม่บวช และอยู่ในวัยรุ่น บ้านของท่านอยู่ติดกับคลองมีกระไดท่าน้ำ
เวลานั้นชาวบ้านส่วนมากไม่ชอบใส่รองเท้า ถนนยังไม่ดี หน้าฝนเละเป็นโคลน
เมื่อไปไหนมาไหนกลับมาถึงบ้านก็ต้องไปที่กระไดท่าน้ำ เพื่อล้างเท้าให้สะอาดก่อนจะขึ้นบ้านขึ้นเรือน

วันหนึ่งท่านได้กลับมาจากเที่ยวก็ไปที่ท่าน้ำลงไปล้างเท้า เป็นเวลาที่มีปลาแขยงชุกชุม
เมื่อมีคนลงมาล้างเท้าพวกปลาก็พากันมาตอด ท่านมีความโกรธมากตามอารมณ์ร้อนแรงของคนวัยหนุ่ม
ขาดสติมีความประมาทคิดแต่จะแก้เผ็ด ที่เจ้าพวกปลาแขยงมาตอดเท้า นึกพยาบาทคิดจะต้องทำให้หายแค้น
จึงรีบขึ้นบนเรือนคว้าได้สวิงรีบลงมาเพราะอารมณ์โกรธ รีบลงไปตีนท่า ทำเป็นล้างเท้า กระทุ่มน้ำพอเป็นพิธี
พวกฝูงปลาแขยงต่างก็ว่ายเข้ามาตอดเท้า ทันใดนั้นท่านก็เอาสวิงช้อนปลาขึ้นมาได้ 6-7 ตัว
คิดว่าจะทุบตีให้มันตายก็ง่ายเกินไป ยังไม่สมกับอารมณ์แค้นและความโกรธ
จะต้องทรมานให้สาสมจึงจะสมแค้น จึงรีบวิ่งขึ้นเรือนหาด้ายเข็มรีบจัดแจงลงมาที่ท่าน้ำ
แล้วก็เอาเข็มแทงลูกนัยน์ตาทั้งสองข้างทุกตัวแล้วก็ปล่อยลงน้ำไป
เมื่อทำแก่ปลาเหล่านั้นได้ก็คลายความโกรธลงบ้าง ในใจนึกสมน้ำหน้าที่มันมาตอดเท้า

ครั้นหลายปีต่อมา เมื่ออายุครบบวช ก็เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
ได้ศึกษาเล่าเรียนในทางธรรมสอบได้เป็นมหาเปรียญ 3 ประโยค ท่านก็เริ่มเจ็บตาข้างหนึ่ง
แม้จะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ทั้งเจ็บทั้งปวดแสนสาหัส แทบจะทนไม่ไหว
เมื่อให้แพทย์แผนปัจจุบันตรวจก็บอกว่าต้องผ่า มิฉะนั้นก็ไม่มีโอกาสหาย ที่สุดหมอก็ได้ผ่าตา
แต่ก็ไม่สามารถจะรักษาได้ ที่สุดตาก็บอดลง
ท่านก็นึกรู้ได้ทันทีนั้นว่า กรรมที่ท่านได้มีจิตอาฆาตพยาบาทกับปลาแขยงในสมัยวัยรุ่นนั้น
บัดนี้กรรมได้ติดตามมาทันแล้ว ต่อมาไม่นานตาที่ยังใช้ได้ดีข้างหนึ่งก็เกิดปวดขึ้นมา รู้สึกว่า
ความเจ็บปวดมากมายแทบจะปะทุออกมา ต้องไปหาแพทย์ แพทย์ก็ลงความเห็นว่าไม่มีทางอื่นจะต้องผ่าอีก
เมื่อไม่มีทางอื่นเลือกท่านก็ยอมเสี่ยงอีกครั้งหนึ่ง ที่สุดตาของท่านก็บอดสนิททั้งสองข้าง
ท่านจึงนึกว่าโรคกรรมเวรนี้หมอเก่งเพียงไรก็ไม่สามารถจะรักษาหายได้”

นี่ก็ชี้ให้เห็นว่ากรรมใดที่พวกเราก่อขึ้น ด้วยอำนาจจิตคิดพยาบาทอาฆาต ย่อมจะก่อให้เกิดผลขึ้นมาได้
เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังหมอเล่าแล้วรู้สึกเศร้าใจ ที่มนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อกรรม
ฉะนั้น โลกในยุคปัจจุบันนี้จึงมีการฆ่าฟันเอาชีวิตกันง่าย เพราะไม่เกรงกรรมไม่เกรงเวร เกรงบาป
จิตใจจึงเหี้ยมโหดชั่วร้ายหากมีผู้เชื่อกรรม เชื่อบุญ เชื่อบาปแล้วโลกที่เราอยู่นี้ก็จะเกิดความสงบขึ้นอีกมาก
เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังหมอเล่ามาแล้วก็เกิดความสนใจมากจึงบอกว่า

“หมอจะกรุณาช่วยติดต่อขออนุญาตท่านมหา เพื่อให้ผมได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นได้ไหม”
หมอยิ้มแล้วบอกว่า “ผมยินดีจะติดต่อขออนุญาตให้ คิดว่าท่านคงไม่ขัดข้อง
เพราะท่านเองก็รู้ตัวแล้วว่าท่านกำลังรับใช้กรรม และก็ไม่อยากให้ผู้อื่นได้สร้างกรรมเช่นนี้ต่อไป”

หมอพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แม้หมอจะมีสุขภาพในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก
แต่กำลังใจของหมอยังดีแล้วหมอก็พูดต่อไปว่า
“เมื่อก่อนผมก็ไม่เชื่อเวรกรรม ผมเคยล่าสัตว์ทำบาปมามาก แต่บัดนี้ผมเชื่อแล้วไม่มีอะไรสงสัยอีก
ผมเองก็เจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ไม่รู้จักหาย ไม่มีความสุขความสบาย นึกเบื่อชีวิต
เงินทองทรัพย์สินก็ไม่ช่วยอะไรได้มากนัก เช่น ท่านมหาเป็นตัวอย่าง
เวลานี้ผมคิดได้ว่า เราเกิดมาในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประเสริฐที่สุดในโลก
แต่เราก็ยังไม่รู้จักศาสนาดี เมื่อคิดแล้วก็นึกละอายในใจว่า เรานี้ไม่น่าจะเสียชาติเกิดเลย
ใช้ชีวิตเวลาวัยหนุ่มให้หมดในการทำบาป

เมื่อบั้นปลายรู้ตัวก็ควรจะทำอะไรในทางบุญกุศล ให้สมกับได้เกิดมาในพุทธศาสนาบ้าง
ฉะนั้น บั้นปลายในชีวิตของผม ถ้ายังสามารถทำอะไรได้ก็อยากจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์เป็นแก่นสาร
เมื่อเรายังมีลมหายใจยามมีชีวิต จะได้ทันตาเห็น เพราะผมมองเห็นเแล้วเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย
บางครั้งก็ทำให้คิดว่าทรัพย์สินเงินทอง เมื่อเราไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ยามมีชีวิตอยู่
เมื่อเราจะตายทรัพย์สินก็ไม่สามารถจะถ่ายชีวิตเราได้ แล้วเราหาทรัพย์สินตั้งแต่หนุ่มจนแก่เพื่อประโยชน์อะไร

ตัวอย่างความไม่เที่ยง ตามพระท่านว่าที่เราพอจะเห็นได้ มีมากมาย
เรื่องเด่นชัดที่รู้ทั่วไปของโลกในยุคนี้ก็เห็นจะมีนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้
ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คนต่อไปสมัยหน้า ซึ่งกำลังอยู่ในท่ามกลางประชาชน

เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีที่ชนะได้คะแนนเสียงข้างมาก จากประชาชนที่นิยมตัวเขา
แม้ตัวเองก็กำลังมีความตื่นเต้นดีใจ เพราะมองเห็นตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ ฯ
กำลังรอเวลาคอยอยู่ข้างหน้า แต่ทางพระท่านบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ที่ไหนมีสุขที่นั่นมีทุกข์
ท่ามกลางประชาชน โห่ร้องกึกก้องไปทั้งเมือง เพื่อแสดงความยินดี และรับขวัญนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้
อย่างลิงโลดทั่วท้องถนน ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นข้างตัวนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ หลายนัด
ทำให้ผู้ชนะเลือกตั้ง ซึ่งกำลังตื่นเต้นดีใจก็ดับวูบลงอย่างไม่รู้ตัว

ท่ามกลางผู้คนแสดงความโลดเต้นโห่ร้องก็เงียบลงทันที เพราะตกตะลึงพึงเพริดสิ่งที่ทั่วทั้งโลก
ไม่มีใครเคยนึกฝันว่า จะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น แต่ก็เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่ความฝันเป็นความจริง
เสียงร้องโห่กึกก้อง แผ่นดินแทบจะถล่มทลายลง ของพวกสนับสนุนโห่ร้องรับขวัญ ความหวังว่า
นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่อายุน้อย สำหรับตำแหน่งอันสูงส่งของสหรัฐอเมริกา
ในอนาคตก็ดับลงเหมือนแสงสว่างอันมีรัศมีแก่กล้าแสงสุกใส ไม่มีแสงใดมาเทียบเท่าก็ดับมืดลงทันที

ทางพุทธศาสนาก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าทุกสิ่งเป็นของไม่เที่ยง อย่ามัวทะนงหลงตัวว่ายังหนุ่มสาว ยังแข็งแรงไม่ตายง่าย
ชีวิตกับความตายไม่แน่นอนไม่มีใครรู้ล่วงหน้า สิ่งที่แน่ก็คือทุกคนต้องผจญทุกข์
แม้นายเคนเนดี้เป็นคนหนุ่มมีเกียรติสูงที่จะมีอนาคตอีกไกล แต่ก็ตายอย่างไม่ทันรู้ตัว จะมีเงินมากมายหลายล้าน
แต่เงินเหล่านั้นก็ไม่สามารถจะช่วยแลกซื้อชีวิตของนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ คืนมาได้

เมื่อพิจารณาดูแล้วก็คงจะเป็นกรรมในอดีต เห็นชัดแจ้งตามหลักธรรม ทำให้ผมเกิดความรู้สึกตัวคิดได้
เวลานี้ผมจัดการเลี้ยงพระทำบุญ ทำทาน ถวายอาหารคาวหวานให้ท่านมาฉันที่บ้านทุกวันอาทิตย์
เอาเงินทองทรัพย์สินมาแลกเป็นบุญกุศลเพื่อจะได้บารมี มีทานติดตามวิญญาณ เมื่อสังขารดับสูญไปแล้ว
แต่วิญญาณเป็นอมตะไม่สูญสิ้น และผมก็มีโอกาสได้สนทนากับพระ
ท่านทำให้จิตใจผมสบายขึ้น และคิดจะทำประโยชน์อะไรให้แก่ส่วนรวมต่อไป”

เมื่อได้ทราบว่า เวลานี้หมอได้เริ่มก่อการสร้างกุศล ทำให้ข้าพเจ้าพลอยปลื้มปีติ เพราะหมอเป็นผู้มั่งคั่งผู้หนึ่ง
สามารถจะทำประโยชน์สร้างกุศลในทางศาสนาได้มาก จึงบอกว่า
“ผมขอแสดงความยินดีด้วยที่หมอได้เกิดความรู้สึกในทางดี ในบั้นปลายของชีวิต ขออนุโมทนาด้วยความจริงใจ
ขอให้ช่วยกันสร้างประโยชน์ในเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ และได้เห็นผลงานของเราเพื่อจะได้เป็นกรรมดี
เกิดกุศลบารมีติดตามไปสู่ที่สุคติในชาติต่อไป
เพราะเรายังไม่มีโอกาสบรรลุนิพพาน ยังต้องวนเวียนว่ายตายเกิดยังไม่รู้สิ้นสุด ผู้ไม่ประมาทย่อมคิดได้”


ที่มา : //www.mindcyber.com
ภาพจาก : //www.our-teacher.com




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2552
1 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2552 21:21:38 น.
Counter : 1048 Pageviews.

 

อันตรายอาหารเนื้อสัตว์ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งร้ายหลาย ๆ ชนิด
----ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ และ ทีมคณะแพทย์ชื่อดังระดับโลกที่ทำการศึกษาวิจัยจากผู้ ป่วยกว่า 500000 คนท่วโลก ใช้เวลากว่า 7 ปี โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ กว่า 12000 คน

น่ากลัวคาดว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ ๆ เพิ่มอีกกว่า
เนื้อสัตว์ เป็นบ่อเกิด ต้นตอของนานาโรคร้ายหลากหลายชนิด
เช่นโรคมะเร็ง เต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และจากการวิจัยล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ ฮาวาด์ แห่งสหรัฐ และ
มหาลัยแพทย์ ลีด แห่ง ประเทศอังกฤษ เนื้อสัตว์ ยังเป็นต้นเหตุหลัก ๆ ของ
มะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งรังไข่

ข้อมูลโดยมหาลัยแพทย์ชื่อดังระดับโลก
มหาลัยเทกซัส สหรัฐ
มหาลัยชิคาโก สหรัฐ
มหาลัยฮาวาย สหรัฐ
มหาลัยฮาววาด สหรัฐ
มหาลัยแพทย์ แห่งออสเตอเรีย
มหาลัยคิวเบค แห่งแคนาดา
มหาลัยออกฟอร์ด แห่งอังกฤษ
มหาลัยลีด แห่งอังกฤษ
มหาลัยแฟงค์เฟิต แห่งเยอรมัน

โดยการสนับสนุนสถาบันวิจัย โรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ
National Cancer Research Institue - USA
สถาบันโรคมะเร็ง แห่ง WHO
The World Cancer Research Fund ( WCRF )
และวารสารสุขภาพชื่อดังระดับโลกกว่า 100 ฉบับรวมถึง
เอกสารทางการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก

ไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วเราจะตายหรือไม่ (พุทธศาสตร์+วิทยาศาสตร์

มุมมองความเห็นจากพระสงฆ์ไทย

และจากพระ อาจารย์ บัญฑิต พระฝรั่งชาวอังกฤษ


ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ประเทศอังกฤษ ประชากรกว่า40% หรือเกือบ 30 ล้านคน
ได้ละเลิกการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารมังสะวิรัติ
ปลอดเนื้อสัตว์ เพื่อสุขภาพ และ หวั่นเกรงมหันตภัยโรคร้ายจากเนื้อสัตว์ ที่เคยคุกคามฆ่าชีวิตชาวอังกฤษเป็นจำนวนมากจากโรคมะเ ร็ง ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ ปีละจำนวนมาก ๆ ต่อเนื่องด้วยโรควัวบ้าระบาด เมื่อ 6 ปีก่อน และอีก 3 ปีถัดมาโรคไข้หวัดนกระบาด ทำให้ชาวอังกฤษหวาดผวาภัยจากเนื ้อสัตว์

ข้อมูลที่น่าสนใจในเวปข้างล่าง

//www.watisan.com/wizContent.as...&txtmMenu_ID=7

//www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080


*************************************

ยังมีข้อมูลอีกมากมายนับไม่ถ้วน อาจมากกว่า 100 บทความที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตอเรีย
ถึงผลร้ายของการบริโภคเนื้อสัตว์ในเชิง สุขภาพ และการระบาดของโรคมะเร็งร้าย นอกจากโรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ อันเป็นผลจากเนื้อสัตว์

ที่แน่ ๆ การบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากผลดีต่อสุขภาพ ยังเป็นการละบ่วงเวรกรรมจากการร่วมทำลายล้าง สัตว์อื่น ๆ

โรคมะเร็ง ต้นเหตหลักที่แท้จริงจากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์

จากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากหลายหลาย
มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก โดยทุนสนับสนุนจาก สถาบันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งโลก (The World Cancer Research Fund (WCRF)

รายละเอียดหาอ่านได้จากข้อมูลในเวป

//www.dhammajak.net:80/board/viewtopic.php?t=14583

//www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17241



//board.palungjit.com/showthread.php?t=145201


 

โดย: สำนึกดี IP: 124.121.229.34 3 มกราคม 2553 20:36:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.