Deception Point แผนลวงสะท้านโลก มันสะท้านจริงๆ นะเออ
แดน บราวน์ เขียน / อรดี สุวรรณโกมล แปล
"แดน บราวน์ ค้นคว้าหาข้อมูลมาเขียนได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ อุปกรณ์อันน่าทึ่งทุกชนิดที่ตัวละครในเรื่องใช้ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตจริง" เดอะนิวยอร์กเดลีนิวส์
ที่ต้องหยิบยกเอาคำนิยมนี้ มากล่าวถึงก่อนเป็นอันดับแรก เป็นเพราะ ณ ขณะอ่าน ประโยคท้ายนั้นช่างติดค้างอยู่ในใจเป็นหนักหนา
"อุปกรณ์อันน่าทึ่งทุกชนิดที่ตัวละครในเรื่องใช้ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตจริง"
อ่ะ .. จริงดิ? หลอกกันเล่นหรือเปล่า
แม้ใจหนึ่งจะไม่อยากเชื่อเพราะนึกหมั่นไส้ในความเป็นผู้มีพร้อมของสหรัฐ ที่ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึงเป็นชาติมหาอำนาจ แต่อีกใจก็นึกรู้ว่าคำนิยมนี้เชื่อถือได้ ยิ่งถ้าพิจารณาจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่รุดหน้าอยู่ในยุคปัจจุบันนี้ และทั้งผู้เขียน แดน บราวน์ ก็ให้คำยืนยันด้วยเช่นกัน "กองกำลังเดลต้าฟอร์ซ สำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติ และมูลนิธิพรมแดนอวกาศ เป็นองค์กรที่มีอยู่จริง เทคโนโลยีทั้งหมดที่กล่าวถึงในนวนิยายเรื่องนี้ก็มีอยู่จริงเช่นกัน" เนื่องจาก ฉากเรื่องราวไม่ใช่ยุคอนาคตที่ไม่มีใครรู้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลไปถึงไหน ไม่ใช่โลกแฟนตาซีที่จะจินตนาการสร้างสรรค์อะไรอย่างไรก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ คงเป็นไปได้ยากที่จะเอ่ยอ้างวิทยาศาสตร์ใดที่ไม่จริง ไม่งั้นก็โดนผู้รู้จวกยับน่ะสิ ดังนั้น จึงต้องเชื่อตามนั้นว่า "มีอยู่จริง" และคำสามคำนี้แหละ ที่คนง่อยวิทยาศาสตร์ด้อยเทคโนโลยีอย่างเรา อ่านแล้ว .. อึ้ง ทึ่ง 'สะท้าน' มีอะไรอย่างนี้อยู่จริงๆ หรือนี่ แล้วถ้านิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ในปี 2001 ยังขนาดนี้ แล้วปัจจุบันปี 2014 จะขนาดไหน เอาล่ะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ 'Deception Point_แผนลวงสะท้านโลก' คุณอาจจะอยากรู้แล้วว่า ที่พล่ามมาตั้งเยอะแล้วเนี่ย ตกลงมันเรื่องอะไรกัน
เมื่อดาวเทียมดวงใหม่ของนาซา ตรวจพบหลักฐานของวัตถุที่หายากอย่างน่าทึ่งฝังลึกอยู่ใต้หิ้งน้ำแข็งแถบขั้วโลกเหนือ องค์การอวกาศที่กำลังซวนเซของสหรัฐฯ ก็รีบประกาศอ้างชัยชนะซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง...ชัยชนะที่จะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อนโยบายอวกาศของสหรัฐฯ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง ประธานาธิบดีผู้อยู่ในตำแหน่งจึงส่ง ราเชล เซกซ์ตัน นักวิเคราะห์ข่าวกรองประจำทำเนียบขาว ไปยืนยันความถูกต้องเป็นของแท้ของสิ่งที่ค้นพบนั้น พร้อมกับคณะผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคน รวมทั้ง ไมเคิล ทอลแลนด์ นักวิชาการชื่อดัง เจ้าของรายการสารคดีดังทางโทรทัศน์ แต่พวกเขากลับค้นพบสิ่งที่อยู่เหนือความคาดคิด นั่นคือหลักฐานการฉ้อฉลหลอกลวงครั้งมโหฬาร แต่ก่อนที่ราเชลจะทันได้ติดต่อแจ้งความจริงกับประธานาธิบดี เธอกับทอลแลนด์กลับถูกกลุ่มมือสังหารจอมโหดที่อยู่ใต้คำบงการของผู้ทรงอำนาจลึกลับตามล่าสังหารเพื่อปิดปาก มิให้ความจริงอันร้ายกาจนั้นถูกเปิดโปงออกมา ราเชลกับทอลแลนด์ต้องฝ่าฟันอันตรายแทบเอาชีวิตไม่รอดในสภาพแวดล้อมอันสุดหฤโหดนานา ตั้งแต่หิ้งน้ำแข็งอันเย็นเยือกแถบอาร์กติกไปจนถึงภูเขาไฟใต้ทะเลที่พร้อมจะปะทุเมื่อปะทะชนวน โดยความหวังเพียงอย่างเดียวที่จะเอาชีวิตรอดได้ คือต้องกระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลัง แผนลวงสะท้านโลก นี้
ที่ปกหลังหนังสือมีคำโปรยไว้ว่า ...'ผลงานจบในเล่มอีกเรื่องหนึ่งของแดน บราวน์ ที่สนุกชวนติดตามเทียบเคียงได้กับ ชุดโรเบิร์ต แลงดอน ด้วยเรื่องตื่นเต้นไฮเทค ที่จะพาผู้อ่านตะลุยห้วงลึกล้ำอันเย็นเยือกแห่งมหาสมุทรอาร์กติกไปจนถึงจุดสูงสุดอันเต็มไปด้วยการคิดคดทรยศของอำนาจใจกรุงวอชิงตัน' ชุดโรเบิร์ต แลงดอน ที่ว่านี้คือ เทวากับซาตาน (Angels & Demons, 2000) รหัสลับดาวินซี ( The Da Vinci Code, 2003) สาห์นลับที่สาปสูญ ( The lost symbol, 2009) และ สู่นรกภูมิ ( Inferno , 2013) สองเรื่องหลังยังไม่เคยอ่าน แต่ถ้าเทียบกับสองเรื่องแรก วิทยาศาสตร์อวกาศของ แผนลวงสะท้านโลก เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า วิทยาศาสตร์กับศาสนา การคัดเลือกพระสันตะปาปา-มหาวิหารแห่งโรมันคาทอลิก และสมาคมลับอิลลูมินาติของ เทวากับซาตาน ตั้งมาก แล้วก็ยังเข้าใจง่ายกว่า ศิลปะ วรรณกรรม ประวัติพระเยซูคริสต์ ปริศนาจอกศักดิ์สิทธิ์ ทฤษฎีสมคบคิดของคริสตจักรของ รหัสลับดาวินซี ตั้งเยอะ! จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้สนุกกว่าและชอบมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น .. การเข้าใจง่ายกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าใจได้ทั้งหมดหรอกนะคะ มีรายละเอียดปลีกย่อยของเรื่องของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ที่สติปัญญาส่วนตนคงไม่เอื้ออำนวยให้เข้าใจ .. ก็ดูแต่เมื่อเย็นนี้ที่นั่งดูฮาร์ดคอร์ข่าว เกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติการหน่วงน้ำเค็มที่ใช้หลักวิศวกรรมเข้าช่วยนั่งดูอยู่ตั้งนมตั้งนาน ไม่ว่าภาพหรือคำอธิบายพากันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา สรุปได้แค่ว่ามันคือ มวลน้ำจืดไล่น้ำเค็ม (แต่อย่าให้อธิบายนะว่ามันไล่ได้อย่างไร) การอ่านนิยายเรื่องนี้ก็คล้ายๆ กันแบบนั้น คงไม่อาจหาญกล่าวคำว่า 'เข้าใจ' ในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ธรณีวิทยา สมุทรศาสตร์ (วิทยาศาสตร์ทางทะเลและมหาสมุทร) ที่ผู้เขียนได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลมาเขียนบรรยายอะไรๆ ต่างๆ ในเรื่องนี้ แต่มันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้าใจเรื่องราวเลย ถ้าเราอ่านแล้วไม่เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเครื่องบินมันบินได้อย่างไร ก็อย่าไปใช้ความพยายามมากมาย เราอ่านแค่รับรู้และเข้าใจว่ามันบินได้ก็พอ (แค่เป็นการสมมติตัวอย่างน่ะนะ) แต่สำหรับคนหัวดี รับได้ง่ายในเรื่องเหล่านี้ หรือมีพื้นความรู้อยู่แล้ว คงอ่านได้มันส์มากแน่ๆ และเพราะข้อมูลต่างๆ ที่ผู้เขียนจัดให้ตามที่กล่าวมานั่นเอง ที่ทำให้นิยายเรื่องนี้ที่มีพลอตยิ่งใหญ่สมชื่อไทย...สะท้านโลก ให้ความรู้สึกว่าสมจริง น่าเชื่อถือ ซับซ้อน ตื่นเต้น ลุ้นลึก ระทึกใจ จึงไม่มีอะไรจะตินอกจากคำชมเชยว่า 'เหนือชั้น'
การค้นพบอะไรบางอย่างขององค์การนาซา (ไม่บอกหรอก ) แม้ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว แต่ก็มีความหมายต่อมวลมนุษชาติ ( ถึงบอกว่าพลอตใหญ่ไง อิอิ ) และมีความสำคัญมากพอจะเป็นเครื่องตัดสินว่า ใครจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐคนใหม่ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น มันคือเกมกลทางการเมือง เบื้องหน้าที่สวยหรู เบื้องหลังที่ฟอนเฟะ ซัคคารี เฮอร์นีย์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังคงต้องการจะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไปอีกวาระ เซดจ์วิก เซกซ์ตัน วุฒิสมาชิก ตัวเก็งสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ราเชล เซกซ์ตัน ลูกสาวของวุฒิสมาชิกเซดจ์วิก เซกซ์ตัน นักวิเคราะห์ข่าวกรองของสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติ (NRO : National Reconnaissance Office) ที่ขึ้นตรงต่อทำเนียบขาว นั่นหมายความว่าราเชลทำงานให้กับท่านประธานาธิบดี ที่เป็นคู่แข่งการเลือกตั้งของพ่อตัวเอง ไมเคิล ทอลล์แลนด์ นักสมุทรศาสตร์ที่มีชื่อเสียงจากการถ่ายทำรายการสารคดีเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้สมุทร ดร. คอร์กี้ มาลินสัน นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ลอว์เรนซ์ เอกสตรอมส์ ผู้บัญชาการนาซา วิลเลียม พิคเคอริง ผู้อำนวยการเอ็นอาร์โอ เจ้านายของราเชล มาร์โจรี เทนซ์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีเฮอร์นี แกเบรียลล์ แอช เลขานุการส่วนตัของวุฒิสมาชิกเซดจ์วิก เซกซ์ตัน นอร์ราห์ แมงเกอร์ นักวิทยาธารน้ำแข็ง (Glaciology) ดร.ไว่หลี หมิง นักบรรพชีวินวิทยา (Paleontology) โยลันดา โคล บรรณาธิการเนื้อข่าวของเอบีซีนิวส์ เดลต้าหนึ่ง, เดลต้าสอง, เดลต้าสาม สมาชิกกองกำลังเดลต้าฟอร์ซ สามหน่อเดลต้า เป็นตัวละครที่ชอบมากในเรื่องนี้ แม้บทบาทจะเป็นผู้ปฏิบัติการไล่ล่าสังหาร ที่มาของฉากแอคชั่นมันส์ๆ แต่ตามประสาคนชอบทหาร จึงยังชอบอยู่ เพราะการฆ่าของสามเดลต้านี้คือการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง มันคือภารกิจ เดลต้าฟอร์ซ ตามเชิงอรรถให้ข้อมูลไว้ว่า ก่อตั้งขึ้นในปี 1977 เพื่อปฏิบัติการตอบโต้การก่อการร้ายซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างนั้น เป็นหน่วยจรยุทธ์ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี ใช้อาวุธและอุปกรณ์ทันสมัย ทหารของกองกำลังเดลต้าฟอร์ซจะแบ่งย่อยออกเป็นกลุ่มเล็กๆ และรับคำสั่งในการปฏิบัติหน้าที่พิเศษที่มักต้องใช้ยุทธวิธีลับ เช่นเรื่องนี้ไงล่ะ ..ปฏิบัติการ และ ยุทธวิธีลับ คำสั่งคือคำสั่ง ไม่จำเป็นต้องถามหาเหตุผล ยึดมั่นในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย มุ่งทำให้สำเร็จแม้ต้องแลกด้วยชีวิต เมื่อสั่งให้รอต้องรอ เมื่อสั่งให้ฆ่า.. ต้องฆ่า
ชอบมากกับวิธีการเล่าเรื่อง ที่สลับกันไปมาระหว่าง เรื่องราวการเมืองที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน และเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่แถบขั้วโลกเหนืออาร์กติก ฐานที่ตั้งโครงการลับของนาซา การฆาตกรรม การหนีตาย การไล่ล่าตามติดไปจนถึงกลางกระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งสองด้านของเรื่องราว ต่างก็สนุกตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ส่วนตนจะชอบมากกว่าในด้านการเมืองที่กรุงวอชิงตัน เพราะมันเป็นเกมของเล่ห์เหลี่ยมที่ไม่ต้องใช้จินตนาการมากเหมือนฉากแอคชั่นไล่ล่าในอีกด้านที่ประหนึ่งเป็นหนังแอคชั่นสุดมันส์ของฮอลลีวู้ดที่มาในรูปแบบตัวหนังสือ นอกจากเรื่องราวมีความสนุกแล้ว ในการบรรยายหรือแม้แต่ในคำพูดของตัวละครยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อ่านแล้วชวนให้สนุกเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น รัฐบัญญัติบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมการแสวงประโยชน์เชิงพาณิชย์จากอวกาศ มูลนิธิพรมแดนอวกาศ ทฤษฏีเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก ภารกิจขององค์การนาซ่า เจตนารมย์เพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านอวกาศที่จะเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ แม้จะต้องทุ่มงบประมาณด้วยเงินภาษีของประชาชนเป็นจำนวนมหาศาล การทดลองอาวุธยุทธโธปกรณ์ของกองทัพสหรัฐฯ จานบินจากต่างดาว ฯลฯ หลายสิ่งหลายอย่าง ก็ทำลายการรับรู้ดั้งเดิม อย่างเรื่องจานบินเนี่ย ความอินในวัยเด็กของเราที่ชอบอ่านเรื่องเหล่านี้ .. ไม่เหลือชิ้นดี ภาพลักษณ์สุดเท่ของนาซ่าจากที่เราติดการรับรู้มาจากหนังฮอลลีวู้ด หมดกัน .. นี่หรือนาซ่า ช่างเต็มไปด้วยความสิ้นเปลืองและล้มเหลว แต่เนื่องจากเราไม่สามารถบอกได้ว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนเรื่องอำ เพราะอ่านแล้วมันเหมือนจะจริงไปซะทั้งหมด ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่อ่านเอาสนุกก็พอ หลายอย่างก็เชื่อว่าว่าจริง ตัวอย่างเช่น อาวุธหรือเครื่องมือต่างๆ ที่ทหารเดลต้าใช้ แม้ว่ามันจะน่าทึ่งขนาดนั้น แต่ก็คงจะถือว่า 'เด็กๆ' ถ้าเทียบกับที่เคยอ่านปฏิบัติการของหน่วยซีลกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมือที่น่าทึ่งกว่านั้นเยอะ
เรือดำน้ำ .. อ่านะ ทำไมมันจะเจ๋งขนาดนั้นไม่ได้ เมื่อตอนเย็นยังดูข่าวที่ออสเตรเลียใช้เรือดำน้ำขนาดเล็กปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 อยู่เลย แม้ว่ามันจะล้มเหลวก็เถอะ แล้วตอนนี้เพิ่งนึกถึงเรือดำน้ำ โคโลราโด ของซีรีย์เรื่อง Last Resort ขึ้นมา มันหน้าตาน่าจะประมาณนั้นเลย แต่ตอนอ่านไม่ได้นึกถึงอะไรหรอก มัวแต่ทึ่ง .. อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรือดำน้ำ การทดลองอะไรๆ ของกองทัพ หน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ถ้ามันจริงนะ .. หนังฮอลลีวู้ดก็ไม่ได้เว่อร์ไปซะทั้งหมดหรอก และสหรัฐก็เป็นมหาอำนาจที่น่ากลัวมาก 'ระบบอาวุธ' ของเฮลิคอปเตอร์จู่โจมคีโอวา คงเป็นอีกหนึ่งในรายการ 'มีอยู่จริง' ที่เจ๋งฝุดๆ
ในร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา แนวเขตที่แผ่นธรณีแปรสัณฐาน (เขตมุดตัวของเปลือกโลกที่แผ่นธรณีแปซิกฟิก ลอดลงไปใต้แผ่นธรณีมาเรียนา) จะสามารถมีมนุษย์หรือแม้แต่กระทั่งหุ่นยนต์หยั่งลึกลงไปถึงได้จริงหรือ ..ตอนอ่านไป ก็สงสัยไป ก็ไม่รู้สินะ ถ้าเป็นหุ่นยนต์น่าจะได้ ข่าววันก่อนก็มีการใช้หุ่นยนต์ลงไปค้นหา MH370 เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นมนุษย์ ก็..น่าจะได้.. มั้ง ถ้าลงไปกับเรือดำน้ำ หันไปเปิดวิกิพีเดียในตอนที่เขียนบล็อกนี้สักทีสิ เป็นเช่นนั้นจริงๆ มีมนุษย์ลงไปกับยานสำรวจน้ำลึก (แน่นอนว่าเป็น ทหารเรือและยานฯ ของกองทัพเรือสหรัฐ ) ถึงก้นร่องลึกได้สำเร็จเมื่อ 23 มกราคม 2503 และการค้นพบอะไรบางอย่างซึ่งเป็น 'เรื่องจริง' ในการสำรวจร่องลึกมาเรียนานี่เอง ที่ทำให้สะท้านถึงที่มาของ 'เรื่องแต่ง' Deception Point ดูเหมือนว่า แดน บราวน์ จะไม่ใช่แค่เหนือชั้นซะแล้วล่ะ แต่เป็น 'ขั้นเทพ' ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในความคุ้นเคยของชีวิต เวลาที่อ่านจึงสนุกตื่นเต้น ไม่ว่าอะไรก็น่าทึ่งไปหมด แต่หลังจากอ่านจบ นึกคิดถึงเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ในยุคปัจจุบัน เรื่องพวกนั้นก็น่าทึ่งน้อยลงไป ยกตัวอย่างง่ายๆ ดวงจันทร์มนุษย์เรายังฝ่าอวกาศไปเหยียบได้เลยนี่นา นับประสาอะไรกะแค่ก้นสมุทรกันล่ะเนาะ ว่าแล้วก็เปรี้ยวปากอยากสปอยล์เต็มแก่ แต่ต้องหักห้ามใจเต็มที่ เผื่อใครจะสนใจว่าใช่แนว ..อยากหามาอ่าน .. จะได้สนุกตื่นเต้นกับเรื่องราวได้เต็มๆ
Create Date : 17 เมษายน 2557 | | |
Last Update : 18 เมษายน 2557 18:55:31 น. |
Counter : 7094 Pageviews. |
| |
|
|
|