Group Blog
 
All blogs
 
กรงผีเสื้อ รักซ่อนอยู่ในความเคยชิน..ที่คลุมเคลือ



กรงผีเสื้อ  สีเจวี้ยน_เขียน  Wisnu_แปล
สำนักพิมพ์แจ่มใส  พิมพ์ครั้งที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘


เป็นที่รู้กันในหมู่ชาวยุทธ์ว่า ‘เยี่ยจิงหง’ ประมุขหอนางแอ่นนั้นคือบุคคลซึ่งไม่ควรไปตอแยด้วยมากที่สุด ผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่จำเป็นต้องเคารพ แค่หวาดกลัวเขาก็พอ ซึ่งความไร้น้ำใจนี้มิจำกัดเพียงในหมู่คนนอก แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงเหล่าสตรีทั้งหลายของเขาด้วย

‘ฉิวเตี๋ย’ คือหนึ่งในสตรีมากมายของเขา เพราะครอบครัวถูกฆ่าล้าง นางในยามนั้นที่ไร้อนาคต ไร้ที่ไป ไร้เป้าหมายใดในชีวิตจึงยอมแลกเกียรติยศศักดิ์ศรีเพื่อให้เขารับตัวนางไว้ ระยะเวลาหกปีเปลี่ยนนางจากคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ ให้กลายเป็นสตรีของดาวหายนะแห่งยุทธภพ!

ด้วยมีเสียงเล่าลือว่าฉิวเตี๋ยคือ ‘คนโปรด’นางจึงตกเป็นเป้าหมายของเหล่าผู้ที่หวังกุมจุดอ่อนเยี่ยจิงหง หากอันตรายที่พุ่งมายังนางก็ไม่ร้ายเท่าท่าทีของเขา เมื่อสถานการณ์ที่บังเกิดเหมือนเป็นโอกาสดีให้เขาสลัดนางทิ้งอย่างไม่ถนอมน้ำใจกัน!!


กี่รีวิวไม่อาจเรียกความสนใจได้เท่าคำสี่คำจากคอมเมนท์ที่อ่านพบผ่านตา"จักรพรรดิบัญชา"

"ตอนเริ่มเรื่องมาแนวๆ จักรพรรดิบัญชา"

"เรื่องนี้ทำให้นึกถึงเรื่องจักรพรรดิบัญชาเลย "

เพราะชอบเรื่องนั้น จึงสอยเรื่องนี้

 "ฉิวเตี๋ย" นางเป็นคนแรกที่ถูกพามาอยู่หอนางแอ่นในฐานะสตรีของประมุข "เยี่ยจิงหง"   ดาวร้ายแห่งยุทธภพที่คนมีคุณธรรมไม่อยากข้องแวะ คนไร้คุณธรรมก็ไม่อยากตอแยด้วย     ฉิวเตี๋ยก็เช่นกัน นางทั้งไม่อยากตอแย  ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา เป็นจุดความสนใจ  เพราะนิสัยอย่างเยี่ยจิงหง เขามักชอบทำให้คนสิ้นหวังที่จะมีความสงบสุข ฉิวเตี๋ยจึงมักจะหลบเลี่ยง อะไรก็ตามที่จะทำให้เขามองมาที่นาง และไม่ปล่อยให้นางได้อยู่อย่างสงบ  

ซึ่งจุดนี้เองที่มีความคล้ายคลึงกับนางเอกผู้เป็นสนมขององค์จักรพรรดิในเรื่อง จักรพรรดิบัญชา แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเหมือน เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องการชิงดีชิงเด่นในวังหลวง แต่เป็นเรื่องของยุทธภพที่ก็ไม่ใช่เนื้อเรื่องหลักที่เข้มข้นประการใด  เป็นเพียงส่วนประกอบให้มีเรื่องราวของความรักในวีถีชีวิตและคาแรคเตอร์ของพระเอกผู้เด่นดังในยุทธภพ (อย่างดาวร้ายหายนะ..นะ) 


ตั้งแต่อายุสิบสี่ปี   นานหกปีที่อยู่กับเขา ฉิวเตี๋ย ได้พยามทำตัวลีบเล็ก หลบเร้นตัวอย่างสงบเงียบอยู่ในเรือนเล็กๆ ที่มีชื่อว่า "เรือนผีเสื้อ"   แต่ถึงจะเป็นคนแรกที่เยี่ยจิงหงพากลับมและอยู่มานานถึงหกปี ก็ยังคงเป็นที่รับรู้กันว่านางไม่ได้ต่างจากสตรีอื่น ที่เยี่ยจิงหงพามาอยู่หอนางแอ่นในเวลาต่อมา ไม่ได้เป็นที่สนใจไยดี ไม่ได้เป็นที่รักใคร่โปรดปราน ไม่ได้มีความหมายใดพิเศษแตกต่างไปจากใครๆ ที่เคยเข้าออก มาอยู่แล้วก็จากไป เปลี่ยนคนเข้ามาใหม่ 

แต่ในเมื่อนางไม่ได้เป็นที่รักใคร่โปรดปราน ทำไมนางถึงอยู่ได้นานกว่าใครก็สุดรู้ 

ความจริง  จะเรียกว่ารักใคร่โปรดปรานหรือไม่  ใครเล่าจะรู้ 

เรือนเล็กๆ ของ ฉิวเตี๋ยแห่งนั้น เป็นเรือนพักผ่อนแท้จริงของเยี่ยจิงหง เรือนที่เขาจะหลับนอนอยู่ภายใต้ม่านมุ้งปักลวดลายวิจิตรของฉิวเตี๋ยอย่างสนิทกาย  และสนิทใจ 

ความแปลกของนิยายเรื่องนี้ คือ เหมือนจะไม่มีอะไรให้ติดใจ แต่ไม่รู้ทำไมถึงติดใจ

ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ คือ ไม่รู้พระเอกเขาคิดอะไร ต้องคิดเอาเองว่าเค้าคิดแบบนี้ แบบนั้น..มั้งนะ?  คำพูดของเขา  หมายความว่าเค้าต้องการรู้ล่ะสิว่า ...  ทดสอบลองใจล่ะสิว่า .....ตามแต่ใจเราจะคิดเลยค่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเค้าคิดแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า ไม่ได้เฉลย   การอ่านนิยายเรื่องนี้รอบแรกเรายังไม่ได้รู้สึกอะไรมากนะ  ย้อนกลับไปย่อหน้าก่อนหน้าเลยค่ะ  เหมือนไม่มีอะไรให้ติดใจ แต่ก็ตระหงิดๆ เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในใจ   นิยายที่แค่ชอบ  ไม่ได้ชอบมากมาย  กลับทำให้ต้องอ่านรอบสอง และกลายเป็นว่าชอบมากกว่าเดิม   นี่เป็นเรื่องแปลกจริงๆ

การอ่านรอบสองต่างกันกับรอบแรกตรงไหน ?

มันเหมือนกับสิ่งที่เราคิดว่าพระเอก ผู้คาดเดาไม่ได้ ไม่อาจรู้ทันความคิดการกระทำของเขานั้น  คิดอะไร รู้สึกอะไร  ทำแบบนั้นแบบนี้เพราะอะไร มันไม่ติดลังเลอีกแล้วว่าเราคิดเอาเอง  เมื่ออ่านซ้ำในลักษณะของการครุ่นคิดติดตามตามละเลียดอารมณ์ความรู้สึกไปกับทุกตัวอักษร คำพูด ในแต่ละสภาพการณ์แวดล้อม เหมือนกับอะไรที่ซุกซ่อนอยู่ในความผิวเผิน เราพบเจอมันจังๆ แล้วอินกับมัน  ไม่เหมือนรอบแรกที่อ่าน เหมือนเรารู้สึกแค่รอยจางๆ แล้วก็อ่านผ่านไป แบบไม่ค่อยแน่ใจนักว่า .. ใช่ป่าวว้า 

คงเป็นอย่างที่หลายๆ ให้ความเห็นตรงกันว่าเรื่องนี้ "ไม่หวาน"  เราเองก็รู้สึกอย่างนั้นในการอ่านรอบแรก  แทบจะไม่รู้สึกถึงความปรารถนาที่เรียกร้องต้องการเลย   อ่านอีกทีซิ  อ่านดีๆ จึงพบว่า เอ๊ย .. ไม่ใช่ละ เรื่องนี่ออกจะโรแมนติก  ความสัมพันธ์ทางกายที่เหมือนจะแค่แตะต้องนิดหน่อยนั้น ที่จริงแล้วเหมือนเป็นฉากเริ่มต้น .อิ..อิ...จนแทบจะไม่สังเกตในการอ่านรอบแรกเพราะไม่ได้หวือหวาน่าจิกหมอน ไม่รู้อ่านยังไงจึงเกิดความสงสัยขึ้นมาขณะหนึ่งว่าการมาเยือนเรือนผีเสื้อนั้น แค่กอด แล้วนอนหลับ ? ตกลงอยู่กันมาหกปีเค้ามีอะไรกันลึกซึ้งหรือเปล่า  อ่านรอบสองจึงประหลาดใจมากที่พบว่าก็ไม่เห็นจะต้องสงสัยอะไรเลยนี่น่า .. จากสัมผัสเริ่มต้นเบี่ยงเบนไปยังการพูดคุยของตัวละคร คล้ายผิวเผินมากจริงๆ แต่นึกภาพกายพัวพันต่อเนื่องที่ไม่ได้ถูกบรรยายรายละเอียดสิ อะหึๆ นั่นก็เป็นเรื่องชัดเจนอยู่แล้วว่าฉิวเตี๋ยเป็นที่ปรารถนาของเยี่ยจิงหง  (เอ๊ะ  นี่เรากำลังกล่าวถึงเรื่องอะไรเนี่ย Smiley )


--- ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนางคงคล้ายกับภูติผีเปลี่ยวเหงาที่สุดสองตนบนโลกที่เต็มไปด้วยผู้คน อยู่ด้วยกัน พึ่งพาอาศัยกันจนคุ้นเคย ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอันใดต่อกัน  นางเป็นเด็กกำพร้าผู้ฝากชีวิตไว้ในอุ้งมือแห่งโชคชะตา ไม่ว่าจะสถานที่ใดก็เหมือนกัน ต่างล้วนไม่มีความอบอุ่นให้  ก็เหมือนร่างกายที่ค่อนข้างเยียบเย็นนี้ของนาง เยี่ยจิงหงเองก็ไม่ต่าง ร่างกายของบุรุษหนุ่มผู้ซับซ้อนที่นางไม่เคยเข้าใจผู้นี้ก็เย็นยะเยือกไม่น้อยไปกว่ากันสักเท่าใด ยามเหมันตฤดูเขาและนางมักต้องแอบอิงอยู่ด้วยกันเป็นนานกว่าจะเริ่มรู้สึกอบอุ่น ส่วนช่วงเวลาอื่นๆ ก็มิเคยเป็นไปอย่างชื่นมื่น--

--บุรุษเช่นเขาหาได้ใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ชายหญิง ...ยิ่งไปกว่านั้น เขาและนางก็มิใช่คู่รักสมัครสมานกันแต่ประการใด---

---ไม่มีผู้ใดเข้าใจว่าเยี่ยจิงหงกำลังคิดสิ่งใด ไม่ว่าจะทายสักกี่ครั้งก็หามีผู้ใดสามารถให้คำตอบได้ บางทีอาจมีสตรีจำนวนไม่น้อยที่สนุกสนานกับการหาคำตอบอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่สำหรับสตรีที่มีอายุมากที่สุดอย่างฉิวเตี๋ย นางเลิกที่จะหาคำตอบจากความคิดที่ลึกล้ำราวทะเลไร้ซึ่งสรรพเสียงของเขามานานแล้ว---

ความรู้สึกนึกคิดของฉิวเตี๋ยถูกบรรยายราวกับว่า ไม่มีอะไร ไม่รู้สึกยินดียินร้าย ทุกข์ร้อน สนใจ ใส่ใจ เพราะเยี่ยจิงหง ไม่ใช่คนที่นางหรือใครจะสามารถเข้าใจเขาได้  แต่ความรู้สึกที่ได้จากการบรรยายลักษณะนั้นกลับส่งผลตรงกันข้ามว่าทั้งหมดที่เหมือนกับไม่รู้สึก ไม่เข้าใจนั่นแหละ คือความเข้าใจถ่องแท้ ความไม่รู้สึกอะไรนั่นแหละคือการยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ยอมรับทุกอย่าง  ที่เหมือนจะเข้าใจสถานะตัวเองนั่นต่างหาก ที่สื่อได้ว่าที่จริงแล้วฉิวเตี๋ยไม่เข้าใจตัวเอง  ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เคยปฏิเสธ ทำไมถึงโอนอ่อนผ่อนตามไม่ว่ากายหรือใจ  อาจไม่ได้ยินดีแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนที่จะอยู่ในกรงผีเสื้อ  ในอ้อมแขนที่ไม่ปรารถนาจะยอมรับว่าเขาคือ บุรุษของตน คือ นิยามของคำว่า ความสุข

ฉิวเตี๋ยอาจจะวางตัวสงบเงียบเชียบ แต่ไม่ได้หมายความว่านางไม่เฉลียวฉลาด นางมีเชาว์ปัญญามากพอที่เยี่ยจิงหงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ แม้แค่เอ่ยคำเพียงนิด นางย่อมรู้แจ้งแก่ใจดี เพียงแต่จะยอมรับหรือไม่ก็เท่านั้น


" กำเนิดทายาทให้ข้าสักคนได้หรือไม่"

" ข้าไม่ปรารถนาจะรออีกต่อไป"

"ชาตินี้ทั้งชาติเจ้าอย่าได้หวังอื่นใดเลย เรื่องนี้เจ้าคงรู้ดีแก่ใจกระมัง...."

"อย่าได้คิดหวังอะไรลมๆ แล้งๆ หากจะคิดก็ให้คิดอะไรที่เป็นจริงสักหน่อย  
คิดถึงสิ่งที่เอื้อมมือคว้าได้ ..อย่างเช่นความสุข  หลังจากนั้นก็มาขอกับข้า"

"รู้หรือไม่ ทำไมข้าถึงฝากจักจั่นเหมันต์ไว้กับเจ้า"

"มีเวลาว่างก็ลองใคร่ครวญดู...อืม บางทีเจ้าน่าจะแบ่งเวลาเหม่อลอย
ให้กับบุรุษของเจ้าบ้าง นี่นับเป็นหนึ่งในงานของเจ้าเช่นกัน จงอย่าได้ละเลย"

"ฉิวเตี๋ย ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่  เจ้าห้ามชอบผู้ใดทั้งสิ้น ได้ยินชัดหรือไม่"

"อย่าพูดอะไรตรงข้ามกับที่ใจเจ้าคิด เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีทางยินยอมให้เกิดขึ้นได้"

"ฉิวเตี๋ย เจ้ารู้จักข้าดี หลายปีมานี้ข้าเพียงคล้อยตามเจ้าก็เท่านั้น เจ้ารู้ว่าข้าต้องการเจ้า 
 นอกจากข้าตาย เจ้าถึงจะไปรักผู้อื่นได้ ตอนนี้โอกาสเป็นของเจ้าแล้ว .."

"เจ้ามีใจให้ข้า"

ระหว่างเจ้ากับข้าจึงมิจำเป็นต้องเปิดใจหรือเข้าใจอะไรกันมากมาย ไยต้องมีคำรัก คำบรรยายอารมณ์ความรู้สึกให้มากความ เอ่ยเพียงเท่านี้ เจ้าก็เข้าใจใช่หรือไม่ ข้ารู้ เจ้ารู้  เราต่างรู้กันอยู่แก่ใจ เจ้าเป็นสตรีของข้า ข้าเป็นบุรุษของเจ้า หากข้าไม่ตาย เจ้ากับข้าย่อมไม่มีวันได้แปรผันเป็นอื่น

นี่เป็นเรื่องราวความรักที่ชอบค่ะ  ทั้งเรื่องแทบไม่มีการบรรยายถึงความรู้สึกนึกคิดของพระเอกเลย ซึ่งเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจมากกับการที่ต้องทำความเข้าใจเอาเองว่าแต่ละอย่างที่พูดที่ทำ  ...อะไรของแก๊ ?  เปรียบได้ว่าเรากำลังพยายามเข้าใจโลกส่วนตัวสูงของมนุษย์ติสต์แตกผู้หนึ่ง  ที่มันไม่ได้ยากจะเข้าใจว่าเขารักสตรีนางหนึ่งที่เป็น "ของข้า" เสมอมา

จากการอ่านรอบแรก คิดว่าคงไม่มีอะไรติดตรึงให้ต้องเขียนถึงมากนัก
อ่านรอบสอง กลายเป็นมีมากมายให้อยากเขียนถึงซะงั้น  .. ช่างเป็นนิยายที่แปลกจริงๆ
ติดใจเสียแล้ว นามผู้แต่งท่านนี้ "สีเจวี้ยน" 




Create Date : 02 กรกฎาคม 2558
Last Update : 11 กันยายน 2558 22:28:26 น. 3 comments
Counter : 1311 Pageviews.

 
นามปากกานี้น่าสนใจค่ะ มีดองจักรพรรดิบัญชาไว้เนิ่นนานแล้ว ไม่ได้หยิบอ่านเสียที เรื่องนี้ก็น่าอ่าน


โดย: kunaom วันที่: 2 กรกฎาคม 2558 เวลา:17:40:51 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากเหมือนกันค่ะ คิดเหมือนกันว่าตาพระเอกนี่เดาใจยาก สนุกกับการเดาว่าฮีจะทำอะไรต่อไปดี

ชุดจักรพรรดิบัญชาซื้อมาตอนลดราคา ยังดองอยู่เลยค่ะ เดี๋ยวหาเวลาอ่านบ้าง


โดย: ออโอ วันที่: 2 กรกฎาคม 2558 เวลา:17:59:32 น.  

 
เรื่อง จักรพรรดิบัญชา แล้วเราอ่านเฉย ๆ นะคะ ไม่ได้ติดอะไรมาก

แต่ ประโยคนี้ของคุณprysang "เหมือนจะไม่มีอะไรให้ติดใจ แต่ไม่รู้ทำไมถึงติดใจ"

มันทำให้เราอยากอ่านเล่มนี้ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ



โดย: Serverlus วันที่: 3 กรกฎาคม 2558 เวลา:13:03:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.