House Rules บริสุทธิ์อยุติธรรม
House Rules บริสุทธิ์อยุติธรรม
เจค็อบ ฮันห์ เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี มีอาการโรคแอสเพอร์เกอร์ส เขาต้องกินอาหารที่แบ่งสีตามวัน ต้องนั่งที่เบาะหลังฝั่งคนขับเสมอเวลานั่งรถ ต้องตื่นหกโมงครึ่ง ต้องดูซีรี่ส์เรื่องโปรดตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง และไม่เชี่ยวชาญในการเข้าสังคม แต่ถ้าไม่นับเรื่องเหล่านั้นก็ถือว่าเขาเป็นอัจฉริยะ เจค็อบหลงไหลในสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรมแบบถอนตัวไม่ขึ้น เขามักจะไขคดีได้ก่อนเจ้าหน้าที่เสมอ ชีวิตของเขาราบรื่นดี เพียงแต่ว่า... วันหนึ่ง เจสส์ ครูสอนพิเศษสุดที่รักของเขาเสียชีวิตลงอย่างมีเงื่อนงำ บังเอิญว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่วันเธอพึ่งมีปากเสียงกับเจค็อบ และบังเอิญว่าบนร่างของเธอนั้นมีผ้าห่มของเจค็อบคลุมอยู่ เจค็อบตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ เรื่องทุกอย่างทำให้เกิดคำถามที่ว่า เจค็อบฆ่าคนได้หรือไม่!!!
"จากคนน่าสงสาร กลายเป็นผู้ต้องสงสัย เบาะแสที่ต้องสืบสวน กับความจริงที่ต้องรีดเค้นออกมา"
ผลงานของโจดี ปีเคต์ สุดยอดนักเขียนขายดีอันดับหนึ่ง
ฉลาด ถูกจุด นี่คืองานที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งของโจดี ปิโคต์ - USA Today
ปิโคต์เขียนได้คมกริบ - ฺBookpage
ปิโคต์เป็นนักเขียนที่หยิบหัวข้อใหญ่ๆ มาเขียนได้อย่างลื่นไหล ด้วยความเป็นมืออาชีพ - Huffington Post
เห็น International Bestseller ที่ไหน รับรองว่าจะไม่คิดมาก แต่เอ่ยอย่างนี้ใช้ว่า Bestseller แล้วจะเลิศเลอถูกจริตเราเสมอไปหรอกนะคะ แต่ก็เชื่อได้ว่ามีคนไม่น้อยลงความเห็นในแง่ดีจนขายดี และจากประสบการณ์ ก็กลายเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของเราไปแล้วว่าถ้าแปะคำนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยผิดหวัง กำลังอยากอ่านแนวนี้อยู่พอดีด้วย เห็นปก ประสานดวงตา เล่มหนาน่าสะใจ ซื้อเลย
๗๐๔ หน้า ใช้เวลา ๒ คืน ๑ วัน จึงอ่านจบ
เป็นหนังสือที่ดีเกินไปในการแบกกลับไปอ่านที่บ้านในวันหยุด เพราะติดหนังสือจนแทบจะไม่ได้เงยหน้าคุยกับใครมากนัก (นิสัยไม่ดีจริงๆ) ชวนติดตามอ่านได้รื่นไหลไปเรื่อยๆ อ่านเพียง ๑ ใน ๕ ส่วน ก็เริ่มมั่นใจเลยว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นหิ้งระดับประทับใจแน่นอน (และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ)
ความพิเศษที่ชอบแตกต่างจากหนังสือเล่มอื่นๆ คือ การบอกเล่าดำเนินเรื่องราวจากตัวละครหลายคน
เจค็อบ ฮันท์ : เด็กหนุ่มวัย ๑๘ ปีที่เป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ส (กลุ่มอาการหนึ่งของโรคออทิสติก) ฉลาดเป็นกรดเข้าขั้นอัจฉริยะ แต่บกพร่องในการสื่อสารและพฤติกรรมทางสังคม บุคลิกลักษณะที่ทำให้ถูกขังอยู่ในโลกของตัวเอง แต่ขณะเดียวกันก็ยังต้องการที่จะสร้างสัมพันธภาพกับคนอื่น เจค็อบที่พยายามจะทำตัวเหมือนคนอื่น มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เข้าสังคมได้ๆ แต่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร
เพียงแค่การดำเนินเรื่องผ่าน "เจค็อบ" ก็ทำเอาทึ่งแล้ว แม้ไม่รู้จักโรคแอสเพอร์เกิร์สว่าเป็นอย่างไรมาก่อน แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง เหตุผล พฤติกรรม อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ที่ไม่ใช่ในแบบคนปกติธรรมดาทั่วไป แต่เป็นคนที่แตกต่างในทางกลไกการทำงานของสมองอันมีผลมาจากโรคแอสเพอร์เกิร์ส ทำให้เจค็อบทั้งน่ารัก น่าสงสาร และน่าทึ่ง
เอ็มม่า ฮันท์ : ความรักใดจะยิ่งใหญ่เท่ารักของแม่ ความอุทิศทุ่มเทเพื่อบำบัดรักษาเจค็อมเมื่อครั้งที่เขายังเล็ก ก่อเกิดปัญหาในชีวิตคู่เกินกว่าจะทนแบกรับไหวจนต้องแยกทางกันไป เอ็มม่าต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่เลี้ยงดูลูกชายสองคนเพียงลำพัง
ธีโอ ฮันท์ : น้องชายของเจค็อบ เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีที่ต้องทนแบกรับสภาพการณ์ที่มีพี่ชายเป็นโรคแอสเพอร์เกิร์ส อย่างง่ายๆ เลย เจค็อบเป็นศูนย์กลางของจักรวาลที่ธีโอเอง ต้องปรับตัวให้อยู่ในสมดุลของพี่ชายตลอดเวลา อย่างต่อมาแม่เป็นของเจค็อบ แม้พร้อมจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งเขา เพราะเจค็อบต้องมาก่อนเสมอ มีมากมายหลายสิ่งในชีวิตที่ธีโอไม่อาจมี ไม่อาจได้ เหมือนคนปกติอื่นทั่วไป และตัวเขาก็เหมือนกับว่าต้องเป็นพี่ชายให้กับพี่ชายของตัวเองอยู่เสมอ
'ดูแลพี่ชาย/น้องชายของเรา เพราะเรามีเขาคนเดียวเท่านั้น'
มันคือหนึ่งในกฏประจำบ้านที่ไม่เคยมีเขียนไว้ที่ไหนสักแห่ง แต่ธีโอรู้ดีว่ามันเป็นกฏ
ถ้าเรื่องถูกเล่าโดยเอ็มม่า เราจะรู้สึกถึงความรักความอบอุ่นของแม่ ตลอดจนความทุ่มเท ความเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส ความกล้ำกลืนต่อชีวิตที่อยากมีอยากเป็น -- แต่มันก็แค่ความฝันที่ต้องยอมรับว่ามันเป็นไปไม่ได้
ถ้าเรื่องถูกเล่าโดยธีโอ เด็กหนุ่มที่เกลียดชังชีวิตในแบบที่เป็นซึ่งขัดแย้งกันอยู่กับความรักความผูกพันที่มีต่อแม่และพี่ชาย ความรู้สึกนึกคิดของเขาจะสื่อผ่านสำนึกดีสำนึกร้ายที่เรารู้สึกว่าอ่านแล้วมันปวดร้าวใจจัง
นอกจากสามคนหลักในครอบครัว ฮันน์ นี้แล้ว เรื่องยังเล่าจากบุคคลภายนอกอย่าง "เจ้าหน้าที่สืบสวนริช แมทสัน" ผู้ทำงานตามหน้าที่ เมื่ออ้างอิงจากประจักษ์หลักฐาน เขาจึงต้องจับกุมเจค็อบในฐานะผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรสังหารครูสอนพิเศษของตนเอง" เจสส์ โอกิลวี" นำมาซึ่งการต่อสู้คดีความในชั้นศาลของเจค็อบ ที่ชักนำให้ "โอลิเวอร์ บอนด์" ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นทนายแก้ต่าง แต่เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ในเมื่อเขาเป็นเพียงทนายความตกอับ หน้ายังอ่อน ฝีมือยังใหม่ และไม่เคยว่าความคดีใดๆ มาก่อนในคดีอาญา
งานหินกว่านั้น เจค็อบ ไม่ใช่จำเลยปกติธรรมดา เขาเป็นโรคแอสเพอร์เกิร์สผู้แสนจะซื่อตรงต่อกฏของเขาเอง และเขายังเฉลียวฉลาดขั้นอัจฉริยะที่ใช่ว่าจะชักจูงให้เล่นตามเกมได้ง่ายๆ
และยังต้องมาเจออัยการฝ่ายโจทย์เขี้ยวลากดิน "เฮเลน ชาร์ป" ที่พรั่งพร้อมด้วยหลักฐานทุกประการสำหรับการมัดตัวเจค็อบว่าเป็นฆาตกร
เจค็อบฉลาดล้ำเกินกว่าจะปล่อยให้ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมได้ แต่เจค็อบก็ตกเป็นผู้ต้องหาว่าเป็นฆาตกรได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความขัดแย้งกันเองสองประการนี้ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งเดียวกันนั่นคือตัวตนของเจค็อบที่เป็นโรคแอสเพอร์เกิร์ส -- อาการของโรค การสื่อสาร กลไกการทำงานของสมอง ที่การขึ้นเบิกความในศาลพิจารณคดีอาจส่งผลทางคุณหรือโทษให้เจค็อบ จะถูกตัดสินให้ต้องไปลงเอยในคุก หรือจะเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ทำหรือไม่ได้ทำ-- อ่านแล้วสนุกมาก
คำนำสำนักพิมพ์
คุณจะรู้สึกอย่างไร หากลูกน้อยที่เป็นความหวังเดียวกลายเป็นเด็กที่มีอาการของกลุ่มโรคออทิสติก คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้ารู้ว่าลูกของคุณจะไม่มีวันดูแลตัวเองได้ไปตลอดชีวิต แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อลูกที่น่าสงสารของคุณกลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม
นิยายที่คุณกำลังถืออยู่นี้เป็นเรื่องของเด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความผิดปกติ ไอคิวของเขาอยู่ในขั้นอัจฉริยะ เขาหลงใหลในสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม แต่วันหนึ่งเขากลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยเสียเอง
เรื่องราวอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ จะทำให้คุณปวดร้าว สะเทือนใจ ประทับใจ และอาจจะค้างคาอยู่ในใจคุณไปอีกนานแสนนาน
แพรวสำนักพิมพ์ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
นิยายสืบสวนนี่เนอะ เอ่ยอะไรมากไม่ได้ แต่อ่านแล้วตามนั้นเลยค่ะ ปวดร้าว สะเทือนซาง ยังค้างคา แต่ว่านี่คือความ "ประทับใจ"
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2558 21:54:56 น. |
|
7 comments
|
Counter : 3707 Pageviews. |
|
|
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแบบนี้เลยครับ
แปะหัวใจให้