วรรณกรรมแนวอาชญากรรมที่จะพานักอ่านติดตามนักล้วงกระเป๋าผู้พลัดหลงในบ่วงแห่งชะตากรรม พบกับชีวิตที่น่าหวาดหวั่น สิ้นหวัง ตะเกียกตะกาย สัมผัสกลเม็ดเคล็ดลับ ปฏิภาณไหวพริบในการ ล้วง ด้วยการดำเนินเรื่องกระชับฉับไว ตื่นเต้นเร้าใจ หนังสือเล่มนี้จะติดตรึงใจท่านไปอีกนานแสนนาน
นักล้วงกระเป๋าหนุ่มมือฉกาจ ไร้ญาติ ไร้เพื่อน ไร้พวกพ้อง แต่ไม่ไร้ซึ่งอดีต และอดีตนั้นย้อนกลับมาฉุดรั้ง ลากเขาเข้าสู่การตกเป็นเครื่องมือกระทำการอุกอาจ ตกเป็นประหนึ่งเบี้ยบนกระดานที่ถูกควบคุมไร้สิ้นหนทางจะปฏิเสธ ถูกกลุ่มอาชญากรร้ายกาจบังคับให้ใช้ความสามารถของเขาทำงานให้ แลกกับสวัสดิภาพของตน และของผู้คนที่เขามีน้ำใจด้วย
ไม่มีขุดคุ้ยชีวิตน้ำเน่าเอาดราม่า เพราะชีวิตจะเป็นมาเช่นไรก็คงไม่ใช่เหตุผลที่จะใช้อ้างได้สำหรับการกระทำผิด และตัวเขาเองผู้เป็นนักล้วงฝีมือฉมังก็ไม่เคยรู้สึกผิดใดต่อการกระทำ แต่เขารู้..ว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่ดี และเขารู้ว่าชีวิตมันเป็นเช่นไรเมื่อก้าวล่วงสู่เส้นทางนี้ เส้นทางที่เขาได้พยายามปกป้องใครอีกคนไม่ให้ก้าวเข้ามา ใครสักคนที่เขามีน้ำใจด้วย ไม่ใช่ครอบครัว ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่คนรัก แต่เป็นเด็กคนหนึ่งที่มีแววจะเติบโตเป็นนักล้วงฝีมือฉกาจในอนาคตต หรือไม่ก็อาจไม่มีอนาคตเพราะถูกจับได้เสียตั้งแต่เด็กในโทษฐานหัวขโมย
ความสัมพันธ์ของ "เขา" นักล้วงหนุ่มมือโปรกับนักล้วงวัยละอ่อน "เด็กคนนั้น" ได้ใจไปเต็มๆ
คนคุมเบี้ยกระดานคนนั้น ที่เข้ามาบงการชีวิต กำโชคชะตา ดึงดูดความสนใจไว้ได้ตลอด
"ข้าจะปล่อยแกไป แอบขอบคุณข้าอยู่ที่ไหนสักแห่งด้วย"
"เรื่องเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนเบื้องบน เป็นแผลฉกรรจ์ถึงชีวิตสำหรับคนเบื้องล่าง"้
เมื่อแหงนมองจากตรอกสกปรกซึ่งเรียงรายไปด้วยห้องแถวกับอพาร์ตเมนท์เตี้ยๆ จะมองเห็นหอคอยนั้นพร่ามัวเสมอ เป็นหอคอยถูกหมอกปกคลุม เส้นโครงสร้างเลือนรางคล้ายฝันกลางวันในวันเก่าๆ หอคอยนั้นเคร่งขรึมและสูงจนมองไม่เห็นปลาย คล้ายกับหอคอยของต่างประเทศที่ไหนสักแห่ง งดงามและห่างไกล จนคิดว่าเดินอย่างไรก็ไม่มีวันไปถึง
-----
ขณะที่กระพริบตา ภาพหอคอยเหล็กมหึมาก็ผ่านหน้าผมไปพร้อมกับเสียงดังสนั่น แม้เพียงชั่วพริบตาเดียวแต่ผมตัวเกร็งในทันที หอคอยเหล็กนั้นสูงและดูเหมือนส่งสายตาอย่างไม่ใส่ใจมายังตัวผมที่กำลังอยู่ท่ามกลางฝูงชนบนรถไฟขบวนี้
------
ผมคิดขโมยอะไรบางอย่างจนกว่าจะมองไม่เห็น หอคอยนั้น ดำดิ่งต่ำลง และต่ำลงเข้าสู่เงามืดและเงามืด คิดว่าขโมยมากเท่าไรตนก็ยิ่งห่างไกลจากหอคอยมากขึ้นเท่านั้น
------
มีหอคอยอยู่ไกลโพ้น หอคอยเพียงแค่อยู่ห่างจากผม ซ่อนตัวในหมอก ตั้งสูงตระหง่านอยู่เช่นนั้นโดยปราศจากเรื่องราวที่จะพูดกับผม
------
ตอนนี้แหละ หอคอยนั้นคงจะพูดอะไรกับผมเสียที เพราะหอคอยนั้นตั้งตระหง่านต่อเนื่องมานานแสนนาน ทว่าหอคอยนั้นก็ยังคงแค่ตั้งอย่างงดงามอยู่ไกลโพ้น ไม่ยอมรับหรือต่อต้านผมซึ่งรู้สึกรื่นรมย์ท่ามกลางความอับอาย แล้วผมก็หลับตาลง
------
หอคอยยังอยู่ในที่อันไกลโพ้นเสมอ
หอคอยแห่งนั้นผูกพันสื่อความหมายจากความรู้สึกในส่วนลึกของจิตใจ สื่อถึงเราผู้อ่านอย่างมีชั้นเชิงว่าตัวละครกำลังรู้สึกเช่นไร มันอาจจะไม่เชิงเป็นความรู้สึกชัดเจนว่า เจ็บปวด เหงา โดดเดี่ยว แต่ก็ทำให้เราเข้าใจภาวะความรู้สึกบางอย่างของตัวละครขณะนั้น ซึ่งในการอ่านนิยายเราจะชอบการสื่ออารมณ์ความรู้สึกในลักษณะนี้เป็นพิเศษค่ะ
เป็นผลงานเรื่องที่แปดของผู้เขียน แต่เป็นเรื่องแรกที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นหนังสือดีเด่นประจำเดือนมีนาคม 2012 จาก อะเมซอนดอทคอม และเป็น 1 ใน10 หนังสือแห่งปีของหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เข้ารอบสุดท้ายรางวัลหนังสือยอดเยี่ยมปี 2012 ของหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทม์
เสริมสรรพคุณมาให้นะคะ เผื่อจะใช้ประกอบการพิจารณา ^^