เมื่อเอซึเกะต้องใช้ชีวิตร่วมกับภรรยาซึ่งอยู่ในร่างของลูกสาวและนาโอโกะมีโอกาสได้เลือกชีวิตวัยรุ่นของเธอใหม่อีกครั้ง เขาและเธอจะดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปกันอย่างไร..ขณะที่ต้องเก็บความลับอันยิ่งใหญ่นี้ไว้
ตามที่คำนำสำนักพิมพ์ได้บอกถึงลักษณะของนิยายเรื่องนี้เอาไว้อย่าง..ใช่แล้ว เห็นด้วย เราจึงไม่ต้องเหนื่อยกับการพยายามสรรหาถ้อยคำมาบอกกล่าวแนะนำเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้เลย
(คำนำสำนักพิมพ์)....
.....นิยายเรื่อง ความลับ ไม่เพียงจะปราศจากการฆาตกรรม แต่กลับชวนให้ลุ้นด้วยเหตุการณ์แสนประหลาดและชนะใจนักอ่านด้วยอรรถรสแห่ง 'ชีวิต' ที่เป็นแก่นของงานเขียนเชิงดรามา สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ ความลับ โดดเด่นจากนิยายลึกลับเล่มอื่น
คุณผู้อ่านจะได้ตื่นเต้นไปกับชะตากรรมลึกลับของเฮซึเกะ ผู้ซื่งภรรยาชื่อนาโอโกะร่างตายจาก แต่วิญญาณกลับอยู่ในร่างของลูกสาวนามโมนามิที่กายยังอยู่ทว่าวิญญาณล่วงลับไป เฮซึเกะกับนาโอโกะพยายามรักษาครอบครัวของตนเอาไว้ภายใต้ความลับนี้
ซึ่งขณะที่ชีวิตดำเนินไปนั้นเอง อารมณ์อันอ่อนโยนลึกซึ้งของความรักความสัมพันธ์ระหว่างเฮซึเกะกับนาโอโกะจะหลอมละลายให้หัวใจของคุณต้องสั่นไหว ให้ต้องทึ่งกับอรรถรสที่แตกต่างจากหนังสือเล่มอื่น ....
ความลับ ประสบความสำเร็จทั้งการขายและได้รับการชื่นชมในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการโหวตจากนักอ่านทั่วประเทศให้เป็น Best Mystery ประจำปี 1998 และได้รับรางวัลชนะเลิศจากสมาคมนิยายสืบสวนของญี่ปุ่นในปี 1999 แม้ว่าจะเป็นนิยายที่ปราศจากฆาตกรรม!
ในตอนที่เสิร์ชหาข้อมูลแนะนำนิยายสืบสวน หรือแม้แต่ข้อมูลนิยายของฮิงาชิโนะ เคโงะเอง ก็พบว่ามีนักอ่านหลายคนที่เอ่ยถึงนิยายเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ชอบที่สุดของเคโงะ และการหาข้อมูลที่ว่านี่เองทำให้พบว่า ทำไมถึงได้ถูกโฉลกกับนิยายของเคโงะนัก เพิ่งจะรู้ค่ะว่าซีรีย์สืบสวนของญี่ปุ่นที่เคยดูและชื่นชอบก็เป็นเรื่องที่สร้างมาจากนิยายของเคโงะนี่เอง
ฆาตกรรมคืนฝนดาวตก ชื่อที่มีคนแปลซีรีย์ Ryusei No Kizuna ออกมาเป็นไทยคือ "สายสัมพันธ์แห่งดาวตก" และชื่อซีรีย์นี่เองที่ทำให้ปิ๊งกับสามคำสั้นๆ อันบ่งบอกถึงลักษณะนิยายของเคโงะที่ทำให้เราชอบมาตลอดทั้งสามเล่มที่ได้อ่าน พระอาทิตย์เที่ยงคืน จดหมายจากฆาตกร และ ความลับ ลักษณะที่ว่านั้นคือ "สายสัมพันธ์" ของตัวละครทั้งสามเรื่อง เคโงะเขียนได้จับอารมณ์และความรู้สึกมาก
"ความลับ" แม้จะรู้สึกว่าเรื่องเอื่อยๆ ในช่วงแรก แต่เมื่อชีวิตของเฮซึเกะที่อยู่ร่วมทางจิตใจกับจิตวิญญาณของภรรยาที่อยู่ในร่างกายของลูกสาว ได้ดำเนินไประยะหนึ่ง มันก่อเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้รู้สึกพิอักพิอ่วนใจ มันจะเจ็บปวดก็ไม่ใช่ จะไม่เจ็บปวดก็ไม่เชิง เพราะกายลูกยังอยู่ จิตวิญญาณของภรรยาก็ยังอยู่ เหมือนกับเฮซึเกะจะสูญเสีย ก็ไม่ใช่ว่าสูญเสียทั้งหมด เหมือนกับว่าจะได้ ก็ไม่ใช่ว่าได้ทั้งหมด มันเป็นความครึ่งๆ กลาง ที่แม้เราคนอ่านเองยังรู้สึกอึดอัดคับข้องใจ แต่ก็ยังอยากรู้อยากอ่านไปเรื่อยๆ ว่าเรื่องราวความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ที่เหลืออยู่ประมาณ ๘๐ หน้า ( ๘๐ หน้าอีกละ ตอนอ่านกับดักทะเลทราย ก็มีจุดเปลี่ยน ณ ประมาณ ๘๐ หน้า ที่เหลือ) ดันเกิดความรู้สึกกลัวใจผู้เขียน กลัวบทสรุปอันจะเป็นจุดจบของเรื่องราว .. ถึงกับหยุดอ่านไปซะดื้อๆ ขอตั้งหลักเตรียมใจก่อน .. แต่ก็นึกถึงนิยายเรื่องนี้ทุกวันขณะที่หันไปอ่านเรื่องอื่น เพราะยังอ่านไม่จบ และอยากรู้ .. แต่ก็กลัวที่จะรู้ ..
ที่สุดแล้วคนเราก็ต้องเลือกเอาสักอย่างหนึ่งนะคะ ถ้าอยากรู้ก็คงต้องอ่านให้เสร็จสิ้นไป ปรากฏว่ามันไม่ใช่การจบที่น่าหวั่นใจอย่างที่นึกกลัว ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียนทางออกและบทสรุปของเรื่องนี้ได้ดีมาก ซึ่งก่อนที่จะเป็นแบบนั้นเราก็แอบหลงทางไปอยู่เหมือนกัน พลางนึกว่าจะเอาแบบนี้จริงๆ น่ะเหรอ นั่นจะเป็นทางลงทางเลือกที่อาจไม่ถือว่าง่าย แต่ในแง่ของนิยายมันจะธรรมดาไปนะ ทั้งที่ ถ้าหากมันเป็นแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่เราหวังจะให้มันเป็นมาตลอดที่อ่านนิยายเรื่องนี้
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า การจบของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ถูกใจในความรู้สึกที่อยากจะให้มันเป็น แต่ถูกใจในแง่ของการเป็นนิยายที่ทำให้รู้สึกชื่นชมในฝีมือ "ความลับ" ทำให้เราเชื่อว่าถ้ามันเป็นเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางออกใดที่จะดีไปกว่านั้นอีกแล้ว ซึ่งการจะมีทางออกนี้ และการที่จะยอมรับมัน .. ต้องอาศัยทั้งความรัก ความปรารถนาดีที่จะทำให้คนที่รักมีความสุข ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งมากจึงจะกล้าหาญ ตัดสินใจ และเผชิญหน้ากับสิ่งที่เป็นไปในความเป็นจริง
มีใครคนหนึ่งเคยกล่าวว่า นิยายของฮิงาชิโนะ เคโงะ
ไม่ว่าจะจบอย่างไรจะทิ้งความรู้สึกหน่วงใจบางอย่างเอาไว้เสมอ
จากที่อ่านสามเรื่องผ่านมา ..เราเห็นด้วยกับคำกล่าวนั้น
พระอาทิตย์เที่ยงคืน เป็นความหม่นมืด มัวหมอง และมีความหนักหน่วงบางประการที่แตกต่างจากความลับ และ จดหมายจากฆาตกร จนไม่สามารถหยิบมาตัดสินด้วยกันได้ ถ้าจะถามว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุด
แต่ถ้าเป็น ความลับ กับ จดหมายจากฆาตกร ชอบเรื่องหลังมากกว่า เพราะในยามอ่านนั้นสามารถรื่นไหลไปตามอารมณ์ได้จนสุด สุขยินดี เศร้าขมขื่น หรือร้องไห้น้ำตาไหลพราก..ร้องแบบเต็มที่ให้สบายใจ (อ่ะนะ) แต่ความลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ความสัมพันธ์ของตัวละครมันเป็นความอิหลักอิเหลื่อ ครึ่งๆ กลางๆ สุขก็ไม่ใช่ เศร้าก็ไม่เชิง จบแบบไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ไม่ร้องไห้ ..แค่รู้สึกยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น (แม้ไม่ได้อยากจะยอมรับ) มันช่วยไม่ได้นี่ ..ที่จะต้องเป็นแบบนี้ อารมณ์จะอยู่ประมาณนี้ค่ะ
เคยรู้จักเรื่องนี้มาก่อนแล้วจากซีรีย์ Himitsu แต่ไม่ได้สนใจใครจะเขียนบทมาจากไหน และไม่ได้สนใจจะดูด้วย เพราะว่าพลอตเรื่องชวนอึดอัดปานนั้น หากไม่รู้จักเคโงะ และหยิบแค่ปกหลังมาพิจารณาเราก็คงเซย์กู๊ดบายเหมือนกัน แต่อ่านแล้วก็คงไม่สนใจดูซีรีย์อยู่ดี เพราะเนื้อเรื่องที่ชวนให้รู้สึกไม่ปลอดโปร่งสบายใจ อีกทั้ง นักแสดงอย่าง คุราโนะสุเกะ ซาซากิ ก็ไม่ดึงดูดความสนใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เว้นแต่ทางฝ่ายหนู มิราอิ ชิดะ แม้เธอจะไม่ใช่นักแสดงที่สวยถูกใจ แต่ถ้าเรื่องฝีมือล่ะก็เชื่อได้เลยว่าเธอเอาอยู่
แต่เคยอ่านแนวนี้ๆเหมือนกัน บางเรื่องก็ชอบมากๆเลยครับ