Group Blog
 
All blogs
 
妃关天下 ชายาสะท้านแผ่นดิน เล่ม ๕ บุปฝากลางเมฆา ศึกสี่ฟ้าจตุรทิศ



เมฆหมอกแห่งทุกข์โอบล้อมขอบชมฟ้า สำนักยุทธ์จีนกลับฉายแสง
ประกาศศักดาทั่วเมืองแดงเรือง ทว่าฐานกำลังเพียงหยิบมือไม่อาจคิดทำการใหญ่ 
หากจะต่อกรกับหอเทพพรหมอันเกรียงไกรจำต้องมีกองกำลังสนับสนุนที่เทียบเทียม

ลั่วอวี่จึงเร่งเดินทางเพื่อผูกสัมพันธ์และสร้างข้อตกลงกับแคว้นที่ทรงอิทธิพลยิ่ง 
มิคาดว่านอกจากนางจะกลายเป็นที่โปรดปรานของราชาผู้ปกครองแคว้น 
ทั้งๆ ที่สวมใส่อาภรณ์บุรุษแล้ว หนึ่งในผลตอบแทนที่นางจะได้รับหากทำตามเงื่อนไข
ยังเป็นสิ่งล้ำค่าที่นางกำลังเสาะหาอีกด้วย

โอกาสดีเช่นนี้นางจึงต้องรีบคว้า เพียงหวังใจว่าทุกอย่างที่ทำ... จะทันกาล


ก่อนอื่นขอแนะนำตัวละครเพิ่มเติมค่ะ 

อวิ๋นฉง องค์หญิงใหญ่แห่งขอบชมฟ้า เป็นพี่สาวคนละมารดาของอวิ๋นซื่อเทียน รักใคร่ผูกพันกันมาตั้งแต่เล็ก (มีบทบาทมาตั้งแต่เล่ม ๓ )

อู๋หวา เทพโอสถที่อายุน้อยที่สุดแห่งแคว้นฟ้าบูรพา ท่วงทีสุภาพเรียบร้อยงามสง่าแต่ก็แฝงไว้ด้วยความดื้อรั้น 

ราชาฟ้าบูรพา ผู้ปกครองแคว้นฟ้าบูรพาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในดินแดนเพลิงมารภิภพ เป็นบุรุษเจ้าสำราญผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจคน ทั้งยังเจ้าเล่ห์ร้ายกาจยิ่ง

เล่ม ๕  ---ตามโปรยปกหลังเลยค่ะ หลังจาก จวินลั่วอวี่ กระเด็นออกมาจากดินแดนพุทธเทพน้ำหนึ่งด้วยหัวใจที่ปวดร้าวพอๆ กับอวิ๋นซื่อเทียนที่ไม่อาจรั้งนางเอาไว้ข้างกายได้อีกในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นไป

ลั่วอวี่ที่หลบหนีจากทั้งหอเทพพรหมและขอบชมฟ้าก็มาโผล่พรวดที่ ดินแดนเพลิงมารพิภพ พบสหายเก่าดั้งเดิมจากแคว้นไร้ปีก ที่เคยสัญญาจะมาฝึกฝนเพิ่มระดับพลังยุทธ์และบุกเบิกหาช่องทางเพื่อสร้างฐานกำลังให้กับลั่วอวี่อยู่ที่บริเวณชายแดนติดขอบชมฟ้า  ลั่วอวี่กับเหล่าสหายจึงได้ร่วมกันก่อร่างสร้าง “สำนักยุทธ์จีน”แผ่ขายอิทธิพลไปทั่วเมืองแดงเรือง ประกาศศักดากวาดล้างกลุ่มอิทธิพลเก่า ๗ สำนักจนสามารถรวบอำนาจเป็นใหญ่แต่เพียงสำนักเดียวในเมืองแห่งนี้ (นางไปที่ไหน ชาวบ้านเค้าวอดวายล่มสลายที่นั่นจริงๆ)

แต่เมืองแดงเรือง  ก็เป็นแค่เมืองเล็กๆ บ้านนอกแถบชายแดน  แค่เพียงมีที่หยัดยืนก็ใช่ว่าจะต่อกรกับแคว้นใหญ่ใดๆ ได้  เป็นเพียงเศษเสี้ยวกระผีกเล็กๆ ของดินแดนเพลิงมารพิภพอันกว้างใหญ่และวุ่นวายไร้ระเบียบด้วยกลุ่มอิทธิพลที่ใครใหญ่ใครอยู่  และหากคิดจะเอาคืนกับแคว้นหอเทพพรหมของตี้ฟั่นเทียนที่ศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ไม่ได้ด้อยไปกว่าขอบชมฟ้าของอวิ๋นซื่อเทียนแม้แต่น้อย  ย่อมเป็นไปไม่ได้

คนเราพึงรู้จักประมาณตน อยากจะจัดการกับตี้ฟั่นเทียน เพื่อจะกลับไปเคียงข้างอวิ๋นซื่อเทียนให้ได้

หากคิดจะทำการใหญ่เช่นนั้น  ควรต้องมีกองกำลังสนับสนุน

ดังนั้น ลั่วอวี่จึงต้องออกเดินจากฐานที่มั่น ณ เมืองแดงเรือง ไปสู่แคว้นๆ หนึ่งในสี่ฟ้าจตุรทิศที่ครอบครองดินแดนในสี่ภูมิภาคของเพลิงมารพิภพ   ฟ้าทักษิน ฟ้าประจิม ฟ้าอุดร และ ฟ้าบูรพา

หากจะหาความร่วมมือแล้วทั้งที  ก็ต้องเลือกที่ยิ่งใหญ่ทรงอิทธิพลที่สุด

ฟ้าบูรพา -- คือที่หมายตายื่นข้อเสนอของจวินลั่วอวี่

แต่แล้วนางกลับต้องเดินทางไกลกว่านั้น ไปสู่ใจกลางของดินแดนเพลิงมารพิภพ“แคว้นนครเจ้าสันติ” ที่ทั้งสี่แคว้นฟ้าจตุรทิศหมายช่วงชิงความเป็นใหญ่ด้วยการกำชัยชนะครอบครองแผ่นดินอันเป็นศูนย์กลางของแผ่นดิน  แต่นครเจ้าสันติไม่ใช่หมูในอวยของใคร ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่แข็งแกร่ง ไฉนเลยจะรักษาปราการทานอำนาจอยู่ตรงกลางวงล้อมของสี่แคว้นอิทธิพลที่คอยจ้องจะเล่นงานอยู่ได้ และที่ไม่เคยสยบให้แก่แคว้นไหนมาแย่งชิงเอาไปได้ นั่นย่อมเป็นข้อพิสูจน์อยู่แล้วว่า นครเจ้าสันติ มีดีที่ต้องเกรง

แต่เมื่อ 'บุปฝากลางเมฆา'  หนึ่งในส่วนผสมของตัวยาที่จะช่วยรักษาอวิ๋นซื่อเทียน จะผลิบานที่นั่น

ลั่วอวี่จึงต้องดั้นด้นไป ไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหนไม่ว่าการทำข้อตกลงกับราชาหนุ่มจอมเจ้าล์ห์อย่างราชาฟ้าบูรพาจะสุ่มเสี่ยงกำไรหรือขาดทุนอย่างไร  บุปผากลางเมฆา สำหรับอวิ๋นซื่อเทียน “คนรักของข้า” ย่อมมีค่าความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

แต่ในเมื่อนางคือ “จวินลั่วอวี่” -- มีหรือ เมื่อลงมือแล้วจะยอมขาดทุน

เมื่อได้สอดเท้าลึกเข้าไปสู่สงครามแย่งชิงอำนาจกลางมหานครเจ้าสันติของสี่ฟ้าจตุรทิศแล้ว

ที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรง นอกเหนือจาก บุปฝากลางเมฆา นางย่อมปรารถนาซึ่งของแถม


แม้ว่าเรื่องราวที่ดำเนินไปจะชวนสนุกให้สนใจให้ติดตามอย่างนั้น แต่การอ่านชายาฯ เล่มห้าก็กร่อยได้อย่างเหลือเชื่อ ไม่ค่อยสนุกเท่าที่ควร

สาเหตุน่ะเหรอ?

นับเป็นบทพิสูจน์ที่ถูกต้อง ชัดเจนตามที่เขียนรีวิวเล่มที่ ๔ ไปว่า  “อวิ๋นซื่อเทียน” พญามารผมสีเงิน จอมราชันแห่งแคว้นขอบชมฟ้า เป็นความชอบอันดับหนึ่งของนิยายเรื่องนี้   เมื่อขาดเขาไปสักคนในเล่ม ๕  มันก็เหมือนกินข้าวไม่เหยาะพริกน้ำปลา เหมือนส้มตำปูปลาร้าไม่ใส่ผงชูรส  อาจครบเครื่องทุกสิ่งเว้นสิ่งๆ เดียวที่หายไป แต่ความกลมกล่อมก็หายเลย 

ยังดี  ที่นิยายเรื่องนี้มักมีสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เกิดขึ้นอยู่เสมอ  ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือสรรพสิ่งนานา ที่มาพร้อมกับชื่อที่แปลกแต่เพราะดี  "บุปผากลางเมฆา" ที่ใช่ว่าจะได้มาโดยง่าย  “ป่าอสูรดำ”  และการปรากฏรูปเงาของสัตว์อสูรผู้เป็นเจ้าแห่งสัตว์อสูรทั้งปวง -- ราชาหมื่นอสูร

ปริศนาบางอย่าง เริ่มกระจ่างแจ้ง

แต่ก็อีกนั่นแหละ เรื่องควรจะสนุก แต่ก็ไม่ค่อยสนุก เพราะรู้สึกขุ่นเคืองใจยิ่งนัก ลำพังอวิ๋นซื่อเทียนจอมมารแห่งดินแดนพุทธเทพน้ำหนึ่งจะไม่มีบทบาทต่อเรื่องที่ดำเนินอยู่ในดินแดนเพลิงมารพิภพ จะทำให้เราสุดเซ็งแล้ว

ราชาฟ้าบูรพา -- ยังทำให้เราเซ็งได้อีกสุดๆ 

เพราะความใกล้ชิดที่สนิทสนมมากขึ้นทุกที ในความชอบพอ การแตะเนื้อต้องตัว ตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย ที่ลั่วอวี่ไม่ถือสาจริงจังนักเพราะคิดว่ายังไม่เกินเลย   แต่เราไม่ชอบ ... เจ้าเงินยังไม่ชอบเพราะมันอุตส่าห์นึกถึงคนที่เส้นผมสีเงิน --สีเดียวกับมัน  อยากจะปกป้องลั่วอวี่เพื่อคนๆ นั้น  ลั่วอวี่เองก็น่าจะแสดงออกจริงจังกว่านี้ว่าไม่ชอบ และราชาฟ้าบูรพาอย่าได้บังอาจ  

มีแนวโน้มค่อนข้างชัดอยู่แล้วว่านี่คือ "ศัตรูหัวใจ" ในอนาคตอันใกล้ของอวิ๋นซื่อเทียน  

เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ ยิ่งใหญ่ ทรงอิทธิพล และเปี่ยมพลังอำนาจ

มีต้นทุนที่เพียงพอจะเป็นศัตรูเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ


แต่วี่แวววังวนแห่งรักเช่นนี้ จะถือว่าผู้เขียนทำกับอวิ๋นซื่อเทียนของเราเกินไปมั้ยล่ะเนี่ย

ถ้าจะเปรียบตี้ฟั่นเทียนเป็นเทพบุตรรูปงาม ที่แสนจะทรงเสน่ห์ด้วยความอบอุ่นนุ่มนวล  

ราชาแห่งฟ้าบูรพา ก็ประหนึ่งปิศาจเจ้าสำราญที่เปี่ยมเสน่ห์ร้อนแรงอันเหลือล้น

แล้วจอมมารที่เยียบเย็นเหี้ยมโหดอย่างอวิ๋นซื่อเทียนเราล่ะ ? 

ทำไมถึงได้เขียนบทให้เขาเจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บแล้วเจ็บอีก  ไม่ทรงก็ทรุดอยู่นั่นแหละ   

ศัตรูตัวฉกาจอย่างตี้ฟั่นเทียนจึงได้ใจจ้องหาโอกาสจะกำจัดไม่หยุดไม่หย่อน

"เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วทุกแห่งในดินแดนพุทธเทพน้ำหนึ่ง 

กองกำลังสิบสามแคว้นห้าสายทางบุกขอบชมฟ้า"  

นั่นปะไร  ไม่ทันไรพ่อเทพบุตรรูปงามก็กวนโทสะยิ่งนักด้วยการฉวยโอกาสปลุกปั่นแว่นแคว้นในดินแดนพุทธเทพน้ำหนึ่ง เข้าร่วมกันเป็นพันธมิตรยกทัพเข้ารุมล้อมแผ่นดินของพญามาร หวังกำจัดอวิ๋นซื่อเทียนที่ยังคงบาดทั้งกายและใจ แล้วทลายขอบชมฟ้าให้สิ้นซาก

ว่าที่ศัตรูอย่างราชาฟ้าบูรพาก็ไม่น้อยหน้ายังไม่เคยพบปะอวิ๋นซื่อเทียนสักครั้ง ก็หมายใจหวังแย่งชิงลั่วอวี่ไปด้วยความคิดหยามหมิ่น  

แค่  'หลัวขี้โรคใบหนึ่ง'   ถึงกลับกล้ามาแย่งภรรยากับข้า

หึ! (ต้องอ่านอย่างแค่นเสียง)  เออเหอะ พวกแก  ลำพองกันไป  ที่เขาได้ชื่อว่าเป็นจอมมาร มันย่อมต้องมีเหตุผลสิน่า 

บาดเจ็บแล้วอย่างไร  ถ้าจะเล่นหมาหมู่กันอย่างนี้   อย่าให้ท่านอวิ๋นของข้าโกรธธธธธ

แล้วอย่านะ  .. อย่าให้ท่านอวิ๋นของข้าหายดีขึ้นมาเมื่อไหร่เชียว  ---  

รอก่อนเถิด ทั้งศัตรูแผ่นดิน ศัตรูหัวใจ (ถ้าคิดจะเป็นให้ได้) รออย่างระวังตัวไว้ให้ดีๆ 

เพราะถ้าหายดีเมื่อไหร่  งานนี้เฮียจะถลกหนังหัวเอาถึงตาย 

เอ่อม .. นี่คือพลังจิ้นฟินเว่อร์เอาเองนะคะ  อวิ๋นซื่อเทียนยังไม่รู้ว่าลั่วอวี่มีไปหนิดหนมกับบุรุษอื่นที่หมายปองนางอยู่   ถ้ารู้..ไม่รู้จะโกรธแค่ไหน   แต่สำหรับข้าในตอนนี้ ข้าโกรธแทนท่านมากกกกกก


ยังมีนี่อีกคน  แต่เดิมทีจวินลั่วอวี่ก็ไม่ใช่คนโปรดอยู่แล้ว ด้วยกร้าวแกร่งเป็นนิสัย แถมบางครั้งยังออกแนวกร่างได้อีก นี่ไม่ใช่ลักษณะของนางเอกที่จะชอบได้สุดใจ  มาเล่ม ๕ นี้ ความเหี้ยมโหดเอย อะไรเอย เราก็รับพอไหว เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของยุทธภพ - ในโลกที่การเข่นฆ่าคือความอยู่รอด  แต่พอมาเจอนางไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวกับราชาฟ้าบูรพา ปล่อยให้หยิกแก้ม สนิทสนมใกล้ชิดนี่แหละ  ขอบอกเลยว่ามีเคือง!

แต่เห็นแก่ความรัก ความห่วงใยที่นางมีต่ออวิ๋นซื่อเทียน  ทั้งบุปผากลางเมฆาที่ได้มาและ ทั้งผลกิเลนที่ลั่วอวี่ยังไม่ย่อท้อจะเสาะหาต่อไป  เห็นแก่คำพูดเปิดเผยไม่คิดจะปิดบังใคร "คนรักของข้า"  " สามีของข้า อวิ๋นซื่อเทียน"  เห็นแก่ความเจ็บปวด ความคิดถึงคะนึงหา 

-- ซื่อเทียน  ท่านสบายดีอยู่หรือไม่

คิดถึงท่านยิ่งนัก อยากพบหน้าท่านเหลือเกิน อยากเห็น...

แต่ .. สถานการณ์เช่นนี้จะพบกันได้อย่างไร

ลั่วอวี่ปิดนัยน์ตาลงแน่น เจ็บปวดไปทั้งหัวใจ

เข้าใจว่าไม่คิด เข้าใจว่าหากทุ่มเทจิตใจทั้งหมดไปที่การแผ่ขยายอิทธิพล 

เตรียมการตอบโต้ตี้ฟั่นเทียน นางก็จะไม่คิดถึง ไหนเลยจะรู้ว่าพอมีเวลาว่างขึ้นมา 

หัวใจของนางก็บีบรัดไปด้วยความเจ็บปวด 

มิใช่ไม่คิด หากแต่ความคิดถึงได้ซึมลึกเข้าไปในไขกระดูกแล้ว

 เวลาไม่ไปแตะต้องก็คล้ายไม่มีอะไร  แต่เมื่อใดที่ไปแตะต้องเข้า

ถึงได้รู้ว่าความคิดถึงนั้นได้ซึมลึกเข้าไปในจิตวิญญาณแล้ว ...

และเห็นแก่ความดิ้นรนที่จะกลับไปหา พร้อมด้วยความพยายามทั้งหมดทั้งปวงเพื่อจะเป็นชายาที่คู่ควร    --

 เอาเุถอะ จวินลั่วอวี่ข้าจะหายโกรธเจ้า (ข้าเป็นเอามาก Smiley ช่วยเจียดลูกกลอนปราณอสูรให้ข้าสักเม็ด เผื่อจิหาย)

พบกันเล่ม ๖





Create Date : 17 มีนาคม 2558
Last Update : 11 กันยายน 2558 22:27:00 น. 1 comments
Counter : 1281 Pageviews.

 
เฮ้ย! .......... อ่านเล่ม 5 แล้ว
แซงเฉยเลย .... ข้าม ๆ ไม่อ่านรีวิว
เดี๋ยวอารมณ์ขึ้น 55555



โดย: Prophet_Doll วันที่: 18 มีนาคม 2558 เวลา:10:01:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.