Group Blog
 
All blogs
 
妃关天下 ชายาสะท้านแผ่นดิน เล่ม ๖ สามีข้า.. ใครอย่าแตะ





กองกำลังสิบสามแคว้นห้าสายทางถือโอกาสที่ขอบชมฟ้าอ่อนแอเข้าโอบล้อมโจมตี
 แต่หารู้ไม่ว่าภูผาที่ยิ่งใหญ่ใช่จะยอมถูกทำลายได้โดยง่ายดายเพียงนั้น

หลังจากเริ่มมีกำลังวังชา อวิ๋นซื่อเทียนออกบัญชาการรบด้วยตนเอง
 สร้างขวัญและกำลังใจให้เหล่าทหารและอาณาประชาราษฎร์
ต่างฮึกเหิม! สู้ไม่ถอย! ไม่หวั่นเกรง!

อีกทั้งลั่วอวี่ที่รีบรุดมาไกลนับหมื่นลี้ก็คอยส่งกองกำลังเสริมและลอบช่วยเหลืออย่างดียิ่ง

แม้ไม่อาจปรากฏกายให้โดดเด่น ทว่าท่ามกลางความเหน็บหนาว 
ท่ามกลางการเข่นฆ่าสังหารดังสนั่นฟ้าสะเทือนดิน
 สองสายตาพลันสบประสานข้ามผ่านปราการทั้งปวง

กี่วันคืนที่ไกลห่าง ก่อความคะนึงหามากล้นเข้ากัดกินใจ
 เหตุใดยามได้พบกันอีกครา... กลับทำได้เพียงแค่สบตาเท่านั้น
แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องทั่วท้องฟ้ากลองศึกรัวสนั่น

ควันสงครามพวยพุ่งขึ้น ภูเขาแม่น้ำสั่นสะเทือน

กองกำลังสิบสามแคว้นห้าสายทางรุมโจมตีขอบชมฟ้า ข่าวสารแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างทั่วทุกซอกทุกมุม สายตาของผู้คนทั่วทั้งดินแดนพุทธเทพน้ำหนึ่งรวมทั้งดินแดนใกล้เคียงต่างจับตามมองการโอบล้อมโจมตีที่สร้างความตื่นตะหนกไปทั่วใต้หล้าครั้งนี้

“...ไม่มีใครจะรู้จักเราดีเท่าศัตรูอวิ๋นซื่อเทียน  ไม่รู้ว่าเจ้าจะอ่านแผนการครั้งนี้ของข้าออกหรือไม่ “

“ แต่ไม่ว่าจะอ่านออกหรือไม่ เจ้าก็ต้องมา  หมากกระดานนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า”

อำนาจการเคลื่อนไหวอยู่ในมือข้า

ถึงตอนนั้นยังต้องโจมตีอะไร ยังต้องล้อมปราบอะไร 

ขอบชมฟ้าย่อมไม่ต่างจากปลาที่อยู่บนเขียง สุดแท้แต่จะจัดการ

“ ...ที่พวกเรารอคอยก็คือให้เขาออกมาแล้วโจมตีโจมตีไม่ได้ก็สังหาร สังหารไม่ได้ก็โจมตี”

“...อวิ๋นซื่อเทียนแห่งขอบชมฟ้าก็แค่เสือกระดาษตัวหนึ่ง จำไว้”

ช่างบังอาจ!!!   ตี้ฟั่นเทียน เจ้าคนสารเลวที่สมควรตาย

เจ้าเป็นใคร ต่อให้เจ้าเป็นประมุขแคว้นหอเทพพรหมที่ถือเป็นอีกหนึ่งในสองกลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนพุทธเทพน้ำหนึ่ง และตอนนี้ก็มีสิบสามแคว้นห้าสายทางร่วมถือหางเป็นพันธมิตร มีกองพลเก้าสิบหมื่นร้อยหมื่นอยู่ในมือบัญชาการ พร้อมจังหวะโจมตีในโอกาสแสนงามที่เอื้อให้ได้ทีเอารัดเอาเปรียบอย่างประจวบเหมาะ   

แล้วอย่างไร เจ้าคิดว่ามีทั้งหมดนั้นแล้วก็เพียงพอจะลบหลู่ดูหมิ่นคนอย่างอวิ๋นซื่อเทียนได้แล้วหรือ

ก่อนหน้านั้น ก็คิดว่าเจ้าช่างเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมเขา สมน้ำสมเนื้อเป็นศัตรูคู่บารมียิ่งนัก  แต่เมื่ออ่านเล่ม ๖ แล้ว  ยังหรอก.. ตี้ฟั่นเทียน   เจ้ายังห่างชั้น  คนอย่างเจ้ายังไม่คู่ควรพอที่จะอาจเอื้อมเล่นของสูง 

เขาเป็นใคร  เขาคือจอมราชันแห่งขอบชมฟ้า ที่บางคราผู้คนเรียกขานเขาว่า "พญามาร"   ราชันเหนือหัวยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเช่นไร ย่อมหมายถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของขอบชมฟ้าด้วย 

มาบัดนี้  กลุ่มอิทธิพลเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ถึงกับคิดจะมากระทุ้งดินบนศรีษะขอบชมฟ้า  ต่อให้ไม่มีเวลาเตรียมการสักเพียงใดขอบชมฟ้าก็ไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะมาชี้มือชี้ไม้เช่นนี้ได้

กลุ่มแปดพิฆาตฟ้าดินและกลุ่มตำหนักดาวยี่สิบแปดฤกษ์นักษัตรใช่เพื่อนเล่นใครหรือ

องค์ราชันของพวกเรา (นับตัวเองเข้าพวกด้วย Smiley)  ใช่ว่าใครอยากจะแตะต้องก็แตะต้องได้

เหิมเกริมยิ่งนัก!  พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงงงง!!


จำต้องรีบออกตัวก่อนว่า ที่อินขนาดนั้นหาใช่จะหมายความว่า พระเอก-อวิ๋นซื่อเทียน ของเราเขาจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่เก่งเว่อร์วังอลังการ จนใครๆ ก็ไม่อาจสร้างความระคายเคืองแต่อย่างใด  เพราะในเนื้อเรื่องจริงๆ แล้ว  อวิ๋นซื่อเทียนก็ยังเป็นอวิ๋นซื่อเทียนคนเดิมที่ยังคงอาการบาดเจ็บหนักอยู่ภายในร่างมาตั้งแต่เล่มต้น ซึ่งสถานการณ์ในแต่ละเล่มที่ผ่านมาก็บีบบังคับให้เขาจำเป็นต้องใช้พลังยุทธ์หนักมืออยู่เรื่อย  และเมื่อไหร่ที่ใช้มันนั่นหมายถึงอาการบาดเจ็บที่หนักขึ้นทุกครั้ง มีระดับอาการอยู่เพียงสองประการคือไม่ทรงก็ทรุด  เล่มนี้ก็เช่นกันที่พอจะกลับมาทรงได้บ้างแล้ว ก็เตรียมทรุดลงอีกครั้งอย่างเต็มสตรีม

ใช้พลังยุทธ์ไม่ได้ก็ไร้สมรรถภาพ เอ๊ย ไร้ประสิทธิภาพ จะไปฟาดฟันกับใครเขาได้

ยามศึกสงครามใหญ่หลวงเข้าประชิดขอบชมฟ้า บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในภาวะล่อแหลมอันตรายเสี่ยงจะสูญสิ้น   แล้วอวิ๋นซื่อเทียนที่ประหนึ่งเป็นผู้ป่วยหนักคนหนึ่งจะทำอย่างไรเพื่อรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ ล้มอวิ๋นซื่อเทียนได้ก็ล่มขอบชมฟ้าได้  .. เป้าหมายแรกเป้าหมายหลักของสงครามที่ตี้ฟั่นเทียนหมายมาดคือแผนสังหารอวิ๋นซื่อเทียน 

สถานการณ์ของขอบชมฟ้า  แม้จะไม่มีใครพูดว่าเราจบเห่แล้วออกมาตรงๆ   แต่ความรู้สึกในขณะอ่านก็คือ ...การจะปกป้องขอบชมฟ้าให้อยู่รอดปลอดภัยในครั้งนี้ ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง  (เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะเฮีย) 

ทว่าเล่ม ๖ นี้ ในภาวะที่ตกต่ำถูกรุมขย้ำ กลับทำให้ประทับใจในความเป็นอวิ๋นซื่อเทียนมากขึ้นซะอีก เป็นการแบ่งแยกความรู้สึกชัดเจนระหว่างความดาษดื่นกับความสูงส่ง (ข้าอวยท่านมาก)

ผู้ยิ่งใหญ่เหนือคนย่อมต้องฉลาด รู้ลำดับความสำคัญอะไรก่อนหลัง รู้อะไรควรทำไม่ควรทำ 

 อวิ๋นซื่อเทียนจึงหาใช่ "เสือกระดาษ" ไร้พิษสงอย่างที่ตี้ฟั่นเทียนปรามาสไว้อย่างประมาท
 หากแต่เป็น "เสือบาดเจ็บ" ที่แม้ไม่มีใครพูดว่าจนมุม  แต่สถานการณ์ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าจนมุม  

ถูกล้อมทุกด้าน ถูกโจมตีจวนแตกทุกทาง ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางหนี  
ทางเดียวที่มีก็คือ.. สู้อย่างดุร้าย

แต่ใช่ว่าจะหมายถึงอวิ๋นซื่อเทียนยังมีพลังยุทธ์หลงเหลืออยู่มากมายไปกวาดล้างข้าศึกศัตรู  หากที่ผ่านมาจะรู้สึกว่าเขายิ่งใหญ่ เพราะพลังทำลายล้างและอำนาจคุกคามที่กดข่มเหนือผู้คน  เล่ม ๖ นี้ จะต่างออกไป  ความรู้สึกว่าอวิ๋นซื่อเทียน "ยิ่งใหญ่" ไม่ได้มาจากพลังอำนาจเช่นว่านั้น .. แต่มาจากลักษณะของการเผชิญหน้ากับวิกฤติการณ์ในยามที่กำลังอ่อนแอถึงขีดสุด

ไม่ท้อแท้ ไม่หวั่นกลัว ไม่ครั่นคร้าม 

ตั้งรับ อย่างสงบ อย่างมีสติ อย่างเยือกเย็น ไม่มีแสดงท่าทีอะไรที่เกินความจำเป็น
ตอบโต้ อย่างเฉียบขาด อย่างดุเดือด อย่างห้าวหาญ อย่างองอาจทรนง 

องค์ราชัน ..ความรู้สึกเหล่านี้ ไม่จำเป็นที่ต้องรอให้ออกสนามรบหรือป๊ะมือประลองยุทธ์กับสุดยอดฝีมือ หรือกวัดแกว่งดาบกิเลนพญายม ท่านไม่ต้องลงทุนลงแรงขนาดนั้น  แค่เพียงเป็นอวิ๋นซื่อเทียน ก็ประหนึ่งเป็นเทพสังหารปรากฏตน ยืนตระหง่านดุจประภาคารแข็งแกร่ง  

..ข้างกายไม่มีแสงสว่างส่องปสะท้อนมาที่ร่างของเขาสักเท่าใด ทว่าเขากลับเป็นเสมือนจุดศูนย์รวมของชอบฃมฟ้า  เป็นจิตวิญญาณของทั้งสนามรบ แม้จะไม่ได้บุกนำหน้าเหล่าทหารหาญทั้งหลาย ทว่าเขาอวิ๋นซื่อเทียนเพียงยืนอยู่บนหอยอดเชิงเทินเช่นี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นหอคอยบัญชาการให้กับทหารและอาณาประชาราษฎร์จำนวนนับไม่ถ้วนของขอบชมฟ้าแล้ว เป็นพลังทั้งหมดของทหารหาญที่บุกตะลุยเข้าโจมตีข้าศึก เป็นศูนย์รวมความสมัครสมานสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้คน เป็นพลังผลักดันให้ทุกคนมีความฮึกเหิมต่อสู้ แม้ตายก็ไม่ถอย ...

ไม่มีทหารกองหนุนก็ไม่เป็นไร   ข้าศึกรุกโหมโจมตีรุนแรงก็ไม่เป็นไร

ขอเพียงขอบชมฟ้ามีอวิ๋นซื่อเทียน ราชันชมฟ้าของพวกเขาอยู่ 
พวกเขาก็จะไม่มีวันเอ่ยคำว่าถอย ไม่มีวันพูดคำว่าถอยออกมาเด็ดขาด  

เพียงยืนมั่นอยู่ตรงนี้ ก็เหนือกว่ากองกำลังทหารนับหมื่นนับพัน 




ก่อนหน้านั้น บุรุษสำคัญทั้งสามแคว้นแม้จะต่างบุคลิกลักษณะ ต่างความชอบชัง แต่ในแง่สถานะราชัน ราชา และประมุขแห่งแคว้นแล้ว พวกเขาจะยังอยู่ในระดับความรู้สึกที่เท่าเทียม 

... หากบอกว่าอวิ๋นซื่อเทียนเป็นพญามารที่เยียบเย็นเหี้ยมโหด แผ่นอิทธิพลครอบคลุมใต้หล้า ตี้ฟั่นเทียนเป็นเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์ที่สุภาพออ่อนโยน รูปงามบริสุทธิ์สดใส เช่นนั้นแล้วคนผู้นี้ ก็คือจอมปีศาจที่เปี่ยมเสน่ห์ชวนลุมหลง เจ้าสำราญ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวทว่าก็ดึงดูดหัวใจสะกดวิญญาณ ...  (คนผู้นี้ คือ หมิงชิงเยี่ย ราชาฟ้าบูรพา)

มาเล่มนี้   อวิ๋นซื่อเทียนในยามเผชิญหน้ากับวิกฤติ  เทียบกับตี้ฟั่นเทียนยามเกิดวิกฤตขึ้นบ้าง  เทียบกับหมิงชิงเยี่ยในยามสำราญเฝ้าดูวิกฤติของผู้อื่น  ทำให้อวิ๋นซื่อเทียนก้าวล้ำนำหน้าอีกสองบุรุษไปซะแล้ว 

เมื่อตี้ฟั่นเทียนกลายเป็นเทพเจ้าผู้ลนลานเสียกิริยา ย่อมเสียสง่าราศี

ส่วนหมิงชิงเยี่ยเจ้าสำราญก็แค่หัวหน้ากลุ่มอันธพาลเท่านั้นเอง 
 .. ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่สูงส่งไม่เท่า เพราะไร้สมบัติผู้ดี! Smiley

ไฉนเลยจะเทียบได้กับองค์ราชัน ผู้สุขุมเยือกเย็น ไม่เสียกิริยา ประหนึ่งไม่สะทกสะท้าน ไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อภัยพิบัติที่จ่อรออยู่ตรงหน้า หากต้องแหรกราญศัตรูก็ต้องล่มจมลงด้วยเช่นกัน ฉากอวิ๋นซื่อเทียนดีดพิณโบราณเสียงกังวานหวานอยู่บนหอคอยเชิงเทิน มีผลต่อความรู้สึกของเราอย่างชัดเจน ว่าอวิ๋นซื่อเทียนเหนือกว่าตี้ฟั่นเทียนในแง่ของการลักษณะตัวตน ความดุดันเฉียบขาดในการตัดสินใจ ความเยียบเย็นที่อาบแฝงไปด้วยความหยิ่งยโสโอหังอวดดีถึงกระดูก นี่แหละคืออวิ๋นซื่อเทียนแท้ๆ ที่แม้แต่ระดับตี้ฟั่นเทียนยังเดือดดาลแทบกระอัก เฮียท่านมาเหนือจริงๆ  Smiley น้ำตาจิไหล ขนาดเฮียป่วยนะเนี่ย 

เอาล่ะ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น อย่าไปเอานิยมนิยายอะไรกับเรามาก เพราะมันเป็นความรักใคร่ลุ่มหลงที่มีต่อพระเอกของเรื่อง Smiley  เพราะคาแรคเตอร์ "ยิ่งใหญ่" และ "สูงส่ง" ของเขาดันมาถูกจริตส่วนตนซะจริงๆ ซึ่งตั้งแต่รู้จักตัวละครตัวนี้มาตลอด ๖ เล่ม ไม่รู้ว่าเราใช้คำสองคำนี้ในการเขียนรีวิวไปกี่ครั้งกี่หนแล้ว  ผู้เขียน/และสำนวนผู้แปล เขาสร้างและดึงคาแรคเตอร์นี้ออกมาได้ถูกใจจริงๆ  ทั้งที่อวิ๋นซื่อเทียนพูดน้อยมาก ยิ่งเล่มนี้นะคะ ถ้าลงมือนับนี่ไม่รู้จะเกินสิบประโยคหรือเปล่า  

ทีนี้เลิกเวิ่นเว้อเรื่องบรุษ มาเข้าเรื่องเล่ม ๖ กันซะที กับกรณีเปิดประเด็น "สามีข้า ใครอย่าแตะ"  

แม้อวิ๋นซื่อเทียนจะเปี่ยมบารมีของพญามารสักเท่าไร ...
จะอย่างไรน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ โดยเฉพาะกับไฟที่กำลังถาโถมโหมกระหน่ำ 

ถ้าอย่างนั้น แล้วอย่างนี้ คนผู้นี้จะช่วยราไฟให้น้ำเอง   "จวินลั่วอวี่" 
คนรัก คู่หมั้น และชายา ที่ไม่เป็นวันนี้ ก็ต้องเป็นวันหน้า สักวันต้องได้เป็น    

สามีลั่วอวี่ใครอย่าแตะ ... นี่คือคำเตือน 

และหากยังคิดจะแตะ ก็อย่ามาหาว่านางช่างไม่ยั้งมือ ยั้งใจ ไว้ไมตรี 
เพราะสิ่งที่นางจะตอบแทนความอาจเอื้อมนี้ 
คือความอัปยศอดสู ที่จะเป็นความอัปยศอดสูชั่วนิรันดร

นางทำดีมาก  สมควรได้รับโล่ห์สายสะพายและเหรียญกล้าหาญ Purple Heart
และนี่แหละคือจวินลั่วอวี่ --  คือผู้ที่จะเป็นชายาสะท้านแผ่นดิน ด้วยความคารวะ

อวิ๋นซื่อเทียน ตลอดมา แทบจะทำได้แค่เพียงประคองสังขารตัวเอง ..(แต่ไม่รู้สึกว่าเขาอ่อนแอนะ)
จวินลั่วอวี่ คือฝ่ายที่จะคอย เอาใจใส่ ปกป้อง คุ้มครอง อย่างทุ่มเทชีวิตให้
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลำบากเจ้าแล้ว 

หวังว่าเมื่อไหร่ที่หายดี ท่านจะดีต่อนาง ตอบแทนให้นางด้วยความรัก ความทุ่มเทดุจเดียวกัน

"จะเอาแผ่นดิน หรือจะเอาหญิงงาม เจ้าเลือกเอาสักอย่างหนึ่ง"

อวิ๋นซื่อเทียน มีคำตอบที่น่าซาบซึ้งใจเกินคาด 
เป็นบุรุษที่คู่ควรแล้วกับการเป็นคนรักของจวินลั่วอวี่ 
เป็นราชาที่ควรค่าแล้วแก่การยกย่องศรัทธาของขอบชมฟ้า 
(แต่คำตอบของท่านฟังแล้วช่างโอหังอวดดีอย่างไม่เจียมสังขาร Smiley )

รอก่อนเถอะใต้หล้านี้ รอให้อวิ๋นซื่อเทียนของข้าหายดี ความยิ่งใหญ่ของคนผู้นี้จะยิ่งเหนือระดับ

เห็นมั้ย  ใช่อีกละ คำว่า "ยิ่งใหญ่"   

อิอิอิ  อ่ะนะ ... ก็ข้าปลื้มยิ่งนัก Smiley ข้ารักในความยิ่งใหญ่ของท่าน  Smiley

เล่ม ๖ ท่ามกลางไฟสงคราม สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ อ่านรวดเดียวจบ 






Create Date : 21 มีนาคม 2558
Last Update : 11 กันยายน 2558 22:27:20 น. 5 comments
Counter : 1659 Pageviews.

 
มาเป็นชุดเลยนะครับ แต่เห็นชุดนี้ก็มีคนอ่านเยอะอยู่เหมือนกัน


โดย: PZOBRIAN วันที่: 20 มีนาคม 2558 เวลา:23:28:02 น.


โดย: prysang วันที่: 21 มีนาคม 2558 เวลา:8:07:18 น.  

 
ดีใจที่มีรีวิว เราซื้อเล่มหนึ่งถึงเล่มห้ารวดเดียวเพราะกระแสว่าสนุก แต่อ่านจบแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่

นางเอกเก่งเกิน ที่จริงชอบนางเอกฉลาดๆ เก่งๆ แต่ผู้ร้ายก็ต้องพอฟัดพอเหวี่ยง เรื่องนี้เสียตรงผู้ร้ายที่ร้ายมากๆ พอมาเจอนางเอกแล้วง่อยหมด นางเอกชนะง่ายๆ แบบไม่ต้องลุ้น เลยเกิดความหมั่นไส้ความเก่งเว่อร์ของนางเอก

ตอนนี้เลยไม่รู้จะตามต่อดีหรือเปล่า คงต้องอาศัยรีวิวประกอบการตัดสินใจค่ะ ถ้าดี ก็คงสอยที่เหลือจนครบเซ็ต

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ


โดย: ข้าวปั้น IP: 192.99.14.36 วันที่: 21 มีนาคม 2558 เวลา:9:12:53 น.  

 
@คุณข้าวปั้นคะ

นางเอก..นางเก่งเว่อร์จริงๆ ค่ะ และถ้าคุณข้าวปั้นหมั่นไส้นางเอกอยู่ล่ะก็ รับรองเลยเล่ม 6 จะต้องหมั่นไส้นางหนักกว่าเดิม 5555 เก่งอะไรเช่นนั้น จะเกินหน้าเกินตาพระเอกไปแล้ว นี่ถ้าอวิ๋นซื่อเทียนไม่ใช่อวิ๋นซื่อเทียนจะต้องโดนข่มศักดิ์ศรีความเป็นชายไปแล้วแน่นอน สุ่มเสี่ยงอย่างมาก หวังว่าในเล่มต่อๆ ไปจะไม่เขียนให้นางเอกไปล้ำเส้นนั้นในความรู้สึกของเราอยู่นะ ถ้าเมื่อไหร่รู้สึกว่าพระเอกอ่อนด้อยกว่า ความรู้สึกดีๆ ที่มีมาเป็นได้จบเห่กันน่ะสิ

โดยรวมองค์ประกอบต่างๆ ของนิยายแล้ว เราชอบเรื่องนี้มากพอควร เพราะเรื่องก็สนุกตื่นเต้นดีแต่ก็คงไม่ถึงขั้นประทับใจ เพราะขาดจุดสำคัญไปอย่างคือความรักในคาแรคเตอร์นางเอกค่ะ ชอบการกระทำบางอย่างบ้างในบางเวลา แต่ส่วนใหญ่จะรู้สึกเฉยๆ

สำหรับเราเรื่องนี้ มีพระเอกเป็นแรงผลักดันหลัก ทั้งการอ่าน การรีวิว (ลำเอียงสุดๆ) อย่างที่เขียนไปแล้วว่าเล่มห้าพอขาดบทพระเอกนี่ความรู้สึกต่อนิยายต่างกับลิบเลย


โดย: prysang วันที่: 21 มีนาคม 2558 เวลา:15:30:14 น.  

 
กะรออ่านรีวิวของคุณ prysang ประกอบการตัดสินใจน่ะค่ะ

เท่าที่อ่าน ชอบเจ้าเงิน เจ้าแดงน้อยมากกว่าลั่วอวี่แฮะ ส่วนพ่ออวิ๋นเราท่าทางจะโดนนางเอกกลบรัศมีซะมิดไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ยังดีที่พระเอกไม่กินหญ้าเป็นอาหาร ไม่งั้นคงลาขาด



โดย: ข้าวปั้น IP: 192.99.14.36 วันที่: 21 มีนาคม 2558 เวลา:16:47:09 น.  

 
โดนแซงแล้ว ...
คงวิ่งตามคุณปรายแสงไม่ทันแล้วจริง ๆ
แต่เราซื้อมาดองครบ 3 เล่ม 5-6-7 แล้วนะเออ

เผอญได้โปรฯนายอินทร์ลด 20% เมื่ออาทิตย์ก่อน จัดซะเลย !


โดย: Prophet_Doll วันที่: 23 มีนาคม 2558 เวลา:15:32:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.