สำนักพิมพ์เพิร์ลพับลิชชิ่ง พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2554
กับดักทะเลทราย
วิถีแห่งรักและทางออกของหัวใจในดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์
ไท...ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ปรารถนาจะได้มาซึ่งความรัก
จนทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งยอมเป็นอาชญากรร้าย
เจมม่า...เด็กสาวผู้มีทุกอย่างดังใจปรารถนาแต่ไม่อาจหยุดดิ้นรนแสวงหา
'เขา' ตัดสินใจลักพาตัวเธอเพื่อนำมากักขังไว้ ณ ดินแดนอันห่างไกล
'เธอ' จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคหัวใจท่ามกลางทะเททรายที่แสนโหดร้ายทารุณ
เมื่อสายสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรร้ายกับเหยื่อสาวบังเกิดขึน
บทสรุปแห่งรักของ 'เขา' และ 'เธอ' จะเป็นเช่นไร
ตอนอ่านครึ่งแรก ตั้งใจจะเขียนอีกอย่างหนึ่งเพราะรู้สึกว่านิยายมันช่างเรียบเหลือเกิน มีกันอยู่สองคนกลางทะเลทราย โดยที่พระเอกก็ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่รู้จะใช้คำว่าอย่างไรกับเขาดี จนมาเจอบางประโยคในช่วงท้ายๆ ที่เจมม่ากำลังสับสนระหว่างความรู้สึกในหัวใจกับการเลือกทำในสิ่งที่น่าจะถูกต้อง ขอยืมมาบรรยายความรู้สึกเกี่ยวกับพระเอก "ไท" ดังนี้ว่า พฤติกรรมของเขาอันก่อเกิดมาจากความรู้สึกนึกคิดของเขานั้นราวกับว่า ...
เป็นภาวะไร้ความสามารถในการเข้ากับคนในสังคม (คือ..ไม่เข้าใจโลก)
ความคิดเพ้อเจ้อที่ว่าทะเลทรายและเธอเท่านั้นคือทางออกเดียว
หรือจะเอ่ยตรงๆ ก็คือ หมอนี่..เต็มเต็งหรือเปล่านี่ คนเราจะใช้ชีวิตสันโดษอยู่ในทะเลทรายตลอดไปได้ยังไง ไม่ว่าจะเรื่องศิลปะ เรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันพิษจากสัตว์ทะเลทราย ไท .. ดูจะโลกสวยมากสำหรับแผนการณ์ และการลงมือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมา เพื่อจะมีชีวิตอยู่ในทะเลทราย แล้วยังหวังว่าเพื่อนชีวิตที่เขาแสวงหาจะเคยชินและเข้าใจโลกอันสงบสุขเหมือนเข้าด้วย ซึ่ง ... มันบ้ามาก
ดังนั้น ถ้าใครอ่านเรื่องย่อหลังปกแล้วหลงเข้าใจว่านี่จะเป็น จำเลยรัก เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย มีฉากเลิฟซีนดุเดือดท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุล่ะก็ เลิกคิดได้เลย เพราะอย่างที่บอกหัวใจของไทเหมือนไร้เดียงสาด้วยสายตาที่มองโลกสวยงามในมุมที่แตกกต่างจากคนทั่วไป แล้วก็เป็นคนที่อ่อนโยนด้วย
เรื่องเล่าด้วย "ฉัน" ผ่านสายตาและความรู้สึกของเจมม่า ในลักษณะเป็นการเขียนไดอารี่ ที่ไม่ได้บอกเล่ากับเราผู้อ่าน แต่เป็นการเรียบเรียงเหตุการณ์ระบายอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดถึง "คุณ" คือ ไท อ่านช่วงแรกๆ จะรู้สึกแปลกเพราะไม่ชินกับการเล่าเรื่องแบบนี้ โดยปกตินิยายที่เล่าเรื่องด้วย "ผม" หรือ "ฉัน" เราจะรู้สึกว่ากำลังถูกเล่าให้รับรู้เรื่องของคนเล่ากับเขาคนนั้น แต่เรื่องนี้เจมม่าเขียนถึงไท เรื่องเราสองคน ฉัน กับ คุณ เท่านั้น แต่เราผู้อ่านบุรุษที่สามได้เข้ามาเผือกรู้เรื่องของพวกเขาอยู่ห่างๆ อย่างฟินๆ น่ะค่ะ งงมั้ย .. อยากรู้ว่าเป็นไงต้องลองอ่านเองนะคะ
นิยายมีความยาว 323 หน้าค่ะ ตลอด 240 หน้า เนื้อเรื่องคือการที่เจมม่าสาวน้อยวัย 16 ปี ถูกลักพาตัวมาอยู่กับไทในทะเลทรายที่ห่างไกลผู้คนและไทได้สร้างที่อยู่อาศัยของเขาขึ้น เป็นโลกในอุดมคติชีวิตของไทที่เจ็มม่าพยายามจะหลบหนีอยู่ตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกัน ไทเองก็พยายามอย่างหนักที่จะให้เจ็มม่าเข้าใจและยอมรับ ก็ถือเป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ แต่พอเริ่มหน้า 241 ตลอด 82 หน้าที่เหลือ หลังจากที่ต่างคนต่างยอมจำนนต่อความต้องการของตัวเอง เจ็มม่าเลิกหนี เช่นกันกับที่ไทตกลงสัญญา ขอเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วเขาจะปล่อยเธอไปด้วยตัวเอง ชักเริ่มรู้สึกดี
นับจากวันนั้น วันแห่งแสงอาทิตย์อัสดง นับจากคืนนั้น คืนที่ดาวพร่างพราวฟ้า
และภาวะวิกฤตความเป็นความตายที่ติดตามมา ...
เราคิดว่ามันเป็นบรรยากาศที่สวยงาม อ่อนหวาน ให้ความรู้สึกอ่อนโยน
เกิดอาการแพ้ใจให้กับไท เหมือนกับที่เจมม่าเองก็พ่ายแพ้
เรื่องนี้จึงโรแมนติกละมุนใจ และอยากจะยกความดีให้กับผู้แปลด้วย
ถ้าแปลไม่ดีไม่คิดว่าจะรู้สึกดีกับนิยายที่เล่าเรื่องด้วย "ฉัน" ได้ง่ายนัก
ก่อนหน้านั้นก็รู้สึกอยู่นะคะว่าเรื่องโรแมนติก แต่ด้วยเรารู้สึกว่าพระเอกนี่เพ้อเจ้อเสียจริง โลกทั้งใบมีเพียงแค่เราสองคนในดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ก็เลยไม่อินกับขุ่นไทเขาเท่าไหร่ แต่พอถึงจุดที่จะอินก็อินขึ้นมาดื้อๆ จากที่ตั้งป้อมจะตัดสินว่าน่าเบื่ออยู่แล้ว 82 หน้าที่เหลือมันพลิกความรู้สึกไป .. (ที่บิ๊วมาก่อนหน้าเพิ่งส่งผล)
ความรักที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริงหรือสิ่งลวง เจมม่าจะทำอย่างไรกับไทและหัวใจของตัวเอง
สรุปว่าถึงไม่มากแต่ก็อยู่ในข่าย .. ชอบอยู่นะคะเรื่องนี้
มีหลายเล่มที่ตาม และจากไปพร้อมการปิดตัวของ สนพ. ตามหาได้บ้างไม่ได้บ้าง