Flipped ต้นไม้ ไข่ไก่ และหัวใจหกคะเมน / หวานนักรักวันแรก
ความวุ่นวายใจของเด็กหญิงและเด็กชายที่มองต้นไม้และไข่ไก่คนละมุม
"ต้นไม้" "ไข่ไก่" เอ๊ะ คุ้นๆ อยู่นะ อ่านดูคำโปรยปกหลังทันใด
ครั้งแรกที่จูลีเห็นไบรซ์ เธอแทบจะละลายลงไปตรงนั้น
"วันแรกที่เจอไบรซ์ ลอสกี ฉันถึงขั้นหกคะเมนตีลังกาเลยทีเดียว จริงๆ นะ เพียงแวบแรกที่เห็น ฉันก็เสียสติไปเลย เพราะดวงตาของเขา บางอย่างในตาเขา ดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย มีขนตาสีดำขลับล้อมรอบ น่าทึ่งเหลือเกิน"
ครั้งแรกที่ไบรซ์เห็จูลี เขาวิ่งหนี
"ผมต้องการแค่ให้จูลี่ เบเกอร์ เลิกยุ่งกับผมเสียที ให้เธอไปอยู่ห่างๆ ---เว้นที่ว่างให้ผมบ้าง"
ทั้งคู่รู้สึกแบบนี้อยู่หกปี จนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยมสอง
เรื่องราวก็กลับตาลปัตร
ไบรซ์ไม่ได้เป็นเทพบุตรสำหรับจูลี่อีกต่อไป
ขณะที่จูลี่ไม่ได้เป็นตัวอันตรายสำหรับไบรซ์อีกแล้ว
กรี๊ด ..หัวใจหกคะเมน นี่มันหนังเรื่องนั้นนี่นา .. หลังจากระลึกได้ก็ไม่ต้องเสียเวลาหยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว แน่นอนว่าต้องซื้อ! เพราะนี่คือที่มาของหนังเรื่อง Flipped หวานนักรักวันแรก (2010)
ถ้าแม้แต่หนังสองชั่วโมงเรายังชอบมากขนาดนั้น นับประสาอะไรกับหนังสือ ที่ย่อมจะให้รายละเอียดความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และความสัมพันธ์ในครอบครัวได้มากมายกว่า
เวลาที่เราหลงรักใครสักคน บางทีมันช่างไร้เหตุผลที่เหมาะสม อาจแค่เห็นหน้าแล้วตกหลุมรัก เหมือนเวลาที่ไม่ชอบใครสักคน อาจเพราะแค่รู้สึกไม่ถูกโฉลกขึ้นมาเฉยๆ ทั้งที่เราก็รู้กันอยู่ว่า คนที่เราไม่ชอบ อาจเป็นคนที่ดีมากๆ คนหนึ่ง และคนที่เราตกหลุมรักอย่างจัง ก็อาจไม่ได้ดีเลิศกว่าใครในโลกนี้ บางทีชีวิตเราก็พลาดสิ่งที่ดีที่สุดหรือคนที่ดีที่สุดไป เพียงเพราะความคิดแรกพบเหล่านี้เอง
- : สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน ธันวาคม 2554 :-
มันเริ่มต้นขึ้นจากวันนั้น ที่ครอบครัวลอสกี ย้ายเข้ามาอยู่ยังบ้านหลังตรงกันข้ามอีกฟากฝั่งถนน เด็กหญิงจูลี่วัยเจ็ดขวบ ตกหลุมรักเด็กชายวัยเดียวกันที่มาพร้อมกับครอบครัวลอสกีในทันที
ฝันหวานของจูลี่ที่มีไบรซ์ ในวันหนึ่งข้างหน้าเขาจะเป็นจูบแรกของเธอ
แต่สำหรับไบรซ์ นับจากวันนี้เป็นต้นไป... จูลี่ เบเกอร์ คือฝันร้ายในชีวิต
เธอคือตัวอันตรายที่ไบรซ์อยากจะหลบลี้หนีให้ไกล แต่บ้านอยู่ตรงข้ามกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ที่นั่งติดกัน แล้วยัยจูลี่ยังทำตัวเหมือนเป็นสตอล์คเกอร์คอยตามเขาเป็นเงาตามตัวอีกต่างหาก แล้วไบรซ์จะหนีไปไหนได้เล่า ต่อให้พยายามแค่ไหนเธอก็ไม่เคยเข้าใจการบอกใบ้ ไม่เคยรู้ทันเกมเขี่ยคนออก ไม่เคยสังเกตเห็นว่าไบรซ์ต้องการระยะห่าง พื้นที่กันชน และพื้นที่ที่ปลอดภัย
เธอเป็นทั้งฝันร้ายที่บ้านและเป็นหายนะที่โรงเรียน เป็นผู้หญิงประหลาดที่น่ารำคาญที่สุด เจ้ากี้เจ้าการที่สุด ชอบโชว์ออฟ ทำตัวอวดรู้ที่สุดในโลก ตัวแสบขั้นเทพ แถมยังก้าวร้าวอย่างเหลือเชื่อ หกปีผ่านมาแล้วที่ไบรซ์ต้องทนและทนต่อการถูกจูลี่ เบเกอร์ ติดตามรังควานชีวิต
แต่เมื่อเขาและเธอขึ้นชั้นมัธยมสอง .. เพราะ "ต้นไม้" เพราะ "ไข่ไก่" และอะไรหลายอย่างที่ตามมาหลังจากนั้น ทำให้หัวใจของจูลี่และไบรซ์หกคะเมนตีลังกากลับทางกัน
"สิ่งสำคัญคือแสงและเงาที่พอดีนะ จูเลียนนา"
"ภาพๆ หนึ่งเป็นมากกว่าการเอาสิ่งต่างๆ มารวมกัน"
ครั้งแรกที่พ่อบอกกับจูลี่ด้วยถ้อยคำเหล่านั้น เธอไม่เข้าใจนัก แต่เพราะ "ต้นไม้" เพราะ "ไข่ไก่" และอะไรๆ อีกหลายอย่าง เธอเริ่มเข้าใจความหมายของมัน
"เด็กผู้หญิงอย่างนี้ไม่ได้อยู่บ้านติดกับทุกคนหรอกนะ"
"เราบางคนเกิดมาหน้าตาธรรมดา บ้างก็สวยงาม บ้างก็สดใส แต่เมื่อเรามีโอกาสได้พบคนที่เปล่งประกายหลากสี ก็จะไม่มีอะไมาเทียบได้"
นั่นคือสิ่งที่ตาบอกกับไบรซ์ สิ่งที่ไบรซ์ไม่เข้าใจ ตาของเขาเห็นอะไรดีนักในตัวของจูลี่
หลังจากหกปีสำหรับจูลี่ ที่ไบรซ์เคยเป็นเทพบุตร ป็นคนที่เธออยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา-หัวใจของเธอแตกร้าว
ฉันรู้สึกถึงเปลวไฟที่เผาไหม้อยู่ตรงแก้ม และน็อตแข็งเย็นเยือกที่ขันแน่นในหัวใจฉัน เพียงชั่วแว่บนั้น ฉันก็รู้เลยว่า -พอกันทีกับไบรซ์ ลอสกี
ตอนที่เหลียวมองไปรอบๆ ฉันพลันรู้สึกตัวขึ้นมา ว่าเรากินอาหารค่ำอยู่กับคนแปลกหน้า เราอยู่บ้านตรงกันข้ามกันมานานหลายปี แต่ฉันไม่รู้จักคนเหล่านี้เลย แล้วก็ไบรซ์ คนที่รบกวนจิตใจฉันที่สุด ต้องยอมรับว่าฉันไม่รู้จักเขาอย่างลึกซึ้งเช่นกัน และจากสิ่งที่ได้ค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ ฉันก็ไม่สนใจอยากรู้จักเขาอีกต่อไปแล้ว การจ้องไบรซ์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ฉันแค่รู้สึกเฉยๆ อย่างไรพิกล ไม่วูบวาบ ไม่หลงเหลือความโกรธ หรือหัวใจเต้นรัวอีกแล้ว .. ไม่เลยสักอย่าง
เขาไม่ใช่คนที่หนู อยาก จะชอบ หนูต้องการเวลาสักพักเพื่อผ่านพ้นช่วงเวลาที่หนูหลงชอบเขามาตั้งหลายปีให้ได้
หลังจากหกปีสำหรับไบรซ์ ที่จูลี่เคยเป็นเด็กผู้หญิงน่ารำคาญจนเขาอยากจะหนีไปให้พ้นๆ - เขาเสียใจ แต่ไม่กล้าจะบอกออกไปว่า "ขอโทษ"
การที่จูลี่โกรธผมนั้นแย่ยิ่งกว่าการที่เธอมาคอยรังควานผมอีก ทำไมน่ะเหรอ เพราะผมเป็นคนทำพังน่ะสิ
หลายปีที่ผ่านมา ผมมัวแต่คอยหลบหน้าจูลี่ เบเกอร์ ทำให้ผมไม่เคยมองหน้าเธอแบบจริงๆ จังๆ มาก่อน แต่ขณะนี้ จู่ๆ ผมก็ละสายตาจากเธอไม่ได้ ความรู้สึกประหลาดนี้ก่อตัวขึ้นในท้อง ซึ่งผมไม่ชอบเลย บอกตามตรงว่ามันทำให้ผม..กลัวหัวหด
หลังจากมื้อค่ำวันนั้น จูลีทำดีกับผมเวลาที่อยู่โรงเรียน ซึ่งผมไม่ชอบเลย ให้เธอโกรธยังดีเสียกว่า ให้เธอคลั่งไคล้ผมยังดีเสียกว่า ..ทำ ดี ด้วย เพราะมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ และให้ตายเถอะ มันรบกวนจิตใจผม กวนอย่างหนักเสียด้วย
ผมรู้ว่าผมต้องก้าวไปข้างหน้า ทว่าผมขยับเขยื้อนไม่ได้ รู้สึกเหมือนโดนชกเข้าที่ท้อง จูลี่ชอบ จอน เหรอ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอ..เธอ... ทำ ดี เหรอ เพราะเธอไม่สนใจผมอีกต่อไปแล้วเหรอ ตลอดชีวิตผมมีเธอมาคอยวนเวียน รอให้ผมหลบหน้า แต่ตอนนี้เหมือนผมไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ
ตามนั้นเลยค่ะ "เด็กหญิงและเด็กชายที่มองต้นไม้และไข่ไก่กันคนละมุม" การดำเนินเรื่องราวจึงเป็นไปแบบผลัดกันเล่าเรื่องเดียวกันในแต่ละเหตุการณ์ที่ดำเนินไปเป็นตอนๆ ตอนนี้ในมุมของเขา ตอนนี้ในมุมของเธอ เขาเล่า เธอเล่า ในความรู้สึกนึกคิดของเขา ในความรู้สึกนึกคิดของเธอ เหมือนหนึ่งตอน เล่าสองครั้ง แต่เราไม่รู้สึกว่าซ้ำ เพราะแม้จะเรื่องเดียวกันแต่มันเป็นเรื่องคนละมุม ซึ่งทำให้สนุก น่าสนใจ และน่ารักมาก
"แล้วไม่รู้สิฮะ ... จากนั้นผมก็รู้สึกแปลกๆ จูลี่ดูต่างไปจากเดิม คำพูดเธอก็ไม่เหมือนเดิม สำหรับผมแล้วเธอไม่เหมือนคนเดิมเลย .. เธอ .. เธอไม่เหมือนเดิม"
"ไม่หรอกไบรซ์ จูลีเป็นเคนเดิมอย่างที่เคยเป็นมาตลอด หลานต่างหากที่เปลี่ยนไป และลูกเอ๋ย ..นับจากจากนี้ไป หลานจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก"
จูลี่ เบเกอร์ เคยเป็นคนสุดแปลกที่ทำอะไรประหลาดๆ อยู่เสมอ เธอจึงเป็น "เพื่อนบ้านสยองขวัญ" ที่ไบรซ์ไม่อยากอยู่ใกล้ให้ได้รับความอับอาย ก็สมใจเขาแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เธอจะไม่มาเข้าใกล้เขาอีกต่อไป เธอไม่.. แม้แต่จะยอมพูดกับเขา
เดี๋ยวนี้ผมนั่งมองบ้านจูลี่จากหน้าต่างห้องนอนนานเป็นชั่วโมงๆ ผมจ้องท้องฟ้า นับแกะ ให้ตายเถอะ ผมไม่อาจหยุดเสียใจที่ทำตัวปัญญาอ่อนตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้
หากย้อนเวลากลับไปได้ไบรซ์จะแก้ไขทุกสิ่ง จะยินดีทำทุกอย่าง (เรื่องที่เขาเคยเห็นว่า ประหลาด เหล่านั้น) เพื่อให้จูลี่กลับมาพูดคุยกับเขา เขาจะทำ ถ้ามันทำให้ได้อยู่กับจูลี่ในตอนนี้
ทำอะไรสักอย่าง ผมต้องทำอะไร สักอย่าง เพื่อแสดงให้จูลี่เห็นว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว เพื่อพิสูจน์ว่าผมเข้าใจ ว่าแต่อะไรล่ะ ผมจะแสดงให้เธอเห็นได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิด ผมจะลบล้างทุกสิ่งที่เคยทำและเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไร
ผมอาจจะทำไม่ได้ หรืออาจจะทำไม่สำเร็จ ทว่าหากผมได้เรียนรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งจากจูลี่ เบเกอร์ แล้วล่ะก็ สิ่งนั้นคือ ผมต้องทุ่มเททั้งใจและจิตวิญญาณ แล้วพยายามอย่างสุดความสามารถ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมรู้ว่าตาพูดถูกเรื่องหนึ่ง ผมจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก
ผมรักจู่ลี่ (ประโยคนี้ต่อเอง .. ด้วยน้ำตา )
คาดหวังไว้สูง นอกจากไม่ทำให้ผิดหวัง ยังประเดประดังด้วยความเศร้า-ซึ้ง-สุข-สมหวังทั้งน้ำตา ไม่ว่าจะเรื่อง ต้นไม้ ไข่ไก่ สนามหญ้า คุณตาแสนเหงาของไบรซ์ คุณอาปัญญาอ่อน พ่อแม่ผู้เสียสละของจูลี่ ทั้งยังมีสองพี่ชายวัยรุ่นผู้แผลงทะโมนแต่เป็นคนรักดี (ไม่ใช่แฝด แต่ก็ทำให้นึกถึงคู่แฝดวีสลีย์-จากแฮรี่ พอตเตอร์จัง ชอบคู่นี้มากเลย) ฉากที่พ่อของจูลี่ร้องไห้ (ขอร้องไห้ด้วย) ซึ้งมากมาย แม้ครอบครัวจะยากจน อยู่กันอย่างกระเบียดกระเสียร แต่เขามีภรรยาที่รักและเข้าใจ มีลูกชายที่รักดีให้ภูมิใจ และมีลูกสาวที่สดใสงดงาม ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
ครอบครัวเบเกอร์ เป็นครอบครัวประหลาด เหมือนกับจูลี่ที่ประหลาดนั่นแหละ แมตต์ กับ ไมค์ พี่ชายทั้งสองของจูลี่ก็ประหลาดไม่ได้น้อยไปกว่ากัน พวกเขาเป็นเพื่อนกับ ลีเน็ตตา พี่สาวเจ้าอารมณ์ของไบรซ์ และรุมหัวกันเรียกเขาว่า "น้องน้อย" (ซึ่งไบรซ์ไม่ชอบเลย) มีวงดนตรีชื่อวง "ฉี่ลึกลับ" และเลี้ยงงูเหลือมเป็นสัตว์เลี้ยงในห้องนอน แถมยังให้มันกลืนหนู-กลืนไข่ มันทำให้ไบรซ์รู้สึกอยากขย้อนและนอนฝันร้ายอยู่ร่วมเดือน แต่โลกของครอบครัวกลับสะท้อนให้เห็นถึงโลกอีกใบของครอบครัวลอสกีที่แฝงความเน่าเฟะบางอย่างอยู่ภายใน ไบรซ์เองก็อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าเขากำลังจะเนี่าเสียไปด้วยหรือไม่
"นิสัยคนเราจะติดตัวไปตั้งแต่เด็กๆ สิ่งที่หลานเลือกวันนี้จะส่งผลต่อหลานไปทั้งชีวิต ตาไม่อยากเห็นหลานว่ายน้ำออกไปไกล จนว่ายกลับมาไม่ได้"
"ลองเอาคำพูดตาไปคิดดู และครั้งต่อไปที่หลานจะต้องเลือก จงเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในระยะยาวมันจะทำร้ายความรู้สึกคนอื่นน้อยกว่า"
โชคดีที่ ไบรซ์ ลอสกี คนเดิมมอดไหม้ไปแล้ว และไม่มีทางย้อนกลับไป จูลี่ เบเกอร์ ก็ไม่ใช่ตัวประหลาดอีกต่อไป แต่เธอคือความอบอุ่น ความจริงใจ อาจเป็นเพราะต้นไม้ อาจเป็นเพราะไข่ไก่ และอาจเป็นเพราะอะไร ๆ ที่ทำให้เธอ "แตกต่าง" จากคนอื่น ซึ่งเทียบกันแล้ว ช่างธรรมดาเหลือเกิน ไบรซ์ชอบความแตกต่างนั้น และการยอมรับกับตัวเอง ทำให้เขาเข้มแข็ง กล้าหาญ เขามีความสุข
ฉากประทับใจสุดๆ นะ ไบรซ์ไม่ได้พูดอะไรเลยกับจูลี่ เพื่อขอให้เธอยอมรับ แต่เขานำหัวใจและจิตวิญญาณมามอบให้ ราวกับเป็นคำมั่นสัญญา อดีตย้อนกลับไปไม่ได้ แต่ในอนาคตสักวัน เราจะปีนขึ้นไปอยู่บนต้นของมัน..ด้วยกัน นี่คือ "ซิคามอร์" ต้นไม้มหัศจรรย์แห่งความสุขของจูลี่
ร่ายมายาวขนาดนี้ คงบอกชัดแล้วล่ะมัง ว่าคนอ่านคนนี้มีความสุขแค่ไหน อ่านนิยายจบ คนยังไม่อยากจบไปจากความซาบซึ้งใจ ขอดูหนังซ้ำอีกรอบ ตามประสาคนชอบย้ำคิดย้ำทำ Flipped ต้นไม้ ไข่ไก่ และหัวใจหกคะเมน /หวานนักรักวันแรก
ต้นซิคามอร์ "หลักฐานของความอดทน" แม้ตัวละครจะอายุเพียงสิบสามปี แต่นี่เป็นฉากที่ให้ความรู้สึกนึกคิด-โรแมนติกลึก เหมือนกับว่านี่คือ "ความรัก" ที่จะเริ่มต้น เติบโต และยืนยงไปชั่วนิรันดร์
ฟินนี้มีเว่อร์เป็นการส่วนตัวนะคะ
Create Date : 13 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 23:08:30 น. |
|
18 comments
|
Counter : 11404 Pageviews. |
|
|
แต่อ่านรีวิวแล้วน่าดูและน่าอ่านค่ะ
เคยเห็นเรื่องนี้ผ่านตาค่ะ
แต่ไม่คิดว่าน่าสนใจ
ขอบคุณมากๆค่า ชอบจังคำนิยามของเรื่องนี้
ต้องหามาอ่าน+ดูใให้ได้ค่ะ