|
โสดาปัตติมรรค-แนวทางเพื่อทรงคุณธรรมเป็นพระโสดาบัน ตอน ๑๐
แม้แต่ภิกษุชาวพุทธเราก็เหมือนกัน บางท่านก็มีความเชื่อว่า ปลงอาบัติแล้วไม่เป็นไรแล้ว บาปไม่มีแล้ว ไม่ตกนรกแล้ว แต่ความเป็นจริง บาปกรรมนั้นยังคงมีอยู่ การปลงอาบัติเป็นเพียงวิธีการที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้พระภิกษุ สารภาพความผิดต่อกัน และว่าต่อไปผมจะไม่ทำผิดวินัยข้อนี้(หรือข้ออื่น ๆ ) อีกแล้วครับ จะได้มีความละอายใจที่จะไม่ทำผิดอีก เรื่องพระวินัยและอาบัตินี้ สามารถหาอ่านหรือรับฟังเสียงธรรมของหลวงพ่อ ฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุงได้ เพราะท่านอธิบายไว้อย่างละเอียด แจ่มชัดทีเดียว
ในเรื่องศีล ๒๒๗ สำหรับพระภิกษุนั้น หลายท่านก็มองข้ามไป(แม้แต่ข้าพเจ้าเอง)คิดว่าเป็นศีลของพระสงฆ์ไม่เกี่ยวกับเรา ไม่จำเป็นต้องศึกษา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระท่านจะปฏิบัติเอาเอง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องผิดอีกเรื่องหนึ่ง เราชาวพุทธนั้น การศึกษาข้อสิกขาบทไว้บ้างเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง เมื่อจำเป็นต้องเข้าพบหรือสนทนากับพระภิกษุสงฆ์ จะได้ไม่เป็นการทำให้ท่านต้องอาบัติ เช่น การเข้าพบพระสงฆ์เมื่อเป็นผู้หญิง หรือพูดคุยกับท่านตามลำพัง เรื่องงนี้เราชาวพุทธต้องศึกษากันให้ดี ดังเรื่องที่ข้าพเจ้าได้ฟังจากเพื่อนความว่า เธอเข้าไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วเข้าไปสนทนากับทานเพียงลำพัง เมื่อข้าพเจ้ารู้ก็รีบบอกว่าไม่ได้นะ ทำอย่างนี้ท่านต้องอาบัติเข้าแล้ว เธอก็บอกว่าไม่เป็นไร พระท่านปลงอาบัติทุกเช้าอยู่แล้ว
เป็นอันว่าต้องอาบัติแล้วปลง ปลงแล้วก็อาบัติซ้ำ ๆ กันแล้วมันจะพ้นนรกไปได้หรือ ขอตอบแทนเลยว่าไม่ได้เด็ดขาด การแสดงธรรมต่อ ฆราวาสผู้หญิง หนึ่งต่อหนึ่งนั้นจึงเป็นสิ่งที่พระต้องระวัง เราก็ต้องระวังเช่นกัน ถึงแม้จะมีเจตนาดีกันทั้งสองฝ่าย แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้แล้วนั้นก็ต้องเคารพ หากไม่เคารพเราก็จะเป็นพระโสดาบันไม่ได้ ตายแล้วลงนรกอย่างเดียว
การยึดถือของศักดิ์สิทธิ์ น้ำมนต์ วัตถุมงคล ไสยศาสตร์ ข้าพเจ้าขอรวมเรื่องการเล่นการพนัน ทุกประเภทไว้ด้วย ผู้ปฏิบัติเพื่อเข้าถึงพระโสดาบันต้องละให้ได้ ตัดให้ขาด และต้องไม่มีความตัดพ้อเสียใจในภายหลัง จะต้องมีพระรัตนตรัยและพระนิพพานเป็นอารมณ์อยู่เสมอ ยังมีอยู่อย่างหนึ่งที่เราต้องรักษากันให้มั่นคง นั่นคือศีล ๕ ประการ การรักษาศีลนั้นก็ขอให้รักกันจริง ๆ จะต้องไม่มีเหตุอันไม่สมควร ใด ๆมาทำให้เราผิดศีล ๕ ได้ ตื่นตอนเช้าทุกเช้าต้องภาวนาขอพระรัตนตรัยเป็นสรณะและ สมาทานศีล ๕ เป็นประจำ
การรักษาศีล ๕ ของพระโสดาบันนั้นรักษากันเท่าชีวิตทีเดียวคือ แม้มีเหตุเฉพาะหน้าทำให้ถึงแก่ชีวิตก็จะไม่ยอมผิดศีล เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากที่สุดในสังคมปัจจุบัน เหตุผลประการหนึ่งที่ลาออกจากงานประจำ ก็เพราะต้องการรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์นี้เอง สังคมทุกวันนี้ต้องยอมรับกันว่าละเลยเรื่องศีลธรรมกันเป็นอย่างมาก คนที่ทำผิดศีล ๕ เพื่อประโยชน์ของตัวเองมีมาก จึงแตกต่างจากสังคมสมัยพุทธกาลที่สังคมยังไม่ซับซ้อนขนาดนี้ ข้าพเจ้าจึงคิดว่าตราบใดที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่ในสังคมเมืองปัจจุบัน ความเป็นพระโสดาบันจะเกิดกับท่านยากมาก ๆ นอกจากสังคมนั้นจะเอื้อต่อการปฏิบัติ แต่ก็หายากมาก ๆ แล้ว แม้แต่ในวัดเองก็ตาม
Create Date : 07 เมษายน 2551 |
Last Update : 7 เมษายน 2551 15:16:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 420 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|