มะระ
......
หรือ มะระจีน ชื่อสามัญ Bitter melon, Balsam pear,
Bitter cucumber, Bitter gourd
ไม้เลื้อยเขตร้อนในวงศ์แตง
เป็นพืชผักอาหาร ที่อยู่คู่กับคนเอเชียมาช้านาน
โดยมะระแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดี
นั่นก็คือ มะระขี้นก และ มะระจีน
หวานเป็นลม ขมเป็นยา ....
ความขมเพียงเล็กน้อยของมะระ มีประโยชน์ทางอาหาร
และสรรพคุณทางยา ที่มีมากมายจนเรานึกไม่ถึง
เหตุที่มะระมีรสขม เพราะมีสารเคมีชนิดหนึ่งชื่อ Momodicine
ซึ่งมีสรรพคุณ ในการช่วยกระตุ้นความรู้สึก ให้อยากอาหาร
ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้น้ำย่อย ในกระเพาะอาหาร
ทำงาน ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังออกมามากช่วยทำให้ ดวงตาสดใส
มีฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง
รสขมที่แฝงอยู่ในผลมะระยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอย่างอ่อน
โดยเฉพาะผู้มีปัญหาเรื่องท้องผูกเป็นประจำ
อีกทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
และ เบต้าแคโรทีนในผลมะระ ช่วยปกป้องเซลล์
จากการทำลายของสารก่อมะเร็งต่างๆ
ช่วยทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น
มะระ นำมาประกอบอาหาร ได้มากมายหลายชนิด
เช่น มะระต้มจืด แกงจืดมะระยัดไส้ มะระผัด ยำมะระสด
หรือลวกจิ้มน้ำพริก การลดความขมของมะระ
เพื่อนำมาประกอบอาหารนั้น มีเคล็ดลับว่า
ก่อนนำมะระที่หั่น หรือซอยแล้ว
นำไปคลุกกับเกลือ ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
หรือ เวลาต้มมะระยัดไส้ ให้เปิดฝาหม้อไว้ จนเดือด
จะช่วยลดความขมของมะระได้
ใบสด ใช้ต้มดื่ม เพื่อบรรเทาอาการหวัด
รักษาแผล ในกระเพาะอาหาร แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ
ลดการบวม หรือฟกช้ำตามร่างกาย และใช้ทาแก้อาการผื่นคันได้
ผลมะระสุก คั้นเอาแต่น้ำ ใช้ทาหน้าเพื่อแก้อาการสิวอักเสบ
ผลดิบ ใช้ลวกกินกับน้ำพริก แก้อาการปวดเข่า ในผู้สูงอายุ
หรือแม้แต่เมล็ดมะระ ก็มีคุณสมบัติในการปรับธาตุในร่างกาย
ให้เกิดความสมดุล รากสดของมะระ ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข้
และบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
ผลสด ๆ มาคั้นเป็นน้ำดื่ม เพราะน้ำที่ได้จากผลมะระ
มีสรรพคุณ ในการช่วยฟอกเลือดและกระตุ้นการทำงานของตับ
ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งยังมีคุณสมบัติ
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และเพิ่มอินซูลินตามธรรมชาติ
ให้กับร่างกาย น้ำมะระจึงเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ