กระท้อน
.....
ชื่อสามัญ : Sentul, Santol, Red sentol, Yellow sentol
ชื่อท้องถิ่น เตียน ล่อน สะท้อน (ภาคใต้)
มะต้อง (ภาคเหนือ อุดรธานี) มะติ๋น (ภาคเหนือ)
สตียา สะตู (มาเลย์-นราธิวาส) สะโต (มาเลย์-ปัตตานี)
มีถิ่นกำเนิดแถวอินโดจีน และมาเลเซียตะวันตก
ก่อนจะแพร่ขยายไปในอินเดีย อินโดนีเซีย มอริเชียส
และฟิลิปปินส์ จนกลายเป็นพืชท้องถิ่น
สายพันธุ์กระท้อน ที่ได้รับความนิยม เป็นพันธุ์กระท้อนห่อ
ที่มีรสหวาน ได้แก่ สายพันธุ์อีล่า ปุยฝ้าย ทับทิม
อินทรชิต นิ่มนวล ขันทอง เทพรส อีแดง
ส่วนพันธุ์พื้นเมือง จะมีรสเปรี้ยว ผลดกแต่มีขนาดเล็ก
จึงนิยมนำมาทำเป็น กระท้อนทรงเครื่อง กระท้อนดอง
กระท้อน ผลใช้รับประทานเป็นอาหาร
ใช้ทำอาหารคาวหวาน ได้หลากชนิด เช่น แกงคั่ว
แกงฮังเล แกงกบกระท้อน แกงอ่อมปลาดุก
ผัดเมี่ยง ตำกระท้อน
ส่วนอาหารหวาน เช่น กระท้อนทรงเครื่อง กระท้อนลอยแก้ว
กระท้อนดอง กระท้อนกวน กระท้อนแช่อิ่ม
เยลลี่กระท้อน แยมกระท้อน น้ำกระท้อน
หรือใช้กินเป็นผลไม้สด
กระท้อนให้ สารแอนดิออซิแดนท์สูง ช่วยต้านอนูมูลอิสระ
ป้องกันการเกิดมะเร็ง บำรุงโลหิต แก้ลมจุดเสียด
เนื้อกระท้อมอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรด เส้นใย โปรตีน
แคลเซียม เหล็ก ไนอะชิน วิตตามินเอ วิตตามินบี1 วิตตามินซี
ใบต้มผสมน้ำต้มช่วยแก้ไข้ รักษาโรคผิวหนัง ราก
ใช้เป็นยาดับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้ไข้มาลาเรีย
แก้บิด แก้ท้องร่วง หรือตำกับน้ำ
และน้ำส้มสายชู ดื่มแก้ท้องเดิน และช่วยขับลม อีกด้วย
กระท้อน เป็นผลไม้ที่มีธาตุโพแทสเซียมสูง
จึงไม่ค่อยเหมาะนัก สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต
เพราะผู้ป่วยบางราย ต้องควบคุม
การรับประทานโพแทสเซียมเป็นพิเศษ
และสำหรับบุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นโรคไตก็ไม่ควรประมาท
เนื่องจากมีการตรวจพบว่า
กระท้อนก็มี สารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ ปนเปื้อนได้เช่นกัน
หากได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก
จะเกิดอาการอักเสบตามอวัยวะที่สัมผัส
เช่น ปากและกระเพาะอาหาร รวมไปถึงมีอาการแน่นหน้าอก
ปวดท้อง อาเจียนอีกด้วย
กระท้อนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่
สามารถ มีอายุได้หลายร้อยปี ลักษณะใบใหญ่
ปลายใบแหลมสีเขียวเข้ม ดอกกระท้อนออกเป็นช่อ
ซึ่งแต่ละช่อจะมีดอกเล็กๆ สีขาวปะปนอยู่
ผลกระท้อนมีรูปค่อนข้างกลม หรือ กลมแป้น
โดยมีขนาดเสนผ่านศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร
ผลดิบจะมีสีเขียวผิวเกลี้ยง ผลที่สุกจะเป็นสีเหลือทอง
หรือสีน้ำตาลอ่อนผิวหยาบ มีรอยย่นของผิว
ตามแนวยาวของผล ส่วนเนื้อติดเมล็ดสีขาว
เป็นปุยเนื้อกระท้อนเกาะกัน เป็นพู แต่ละผลมีประมาณ 3-5 พู
แต่ละพูจะมี 1 เมล็ด บางพันธุ์จะหวาน บางพันธุ์จะเปรี้ยว
เนื้อที่ติดกัน สามารถนำมารับประทานได้ รสเปลี้ยวอมฝาด
กระท้อนสามารถทนแล้งได้ดีเยี่ยม
จะให้ผลผลิตในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน
ปลูกได้ทุกภาคของประเทศ
จังหวัดที่ปลูกกระท้อนมากที่สุด คือ นนทบุรี ปราจีนบุรี
ชลบุรี พิษณุโลก และสุราษฏร์ธานี
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ