ผักหนาม
.....
ชื่อสามัญPhak nam ชื่อท้องถิ่น กะลี หลั่นฉื่อโก จุยหลักเท้า
เป็นพืชจำพวกบอน ยอดและใบอ่อน นำมารับประทาน
ด้วยการทำให้สุก หรือดอง จึงค่อยนำมาเป็น ผักจิ้มน้ำพริก
ใส่แกงส้ม แกงไตปลา หรือนำมาผัด
เพราะ ก้านและใบมี Cyanogenetic glycosides
ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ได้
คนหรือสัตว์กินดิบ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การดอง และทำให้สุก ไซยาไนด์จะถูกทำลายไป จึงนำมากินได้
ยอดอ่อนใช้ต้มกะทิ หรือดองเปรี้ยว กินเป็นผักจิ้ม
ในอินเดีย ใช้ทั้งต้นแก้ปวดท้อง ปวดตามข้อ
และโรคผิดปกติเกี่ยวกับลำไส้ ลำต้นและผล
ใช้แก้อาการ ผิดปกติเกี่ยวกับคอ ผลใช้ปรุงเป็นอาหารได้
น้ำคั้นจากต้น ใช้เป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร
ในศรีลังกา ใช้ใบแก้ปวดท้อง และปวดอื่น ๆ
ก้านใบบดให้เละ ให้วัวควายกิน แก้อาการผิดปกติเกี่ยวกับคอ
หรือปอกเปลือกแกงกินได้
ในไทย ใช้ลำต้นผสมปรุงเป็นยา กินแก้ไอ ขับเสมหะ
ใช้ภายนอก ต้มเอาน้ำอาบ แก้ผื่นคัน
เช่น เป็นเหือด หัด สุกใส ดำแดง ทำให้ผื่นหายเร็วขึ้น
คุณค่าทางโภชาการมี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก
วิตามินเอ วิตามิน 1 วิตามินบี 2วิตามินซี ไนอาซิน
สรรพคุณทางยา ผักหนามมีรสจืด แก้ไอขับเสมหะ
ต้นหั่นตากแห้ง ต้มกับน้ำเคี่ยวสัก 10 นาที
ดื่มแต่น้ำ วันละ 2 ครั้ง เช้ากับเย็น รักษาแผลเรื้อรัง
ใช้ลำต้นหั่นตากแห้ง บดให้เป็นผง ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย
แล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นแผล ทาวันละบ่อยๆ
พืชล้มลุกหลายปี พบในบริเวณที่ชื้นแฉะ ริมหนองน้ำ คลอง บึง
หรือริมร่องสวน มีหนามแหลมตามลำต้น
ขอบใบหยักเว้าลึกเป็นแฉกๆ ใบอ่อนม้วนเป็นแท่งกลม
ลำต้นใต้ดินเป็นแท่นทรงกระบอก ทอดยาวขนานไปตามพื้นดิน
มีข้อและหนามแข็ง ติดกับราก ก้านใบเป็นเส้นกลม
ออกมาจากลำต้น ใบเป็นแผ่นบาง ๆ มีรอยเว้าลึก
เกือบถึงปลายใบ ฐานใบโค้งเข้าคล้ายรูปหัวใจ
มีเส้นกลางใบใหญ่ 1 เส้น ท้องใบมีหนาม
ใบอ่อนม้วนเป็นแท่งกลม ปลายแหลมงอกพุ่งออกมา
แล้วค่อยคลี่ใบออก กาบหุ้มช่อดอกสีแดงยาว บิดเป็นเกลียว
ช่อดอกออกรวมกันแน่นเป็นแท่งสีขาว
ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์เพศ บานจากบนลงล่าง
ผลอยู่ติดกันแน่นเป็นแท่งทรงกระบอก ผลย่อยเป็นเหลี่ยม
ขอบคุณที่มา fb. Siriwan Jane
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ
แต่ถ้าใช้ผิดก็ถึงตายเลย แง่ว
ขอบคุณข้อมูลดีๆ ค่ะ
ขออนุญาตแชร์ไปหน้าเพจนะคะ ^ ^