กระบก
.....
ชื่อสามัญ Barking Deers Mango, Wild Almond
ชื่อท้องถิ่น มะลื่น หมักลื่น (สุโขทัย นครราชสีมา) ซะอัง (ตราด)
หลักกาย (ส่วน-สุรินทร์) มื่น มะมื่น (ภาคเหนือ)
บก หมากบก หมากกระบก (อิสาน)
กะบก กระบก จะบก ตระบก (ภาคกลาง)
มีในทุกภาคของประเทศ ตามป่าดิบแล้ง
ป่าชายหาด ป่าเบญจพรรณ ป่าหญ้า และป่าแดง
กระบก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
เป็นไม้ผลัดใบ ทรงเรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ
มีความสูงของต้นประมาณ 10-30 เมตร
ลำต้นเปล่า เปลือกต้นมีสีเทาอ่อนปนสีน้ำตาลค่อนข้างเรียบ
โคนต้นมักขึ้นเป็นพูพอน เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินทุกชนิด
ในที่กลางแจ้ง และต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง
ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด
ลูกกระบก ลักษณะของผลเป็นรูปกลมรี หรือค่อนข้างเป็นรูปไข่
ลักษณะแบนเล็กน้อย คล้ายกับผลมะม่วงขนาดเล็ก
โดยผลอ่อนจะมีสีเขียว แต่เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ในผลมีเมล็ดและมีเนื้อหุ้มเมล็ดเละ ๆ เหมือนมะม่วง
ในผลกระบกมีเมล็ด เป็นเมล็ดเดี่ยวมีเปลือกแข็ง
เนื้อในเมล็ดมีสีขาวอัดแน่นอยู่
ติดผลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน
ลูกกระบกที่แห้ง ถ้านำมาผ่าซีก แล้วแคะเอาเม็ดสีน้ำตาล
ที่อยู่ข้างในมาคั่ว เราก็จะได้ เม็ดกระบกรสชาติมันๆ ไว้กิน
หรือใช้กินกับข้าวสวย และถ้ากินทั้งเปลือก โดยไม่ต้องคั่ว
กินกับน้ำเกลือ หรือกินกับสุราข้าวโพด 1 แก้ว
ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ นอกจากกระบกจะเป็นอาหารของคนแล้ว
ผลสุกของกระบก ที่ร่วงหล่นลงมา
ยังเป็นอาหารของ วัว ควาย รวมทั้งสัตว์เคี้ยวเอื้อง
สัตว์พวกนี้จะกินเนื้อกระบก แล้วคายเมล็ดออกมากองบนพื้นดิน
เนื้อในเมล็ดนำมาคั่วสุกมีรสมัน รับประทานได้
ความอร่อยระดับ "อัลมอนด์เมืองไทย"
น้ำมันจากเมล็ด ใช้ทำอาหาร สบู่ และเทียนไขได้
ผลสุก เป็นอาหารสัตว์ป่า
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ