Group Blog
All Blog
### เรื่องวุ่นวายของมะละกอ ###













มะละกอ ต้านอนุมูลอิสระ

มะละกอผลไม้ที่หวานอร่อย

ประโยชน์ของมะละกอนั้นค่อนข้างหลากหลาย

 มีสรรพคุณเป็นทั้งยารักษาโรค

ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ

ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เป็นต้น

และยังมีวิตามินและแร่ธาตุ

ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 1

 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3

 ธาตุแคลเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส

ธาตุเหล็ก โปรตีน เป็นต้น

แต่ไม่ควรรับประทานมะละกอที่สุก

ในปริมาณมากๆ หรือติดต่อกันเป็นเวลานาน

เพราะอาจจะทำให้ผิวของคุณ

เปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้

นอกจากที่กล่าวมา ยังมีสรรพคุณ

และประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

มะละกอผลไม้ที่หวานอร่อย

มีสรรพคุณและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเจ้ามะละกอนี้กันก่อน


มะละกอมีลำต้นตรงไม่มีกิ่งก้าน

 ลำต้นนิ่มมีสีเทา

 และมีร่องรอยของใบที่หลุดร่วงไป 

บเป็นใบเดี่ยวมีแฉกลึก 5-9 แฉก ก้านใบยาว

เรียงตัวแบบสลับเกาะกลุ่มอยู่ด้านบนสุดของลำต้น

ภายในก้านใบและใบมียางเหนียวสีขาว

ช่อดอกเพศผู้มีก้านดอกยาว

กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว

 ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรเพศผู้มี 10 อัน

ดอกเพศเมียก้านดอกสั้นหรือไม่มีก้านดอกเลย

 ดอกเพศเมียและดอกสมบูรณ์เพศ

ออกเดี่ยวหรือ 2-3 ดอก

 กลีบดอก 5 กลีบ ดอกมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้

มะละกอบางต้นอาจมีดอกเพียงเพศเดียว

แต่บางต้นอาจมีดอกทั้งสองเพศก็ได้

ผลดิบมีเนื้อสีขาวอมเขียวมีน้ำยางสีขาว

สะสมอยู่ที่เปลือก

ผลสุกมีเนื้อสีแดงส้ม เนื้อหนาอ่อนนุ่ม รสหวาน

 มีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลดำผิวขรุขระ

มีถุงเมือกหุ้มจำนวนมาก

มะละกอเป็นไม้ผลที่คนไทยนิยมกิน

ยอดอ่อนดองกินได้ ผลดิบนำมาปรุงอาหาร

ใช้ปรุงส้มตำ แกงส้ม แกงเหลือง

 แกงอ่อม ผัดไข่ ต้มจิ้มน้ำพริก ผลสุกกินสด 

น้ำมีรสชาติหวานหอม

มีวิตามินเอและแคลเซี่ยมสูง

พันธุ์ในประเทศใช้กินผลสุก

ที่ได้รับความนิยมคือพันธุ์แขกดำ

 ปัจจุบันมีการพัฒนาพันธุ์ครั่ง

ใช้กินดิบเก็บได้นาน

เนื้อกรอบ ตำส้มตำได้รสชาติดี

ผลดีต่อสุขภาพ

มะละกอ มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล

และเกลือโซเดียมต่ำ

เป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหาร

ธาตุโพแทสเซียมวิตามินเอ ซีและโฟเลต

 แต่ร้อยละ 92 ของพลังงานจากมะละกอสุก

มาจากคาร์โบไฮเดรต

ผู้ที่ควบคุมอาหารแป้งและน้ำตาล

จึงไม่ควรกินมะละกอมากเกินไป

สีแดงอมส้มที่พบในมะละกอสุกแสดงว่า

 มะละกอสุกมีสารไลโคพีน

ซึ่งเป็นสารช่วยลดความเสี่ยง

ในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย

มะละกอสุกอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ได้แก่ แคโรทีน วิตามินซี

สารฟลาโวนอยด์ สารโฟเลต

 กรดแพนโทเทนิก  ธาตุโพแทสเซียม

แมกนีเซียม และเส้นใยอาหาร

สารอาหารเหล่านี้บำรุงสุขภาพของระบบหัวใจ

และหลอดเลือด และป้องกัน

การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย

นอกจากนี้มะละกอมีเอนไซม์ปาเปน

สามารถนำมาใช้ด้านการแพทย์

เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทางการกีฬา



ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

มะละกออาจช่วยป้องกัน

โรคหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจ

ที่มีสาเหตุจากโรคเบาหวานได้ดี

 มะละกอมีวิตามินซี วิตามินอีและวิตามินเอ

 (ในรูปของสารแคโรทีนอยด์)

ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่มีความสำคัญ

ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ

ของคอเลสเตอรอล เชื่อว่าวิตามินซีและอี

ช่วยการทำงานของเอนไซม์พาราออกโซเนส

ซึ่งหยุดการเกิด อนุมูลอิสระของคอเลสเตอรอล

เส้นใยอาหารในมะละกอช่วยลดคอเลสเตอรอล

ส่วนกรดโฟลิกใช้เปลี่ยนกรดอะมิโฮโมซิสเทอีน

เป็นกรดอะมิโนซิสเทอีน  ที่ไม่มีพิษภัยอะไร

ถ้ามีโฮโมซิสเทอีนอยู่มากกรดอะมิโนนี้

จะทำลายผนังหลอดเลือด

 เกิดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย

หรือหลอดเลือดสมองอุดตันได้

ช่วยระบบทางเดินอาหาร

สาร อาหารในมะละกอช่วยป้องกัน

การเกิดโรคมะเร็ง ลำไส้ใหญ่

 เส้นใยอาหารจากมะละกอสามารถจับกับสารพิษ

ก่อมะเร็งในลำไส้ใหญ่

และพาส่งออกทำให้เกิดการสัมผัส

กับเซลล์ลำไส้ใหญ่น้อยที่สุด

และสารโฟเลต บีตาแคโรทีน วิตามินซีและอี

ที่พบในมะละกอ จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยง

การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

โดยลดการถูกทำลายของสารพันธุกรรม

ในเซลล์ดังกล่าวด้วยอนุมูลอิสระ

ฤทธิ์ต้านอักเสบ

มะละกอ มีเอนไซม์ปาเปน

และไคโมปาเปนช่วยย่อยโปรตีน

เอนไซม์เหล่านี้สามารถช่วยลดการอักเสบ

และกระตุ้นการสมานแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ได้

 งานวิจัยจากประเทศมาเลเซียพบว่า

 สารสกัดจากเปลือกผลมะละกอดิบ

เร่งอัตราเร็วของการสมานแผล

ในหนูทดลองได้เร็วกว่า

การใช้ยาทา Solcoseryl ถึง 1 สัปดาห์

บีตา แคโรทีน วิตามินซีและอีในมะละกอ

ก็มีฤทธิ์ลดการอักเสบเช่นกัน

ดังนั้นผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคข้อเสื่อม

และข้ออักเสบรูมาตอยด์

จะได้ประโยชน์จากการกินมะละกอ

เพื่อลดอาการของโรคดังกล่าว

ปัจจุบันมีการใช้เอนไซม์จากมะละกอดังกล่าว

ผลิตเป็นยาเม็ด ลดอาการบวม การอักเสบ

จากบาดแผลหรือการผ่าตัดแล้ว

ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน

ร่าง กายมนุษย์สามารถเปลี่ยนบีตาแคโรทีน

ที่ได้จากมะละกอสุกเป็นวิตามินเอและซีได้

เนื่องจากร่างกายต้องการวิตามินทั้งสอง

เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

 ให้ทำหน้าที่ได้ราบรื่น จึงพบว่า

การกินมะละกอ เป็นประจำ

อาจลดความถี่การเกิดไข้หวัด

และการติดเชื้อในช่องหูได้

การป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม

งาน วิจัยตีพิมพ์ในต่างประเทศกล่าวว่า

การกินผลไม้ 3 ครั้งต่อวัน

อาจลดความเสี่ยงของอาการ

ภาวะจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ

 อันเป็นสาเหตุของการเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ

 เนื่องจากคนไทยกินมะละกอ

ทั้งดิบหรือสุกอยู่เป็นปกติ

ดังนั้นเราจึงมีความเสี่ยง

ในการเกิดโรคดังกล่าวลดลงในยามชรา

ป้องกันโรคถุงลมปอดโป่งพอง

และมะเร็งปอด

งาน วิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐแคนซัส

สหรัฐอเมริกาพบว่า

สารก่อมะเร็งจากบุหรี่ (benzo(a)pyrene)

 ทำให้เกิดการขาดวิตามินเอ

ในสัตว์ทดลองที่ได้รับอาหารปกติ

 และเกิดอาการถุงลมปอดโป่งพอง

แต่สัตว์ที่ได้รับวิตามินเอปริมาณมาก

แต่ได้รับสารดังกล่าว

ไม่พบว่ามีอาการ ถุงลมปอดโป่งพอง

ผู้วิจัยจึงเชื่อว่าผู้ที่สูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่เป็นนิตย์

ควรป้องกันตนเองโดยการกินอาหาร

ที่มีวิตามินเอสูงเป็นประจำ

และมะละกอสุกก็เป็นหนึ่งในอาหารดังกล่าว

เมล็ดมะละกอใช้รักษามะเร็ง

ที่ประเทศอินเดียกล่าวสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษว่า

เมล็ดมะละกอใช้รักษาโรคมะเร็งได้

งานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น

รายงานเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2550 นี้ว่า

 เมล็ดมะละกอมีเอนไซม์ไมโรซิเนส

และสารเบนซิลกลูโคซิโนเลตในปริมาณมาก


มะละกอมาเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

มะละกอ นอก จากกินเป็นผลไม้ได้อร่อยแล้ว

ยังนำไปทำเป็นน้ำมะละกอ หรือชามะละกอได้

 น้ำมะละกอสุกช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร

ช่วยการทำงานของลำไส้ ทำความสะอาดไต

และยังเป็นยาระบายอ่อนๆอย่างดีอีกด้วย

ส่วนชามะละกอดิบช่วยล้างระบบดูดซึมสารอาหาร

 คือ ล้างคราบไขมันที่ผนังลำไส้

ซึ่งเกาะตัวที่ผนังลำไส้

ที่ขัดขวางการดูดซึมสารอาหารและวิตามิน

ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

 มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดด้วย 



น้ำมะละกอสุก

เลือก มะละกอที่สุกกำลังดี เนื้อไม่แข็ง

หรือเละจนเกินไป  เนื้อเนียน รสหวาน

 นำมะละกอสุกหั่นเอาแต่เนื้อครึ่งถ้วย

 น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย ผง อบเชย 1/8 ช้อนชา

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา  น้ำมะนาว 2 ช้อนชา

ปั่นมะละกอกับน้ำเย็นจัด เกลือ น้ำมะนาวเข้าด้วยกัน

รินใส่แก้ว โรยด้วยผงอบเชย ดื่มเย็นๆ ทันที

ชามะละกอจากผลมะละกอดิบ

ใช้มะละกอดิบไม่อ่อนเกินไปครึ่งผล

ชาเขียว หรือชาจีน หรือชาใบหม่อน

อย่างใดอย่างหนึ่ง เพิ่มดอกเก๊กฮวย

ใบเตย หรือรากเตยไปด้วยถ้ามี

ดอกเก๊กฮวยและใบเตย

มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ

ส่วนรากเตยช่วยฟื้นฟูตับอ่อนให้มีกำลัง 

ปอกเปลือกมะละกอล้างน้ำให้สะอาด

 แล้วหั่นแบบชิ้นฟัก

นำชิ้นมะละกอใส่หม้อ เติมน้ำ 3-4 ลิตร ตั้งไฟ

(ใส่ดอกเก๊กฮวย หรือใบเตย หรือรากเตยตามชอบ)

เมื่อน้ำเดือดสักพักหนึ่งยกหม้อลง

ตักมะละกอ และดอกเก๊กฮวยออก

 ให้เหลือแต่น้ำ นำน้ำดังกล่าวไปชงชา

ใส่ใบชาประมาณครึ่งกำมือ

 หลัง 5 นาทีกรองเอากากชาออก

ทิ้งไว้ให้เย็นดื่มได้ทันที

หรือบรรจุขวดเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วัน



มะละกอเสริมความงามผิวพรรณ

เอนไซม์ ปาเปนที่พบในมะละกอ

ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย

ทั้งด้านเภสัชกรรม โรงผลิตเบียร์ โรงงานเครื่องหนัง

อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สปา

เอนไซม์ปาเปนถูกใช้ในเครื่องสำอางได้

เนื่องจากเอนไซม์ดังกล่าว

สามารถย่อยสลายคอลลาเจนได้

ช่วยเร่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว จึงใช้ทดแทน

สารสังเคราะห์ แอลฟาไฮดรอกซีแอซิด

(alphahydroxy acids; AHA) ได้

 และมีคุณสมบัติช่วยย่อยโมเลกุลของโปรตีนด้วย 



 สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

หรือมีปัญหาเรื่องสิวบนใบหน้า

สามารถทำมาสก์มะละกอสุกใช้เอง

พื่อผิวหน้าที่อ่อนนุ่มได้ตามสูตรข้างล่างนี้

สูตรที่ 1 ใช้ มะละกอสุกปอกเปลือก

หั่นเป็นชิ้นๆ สัก 2-3 ชิ้น

 บดขยี้ด้วยช้อนจนละเอียด

แล้วนำมะละกอ ดังกล่าวบดมาทาให้ทั่วใบหน้า

ยกเว้นรอบดวงตาทิ้งไว้สัก 10-15 นาที

แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 ใช้สัปดาห์ละครั้ง ผิวที่แห้งจะเริ่มชุ่มชื้น

 นุ่มนวล กระชับขึ้น

เป็นสูตรโบราณจากประเทศอินเดีย

ใช้ลบริ้วรอยได้ดี

สูตรที่ 2 เหมือน สูตรข้างบน

แต่เมื่อบดเนื้อมะละกอ แล้ว

ให้ผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติปริมาณพอกันให้เข้ากัน

 ทิ้งส่วนผสมไว้สัก 5 นาที

นำมาพอกหน้าและคอ แขน มือ

ทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 เสร็จแล้วทาครีมบำรุงทันที

ผิวจะนุ่ม และใสขึ้นเรื่อยๆ

ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะลบริ้วรอยได้

มะละกอ...ผลไม้ธรรมดาๆ แต่มากไปด้วยคุณค่า

บรรพบุรุษคนไทยนี่ช่างฉลาดหลักแหลมจริงๆ

ที่ปลูกมะละกอไว้กินกันแทบทุกบ้านเลย

ประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน

แถมใช้บำรุงความงามได้อีก

อย่าลืมลองสูตรมาสก์พอกหน้ากันนะคะ

ของดีของไทยยุคเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ 

ขอบคูณ : //www.doctor.or.th/

//www.momypedia.com/webboard

/8-1033593/มะละกอ-ต้านอนุมูล

ขอบคุณที่มา fb. Kalinya Tig







Create Date : 17 กรกฎาคม 2557
Last Update : 10 กันยายน 2557 10:34:36 น.
Counter : 1835 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ