1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
มาโนช - มาโนช
23 ก.ค. 2549 มีคนที่ชื่อ มาโนช สองคนที่ผมอยากเขียนถึงในวันนี้ครับ คนแรกคือ มาโนช ชามาลาน เป็นคนเชื้อสายอินเดียที่เติบโตและร่ำเรียนวิชาการทำภาพยนตร์อยู่ในสหรัฐอเมริกา เราจะคุ้นเคยกับเขาในชื่อ M. Night Shyamalan มากกว่า เขาคือเจ้าของภาพยนตร์แนวหักมุมชื่อดังเรื่อง Sixth Sense ที่ทุกคนรู้จักกันดี
เมื่อวานนี้ ผมเพิ่งได้ไปดูหนังเรื่องล่าสุดของเขา คือ Lady In The Water ซึ่งเขาบอกว่า สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิทานก่อนนอนที่แม่เขาเคยเล่าให้ฟัง หนังเรื่องนี้ของเขาก็ยังสนุกเหมือนทุกเรื่องที่ผ่านมา เหมือนได้ไปนั่งฟังนิทานเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าหากได้ฟังก่อนนอนจริงๆ ก็คงจะนอนไม่หลับ... จนกว่าจะได้รู้ตอนจบ หลายคนบอกว่า Sixth Sense คือผลงานที่ดีที่สุดของเขา หนังเรื่องต่อๆ มานั้น เทียบกับ Sixth Sense ไม่ได้เลย ความนิยมของผู้ชมก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ผมก็เห็นด้วยว่า Sixth Sense เป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขา ส่วนเรื่องอื่นนั้นไม่ประทับใจเท่าจริงๆ แต่ผมก็ติดตามผลงานของเขามาทุกเรื่องและก็ชอบหมดทุกเรื่อง เพราะงานของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกใจผม ทำให้ดูหนังของเขาได้สนุกทุกเรื่อง เอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดก็คือ การชวนให้ผู้ชมคิดและคาดเดาเรื่องราวจากข้อมูลที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมา ต่อจากนั้น หลังจากที่พาผู้ชมให้เชื่อไปทางหนึ่งแล้ว เขาก็จะกระตุกเอาความคิดของผู้ชมกลับมาอีกทางหนึ่ง ความสนุกของหนังของเขาก็อยู่ตรงนี้ล่ะครับ ตรงที่ได้คิด ได้เดา และตื่นเต้นไปกับเรื่องราวที่ค่อยๆ เผยออกมา หนังเรื่องล่าสุดนี้ก็เหมือนกัน พาให้คนดูหลงทางกันไปแล็วก็ค่อยพากลับมาในตอนท้าย ผมเองก็เดาถูกเดาผิดไปเรื่อย แต่ก็รู้สึกสนุกที่ได้คิด จะคิดถูก หรือถูกหลอก หรือคาดไม่ถึงบ้าง ก็เป็นเสน่ห์ของหนังของเขาที่ทำให้ผมต้องติดตามมาทุกเรื่อง เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของหนังของเขาก็คือ เขาจะต้องโผล่มาในหนังของตัวเองทุกเรื่อง โดยจะโผล่มาฉากหรือสองฉากเท่านั้น แต่สำหรับเรื่องนี้ เขาเป็นหนึ่งในตัวเดินเรื่องเลยทีเดียว ตัวละครในเรื่องมีจำนวนมากพอสมควร ข้อแนะนำเวลาดูก็คือ ควรจะจำบุคลิกของตัวละครแต่ละตัวเอาไว้ให้ดี จะได้มีข้อมูลเอาไว้คอยคาดเดาตามหนังไปด้วย ถ้าหากนิยมชมชอบในผลงานของ คุณมาโนช ชามาลาน เหมือนผมแล้วล่ะก็ นิทานก่อนนอนเรื่องนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน ไม่ต้องกลัวว่าหนังจะน่ากลัวหรือสยองขวัญหรอกครับ ผมว่ามันไม่น่ากลัวเลยสักนิด แต่น่าสนุกในการเดาเรื่องตามมากกว่า ส่วนมาโนชคนที่สอง คือ มาโนช พุฒตาล ขวัญใจคนหนึ่งของผมตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว เขาเพิ่งออกหนังสือพร้อมเพลง หรือเพลงพร้อมหนังสือ ก็ไม่แน่ใจนัก แต่ชื่อผลงานก็คือ ชีวิตที่เจ็บปวดของคนป่วย ด้วยความที่ชอบฟังเพลงฝรั่ง สมัยก่อนนั้น นอกจากฟังวิทยุและซื้อเทปมาฟังแล้ว ก็มีรายโทรทัศน์ของเขานี่แหละ ที่จะได้มีโอกาสดูมิวสิควิดีโอหรือบันทึกการแสดงสดของบรรดานักร้องฝรั่ง จาก เที่ยงวันอาทิตย์ ก็มาเป็น บันเทิงคดี ถ้าไม่มีธุระจริงๆ แล้ว ผมจะไม่ยอมพลาดรายการของเขาเด็ดขาด เพราะนี่คือช่องทางเดียวที่จะได้ฟังเพลงฝรั่ง พร้อมภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมอีกมากมาย ยังคงนึกถึงภาพของพิธีกรที่ไร้การปรุงแต่งโดยสิ้นเชิงได้อย่างชัดเจน หน้ามันย่อง ผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมเสื้อเชิ้ตยับยู่ยี่แขนยาว และพับแขนเสื้อขึ้นมาจนเหนือข้อศอก ทุกวันนี้ ผมยังนึกอยู่เลยว่า แทนที่จะต้องใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว แต่ไม่รีด และต้องพับแขนขึ้นมา ทำไม่ไม่ใส่เสื้อยืดแขนสั้นมาจัดรายการให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยก็ไม่รู้ และจากหนังสือเล่มนี้ ผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาใส่รองเท้าแตะมาอัดรายการอีกต่างหาก ในส่วนของหนังสือ ต้องถือว่าเป็นงานประเภทอัตชีวประวัติ ถ้าจะให้วิจารณ์แบบตรงไปตรงมา ก็ต้องบอกว่า การเขียนนั้นค่อนข้างแกว่งไปแกว่งมา เรียกว่านึกถึงเรื่องอะไรได้ก็เขียนออกมา เหมือนมานั่งคุยกัน เล่าย้อนเรื่องราวในอดีตให้กันฟัง การเว้นวรรคตัดคำก็ไม่ค่อยดี ถ้าจะอ่านก็ต้องตั้งสติให้ดี เพราะอาจจะงงได้ถ้าอ่านเร็วเกินไป สิ่งที่เป็นระเบียบอย่างเดียวก็คือ ลำดับเวลาของเหตุการณ์ ที่เรียงจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่กระโดดไปกระโดดมา แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม เพราะผมนิยมชมชอบในความเป็นตัวตนของเขา ก็เลยมองข้ามข้อบกพร่องพวกนั้นไปได้ แล้วก็อ่านหนังสือเล่มนี้รวดเดียวจนจบภายในสองชั่วโมง ผมชอบที่เขาเป็นตัวของตัวเอง ออกโทรทัศน์ก็ไม่แต่งหน้าทำผม เสื้อผ้าก็ใส่อย่างที่ตัวเองอยากใส่ สนใจเพลงฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษได้ดี งานเพลงก็ไม่เหมือนใคร ชอบคิดหรือตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิต เวรกรรม การเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ผู้คนรอบตัว เหตุผลและความเป็นไปของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ ซึ่งฟังดูแล้วก็ค่อนข้างจะขัดแย้งกับศาสนาของเขาที่ควรจะเชื่อในพระเจ้าอย่างบริสุทธิ์ใจและปราศจากคำถาม อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็จะได้เห็นตัวตนที่ชัดเจนของเขา จะได้รู้ว่าทำไมเขาถึงมีความเป็นศิลปินในตัวเองสูง งานแต่ละชิ้นถึงได้ประสบความสำเร็จในแง่ของผลงาน แต่กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จในแง่ของธุรกิจ จะได้รู้ว่าทำไมเขาจึงสนใจดนตรี ทำไมเขาจึงเล่นกีต้าร์เก่ง กีต้าร์เฟนเดอร์สีเหลืองตัวเก่งที่ออกงานอยู่เป็นประจำมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไมเขาจึงพูดภาษาอังกฤษได้ดี ทำไมเขาจึงเป็นอย่างที่เขาเป็น ในส่วนของเพลงนั้น มีอยู่เพียงเพลงเดียว คือ ชีวิตที่เจ็บปวดของคนป่วย อ่านเรื่องเล่าในตอนต้นของหนังสือแล้ว ผมเดาว่าเพลงนี้คงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นดาวประจำคณะรำวงชื่อดังในอยุธยาเมื่อครั้งที่เขายังเด็ก ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะ เป็นดาวเด่นประจำวงจนกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุถูกน้ำร้อนลวกจนต้องเลิกร้องเพลงไป ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตไปตามอัตภาพ โดยความรู้สึกรวมๆ ของเพลงนี้แล้ว น่าจะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจและชวนให้คิดเวลาต้องเจอกับปัญหาในชีวิตได้ดีเพลงหนึ่ง งานหนังสือและเพลงชุดนี้เป็นตัวของตัวเองมากพอสมควร สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้จักและติดตามผลงานของเขามาก่อน ก็อาจจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับงานชิ้นนี้สักเท่าไร แต่สำหรับผม งานนี้เป็นงานแก้คิดถึง และทำให้ผมได้รู้จักตัวตนของเขาดีขึ้นอีกมากเลยทีเดียว
Create Date : 23 กรกฎาคม 2549
27 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2549 16:01:39 น.
Counter : 1688 Pageviews.
โดย: กระจ้อน 23 กรกฎาคม 2549 22:57:43 น.
โดย: grappa 23 กรกฎาคม 2549 23:31:30 น.
โดย: ซออู้ 24 กรกฎาคม 2549 20:58:55 น.
โดย: กุมภีน 25 กรกฎาคม 2549 8:59:33 น.
โดย: erol 26 กรกฎาคม 2549 18:25:41 น.
โดย: mungkood 26 กรกฎาคม 2549 19:11:30 น.
โดย: keyzer 27 กรกฎาคม 2549 1:30:53 น.
โดย: คุณย่า 27 กรกฎาคม 2549 5:55:07 น.
โดย: P.Ta 27 กรกฎาคม 2549 20:15:26 น.
โดย: yyswim 28 กรกฎาคม 2549 1:15:46 น.
โดย: 9kvuvf IP: 202.44.136.42 28 กรกฎาคม 2549 12:38:16 น.
โดย: Malee30 28 กรกฎาคม 2549 18:39:46 น.
โดย: ซออู้ 29 กรกฎาคม 2549 20:00:21 น.
โดย: Tinglish 31 กรกฎาคม 2549 9:35:46 น.
โดย: นริศรา IP: 58.9.175.154 19 เมษายน 2550 18:44:03 น.
โดย: Sexy Sexy IP: 58.9.169.223 16 กรกฎาคม 2550 21:40:44 น.
โดย: Sexy Sexy IP: 58.9.169.223 16 กรกฎาคม 2550 21:44:29 น.
โดย: เด็กก่อสร้าง IP: 58.136.170.117 7 กันยายน 2550 16:56:55 น.
ศิลปิน: เฉลียง เพลง: หวาน ชุด: ปรากฏการณ์ฝน ปี: 2525
แต่ผมชอบหนังของเขาครับ ตามดูมาตลอดเลย บางเรื่องไปดูโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นหนังของเขา แต่ดูๆไป เอ๊ะ การเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์พอได้ดูเครดิตตอนจบก็จึงรู้ครับ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เขาเเสดงเป็นตัวละครอะไร เพราะอย่างที่คุณคนทับแก้วบอกว่าเขาจะแสดงด้วยโดยรับบทเล็กๆเสมอในหนังที่เขาทำ อยากดูซะแล้วสิครับ หลายคนบอกว่าไม่ชอบ ยิ่งอยากดูเลย
ส่วนคุณมาโนช พุฒตาล...ผมเองก็เช่นเดียวกับคุณคนทับแก้วครับ ผมชอบรายการของเขาสมัยก่อนมาก ติดตามดูตลอดเลย รู้สึกว่าเป็นคนที่มีเอกลักษณ์และมีไสตล์ส่วนตัวดี เห็นด้วยเลย ตอนแรกก็ดู อะไรเนี่ย ไม่คิดจะเมคอัพเลยนะ หน้ามัน ผมยุ่ง หน้าตาก็ไม่หล่อ แต่โห รู้จริง เนี่ย จึงชอบเขาครับ เพราะพี่แกเป็นของจริง...
ผมได้มีโอกาสดูเอ็มวีของศิลปินจากต่างประเทศและได้รู้จักเพลงมากมายเพราะรายการของพี่มาโนช พุฒตาลนี่ล่ะครับ และชอบความคิดของเขามาก แม้ตอนนั้นผมจะยังเด็กมากๆก็ตาม การที่ได้มานั่งฟังที่เขาพูดสอดแทรกทัศนติหลายๆอย่าง ทำให้คิดได้ครับ จึงมีส่วนพอสมควรเลยที่ทำให้ผมได้รู้จักคิด และไม่กลัวที่จะแตกต่าง สมัยเด็กๆ ผมจึงดูเหมือนจะเป็นเด็กที่กบฏมาตลอด (จนกระทั่งทุกวันนั้นครับ)แหะๆ
เคยเจอพี่เค้าที่ร้านเพื่อนแถวถนนพระอาทิตย์ครั้งนึงครับ ตอนนั้นมีประมูลอะไรสักอย่างเพื่อการกุศลแล้วพี่เขาเอาของส่วนตัวมาประมูลด้วย แต่ท้ายสุดก็เสียดาย ซื้อกลับมาเอง
เพลงเพราะมากๆครับ ความหมายดีมากๆ