"The single best way to grow a better brain is through challenging problem solving." - Eric Jensen (1998), Teaching with the Brain in Mind
Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
เมื่อผมโดนโรคระบาด TAG เล่นงาน

11 ม.ค. 2550



ผมอุตส่าห์ทำตัว Low-profile (ขอดัดจริตใช้ภาษาอังกฤษเล็กน้อย) ประหนึ่งเป็นเครื่องร่อนที่บินต่ำเรี่ยผิวดิน หวังจะหลบเรดาร์ของมหกรรมการระบาดของ BLOG TAG แต่ก็หลบไม่พ้น เจอเรดาร์ของ คุณย่า ค้นพบเข้าจนได้

เพิ่งจะรู้จักว่า TAG คืออะไรก็เมื่อวานนี้เอง ไม่นึกว่าพอรู้จักปุ๊บ ก็โดนปั๊บเลย ช่างระบาดเร็วแท้

ลอกมาจากบล็อกคุณย่าอีกที

"Blog Tag คืออะไร... คือการที่ จขบ. ที่ได้รับ Tag จะต้องเล่าเรื่องของตัวเองมา 5 ข้อ แล้วส่งต่อให้เพื่อนอีก 5 คน มันคือ บล็อกลูกโซ่ หรือการแปะโป้งกันดีๆ นี่เอง ผู้เริ่มคนแรกคือ Jeff Pulver เขาเรียกมันว่า Blog-Tag: A Game for a Virtual Cocktail Party ตอนนี้มันขยายวงมาให้บล็อกเกอร์เมืองไทยได้ร่วมค็อกเทลปาร์ตี้เสมือนจริงนี่กันแล้ว..."



5 เรื่องของผมก็มีดังนี้ครับ

เรื่องแรก ผมชอบเรียนภาษาอังกฤษเพราะครูตอน ป.4 เป็นคนน่ารัก
จริงๆ ผมก็ชอบเรียนภาษาอังกฤษอยู่แล้วล่ะครับ สนุกดี ยิ่งได้ครูที่ตั้งใจสอน แถมยังหน้าตาดี น่ารักๆ ด้วยแล้ว ก็ทำให้ยิ่งชอบเรียนกันไปใหญ่ ผมยังจำชื่อ-นามสกุลของครูได้แม่นอยู่เลย (แต่ขอไม่บอก) แต่ผมนึกหน้าของครูเขาไม่ค่อยออกแล้ว จำได้แต่ว่าหน้าเหมือน เซียวเล่งนึ้ง ในมังกรหยก ยุคที่ไป่เปียวเป็นก๊วยเจ๋ง และหมีเซียะเป็นอึ้งย้ง เกิดไม่ทันกันหลายคนเลยล่ะสิ แต่ถ้าใครเกิดทันล่ะก็ อย่างน้อยก็ต้องมีเลข 3 นำหน้ากันแล้ว (ยินดีด้วยครับ อีกไม่นานก็จะได้เป็นวัยกลางคนกันแล้ว...)

ทุกวันนี้ ผมก็ยังชอบเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอยู่เลยครับ (ไม่ได้เก่งอะไรมากมายหรอกครับ แค่พอไปวัดไปโบสถ์ฝรั่งได้เท่านั้น) ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณคุณครูภาษาอังกฤษตอน ป.4 นี่แหละครับ

เรื่องที่สอง ผมอ่านหนังสือ "เวลาในขวดแก้ว" รอบสองไม่ได้
พูดแล้วเหมือนดัดจริต แต่เมื่อตอนที่ผมอ่านหนังสือของ คุณประภัสสร เสวิกุล เล่มนี้รอบที่สอง อ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งเล่มก็ต้องเลิกเพราะมันรันทดเหลือกำลัง ทำใจให้อ่านต่อจนจบไม่ได้

เข้าใจว่าผมอ่านรอบแรกเมื่อสมัยมัธยม น่าจะเป็นเล่มแรกของคุณประภัสสรที่ผมได้อ่าน หลังจากนั้นก็เลยติดตามอ่านหนังสือของแกอีกหลายเล่ม ซึ่งในบรรดาหนังสือของแก หลายเล่มมักจะเป็นเรื่องชีวิตเศร้ารันทดที่อ่านแล้วอดน้ำตาร่วงไม่ได้ พออยู่มหาวิทยาลัย ผมคิดถึง "เวลาในขวดแก้ว" ก็เลยไปยืมห้องสมุดมาอ่านอีกรอบ (เหตุที่ต้องยืมห้องสมุดก็เพราะว่า เล่มที่เคยซื้อไว้นั้น ครูสมัยมัธยมของผมคนหนึ่งแกยืมไปแล้วยังไม่เอามาคืนจนถึงทุกวันนี้ ไม่กล้าทวง สำหรับครูแล้ว ผมไปหาซื้อใหม่ก็ได้ครับ) ปรากฏว่าเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังคือ มันรันทดจนผมอ่านต่อไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่กล้ากลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้อีก

ผมเพิ่งไปได้หนังสือเล่มนี้จากงานมหกรรมหนังสือฯ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เอง หลังจากตามหามานานมาก ดีใจที่ได้มีหนังสือเล่มนี้ไว้ในครอบครองอีกครั้ง แต่เสียดายที่ไม่กล้าอ่าน หนังสืออะไรก็ไม่รู้ เศร้าฉิบ!

เรื่องที่สาม ผมเป็นโรคกลัวตกบันได
ไปไล่หาคำภาษาอังกฤษ ตรงกับคำว่า Climacophobia ต้นเหตุน่าจะเกิดมาจากตอน ป.3 ผมเคยถูกเพื่อนผลักตกบันได นึกไม่ออกว่ามันนึกสนุกอะไรถึงผลักผมตกบันได โชคดีที่ผมไม่เป็นอะไรเลย หัวไม่ปูด ไม่มีแผลถลอก ไม่มีรอยฟกช้ำดำเขียวใดๆ ทั้งสิ้น (ตอนนั้นผมห้อยพระของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม เผื่อบางท่านอยากทราบ) ผมเองเป็นคนไม่โกรธแค้นหรืออาฆาตมาดร้ายใคร ในเมื่อผมไม่เป็นอะไร ก็เลยไม่ได้ไปชกหน้าหรือไปตามเอาคืนจากเพื่อน เพียงแต่จำการกระทำของมันได้ไม่ลืมแค่นั้นเอง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวลาที่จะลงบันไดแต่ละที ต้องตั้งสติดีๆ มีราวต้องจับราวทุกครั้ง อย่างเวลาลงจากสะพานลอย ถึงแม่จะบอกว่าอย่าไปจับราวเพราะมันสกปรก มือใครต่อมือใครบ้างก็ไม่รู้ แต่ผมก็ต้องจับล่ะครับ ก็มันกลัวจะกลิ้งโค่โล่ลงมานี่ครับ

ไม่รู้ว่าความกลัวบันไดมันพัฒนาต่อไปเป็นโรคกลัวความสูงด้วยหรือเปล่า เพราะผมกลัวความสูงด้วยอีกอย่างหนึ่ง (ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Acrophobia ยังดัดจริตไม่เลิก) คิดดูก็แล้วกันครับ ผมสูงประมาณ 183 เซ็นติเมตร บางครั้งเวลาก้มลงมองดูปลายเท้าตัวเองยังใจหวิวๆ เลย กลัวความสูงขนาดนั้น

เรื่องที่สี่ ขับรถชนเพราะมัวแต่ดูคันอื่นเขาชนกัน
สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมเคยขับรถชนคันอื่นแค่ครั้งเดียวครับ แล้วก็หวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไปด้วย

เรื่องเกิดบนถนนเพชรเกษมแถวๆ ท่าพระหลายปีก่อน รถมันติดครับ ขยับกันไปได้อย่างช้าๆ สักพักก็เห็นต้นเหตุคือ มีรถสองคันเขาชนท้ายกันอยู่เลนขวาสุด เจ้าของรถเขาก็กำลังเจรจากันอยู่ ช่วงที่รถผมผ่านไปทางซ้ายของรถคู่กรณี ผมก็หันไปมองตามวิสัยของไทยมุงที่ดี พอหันกลับมาด้านหน้าอีกที คันหน้าเขาหยุดไปแล้วครับ แต่ผมยังไม่หยุด!

ผมได้แต่กระทืบเบรคสุดแรงแต่ก็ไม่ทันการ ชนท้ายคันหน้าไปเสียแล้ว คนขับรถคันหน้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว อายุประมาณสี่สิบกว่า เดินลงมาพร้อมส่ายหน้าแบบเซ็งในอารมณ์ ผมก็ลงไปขอโทษเขาก่อนเลยเพราะผมผิดเต็มๆ โชคดีที่รถขับมาช้ามากเพราะรถติดจากอุบัติเหตุอย่างที่ว่า ท้ายรถคันหน้าเขาก็เลยไม่เป็นอะไร มีรอยถลอกนิดหน่อย ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็เลยไม่เอาเรื่องผมสักนิดเดียว ส่วนรถผมหรือครับ กันชนหน้าที่เป็นพลาสติกอ่อนๆ นั้นเว้าเข้าไปโค้งได้รูปของกันชนรถคันหน้าเลย โชคดีอีกที่กันชนรถผมนิ่มกว่า ไม่อย่างนั้นคงต้องซ่อมรถให้เขาด้วย ไม่ใช่ซ่อมแค่รถของตัวเองคันเดียว

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็เลยไม่เคยสนใจอุบัติเหตุข้างทางเวลาที่ผมขับรถอีกเลย กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย

เรื่องสุดท้าย ตกเครื่องบินเมื่อครั้งไปหลวงพระบาง
เพิ่งจะสดๆ ร้อนๆ เมื่อช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมานี่เอง ที่ผมไปเที่ยวลาวมาแล้วมาเล่าไว้ในบล็อกที่แล้ว พูดแล้วมันน่าอาย ผมหยิบพาสปอร์ตไปผิดเล่มครับ หยิบเล่มเก่าไปแทนเล่มใหม่

นิสัยอย่างหนึ่งของผมคือ ผมไม่ค่อยทิ้งของเก่าๆ ครับ ชอบเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่ดันไม่ระวังตรงที่ไปเก็บพาสปอร์ตเล่มเก่ากับเล่มใหม่เอาไว้ด้วยกัน ด้วยความที่มั่นใจในความเป็นระเบียบของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง มั่นใจว่าผมจะต้องเก็บเล่มเก่าเอาไว้ด้านล่างใต้เล่มใหม่อย่างแน่นอน เปิดลิ้นชักออกมาก็หยิบเล่มบนทันที ไม่ได้ตรวจตราอะไรทั้งสิ้น ก็เลยซวย ตกเครื่องเพราะความสะเพร่าแท้ๆ ตกลงผมก็เลยต้องบินตามก๊วนเที่ยวไปในวันรุ่งขึ้นแทน

จากการที่ต้องซื้อตั๋วใหม่ (เพราะเป็นคนละสายการบิน) ต้องเสียค่าธรรมเนียมจากการขอยกเลิกและขอคืนเงินจากตั๋วเก่า รวมกับค่ารถที่นั่งไปนั่งกลับระหว่างบ้าน-สนามบินโดยเปล่าประโยชน์ในวันที่ตกเครื่อง สรุปว่าผมเสียค่าโง่ให้กับความสะเพร่าครั้งนี้ไปเกือบ 3,500 บาท พอๆ กับค่าใช้จ่าย 5 วันที่อยู่ในลาวเลยทีเดียว ต่อจากนี้ไปก็จะต้องไม่ไว้ใจตัวเองมากเกินไปอีกแล้ว



เป็นอันว่าจบภารกิจการเล่าเรื่องส่วนตัว 5 เรื่องจากการโดน TAG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัญหาต่อไปก็คือ จะส่งต่อให้ใครอีก 5 คนดีล่ะเนี่ย โดนกันเกือบหมดกรุกันแล้วเสียด้วย

หลังจากค้นหาว่าใครยังไม่โดน TAG บ้าง ผู้โชคดี 5 ท่านที่ได้รับ TAG จากผมไป ได้แก่

กระจ้อน

O_Sole_mio

erol

Batgirl 2001

คนรักน้ำมัน

ผู้โชคดีทั้งห้ารีบๆ เขียนนะครับ ผมจะได้ตามไปอ่าน



Create Date : 11 มกราคม 2550
Last Update : 11 มกราคม 2550 14:19:49 น. 28 comments
Counter : 1170 Pageviews.

 
เพิ่งเห็นว่าพี่สิน yyswim ก็ Tag ผมเหมือนกัน แถมยังเข้าไป Tag คุณซออู้ปาดหน้าผมอีกด้วย

ทำไปได้นะพี่สิน


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:13:37:02 น.  

 
อ่านนิยายคุณประภัสสรเหมือนกันคะ แต่เรื่องกลัวตกบันไดไม่กลัวนะคะ แต่เคยตกกระได BTSสถานีสยามมาแล้ว และส้นรองเท้าหักเป๊าะ ก็เดินทั้งงั้นอ่ะไปหารองเท้าใหม่ แต่ที่เวรคือนุ่งกระโปรงสั้นอ่ะคะดีที่พอดีตัว ขาเลยถลอกปอกเปิกเลยคะ


โดย: Lilly (supremeking ) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:13:52:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ เข้ามาอ่านความลับของอาจารย์ค่ะ


โดย: Petit Patty วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:13:53:27 น.  

 
วิ่งตามมาจากบล็อกคุณสินครับ

เซียวเหล่งนึ่ง.. นี่เป็นนางในนิยายที่ฝังหัวใครต่อใครหลายคนเลยเนาะ

ข้อสุดท้ายนี่ ปาฏิหารย์มีจริง นะครับ'จารย์ ตกเครื่องบิน แล้วไม่ตายเนี่ยยย



โดย: กุมภีน วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:13:59:28 น.  

 
เรื่องตกบันไดนี่อันตรายนะค่ะ ... เหมือนว่าเจอเหตุการณ์อะไรที่เราเจอแล้วก็กลัวมาก่อนนี่มันทำให้เราเป็นโรคกลัวแบบนี้ไปตลอดเลย ... เล่นอะไร ทำอะไรก็ต้องระวังเลยอ่ะค่ะ ...


โดย: Jewnid (JewNid ) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:16:22:11 น.  

 



มัวดูรคคันอื่นชนกัน เลยขับรถชนซะงั้น อิอิ


มาแอบอ่านความลับห้าข้อจ้า มีความสุขกับการทำงนน๊า


โดย: Malee30 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:16:42:45 น.  

 
อ่า..โดนเข้าไปอีกราย

เราจะรีบอัพโดยด่วนค่ะ

เกรงใจคนแท็กเค้าง่ะ

แต่ยังหาคนแท็กต่อได้ไม่ครบเลย


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:16:49:29 น.  

 
555 ตามไปอ่านเรื่องของเราด้วยเหรอคะ พอดีตามไปอ่าน tag ของเพื่อนๆแล้วนึกอะไรต่ออะไรออกก็เลยเพิ่มน่ะคะอุตส่าห์เก็บเนื้อเก็บตัวตอนที่เค้ามาเล่น tagกันยังดดนอีก เฮ้อ กรรม


โดย: Lilly (supremeking ) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:16:49:59 น.  

 
ขำที่ไปคอมเม้นท์มากค่ะ

วันนี้ทั้งวันไม่ได้ทำงานอะไรเลย วิ่งไปบล็อกโน้นบล็อกนี้ เที่ยวอ่านเรื่องของชาวบ้านเขาทั้งวัน

อ่านแล้วขำพรืด


ถ้าชอบกรณีฆาตกรรมฯ ลองรับเจ็ดเรื่องสั้นของฟ้าไปอ่านมั้ยคะ?

ถ้าเป็นนักอ่านน่าจะชอบ (คุณคนขับช้าเค้าว่ามา)


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:18:41:00 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านความลับอะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ


โดย: opleee วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:19:09:01 น.  

 
เข้ามาอ่านค่ะ
ถ้าอยากอ่าน Tag ก็คลิกเลยค่ะ

แลกกันอ่านนะคะ


โดย: rebel วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:19:34:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ เข้ามาอ่านความลับด้วยคนค่ะ


โดย: N_BEE810 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:20:36:00 น.  

 
555+ -ข้อ 3 . ที่กลัว ใช่ฝีมือโอเล่ป่าวน๊อ

เพราะทำวีรกรรมไว้ช่วงนั้นด้วย แต่ของโอเล่ไม่ผลัก

เพื่อนนะค่ะ ใช้ถีบเพื่อนตกบันไดเลยค่ะคุณทับแก้ว

ป.ล.ขอบคุณค่ะที่เล่าสู่กันฟัง


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:20:52:10 น.  

 


ชอบจังที่บอกว่าขับรถชนเพราะมัวแต่ดูคันอื่นเขาชนกัน
ท่าทางจะต๊กใจแย่เลยค่ะ


โดย: icebridy วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:21:09:17 น.  

 
ตามมาอ่านค่ะอาจารย์เลยรู้ว่า อิชั้นก็มีนิสัยอันนึงเหมือนอาจารย์คือชอบเก็บพาสปอร์ตเก่าๆค่ะ.... เอ อันนี้มันจะเป็นอาการบ่งบอกอายุได้ไม๊คะ แต่ยังโชคดีคือยังไม่เคยหยิบผิด แต่ก็จะเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ


โดย: P.Ta วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:0:05:18 น.  

 
อาจารย์หาเหยื่อได้ไวดีแท้
ไม่น่าเชื่อว่าจารย์กลัวความสูง เรื่องตกบันไดสมัยเด็ก ๆ คุณย่าตกทุกวัน แต่ไม่เคยเป็นอะไรเลยบันได้สูงประมาณ 5 เมตรเห็นจะได้ กลิ้งตกลงมาทุกวัน คนแก่ ๆ ที่บ้านบอกว่าเป็นเพราะถูกกุมารแกล้ง จริงรึเปล่าก็ม่ายรุ แต่อิช้านก็ไม่น่าซุ่มซ่ามตกได้ตกดีทุกวัน กุมารนะกุมารทำกันด๊าย!!!
เมื่อไม่กี่วันนี้เกือบถูกรถถอยมาชนเหมือนกัน เพราะคุณย่ามัวแต่ดูป้ายโฆษณา โชคดีที่เหลือบไปเห็นรถถอย ม่ายง้านซวยแน่ ๆ เลย


โดย: คุณย่า วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:6:55:52 น.  

 
หุหุ เป็นเช้าที่ ง่วงงุนเอามากๆ แอบฮาเล็กน้อยกับ ลูกโซ่ อิเล็คโทนิค...

ต้องขอโทษที่จะไม่อาจส่งไปให้ใครได้ เพราะจุไม่ชอบลูกโซ่ กลัวหาพ่อให้ลูกโซ่ ไม่ได้ เอ๊ย ไม่ใช่ คาดว่าจะไม่มีเวลา แต่จะเขียน 5 เรื่องให้ได้อ่านค่ะ มีเวลาแล้วค่อยส่งลูกโซ่ ก็ได้มั้ง เห็นใจคนวัยเรียน(ชรา) ด้วยเต๊อะ


คุณย่าข้างบนสบายดีนะคะ


โดย: ju IP: 125.24.146.193 วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:8:08:55 น.  

 
คุณเล่าเก่ง....น่าอ่าน...น่าตาม...

เราอยากเล่าได้แบบนี้จัง...

น่ารักดี....

เงยหน้าไว้น้อง....อย่ามองหัวแม่เท้า...
(ไม่ใช่พระไปบินทะบาดนะ)
มองไปข้างหน้า...ก้าวไปอย่างมั่นใจ....


โดย: Tinglish วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:8:31:05 น.  

 
hosting by pHosted.com

ขอเข้ามาอ่านความลับหน่อยนะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: opleee IP: 58.147.72.240 วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:13:37:36 น.  

 


โดย: Petit Patty วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:14:14:20 น.  

 
สวัสดีอีกรอบนะคะ

ขอบคุณที่ส่งกรณีฯ มาแล้วนะคะ (จริงๆ ลืมไปว่าจะชวนคุณคนขับช้าอ่านด้วยแหละ แหะๆ จะได้แลกกันกับคุณคนทับแก้วไปเลย แต่ช้าไปแระ)

ส่วนเรื่องที่ต่อ ๗ เรื่องสั้นของฟ้า เดี๋ยวแจ้งคุณคนขับช้าให้นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:14:52:44 น.  

 
อาจารย์

ดิฉัน สืบทอดทายาทอสูรแล้วนะคะ อีแว๊บสาร (evaporate) ไปก็ แวะมาเขียนไว้ใน word งานไม่ห่วง ห่วงไม่อินเทรน

เข้าเรื่องความลับของ อาจารย์ดีกว่า

ชอบครูภาษาอังกฤษ เลยชอบเรียนไปด้วย

อืม ฉันจะจำไว้ไปประยุกต์ใช้ เวลาไปทำงานสอนค่ะ ที่จริงก็ทำมามั่งแล้วนะ ไม่ได้ทำให้นักเรียนชอบ แต่นักเรียนตะลึง เพราะตัดผมม้าลอย ทาตาม่วงอี๋ (บางทีก็ฟ้สแจ๊ด ทองอร่าม) เด็กๆ ไม่คุยกันเลย ท่าจะอึ้งอย่างแรง

เวลาในขวดแก้ว

จริงสินะ มันเศร้า ขอหมอนฯ ก็บีบคั้นนะคะ เท่าที่จำได้กรณีนี้ของฉันไม่มีนะคะ มีแต่ไม่อยากอ่านซ้ำ แต่จำเป็นต้องอ่าน ก็ หนังสือเรียนไงคะ อิอิ


บันได
ดิฉันก็เคยตกนะ ขาเจ๊งอยู่นานเลยล่ะ แต่ที่จำได้แม่นมากคือ ไปเล่นห้อยโหนที่สนามเด็กเล่น แล้วหล่นลงมาแบบเอาหัวลง ถึงว่า โตมาเลยเป็นพวกสุดๆ ทุกอารมณ์

ขับรถชน
หมดสิทธิ์ เพราะยังขับไม่เป็น แต่เคยบินจากจักรยาน แบบ I believe I can fly แล้ว land ลงด้วยการเอาหน้าไถพื้น กลายเป็นขวานฟ้าหน้าดำไปเรยยยยยย ไม่สวยมากๆ

ตกเครื่องบิน
อันนี้ปาฏิหารย์เนาะ เพิ่งจะมีกะเขาเล่มเดียว ไปทำไว้ใหม่แล้ว ยังไม่มา แต่ไม่หลงแน่นอน เพราะมันคนละสีกัน


โดย: ปอ (O_Sole_mio ) วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:16:29:16 น.  

 
มาอ่านเรื่องส่วนตัวของอาจารย์ค่ะ อิ อิ
เรื่องภาษาอังกฤษนี่ตรงกันข้ามเลยค่ะ เจอแต่อาจารย์โหดๆ เลยไม่ค่อยชอบ ก็เลยเรียนไม่เก่งถึงบัดนี้
เรื่องขับรถก็เคยเจอมาแล้ว แต่เป็นคนอื่น เขาบอกมาเหมือนกัน ก็ระวังอยู่
อ่านเรื่องเศร้า ๆ นี่ชอบมาก อ่านไปก็น้ำตาไหลไป ถือว่าล้างตาไงคะ

นึกเคืองเล่น ๆ คุณสินตั้งแต่เข้าไปอ่านแล้วค่ะ Tag อาจารย์ปาดหน้าไปก่อนได้ไง ก็รู้อยู่ว่ายังไงซออู้ต้องนึกถึงอาจารย์คนแรกก่อนละค่ะ ทำไปได้เนอะ


โดย: ซออู้ วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:19:30:21 น.  

 
ขำเอิ๊กๆ ข้างบน คุณซออู้ อย่างอนซิ

ผมน่ะ เป็นคนไม่ค่อยจะมีใครอยากคบ ต้องรีบยึดคนทับแก้วไว้เป็นหลักก่อนเลย อุอุ ช่วยด้วยกลัวตกบันได

โห เรื่องที่ไม่คาดคิด ก็เพิ่งจะได้รู้ ....

183 สูงราวกะนายแบบเลยนะเนี่ย กินอะไรครับ กินอ้อย กินลูกตาล แล้ว แล้ว แฟนล่ะสูงเท่าไหร่ ไม่ตอบก็ได้


เรื่องภาษา ผมอ่อนครับ ตอนเรียนที่ต่างจังหวัด ครูผู้ชายสอนไม่หนุกเลย ให้แต่ท่องศัพท์ สอนแต่แกรมม่า ไม่มีการเรียนการพูดเลย โฮะโฮะ สงสัย ครูคงพูดอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน

เดี๋ยว จะไปทำความรู้จักคุณย่า ดีกว่า อิอิ


โดย: yyswim วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:1:27:55 น.  

 
เวลาในขวดแก้ว ผมก็ทิ้งห่างจากรอบแรกไปหลายปีอ่ะครับ เพิ่งหยิบขึ้นมาอ่านอีกรอบเมื่อเดือนที่แล้วเอง


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:13:57:19 น.  

 




มาทักทายก่อนนอนค่ะ ฝันดีน่ะค่ะ




โดย: icebridy วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:23:36:53 น.  

 
ทำกันได้ลงคอเลยนะคะ

ไม่ค่อยได้เข้ามาบล็อกตัวเอง

เข้ามาก็เจอเลย

ฮือออออออออออ..............

เดี๋ยวนึกหาหัวข้อก่อนนะค้า



โดย: Batgirl 2001 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:16:40:37 น.  

 


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:17:46:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนทับแก้ว
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ศิลปิน: เฉลียง
เพลง: หวาน
ชุด: ปรากฏการณ์ฝน
ปี: 2525



Friends' blogs
[Add คนทับแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.