ชวนคุยเรื่องบอลโลก 2006 ตอนที่ 3
28 มิ.ย. 2549
*** ได้ 8 ทีมสุดท้ายครบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อเช้ามืดวันนี้ เป็นอดีตแชมป์เสีย 6 ทีม มีทีมหน้าใหม่หลุดเข้ามา 2 ทีม ได้แก่ โปรตุเกส และ ยูเครน ซึ่งถ้าให้ทาย ผมว่าแชมป์ครั้งนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นหน้าเก่าๆ อีกตามเคย ส่วนทีมหน้าใหม่ก็ต้องรอกันไปก่อน
*** ทีมสุดท้ายที่ได้เข้ารอบไปก็คือ ฝรั่งเศส ซึ่งก็เล่นได้ดีกว่า สเปน ที่ผมอุตส่าห์ติดตามเชียร์จริงๆ สเปนนั้นรู้ๆ กันอยู่ว่าบุกเป็นอย่างเดียว เล่นเกมรับไม่ค่อยเป็น ทีนี้พอบุกไม่เข้าล็อคก็เลยงง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ยิ่งไปเจอกับความเขี้ยวของนักเตะหลายๆ คนที่อยู่ในชุดแชมป์โลกของฝรั่งเศสอย่าง อองรี ซีดาน วิเอรา หรือ ตูราม บวกกับนักเตะรุ่นหลังที่มีฝีมือเท้าดีอย่าง ฟรอง ริเวรี หรือ วิลเลียม กัลลาส์ แต้มก็เลยออกมาขาดลอยอย่างที่เห็น
สิ่งที่ไม่ถูกใจผมเอาเสียเลยในเกมนี้ก็คือ การได้มาซึ่งประตูที่สองของฝรั่งเศส ที่ได้มาจากการเล่นละครตบตาผู้ตัดสินของ เธียรี อองรี เมื่อก่อนผมไม่ค่อยชอบอองรีสักเท่าไร เพราะเขาชอบทำท่ายียวนกวนประสาทเวลาทำประตูได้ แต่เรื่องฝีเท้านั้นหายห่วง เขาเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ผมมานิยมชมชอบในฝีเท้าเขาแบบจริงๆ จังๆ ก็ตอนที่วิเอราย้ายออกไปจากอาร์เซนอล ทำให้อองรีต้องกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม ซึ่งเขาก็ทำได้ดีเอามากๆ ในการเป็นผู้นำ ผมก็เลยทำลืมๆ ลีลากวนประสาทของเขาไปเสีย
แต่เมื่อเช้านี้ อองรีทำให้ผมต้องกลับไปไม่ชอบเขาอีกแล้ว จังหวะที่เขาวิ่งเบียดไปกับ คาเลส ปูโยล นั้น เป็นการวิ่งเบียดกันตามธรรมดาที่พบเห็นได้เป็นปกติในเกมฟุตบอล แต่จังหวะสุดท้ายที่เบียดกระแทกกันนั้น อองรีกลับทิ้งตัวลงไปพร้อมกับเอามือกุมหน้าตัวเอง ทำทีเหมือนกับว่าโดนปูโยลชักศอกใส่ ซึ่งก็ได้ผล เพราะผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้กับปูโยล และผู้กำกับเส้นก็ไม่ได้ทักท้วงแต่ประการใด ทั้งๆ ที่มุมนั้น ผู้กำกับเส้นน่าจะเห็นชัดเจนว่าปูโยลไม่ได้เอาอวัยวะส่วนไหนแกว่งขึ้นไปใกล้เคียงกับใบหน้าของอองรีแม้แต่น้อย ปูโยลนั้นเตี้ยกว่าอองรีอยู่พอสมควร ถ้าปูโยลชักศอกสูงถึงหน้าของอองรีจริง ก็จะต้องมองเห็นได้อย่างชัดเจนมาก และจากการฟาวล์ครั้งนี้เอง ก็เลยกลายเป็นลูกตั้งเตะที่นำไปสู่ประตูขึ้นนำของฝรั่งเศส
อย่างไรก็ดี เกมก็ผ่านไปแล้ว และถ้าให้เป็นคะแนน ฝรั่งเศสก็เล่นได้ดีกว่าและสมควรผ่านสเปนไปได้จริงๆ แต่คำถามก็คือว่า ฝรั่งเศสจะภูมิใจได้อย่างเต็มที่กับชัยชนะหรือไม่ และน้ำใจนักกีฬาที่ทุกฝ่ายเรียกร้องกันอย่างหนักเสมอมาในเกมฟุตบอลจะไปหาได้จากที่ไหน
นัดหน้าของฝรั่งเศส ไม่ต้องบอกก็คงเดาได้ว่าผมจะต้องลุ้น บราซิล เต็มที่อย่างแน่นอน แม้ว่าบราซิลเที่ยวนี้จะเล่นได้ไม่ประทับใจสักเท่าไรก็ตาม
*** พูดถึงน้ำใจนักกีฬา ขอย้อนกลับไปเรื่องของผู้ตัดสิน เกรแฮม โพล ที่เบลอจัด แจกใบเหลืองให้ โจซิฟ ซิมูนิช ของ โครเอเชีย ไปถึงสามใบ ทั้งโพลและทีมผู้ตัดสินที่เหลืออีกสามคนนั้นต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ อย่างไม่ต้องมีข้อโต้แย้งใดๆ แต่สิ่งที่ผมแปลกใจก็คือ มีแต่คนตำหนิกรรมการ แต่ไม่เห็นมีใครตำหนินักเตะเลยแม้แต่คนเดียว เจ้าตัวเองนั้นรู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองนั้นโดนใบเหลืองใบที่สองแล้วและจะต้องออกจากสนามไป แต่กลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เล่นต่อไป ถึงจะออกมาให้ข่าวภายหลังว่าเขาก็ได้บอกโพลไปแล้วว่าเขาโดนใบเหลืองใบที่สองแล้วนะ แต่โพลไม่สนใจ เขาก็เลยเล่นต่อ ผมก็ยังว่าไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะอยู่ในสนามต่อไปอยู่ดี เพราะนักฟุตบอลทุกคนนั้นรู้กติกาข้อนี้ดีแก่ใจอยู่แล้ว
คำถามเดิมก็กลับมาอีกว่า น้ำใจนักกีฬานั้นหายไปไหน
*** เห็นทีมชาติ อังกฤษ แล้วก็เหนื่อยใจแทน มีกองกลางชั้นดีที่ทุกทีมในโลกอยากจะมีอยู่ถึง 4 คน แต่คนที่มีอยู่กลับใช้งานไม่เป็น นัดที่เอาชนะ เอกวาดอร์ ได้อย่างหวุดหวิดนั้น พูดได้เต็มปากเลยว่าอังกฤษเล่นกันไม่ได้เรื่องอีกตามเคย แถมการเปลี่ยนตัวตอนท้ายเกมก็ดูแปลกๆ เบคแฮม เองวิ่งไป รากแตกรากแตนไปจากความเหนื่อยล้าและความร้อน แต่ผู้จัดการทีมเองกลับไม่เปลี่ยนตัวออก กลับไปเปลี่ยนเอา โจ โคล ออกมาก่อน แล้วก็ค่อยไปเปลี่ยนเอาเบคแฮมออกทีหลังตอนที่เหลืออีกไม่กี่นาทีจะหมดเวลา
หรืออาจจะเป็นที่ผมดูบอลไม่เป็นเองก็ได้กระมัง...
*** ความเข้มงวดของ ฟีฟ่า ต่อการตัดสินเที่ยวนี้ กลับกลายเป็นผลเสียต่อเกมฟุตบอลเป็นอย่างมาก การที่มีใบเหลืองใบแดงปลิวกันให้ว่อน ทำให้เกมขาดความต่อเนื่อง ขาดความสวยงาม จากที่อาจจะตั้งใจมาเล่นเกมบุก ก็กลับจะต้องไปเน้นรับแทน กรรมการฝีมือดีอย่าง มาคุส มักซ์ ของเยอรมนี หรือ เกรแฮม โพล ของอังกฤษ ก็ต้องมาเสียมวยเอาคราวนี้เอง
*** วันก่อนได้อ่านคอลัมน์ เรื่องเล่าจากเยอรมนี ใน หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หน้ากีฬา เขียนโดยคุณ พิเชษฐ์ เกิดวิชัย ผู้เขียนได้บอกว่าเท่าที่ผ่านมา ฟุตบอลโลกหนนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นที่น่าประทับใจหรือน่าจดจำเหมือนฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นนักเตะที่เป็นดาวดวงเด่น หรือเกมที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าสาเหตุหนึ่งจะมาจากความเข้มงวดในการตัดสินด้วยหรือเปล่า
อย่างเมื่อเราพูดถึงฟุตบอลโลกปี 1986 เราก็จะนึกถึงมาราโดน่า และนัดคลาสสิคระหว่างบราซิลกับฝรั่งเศส เมื่อพูดถึงฟุตบอลโลกปี 1990 ก็จะนึกถึงการแก้แค้นระหว่างเยอรมนีกับอาร์เจนตินาจากนัดชิงคราวก่อน และเบคเค่นบาวร์ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกได้ทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม เมื่อพูดถึงปี 1998 ก็จะนึกความยอดเยี่ยมไร้เทียมทานของฝรั่งเศสที่คว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก หรือครั้งล่าสุดเมื่อปี 2002 เราก็จะนึกถึงความยอดเยี่ยมของโรนัลโด้กับโอลิเวอร์ คาห์น และแชมป์โลกสมัยที่ห้าของบราซิล
แล้วหากเราจะพูดถึงฟุตบอลโลกคราวนี้ในอนาคต เราจะนึกถึงอะไร ผมก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกัน หวังว่าอีก 8 นัดที่เหลือจะมีอะไรที่เป็นที่น่ากล่าวขวัญถึงเกิดขึ้นให้ได้เห็นกันทันเวลา
Create Date : 28 มิถุนายน 2549 |
|
6 comments |
Last Update : 28 มิถุนายน 2549 19:49:08 น. |
Counter : 1159 Pageviews. |
|
|
|
มาแนะนำร้านอร่อยที่ดั้นด้นไปชิม ม่ายรุจารย์เคยไปชิมแล้วรึยัง ชื่อร้านพิมพ์รส อยู่โพรงมะเดื่อ ใกล้ ๆ วัดศรีวิสารวาจาและวัดโพรงมะเดื่อ ไม่แพงค่ะ ราคาชาวบ้าน อร่อย ๆ ๆ