อุเบกขา หรือใจดำ..??



ตอบคำถามแม่ออมบุญ..ค่ะ





แม่ออมบุญมีหลังไมค์มาถามปอป้าอย่างนี้...ค่ะ

From : แม่ออมบุญ [23 สิงหาคม 2553 23:46]

อยากจะขอรบกวน ปอป้า ให้เข้าไปชี้แนะหน่อยค่ะ เพราะว่าอยากทราบว่า ปอป้ามีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ค่ะ รบกวน ปอป้าเข้าไปที่ลิงค์นี้นะคะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=maeormboon&month=23-08-2010&group=7&gblog=16

ขอบคุณมากค่ะ

จากบล็อกที่แม่ออมบุญ Refer ถึง มีเนื้อหาว่าอย่างนี้..ค่ะ

วันนี้ทำให้เราได้รับรู้ถึงความหมายของ "อุเบกขา" และปลงตกกับชีวิตมากขึ้น

ประมาณหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้รับรู้ข่าวจากเพื่อนบ้าน ว่าลูกชายของเขา ซึ่งอายุประมาณ 12-13 ปี ไม่สบาย เรากับเพื่อนก็ไปเยี่ยม ตอนนั้นหมอบอกว่าเป็น "น้ำท่วมปอด" และก็สงสัยว่าอาจจะเป็นวัณโรค ก็เลยแยกให้พักห้องคนเดียวเพราะกลัวว่าจะไปแพร่เชื้อให้คนไข้รายอื่น เรากับเพื่อนไปเยี่ยม พยาบาลก็ยังไม่อยากให้เข้า พยาบาลบอกให้บอกให้พ่อของเด็กออกมาคุยนอกห้องจะดีกว่า สงสัยกลัวเรากับเพื่อนจะติดมั้ง

พ่อของเด็กก็ออกมาคุยกับเรานอกห้อง แต่ดูสีหน้าจะไม่ค่อยดีเท่าไร พ่อของเด็กเค้าวิตกกังวลว่าลูกของเขาจะอาการหนัก เราก็ช่วยกันปลอบว่าอย่าคิดมาก เพราะวัณโรค รักษาหายเพียงแต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนเท่านั้นเอง แต่พ่อของเด็กก็บอกว่า กังวลเพราะที่คอของลูกเขามีก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นมา ช่วงก่อนหน้านี้ไม่มี แล้วเขาก็กลัวเพราะว่าญาติ เขาเป็น "มะเร็ง" ตายมาหลายรายแล้ว

เราก็ได้แต่ปลอบว่าอย่าคิดมาก อาจจะไม่ร้ายแรงก็ได้

หลังจากนั้นสองสามวัน ก็ได้ข่าวว่า หมอบอกว่าลูกของเขาเป็น "มะเร็งปอด" อาจอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน ทำให้เรากับเพื่อนรู้สึกสงสารน้องเขามาก เพราะว่าตอนที่น้องเขาอายุได้ประมาณ 7-8 ขวบ เขาก็ถูกรถชน ทำให้ต้อง "ผ่าตัดสมอง" มาแล้ว ไม่รู้ว่าไปทำเวรกรรมอะไรมากมายถึงได้เจอแต่เรื่องร้ายๆ แบบนี้

เรากับเพื่อนก็คุยกันว่า ถ้าเราเสนอแนะให้พ่อของเด็กไปบวช เพื่อแผ่เมตตาให้แก่ลูกของเขา ลูกของเขาจะได้รับอานิสงส์หรือเปล่า เพื่อนเราก็บอกว่าถ้าพ่อของเด็กไปบวช แต่ไม่ได้เกิดความศรัทธาในการบวช แล้วก็คงไม่ได้ผลอะไร เพราะทำไปเพราะมีคนมาบอก

เราก็เลยส่งอีเมลไปถาม คุณฐิติขวัญ เพื่อให้สอบถามไปยัง ดร.สนอง วรอุไร คุณฐิติขวัญ ก็เมตตา ตอบอีเมลกลับมา รวมความแล้ว ประมาณว่า ให้เรารู้จักอุเบกขา คือให้วางเฉยบ้าง คนเราไม่สามารถที่จะไปแก้กรรมใด ๆได้ ถึงพ่อเด็กจะบวชให้ลูก แต่ถ้าเจ้ากรรมนายเวรของลูกไม่อโหสิกรรมให้ก็ไม่เกิดผลใดๆ

ทำให้เราปลงตกกับชีวิตมากขึ้น "ตัวเรา" ไม่ใช่ของเรา สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว เพราะฉะนั้นต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด เหมือนว่าวันนี้จะเป็น "วันสุดท้าย" ของเรา จะได้ไม่ต้องเสียใจเมื่อจะจากโลกนี้ไป

Create Date : 23 สิงหาคม 2553
Last Update : 24 สิงหาคม 2553 7:53:55 น.





เรื่องการปล่อยวางนั้น มีคำโต้เถียงกันมากมาย บ้างว่าคนที่ปล่อยวาง มองดูคนที่ตกทุกข์ได้ยากนั้น
เป็นคนใจดำ บ้างก็ว่า คนที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ไม่รู้จักปล่อยวางนั้น เป็นคนที่แส่ ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น
จากประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมของปอป้า เห็นว่า หลาย ๆ คนไม่เข้าใจคำว่า “ อุเบกขา “ หรือการปล่อยวาง วันนี้ก็เลยขอนำเรื่องนี้มาเขียนให้อ่านกัน..นะคะ

คำว่า “ อุเบกขา “ ภาษาบาลีเขียนว่า อุเปกขา ส่วนภาษาสันสกฤตเขียนว่า อุเปกษา แปลว่า การวางเฉย การวางใจเป็นกลาง


ส่วนความหมายของ “ อุเบกขา “ คือ การวางเฉยแบบวางใจให้เป็นกลาง ไม่โอนเอียงเข้าข้างไปทางใดทางหนึ่ง เช่น เพราะชัง เพราะรัก เพราะกลัว เพราะหลง เป็นต้น ลักษณะของผู้มีอุเบกขา คือเป็นคนที่มีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ดีใจเสียใจจนเกินเหตุ กล่าวคือ มีพรหมวิหารสี่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา นั่นเอง

“ อุเบกขา “ ต่างกับ “ เมินเฉย “..นะคะ ถ้าไม่พิจารณาดูให้ดี จะเห็นว่ามีอาการคล้ายกันมาก แต่การเมินเฉย หมายถึงอาการไม่แยแส ไม่คิดอยากให้ใครเป็นสุขหรือพ้นทุกข์ ไม่ให้ความสนใจ แม้จะได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่สามารถช่วยได้ เรียกว่าใครจะทุกข์จะสุขอย่างไร ฉันไม่สนใจ แม้ว่าจะช่วยได้ก็ไม่คิดช่วย อันนี้ต้องดูให้ดี แยกแยะให้ออกว่าเป็นอุเบกขา หรือเมินเฉย

คำว่า วางเฉย นิ่งเฉย เฉยเมย หรือ อยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่ทำอะไร ในภาษาบาลีใช้คำว่า ตุณฺหี (อ่านว่า ตุณฮี) หรือ ตุณฺหีภาวะ ทั้งสองคำนี้ แปลว่า นิ่งเฉย วางเฉย เฉยเมย หรือ อยู่นิ่ง ๆ

ในความเป็นจริง อารมณ์กลาง ๆ ไม่ยินดียินร้ายนั้น มีอยู่ในตัวของเราเป็นปกติอยู่แล้ว คือเมื่อประสบอารมณ์อันทำให้ยินดี ก็รู้สึกยินดี เมื่อประสบอารมณ์ทำให้ยินร้าย ก็ยินร้าย ต่อเมื่อประสบอารมณ์ที่เป็นกลาง ๆ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ก็เกิดความรู้สึกกลาง ๆ เฉย ๆ อารมณ์เหล่านี้ถือเป็นปกติ ไม่ได้เป็นธรรมปฏิบัติ ถ้าจะเป็นธรรมปฏิบัติได้นั้น ต้องหมายถึงการวางเฉยได้ด้วยความรู้ คือรู้และเข้าใจ แล้วก็วางเฉย การที่จะรู้แล้ววางเฉยได้นั้น ต้องปฏิบัติทำจิตใจให้เกิดการวางเฉยขึ้น และการวางเฉยด้วยความรู้นี้ก็เป็นอาการของจิตที่มีความทนทาน รู้แล้ววางเฉยได้ เป็นอาการของจิตที่ประกอบด้วยปัญญาเพ่งพิจารณารู้เรื่องที่เป็นไป รู้ด้วยปัญญา ซึ่งต้องอาศัยการปฏิบัติที่เรียกว่า “ โยนิโสมนสิการ “ คือทำไว้ในใจโดยแยบคาย พิจารณาให้เห็นเหตุและผล เห็นถึงสัจจะคือความเป็นจริง นี่ถือเป็นข้อปฏิบัติให้เกิดอุเบกขาอันเป็นจุดมุ่งหมายในทางธรรมปฏิบัติ

สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรฯ ทรงวิสัชนาไว้ว่า... " อุเบกขา คือ ภาวะของจิตที่มีอาการเป็นกลาง เห็นเสมอกันในสัตว์ บุคคลทั้งหลาย ในคราวทั้งสอง คือในคราวประสบสมบัติ และในคราวประสบวิบัติ ไม่ยินดียินร้าย มองเห็นว่าทุก ๆ คนมีกรรมที่ทำไว้เป็นของของตน จะมีสุข จะพ้นจากทุกข์ จะไม่เสื่อมจากสมบัติที่ได้ ก็เพราะกรรม จึงวางเฉยได้ คือวาง ได้แก่ ไม่ยึดถือไว้ วางลงได้ เฉย คือไม่จัดแจงวุ่นวาย ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมหรือตามกำหนดของกรรม......อุเบกขานี้เป็นพรหมวิหารธรรมเป็นข้อสุดท้ายจาก เมตตา กรุณา มุทิตา ที่พึงอบรมให้มีขึ้นในจิต วิธีอบรมคือ ระมัดระวังใจมิให้ขึ้นลง ด้วยความยินดียินร้าย ทั้งในคราวประสบสมบัติ ทั้งในคราวประสบวิบัติ เมื่อภาวะของจิตเช่นนั้นเกิดขึ้น ก็พยายามระงับใจ หัดคิดถึงกรรมและผลของกรรม หัดคิดวางลงไปให้แก่กรรม เหมือนอย่างให้กรรมรับผิดชอบเอาไปเสีย...."



บางคนรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นเพื่อนร่วมโลก หรือคนใกล้ชิดของตัวเองต้องประสบทุกข์ อยากเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถจะคิด จะทำ ให้ความช่วยเหลือเขาได้ คิดมากจนสุดท้าย ตัวเองต้องแบกความทุกข์ตามเขาไปด้วย ส่วนใหญ่มักจะเกิดกับคนที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนทางด้านจิตใจหรือเข้าใจหลักพระธรรมดีพอ แต่ถ้าหากเรามีความเข้าใจในพระธรรม เราจะรู้ว่า ถ้าเราช่วยเขาไม่ได้ นั่นเป็นเพราะกรรมของเขาเองที่ต้องชดใช้ เหลือวิสัยที่เราจะเข้าไปช่วยได้ แล้ววางใจลง ไม่นำมาเป็นทุกข์ใส่ตัว เพราะเห็นแล้วว่า นั่นคือกรรมของเขา อย่างนี้เรียกว่า อุเบกขา

แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเห็นว่าเพื่อนเราหรือใครก็ตามที่กำลังจะจมน้ำตาย เราว่ายน้ำได้ แต่ไม่คิดลงไปช่วยเหลือเขา กลับยืนมองเฉยอยู่ ไม่คิดแม้แต่จะเรียกให้ใคร ๆ มาร่วมมือกันช่วยชีวิตเขา แล้วบอกว่านี้คืออุเบกขา อย่างนี้ไม่ใช่ ไม่ถูกต้องแล้ว อันนี้ถือเป็นการเฉยเมย ไม่ใช่อุเบกขา แต่ถ้าเราลงไปช่วยแล้ว ไม่สามารถช่วยได้ทัน เขาต้องมาตายไปต่อหน้าต่อตาเรา เราก็ต้องวางใจลง เพราะนั่นคือกรรมของเขา ช่วยแล้ว แต่ไม่สามารถรอดได้ ก็ไม่ต้องไปเก็บมาเป็นทุกข์ใจ ลงโทษตัวเองว่า ช่วยเขาไม่ได้ ช่วยเขาไม่ทัน ถ้าหากเราวางใจได้เช่นนั้น นั่นคืออุเบกขา

เคยไหมคะ..ที่เวลาเพื่อนมีปัญหา เราพยายามช่วยหาวิธีแก้ไขให้ วิธีการของเราก็พ้องกับความคิดของคนอื่น ซึ่งคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว แต่เพื่อนของเราก็ไม่สามารถทำได้สักที เช่นเรื่องของความรัก ทำอย่างไรเพื่อนของเราก็ตัดใจจากคนรักไม่ได้สักที อยู่ด้วยกันไป คบกันไป เพื่อนเรามีแต่เศร้าเสียใจอยู่ตลอดเวลา แต่เพื่อนของเราก็ไม่สามารถตัดใจเลิกกับแฟนได้สักที เป็นต้น ตัวอย่างเช่นนี้ เราก็คงต้องทำใจว่ามันเป็นกรรมของเพื่อนเรากับแฟนของเขาแล้วล่ะ สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ก็คือ ยืนอยู่ข้าง ๆ เพื่อนของเรา คอยให้กำลังใจ ประคับประคอง ไม่ให้เพื่อนเดินทางผิด เราไม่ทอดทิ้งเพื่อน แต่เราต้องวางใจว่ามันเป็นกรรมของเพื่อนเราเอง แต่ถ้าเรากลับไปโมโหใส่เพื่อน ต่อว่าเพื่อน เดินหนีออกจากเพื่อน อย่างนี้ถือว่าเราใจร้ายเกินไป อย่าลืมว่า สรรพสัตว์ในโลกนี้ ล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง เกิดแต่กรรม อยู่ด้วยกรรม และเป็นไปด้วยกรรมกันทั้งสิ้น ไม่เว้นเรา-เขา ต่างคนต่างมีกรรม ช่วยเขาแล้ว เขาไม่สามารถพ้นบ่วงกรรมได้ ก็ต้องรู้จักวางใจให้เป็นกลาง อย่านำทุกข์เขามาเพิ่มทุกข์ให้ตัวเรา ทำให้ตัวเองจิตตก เศร้าหมอง อย่างนี้ถือว่าไม่ถูก

เมื่อพูดถึงเรื่องอุเบกขาแล้ว เราขยับเข้าใกล้พระธรรมกันอีกสักนิด ถือว่าเป็นธรรมปฏิบัติอย่างหนึ่งของผู้ที่ฝักใฝ่ในการปฏิบัติให้ถูกต้องพึงรู้ไว้ ในพระสุตตันตปิฎกกล่าวไว้ว่า อุเบกขามี ๑๐ อย่าง คือ

๑. ฉฬงคุเปกขา คือ ความเพิกเฉยในอารมณ์ทั้ง ๖ ที่ผ่านทวารหรืออายตนะทั้ง ๖ เช่น ตาเห็นรูป รู้ว่าเป็นรูปแล้วก็วางเฉยเสีย หูได้ยินเสียง รู้ว่าเป็นเสียงอะไร แล้วก็วางเฉยเสีย

๒. พรหมวิหารุเปกขา คือ การวางเฉยในพรหมวิหารสี่ เช่น มีเมตตาแล้ว กรุณาแล้ว มุทิตาแล้ว แต่ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ ก็ต้องวางใจเป็นกลางเสีย ปลงใจเสียว่า นั่นเป็นเพราะกรรมของเขา โดยเว้นเสียซึ่งอคติ ๔ ไม่ลำเอียง เพราะรัก เพราะเกลียด เพราะกลัว หรือเพราะหลง

๓. โพชฌงคุเปกขา คือความเป็นกลางในธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งอิงวิราคะ วิเวก อันเป็นธรรมที่สูงพอสมควร (วิราคะ หมายถึง ความปราศจากราคะ, ความหน่าย, ความไม่ใยดี, พระนิพพาน ส่วนวิเวก หมายถึง เงียบสงัดทำให้รู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจ, เงียบสงัดทำให้รู้สึกวังเวงใจ)

๔. วิริยุเปกขา คือวางใจเป็นกลางในการทำความเพียร เดินด้วยสายกลาง ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป

๕. สังขารุเปกขา คือความเป็นกลางในการพิจารณา ไม่ยึดมั่น ถือมั่นในขันธ์ ๕

๖. เวทนูเปกขา คือการวางใจอุเบกขาท่ามกลางระหว่างสุขและทุกข์ คือ อทุกขมสุขเวทนา ไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุข

๗. วิปัสสนูเปกขา คืออุเบกขาในวิปัสสนา โดยพิจารณาไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

๘. ตัตตรมัชฌัตตุเปกขา ข้อนี้ถือเป็นอุเบกขาในเจตสิก (อารมณ์ที่เกิดกับใจ เป็นไปในจิต เช่นสุข หรือทุกข์ที่เกิดในจิต)

๙. ฌานุเปกขา คือการวางเฉยต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้นในฌาน ไม่ตกไปฝ่ายข้าศึกหรือสุขแห่งตน

๑๐. ปาริสุทธุเปกขา คือความขวนขวายในการระงับข้าศึก หรือซึ่งบริสุทธิ์จากข้าศึกทั้งปวง คือ อุเบกขาในความบริสุทธิ์

เรื่องของการวางเฉยนี้ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงกล่าวไว้ว่าการวางเฉยด้วยปัญญาเป็นการวางเฉยอย่างถูกวิธี การฝึกหัดปฏิบัติตนจึงจำเป็นและมีประโยชน์ต่อทุกคน เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับบรรเทา หรือแก้ไขปัญหาชีวิตได้ในระดับหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะได้ศึกษา และหัดปฏิบัติ





อุเบกขา เป็นธรรมที่ปฏิบัติได้ยาก หากไม่ได้รับการฝึกฝนมาก่อน แม้แต่ผู้ที่ฝึกฝนอยู่ บางครั้งก็อาจจะวางใจเฉยกับปัญหาที่อยู่ข้างหน้าแทบจะไม่ได้ เพราะจิตมันมักจะต่อต้าน ค้านกันอยู่เสมอ ระหว่างการวางเฉย กับเฉยเมย ปอป้ามีเรื่องจริงเล่าให้อ่าน..ค่ะ

คุณแม่คนหนึ่ง มีลูกชายคนเดียว เธอเป็นคนดีมีศีลธรรม ทำมาหากินด้วยสัมมาอาชีพ เป็นแม่ที่รักลูกมาก พยายามสอนลูกให้เป็นคนดี อยู่ในศีลในธรรม ลูกก็เจริญเติบโตมาตามลำดับ เกเรบ้าง ดื้อบ้างตามวัยของเขาในแต่ละช่วง แต่ลูกก็ไม่เคยสร้างปัญหาหนัก ๆ ให้กับผู้เป็นแม่เลย อยู่มาวันหนึ่งลูกกินยาเพื่อฆ่าตัวตาย ผู้เป็นแม่รู้สึกเสียใจเศร้าใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เป็นคนมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา เธอเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างกล้าหาญ จัดการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนที่คิดว่าถูกต้องแล้ว ดีที่สุดแล้ว ลูกชายของเธอผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ เธอพาลูกไปรักษากับจิตแพทย์ที่ลงความเห็นว่า ลูกของเธอมีปัญหาทางด้านสภาวะจิต เธอให้ความรัก ความเมตตาต่อลูก พยายามพร่ำสอนให้ลูกมีจิตใจที่เข้มแข็ง เข้าใจสัจจะธรรมและพระสัทธรรม

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ของเธอและจิตแพทย์ ลูกชายของเธอเกือบจะหายเป็นปกติ แต่แล้ววันหนึ่ง ลูกของเธอก็กินยาเพื่อฆ่าตัวตายอีก ในเหตุการณ์ครั้งที่สองที่เธอต้องยืนดูลูกนอนดิ้นทุรนทุรายขณะที่หมอและพยาบาลช่วยกันล้างท้องให้ลูกของเธอนั้น เธอเกิดสภาวะอย่างหนึ่งขึ้นในใจ มีคำพูดเกิดขึ้นในจิตของเธอ คือ ลูกเอ๋ย ถ้าโลกนี้มันโหดร้ายมากนัก ลูกอยากไป ก็ขอให้ลูกไปอย่างสงบเถิด เอาบุญกุศลที่แม่ปฏิบัติสะสมมาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ติดตัวไปนะลูก เธอเล่าว่า ณ เวลานั้น เธอไม่ได้เกิดความรู้สึกเศร้าสะเทือนใจ เสียใจ เหมือนครั้งแรก ความรู้สึกมันเหมือนกับปลง คล้าย ๆ กับว่างเปล่า แต่ไม่อ้างว้าง มองเห็นว่าลูกมีกรรมที่ต้องชดใช้ด้วยตัวของเขาเอง เธอไม่สามารถจะเข้าไปช่วยได้ด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม เพราะที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ เธอได้ช่วยเขามามากแล้ว ช่วยทุกวิถีทางแล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะฆ่าตัวตายอีก เธอมาถามปอป้าว่า เธอเป็นแม่ที่ใจดำหรือเปล่า..??...
แล้วเพื่อน ๆ คิดว่าอย่างไร...คะ..อุเบกขา หรือ ใจดำ..??




ขอบคุณ พระไดบุทสึ จาก ก๋าเคน-นิชคุณ




เพลง หยาดน้ำฝนหยดน้ำตา

































 

Create Date : 18 กันยายน 2553
61 comments
Last Update : 19 มีนาคม 2558 12:18:49 น.
Counter : 2244 Pageviews.

 

ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกโข จ เวรวา
อ่อนไป ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป ก็มีภัยเวร

มีความสุขในการดำเนินชีวิต ด้วยหลักมัชฌิมาปฏิปทา ตลอดไป..นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 18 กันยายน 2553 15:34:09 น.  

 

บางทีการวางเฉย ก็ต้องดูสถานการณ์นะครับ ปอป้า

อย่างกรณีเอ็กทรีม บางทีก็พูดยาก ขึ้นกับเหตุผลของแต่ละคน ><

 

โดย: Scientist 18 กันยายน 2553 16:02:30 น.  

 

บางทีเราก็ไม่รู้ว่าไป หรือ อยู่จะดีกว่ากันน่ะค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 กันยายน 2553 16:13:51 น.  

 

ใจเรา กำหนดชีวิตตัวเองได้ใช่ไหมคะ

 

โดย: Rinsa Yoyolive 18 กันยายน 2553 16:29:00 น.  

 

อุเบกขาให้ได้ที่ใจค่ะ เมื่อใจมีอุเบกขานั่นเท่ากับสติจะอยู่กับตัวและเข้าใจความเป็นไป เมื่อมีสติและเข้าใจความเป็นไปการกระทำก็จะอยู่ในกรอบนั้นค่ะ

 

โดย: Chulapinan 18 กันยายน 2553 16:32:46 น.  

 

อุเบกขาคือการปล่อยวาง
ความเป็นกลางในการพิจารณา
การวางเฉยไม่ไขว่คว้า
ไม่สรรหาความทุกข์สู่ตัวเรา

 

โดย: gymstek 18 กันยายน 2553 16:44:12 น.  

 

อ๊ะ หัวข้อน่าสนใจมั่กๆ

มาทักก่อง เด๋วจะรีบออกข้างนอก

แล้วค่อยมาอ่านนะคะปอป้าคนจ๋วย จุ๊บๆ

 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 183.89.88.124 18 กันยายน 2553 17:19:11 น.  

 

จินมาทันเรื่องราวที่คุณปอป้า
อยากให้มาอ่านพอดี
ดีใจจังเลยค่ะคุณปอป้า

สำหรับจิน การทำใจให้เป็นอุเบกขา
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
มันขึ้นอยู่กับว่า เราผูกพันกับ
คนและสิ่งของที่เรากำลังทำใจ
อยู่มากน้อยเพียงใด

ถ้าเป็นเรื่องไกลตัวที่มากระทบ
กับจิตใจ จินว่าทำใจให้อุเบกขาไม่อยาก
แต่ถ้าเป็นเรื่องใกล้ตัว คนใกล้ตัว
การทำใจให้เป็นอุเบกขา มันยากมาก ๆ เลยค่ะ
เพราะเรายังมีความรัก ความผูกพัน
โกรธ หลง ยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งที่ผูกพัน
มานาน ๆ อยู่

การถอยห่างออกมา แล้วมองเข้าไป
อย่างเป็นคนอื่น ทำตัวและใจเป็นกลาง
มันอาจจะสงบได้ แต่มันอดที่จะแบก
กลับมาสะเทือนใจไม่ได้

คงยังต้องฝึกใจอีกเยอะเลย
ขอบคุณนะคะคุณปอป้า
สำหรับข้อคิด เตือนใจ ดี ๆ ที่มีให้ตลอดเวลา
ระลึกถึงคุณปอป้าเสมอ

 

โดย: JinnyTent 18 กันยายน 2553 17:34:04 น.  

 



มีความสุขมากๆทั้งครอบครัวนะคะ คุณปอป้า

 

โดย: ดอยสะเก็ด 18 กันยายน 2553 17:49:53 น.  

 

สวัสดีขอรับปอป้าขอรับ

เมื่อช่วยไม่ได้ สุกปัญญาแล้ว ก็วางเฉย

ถูกต้องนะคร้าบ

 

โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) 18 กันยายน 2553 18:23:34 น.  

 

เรื่องบางเรื่องก็เข้าใจยาก
บางทีพูดว่าอุเบกขาเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยว
แต่บางคนพยายามวางเฉยเพื่อไม่ให้เป็นทุกข์แต่กลับมองว่าเฉยเมยและใจดำ
คงขึ้นอยู่กับเจตนานั้นๆ ใช่มั้ยคะปอป้า

 

โดย: uter 18 กันยายน 2553 18:59:17 น.  

 

เสาร์สวัสดีค่ะปอป้า


ถาม-ตอบวันนี้ไขปัญหาและให้ความกระจ่างได้ดีทีเดียวค่ะ






***** คนเราก็เหมือนกับนาฬิกาที่ไขลาน
ไม่ว่าจะไขนานแค่ไหน ในที่สุดลานก็ต้องคลายออก
จนนาฬิกาหยุดเดิน


รถเมื่อหมดน้ำมันก็ต้องหยุด .... เครื่องบินเมื่อไม่มีน้ำมันก็ต้องตก


เราทุกคนไม่ว่าจะอยากอยู่ต่อไปหรือไม่....ในที่สุดก็ต้องหยุด
ชีวิตมันหยุดตามธรรมชาติคือตาย .....
ธรรมชาติทำหน้าที่หยุดให้เราอยู่แล้ว *****


 

โดย: ร่มไม้เย็น 18 กันยายน 2553 19:03:57 น.  

 

พี่ปอป้าตอบคำถามได้ดีมากเลยครับ
และตอบโจทย์ที่ลูกชายพี่ปอป้าป่วยด้วย
ว่าทำไมพี่ถึงไม่ฟูมฟาย

ผมคิดว่าคนที่จะมีวิธีคิดแบบนี้
จะต้องผ่านทุกข์หนักๆมาเท่านั้น
จึงจะเข้าใจธรรมได้ด้้วยใจอุเบกขาเช่นนี้

ซึ่งผมเองยังไม่มั่นใจเลยครับ
ว่าจะทำได้ดีเหมือนพี่ปอป้าครับ




 

โดย: กะว่าก๋า 18 กันยายน 2553 20:11:53 น.  

 

อุเบกขา คือให้มีจิตวางเฉย ในเมื่อตนและสัตว์อื่นได้รับความวิบัตเดือดร้อนในกิจที่จะทำหรือทำมาแล้วก็ตาม
อันเราไม่มีหนทางที่จะช่วยได้ ให้วางเฉยเสีย ไม่เสียใจ
คอยระวังรักษาจิตอย่าให้เศร้าหมอง
ถ้ามีหนทางจะช่วยได้ก็ให้ช่วย ไม่ใช่ว่าจะให้เฉยไปทุกอย่าง
ให้เฉยแต่สิ่งที่ตนหมดความสามารถแล้วเท่านั้น


จากหนังสือ จิตตวิชชา
หลักความรู้แจ้งทางจิต

ของพระอาจารย์ลี ธมมธโร
สำนักวัดเวฬุวัน(คลองกุ้ง)
วันที่ ๑๔ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๒


**คัดลอกมาให้อ่านค่ะ**






 

โดย: addsiripun 18 กันยายน 2553 20:28:42 น.  

 

มิสยูน๊าค๊ามามี้
นอนหลับฝันดีค่ะ


SA-WAT-DEE-KA ..*.^
+゚☆゚+。 ゚¨゚゚・*:..。o○☆゚+。*Miss *(´Д`)ノyou!
> > ღ
> > *ღღღHavE a NiCe DaY NaJaღღღ<<<

.★ * ★..
.*★ *. *..*    ★
★           *
★          ★’
‘*.        *
  ‘★    ★
     ‘*..★'
> > (¯`v´¯)
> > `.¸.♥´ mastana….mastana <<<
>>*♥´¨)
¸.-´¸.-♥´¨) ¸.-♥¨)
(¸.-´ (¸.-` ♥♥´¨) ♥.-´¯`-.- ♥>♥

 

โดย: mastana 18 กันยายน 2553 22:33:12 น.  

 



แล้วม่านดำก็คลุม..กุมเวหา
ดาริกาวาววับประดับทั่ว
จันทร์แรมค่อยค่อยแง้ม..ให้เห็นตัว
ถักทอแสงมัวมัว..อย่างเอียงอาย

รติกาลห่มห้วง..ลมหรรษา
ช่วยปลุกมวลมาลา..หอมเป็นสาย
ขับบรรเลงครื้นเครง..เร่งระบาย
ให้ใจกายใฝ่นิทรากับราตรี

เปลื้องบทกลอนทออ้อน..กับฟ้ากว้าง
ให้เปิดทางสร้างพริ้ม..ยิ้มเต็มปรี่
กับฝันดีทุกวันทุกชีวี
ผ่านวิถีโลกมีทางรวยเริง..เทอญเอย


ฝันดีค่ะคุณป้าน่ารัก

 

โดย: ญามี่ 19 กันยายน 2553 0:55:23 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

เม้นท์ของพี่ปอป้า
ทำให้ผมนึกถึงการจากไปของผู้ใหญ่ที่เคารพคนนึง
ตอนแรกท่านเกลียดผมมากครับ
เพราะเมื่อก่อนผมจะเป็นคนตรงๆ
พูดอะไรตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
ท่านเลยมองว่าผมเป็นคนแข็งกระด้างแบบเด็กดื้อน่ะครับ

สุดท้ายในวันที่ท่านจะจากไป
ท่านเขียนไว้ในคำสั่งเสียเลยว่า
คนที่ต้องเชิญไปในงานศพ 3 คนแรก
นอกจากญาติพี่น้องแล้วก็คือผม

เพราะตอนที่ท่านมีชื่อเสียง มีตำแหน่ง
มีแต่คนห้อมล้อมเพราะหวังผลประโยชน์

แต่ตอนที่ท่านลงจากตำแหน่งและถอดหัวโขนออก
คนที่เคยห้อมล้อมก็หายไปหมด

ท่านป่วยเป็นมะเร็งนะครับ

การป่วยและการตายในครั้งนั้น
มอบบทเรียนชีวิตให้ผมได้มากจริงๆ











>

 

โดย: กะว่าก๋า 19 กันยายน 2553 5:39:26 น.  

 

เรื่องครอบครัว เรื่องจิตใจ เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ยากออกมาเป็นคำพูด แต่ทุกความรู้สึกที่คนในครอบครัวเป็นอะไรก็ยากเกินทำใจ มีก็แต่ธรรมมะพระพุทธเจ้าที่จะคอยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เข้มแข็งขึ้น ให้รู้จักมองโลกโดยไม่ทุกข์ ขอขอบคุณบทความข้างบนที่ช่วยชี้แนะ ความเป็นอุเบกขา ให้ใจสงบสุข

 

โดย: Tonkra49 19 กันยายน 2553 5:47:30 น.  

 

สวัสดีวันหยุดค่ะปอป้า

 

โดย: kobnon 19 กันยายน 2553 7:34:06 น.  

 

คุณป้าคะ...ที่นางส่งของให้ ก็เพราะอยากให้
ด้วยความรัก และ เคารพ
ไม่ได้คิดว่าเป็นภาระ หรือ คิดว่าเป็นการส่งเพื่อตอบแทน
เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ...

คุณป้า และ ลูกชาย...เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ
อยากเห็นคุณป้ามีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมเร็วๆ นะคะ

 

โดย: เพรง.พเยีย 19 กันยายน 2553 8:00:17 น.  

 



สวสดียามเช้าค่ะพี่ปอ ป้า
ดี.ตอบเมลล์ไปนะคะ
ขอบคุณค่ะ



บล็อกนี้ยาว ต้องใช้เวลาในการอ่าน
เดี๋ยวดี.ทำงานก่อนค่ะ
แล้วจะแว๊บมาใหม่

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 19 กันยายน 2553 8:54:02 น.  

 

กำลังค่อย ค่อยพิจราณาไปทีละข้อความเพื่อทำความเข้าใจให้รู้แน่ว่าจริงแล้ว ทั้งสองอย่างแตกต่างกันอย่างไร

 

โดย: ผู้เริ่ม IP: 61.7.129.106 19 กันยายน 2553 9:12:03 น.  

 

แว๊บมาทักทายวันหยุดครับ

 

โดย: pragoong 19 กันยายน 2553 10:15:50 น.  

 

Who is that?



จ๊ะเอ๋!!!...

ใครหว่า???...

"ป้าหู้"เองคร้า....

คิดถึงนะคร้า จู๊ฟ...จู๊ฟ....

 

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 19 กันยายน 2553 10:45:40 น.  

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะค๊า

 

โดย: Borken 19 กันยายน 2553 11:53:47 น.  

 

ขอรบกวนประชาสัมพันธ์การทำบุญดีๆหน่อยนะครับ
//www.dek-d.com/board/view.php?id=1901429

ช่วยกันบริจาคเยอะๆครับ...สร้างบารมีให้ตนเองและครอบครัวครับ
ขอบคุณมากครับ
หมอเหลียง..

 

โดย: Teerawat IP: 182.232.28.177 19 กันยายน 2553 12:06:17 น.  

 

จริงๆนะคะ

หลายคนชอบคิดว่าคำ อุเบกขา ที่แปลว่าวางเฉย เป็นอะไรที่ใจดำ หรือทองไม่รู้ร้อน

หรือธุระไม่ใช่

แต่ความเป็นจริง ก็อย่างปอป้าอธิบาย

นักล่าฯชอบที่สังฆราชท่านบอกว่า อุเบกขาคือ ภาวะของจิตที่มีอาการเป็นกลาง

ฟังแล้วเข้าใจได้ทันทีค่ะ

ป.ล.มาชวนปอป้าไปอ่านเรื่องสั้นด้วยค่ะ

 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 183.89.126.141 19 กันยายน 2553 13:45:49 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปอป้า

เพิ่งกลับมาจาก ตจว.ค่ะ

“ อุเบกขา “

ต้องค่อย ๆ ศึกษาและพิจารณาปฏิบัตินะคะ
ยากที่จะทำใจจริง ๆค่ะ


 

โดย: อิ่ม_Aim 19 กันยายน 2553 19:17:39 น.  

 

สวัสดียามค่ำค่ะปอป้า...
นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: mayday (savita29 ) 19 กันยายน 2553 19:36:41 น.  

 

..สวัสดียามค่ำค่ะปอป้า..

วันนี้เข้ามาอ่านเรื่องอุเบกขาของปอป้า..ได้หลักธรรมและข้อคิดมากมาย..เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ.. บางทีพอคนเรามีความรัก ความสงสาร..ก็มักจะลืมเรื่องกฎแห่งกรรม.. แล้วก็เอาทุกข์เขามาเป็นทุกข์เราอยู่ร่ำไป..
ขอบคุณสำหรับธรรมะดีๆเสมอมาค่ะ..Orkut Scraps - Friendship

Orkut Scraps

 

โดย: อ๋อซ่าส์ 19 กันยายน 2553 20:13:15 น.  

 

สวัสดี...เจ้า


วันนี้รู้สึกเศร้าจัง ยิ่งฟังเพลงแล้วก็ยิ่งเหงา ไม่มีเหตุผล

 

โดย: บ้าน-หวาน-หวาน (kwan_chat ) 19 กันยายน 2553 20:50:59 น.  

 



แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะค่ะ

 

โดย: jamaica 19 กันยายน 2553 21:55:11 น.  

 



ขอให้พี่ปอป้ามีวันจันทร์เริ่มต้นี่สดใสนะคะ

 

โดย: cengorn 20 กันยายน 2553 3:07:23 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะปอป้า

มันใกล้กันมากเลยนะค่ะ
ระหว่างอุเบกขากับใจดำ

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 20 กันยายน 2553 6:04:48 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า





 

โดย: กะว่าก๋า 20 กันยายน 2553 7:38:24 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ พี่ปอป้า
ผมไปไหว้พระ 8 วัด กับ 1 ศาลหลักเมืองสุพรรณ
แล้วจะนำภาพมาฝากครับ

 

โดย: เศษเสี้ยว 20 กันยายน 2553 8:21:12 น.  

 



อุเบกขาเป็นสิ่งที่ทำยากมากค่ะปอป้า

สุขสันต์วันทำงานนะคะ

ขอให้ปอป้ามีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

 

โดย: I_sabai 20 กันยายน 2553 8:35:53 น.  

 

สวัสดีวันจันทร์ตอนสายๆ ครับปอป้า
เมื่อวานไปสอยโน้ตบุค ตัวใหม่มาแทนเจ้า เนตบุคพังๆ กับพีซีเต่ามาเรียบร้อยแล้วครับ อิอิ
ที่นี่คอมเร็วลื่น หัวแทบแตกเลยครับ อิอิ

ตอนนี้ชีวิตเลยแฮปปี้ขึ้นเยอะ หลังจากเสียเงินทั้ง ทีวี และโน้ตบุคไปเรียบร้อย แต่เล่นเอากระเป๋าแห้งไปเลย

แล้วปอป้าละครับ สบายดียังครับ ยังงั้ยดูแลสุขภาพดีดีนะครับ

ขอให้ปอป้ามีแต่ความสุขเยอะ ร่างกายแข็งๆ มีแต่เรื่องเฮงๆนะครับ


 

โดย: ter_pt 20 กันยายน 2553 10:06:01 น.  

 

๑๐๑๙

คารวะสวัสดิ์ป้า........พรหมญา ณีแล
ตามหลักพระสัมมา..พุทธเจ้า
บุคคลย่อมคบหา......ผู้ใหญ่
จึงจักเป็นชนเฝ้า.......ส่งฟื้นคุณธรรม

๑๐๒๑
๒๐๐๙๕๓

เจริญในธรรมยิ่งๆขอรับพี่น้องปอปร้าครับ
มิได้แวะมาตั้งหลายราตรียาม
มาทีเลยพูดซะเป็นโคลงเลย อิอิ

 

โดย: พี่น้อง คนสาฯ IP: 110.164.244.12 20 กันยายน 2553 11:16:11 น.  

 

เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องวางเฉยนะคะป้า
ถึงเเม้เราอาจจะถูกมองว่าใจดำ

อ่านเรื่องเเม่-ลูกเเล้วทำใจได้เหมือนเเม่ท่านนี้
ก็ทำให้ไม่ทุกข์นะคะ
ในเมื่อแม่ช่วยจนสุดความสามารถเเล้ว
ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม

ป้าล่ะคะสบายดีรึยัง
อิอิคิดถุงมากค่ะ

 

โดย: อาลีอา 20 กันยายน 2553 13:29:31 น.  

 

อุเบกขาค่ะ
สบายดีหรือเปล่าค่ะ ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน ยังน่ารักมีข้อคิดมาให้อ่านเสมอนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: NucH (sa-bye-sa-bye TEAM ) 20 กันยายน 2553 14:10:29 น.  

 

สวัสดีครับ ปอป้า
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

 

โดย: the mynas 20 กันยายน 2553 16:09:00 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ ปอป้า...

อ่านตัวอย่างที่ปอป้านำมาฝาก...อุเบกขา หรือใจดำ...

พูดไม่ออก บอกไม่ถูกค่ะ

ใจหนึ่งอยากจะคิดว่า...แม่ัตัด-วางได้จริงๆ เหรอ
ว่าเป็นกรรมเฉพาะตัวของลูก...จะตัดสินว่า...ใจดำซะเลยทีเดียวก็คงไม่...เพราะแม่ก็ทำดีที่สุดตามสภาพ...ที่ควรสอน ก็สอน ที่ควรปฏิบัติ ก็ปฏิบัติ

ปอป้าออกพรรษา แล้วกินเจต่อเลยมั้ยคะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 20 กันยายน 2553 16:55:00 น.  

 

ปอป้าขา.....ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความดีๆ อ่านทีไรซึ้งกินใจได้ข้อคิดกลับไปทุกครั้ง และสามารถนำกลับไปใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี พอเจอเหตุการณ์อะไร จะนึกถึงบทความของปอป้าทุกที โดยเฉพาะอภัยทาน สิ่งที่ได้กลับไปมากมายเกินคำว่า ขอบคุณจริงๆ ขอให้ปอป้าและครอบครัวมีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ และขออนุญาตนำบทความของปอป้าไปเผยแพร่ให้ผู้อื่นอ่านนะคะอยากให้ได้รับประโยชน์จากบทความดีๆเช่นที่นู๋ได้รับมา และขออนุโมทนาบุญกับปอป้าด้วยค่ะ

 

โดย: first IP: 58.8.142.38 20 กันยายน 2553 22:14:45 น.  

 

ไปเที่ยว ตจว.มาครับปอป้า
กลับมาแล้วก็มาทักว่า
สวัสดียามดึกครับ
.............................
อุเบกขาเดี๋ยวนี้เอาไปใช้ผิดที่
วางเฉยกันไปหมดทุกเรื่องครับ...กลายเป็นธุระไม่ใช่ไปเลย
ซึ้งจริงๆครับ

 

โดย: panwat 21 กันยายน 2553 0:37:49 น.  

 


ปอป้าตอบได้เคลียและชัดเจนมากๆ เลยนะคะ
แวะมาอ่านก่อนเข้านอนจ้า

 

โดย: อุ้มสี 21 กันยายน 2553 2:19:54 น.  

 

เป็นอย่างไรบ้างคะคุณป้า
หวังว่าคุณป้าคงจะสบายดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ

 

โดย: เพรง.พเยีย 21 กันยายน 2553 5:33:30 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า






 

โดย: กะว่าก๋า 21 กันยายน 2553 6:41:42 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะ

 

โดย: แม่หมู (jamaica ) 21 กันยายน 2553 7:19:36 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับปอป้า
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ


 

โดย: ter_pt 21 กันยายน 2553 7:49:32 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

 

โดย: Tonkra49 21 กันยายน 2553 8:14:12 น.  

 

ปอป้าจ๋าปอป้า

ช่วงนี้นู๋ดาวต้องขับรถไปๆมาๆกับโรงบาลศิริราช
พอดีว่าน้องชายของพ่อเพื่อนเขามาฉายคลีโมรักษามะเร็งน่ะค่ะ
นู๋ดาวก็คอยไปอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่ไม่มีญาติมาจากทาง ตจว.
ซึ่งก็ไม่ใช้เวลานานนักในการแสตนบาย
แต่มาเสียเวลาตอนที่ขับรถไปมาในเมืองกรุงนี่แหล่ะค่ะ

ช่วงนี้คอมและสัญญาณเนตก็โดนน้องเอาไปทำรายงานด้วยค่ะ
เพราะใกล้สอบไล่แล้ว
ชีต้องเก็บงานส่งครูให้หมดก่อนสอบ
นู๋ดาวก็เลยออนไลน์น้อยลงไปหน่อย

แต่คิดถึงปอป้าเสมอค่ะ


ปอป้ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ ...อากาศช่วงนี้มีแต่ฝน และฝน

 

โดย: satineesh 21 กันยายน 2553 8:26:47 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ ปอป้า ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เข้ามาอ่านช้า
เนตมีปัญหาค่ะ เลยเข้ามาอ่านช้าไปหน่อยค่ะ

ขอบคุณ "ปอป้า" มากนะคะที่ชี้แนะค่ะ
ทำให้หวานรู้สึก "อุเบกขา" ได้มากขี้นค่ะ

ขอให้ปอป้า หายป่วยเร็วๆ นะคะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: แม่ออมบุญ 21 กันยายน 2553 8:57:18 น.  

 

สวัสดีค่ะปอป้า.. สบายดีนะคะ

ขอให้มีความสุขทุกๆ วันนะคะ ^_______^

 

โดย: APPLEAIR 21 กันยายน 2553 9:37:10 น.  

 

อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ โก ชญฺญา มรณํ สุเว
น หิ โน สงฺครํ เตน มหาเสเนน มจฺจุนา

บุคคลควรทำความเพียรเผากิเลสเสียแต่วันนี้ ใครเล่าจะรู้ความตายจักมีในวันพรุ่งนี้
เพราะพวกเราไม่สามารถผ่อนผันกับมัจจุราชผู้มีกองทัพใหญ่นั้นได้

มีความสุขในชีวิต ด้วยการเตรียมพร้อมกับทุกสภาวะ ตลอดไป..นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 21 กันยายน 2553 10:20:09 น.  

 

เห็นว่าเหนื่อยๆ ก็พักบ้างนะครับ ปอป้า

อย่าหักโหมนะครับ :)
แวะมายิ้มส่งกำลังใจให้ครับ

 

โดย: ทราย แดนหิมะ IP: 69.110.27.88 21 กันยายน 2553 10:42:59 น.  

 

ช่วงนี้ผมเลือกแต่รูปที่รูปสบายตาสบายใจของหมิงหมิงเลยครับพี่ปอป้า
หวังว่ารูปหมิงหมิงจะช่วยสร้างรอยยิ้มให้คนดูได้บ้างน่ะครับ

บ้านเมืองก็เครียด
การเมืองก็เน่านะครับ 555


 

โดย: กะว่าก๋า 21 กันยายน 2553 11:51:12 น.  

 



ขอบคุณมากค่ะ
แบบว่า อุ๊บอิ๊บเป็นเจ้าของเลย
คือไม่เหงาทุกวัน

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 21 กันยายน 2553 11:52:31 น.  

 

แวะมากราบสวัสดีปอ ป้า นะขอรับ หุหุ หายหน้าไปนาน น๊าน นาน แบบว่าหลังยาวจริงๆช่วงนี้ ได้แต่นึก แต่ไม่แวะมา

ขอบคุณที่แวะมาทักทายกัน ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ

 

โดย: มังกรจอมหลังยาวมาแว้วววว (มังกรบินจอมซน..กับคนช่างฝัน ) 21 กันยายน 2553 12:11:26 น.  

 

สวัสดีขอรับปอป้าครับ

จะว่าไป คิดถึงลิงนะครับ

ไม่ได้เจอลิงนานแล้ว

เล่นกับลิง ท่าทางจะสนุกนะครับ

ว่าแต่ใครใจร้าย ไปเบื่อมันได้ลงคอน้อ?

 

โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) 21 กันยายน 2553 13:39:16 น.  

 

ขอบคุณที่ปอป้าอุตส่าห์ไปควานหาแปะย้งนะคะ

โถๆๆ เล่นเอา สว.หอบแฮ่กๆ 555

ว่าแต่วันนี้ยังมะอัพเหรอ...

(ถามซะยังกะอัพแล้ว มาอย่างว่องงั้นแหละ ช้าประจำ อุอุ)

 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.43.16 21 กันยายน 2553 13:46:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พรหมญาณี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]








Prommayanee Tansukchai




ส่งอีเมล์ถึงป้า
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
18 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรหมญาณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.