อภิณหปัจจเวกขณ์ ๕ เป็นข้อที่สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิตก็ตาม ควรพิจารณาเนือง ๆ อันได้แก่๑. ชราธัมาตา ควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้๒. พยาธิธัมมตา ควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า เรามีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บป่วยไปได้๓. มรณธัมมตา ควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้๔. ปิยวินาภาวตา ควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า เราจักต้องมีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น๕. กัมมสกตา ควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตน เราทำกรรมใดไว้ จักต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น เราทำดีจักได้ดี เราทำชั่วจักได้ชั่ว พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลายถึงฐานะที่ควรพิจารณาเนือง ๆ ๕ ประการนี้ และตรัสถึงประโยชน์ที่บุคคลผู้พิจารณาจะพึงได้รับ ดังนี้ การพิจารณาความแก่ ย่อมละความมัวเมาในความเป็นหนุ่มเป็นสาวการพิจารณาความเจ็บป่วย ย่อมละความมัวเมาในความไม่มีโรคการพิจารณาความตาย ย่อมละความมัวเมาในชีวิตการพิจารณาความพลัดพราก ย่อมละความพึงพอใจ ความรักใคร่การพิจารณาการมีกรรมเป็นของตน ย่อมละทุจริตทางกายวาจาใจ หากเชื่อกฏแห่งกรรม ก็จะไม่กล้าทำทุจริต เพราะเกรงกลัวผลของทุจริตที่จะตามสนองในอนาคต ในการพิจารณาธรรมแต่ละข้อที่กล่าวมานี้ เป็นการละโดยตรง เช่น พิจารณาความแก่เพื่อละความมัวเมานในความเป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นต้น แต่พระองค์ก็ยังทรงแสดงถึงการละโดยอ้อมด้วย เช่น พิจารณาความแก่ นอกจากจะละความมัวเมาในความเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ยังละ หรือบรรเทาการทำทุจริตทางกายวาจาใจลงได้ด้วย เช่น เมื่อพิจารณาถึงความที่ตนเองต้องชราเนือง ๆ ความคิดที่จะทำบาปก็ย่อมไม่เกิดขึ้น ดังนี้ เป็นต้น นอกจากนี้ พระองค์ยังได้รับสั่งถึงกิจของพระอริยสาวก ยกเว้นพระอรหันต์ ที่เห็นถึงความจริงแท้แล้วว่า ไม่ใช่เราผู้เดียวที่ต้องแก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก และมีกรรมเป็นของตนเอง สัตว์ทั้งปวงก็ต้องพบเจอเหมือนกัน เมื่อนั้นอริยสาวกย่อมเสพย่อมกระทำให้มากซึ่งมรรคภาวนา เพื่อละสังโยชน์ ละอนุสัยกิเลสให้สิ้นไป ในท้ายสุดทรงตรัสว่า...
สัตว์ทั้งหลายย่อมมีความแก่เป็นธรรมดา มีความเจ็บไข้...ความตายเป็นธรรมดา สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามธรรมดา พวกปุถุชนย่อมเกลียด (ความแก่เป็นต้น) ถ้าเราพึงเกลียดธรรมนั้น ในเมื่อสัตว์มีอย่างนั้นเป็นธรรมดา ข้อนั้นไม่สมควรแก่เราผู้เป็นอย่างนี้ ผู้ทราบธรรมที่หาอุปธิมิได้ (พระนิพพาน) เห็นการออกบวชเป็นธรรมเกษม ครอบงำความมัวเมาทั้งปวง เช่น ความไม่มีโรค ความเป็นหนุ่มเป็นสาว และความมัวเมาในชีวิต ความอุตสาหะได้มีแล้วแก่เราผู้เห็นเฉพาะซึ่งนิพพาน บัดนี้เราไม่ควรเพื่อเสพกามทั้งหลาย จักเป็นผู้ประพฤติไม่ถอยหลัง มุ่งหน้าประพฤติพรหมจรรย์
ขอบคุณ ข้อมูลจากหลักธรรมในพระไตรปิฎก ภาพประกอบเรื่อง จากคุณหนูหล่อ เพลง แสงเทียน
วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงกำหนดรู้ อย่าประมาท
อย่าเป็นผู้มีความร้อนใจในภายหลัง
ข้อนี้เป็นคำสอนของตถาคตทั้งหลาย
ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทตลอดไป...นะคะ