พุทธทำนาย


พุทธทำนาย





หวัดดียามสายๆๆ คับปอป้า...รบกวนปอป้า..

ไม่ทราบมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพุทธทำนาย หรือเป่าคับ?

และเป็นพุทธทำนายจริงๆหรือเป่าคับ...

รบกวนปอป้าเล่าให้ฟังนะคับ..ขอบพระคุณคับ...

โดย: biocellulose 13 ธันวาคม 2555 10:45:18 น.




ความจริงคำถามนี้ได้ตอบเป็นการส่วนตัวไปยังคุณ biocellulose ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ที่ไม่ได้ตอบลงบล็อกเพราะเห็นว่ามีความยาวมาก ถ้าจะลงก็ต้องไม่น้อยกว่า ๓ ตอน ต่อมาภายหลังเห็นว่าถึงจะยาวแค่ไหนถ้าเป็นคนรักการอ่านย่อมไม่มีปัญหาอะไร เพราะถ้าแยกลงเป็นตอน ๆ ก็จะขาดอรรถรสในการอ่านไปเสีย เลยตัดสินใจลงมันตอนเดียวรวดไปเลย ค่อย ๆ อ่านกันไปละกันนะคะ เนื้อเรื่องสนุกสนานน่าอ่านดีค่ะ

เรื่องเกี่ยวกับพุทธทำนายนั้น มีเขียนมีกล่าวกันไว้มากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งประเทศลาวก็มีพุทธทำนายกับเขาเหมือนกัน แต่ทำนายว่าประเทศไทยจะล่มสลาย พระแก้วมรกตจะกลับคืนสู่เมืองลาว ใครมีความเชื่อ มีความฝังใจอย่างไร ก็มักจะกล่าวอ้างว่าเป็นพุทธทำนายแต่ทำนายตามความคิดของตัวเองเสียมากกว่า

พุทธทำนายที่ปรากฏในอรรถกถามีทั้งหมด ๑๖ ข้อ ซึ่งปอป้าจะไม่คัดย่อแต่อย่างใด ขอยกมาจากต้นตำรับเสียเลย อ่านแล้วจะได้มีความเข้าใจมากกว่าที่เขานำมาขัดเกลาใหม่ เพราะบางทีขัดกันไปเกลากันมา ความหมายก็เลยออกจะเพี้ยน ๆ ไปก็มี

เรื่องพุทธทำนายที่ปอป้าเคยอ่านมาและพอจะเชื่อถือได้ (บ้าง) ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่พระพุทธองค์ทรงทำนายฝันให้พระเจ้าปเสนทิโกศล ซึ่งกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้นำมาเผยแพร่ โดยอ้างว่าปรากฏอยู่ในอรรถกถาพระไตรปิฎก มหาสุบินนิมิตชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกาย แต่เมื่อได้เข้าไปอ่านบทความดังกล่าวในพระไตรปิฎก กลับกล่าวไว้แต่เพียงว่า....

มหาสุบินชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกาย ว่าด้วยพระมหาสุบิน ๑๖ ข้อ " หม่อมฉันได้ฝันเห็นโคอุสุภราช ๑ ต้นไม้ ๑ แม่โค ๑ โคสามัญ ๑ ม้า ๑ ถาดทองคา ๑ สุนัขจิ้งจอก ๑ หม้อน้า ๑ สระโบกขรณี ๑ ข้าวสารที่หุงไม่สุก ๑ แก่นจันทน์ ๑ น้าเต้าจมน้า ๑ หินลอยน้า ๑ นางเขียดกลืนกินงูเห่า ๑ หงษ์ทองแวดล้อมกา ๑ เสือกลัวแพะ ๑ ดังนี้ "

ปริยายอันผิดนี้ จักยังไม่มีในยุคนี้.......จบ มหาสุบินชาดกที่ ๗

หมายความว่า พระสุบินทั้ง ๑๖ ข้อนั้น จะยังไม่เกิดในยุคของพระเจ้าปเสนทิโกศล กล่าวคือพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสุบินถึงเหตุการณ์ล่วงหน้านั่นเอง

แต่อรรถกถามหาสุบินชาดกที่ ๗ เริ่มต้นว่า พระบรมศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภมหาสุบิน ๑๖ ข้อ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า ลาวูนิ สีทนฺติ ดังนี้ (อรรถกถา หมายถึง คัมภีร์ที่อธิบายความพระบาลี, คัมภีร์ที่ไขความพระไตรปิฎก)

ดังได้สดับมา วันหนึ่งพระเจ้าโกศลมหาราช เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ ในราตรีกาล ในปัจฉิมยาม ทอดพระเนตรพระสุบินนิมิตรอันใหญ่หลวง ๑๖ ประการ ทรงตระหนกพระทัย ตื่นพระบรรทม ทรงพระดำริว่า เพราะเราเห็นสุบินนิมิตรเหล่านี้ จักมีอะไรแก่เราบ้างหนอ เป็นผู้อันความสะดุ้งต่อมรณภัยคุกคามแล้ว ทรงประทับเหนือพระแท่นที่ไสยาสน์นั่นแล จนล่วงราตรีกาล

ครั้นรุ่งเช้า พวกพราหมณ์ปุโรหิตเข้าเฝ้ากราบทูลถามว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระองค์บรรทมเป็นสุขหรือพระเจ้าข้า รับสั่งตอบว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย เราจักมีความสุขได้อย่างไร เมื่อคืนนี้เวลาใกล้รุ่ง เราเห็นสุบินนิมิตร ๑๖ ข้อ ตั้งแต่เห็นสุบินนิมิตรเหล่านั้นแล้ว เราถึงความหวาดกลัวเป็นกำลัง เมื่อพวกปุโรหิตกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า โปรดตรัสเล่าเถิดพระเจ้าข้า พวกข้าพระองค์สดับแล้ว จักทำนายถวายได้ จึงตรัสเล่าพระสุบินที่ทรงเห็นแล้วให้พวกพราหมณ์ฟัง แล้วตรัสว่า เพราะเหตุเห็นสุบินเหล่านี้ จักมีอะไรแก่เราบ้าง พวกพราหมณ์พากันสลัดมือ เมื่อรับสั่งถามว่า เพราะเหตุไร พวกท่านจึงพากันสลัดมือเล่า พวกพราหมณ์ จึงพากันกราบทูลว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระสุบินทั้งหลายร้ายกาจนัก รับสั่งถามว่า พระสุบินเหล่านั้นจักมีผลเป็นประการใด พวกพราหมณ์จึงพากันกราบทูลว่า จักมีอันตรายใน ๓ อย่างเหล่านี้ คือ อันตราย แก่ราชสมบัติ ๑ อันตราย คือโรคจะเบียดเบียน ๑ อันตรายแก่พระชนม์ ๑ อย่างใดอย่างหนึ่ง รับสั่งถามว่า พอจะเเก้ไขได้ หรือแก้ไขไม่ได้ พราหมณ์ทั้งหลายกราบทูลว่า ขอเดชะ พระสุบินเหล่านี้ หมดทางแก้ไขเป็นแน่แท้ เพราะร้ายแรงยิ่งนัก แต่พวกข้าพระองค์ทั้งหลาย จักกระทำให้พอแก้ไขได้ เมื่อพวกหม่อมฉันไม่สามารถเพื่อจะแก้ไขพระสุบินเหล่านี้ได้แล้ว ขึ้นชื่อว่าความเป็นผู้สำเร็จการศึกษา จักอำนวยประโยชน์อะไร รับสั่งถามว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย จักกระทำอย่างไรเล่า ถึงจักให้คืนคลายได้ พวกพราหมณ์พากันกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า พวกข้าพระองค์ต้องบูชายัญด้วยวัตถุอย่างละ ๔ ทุกอย่างพระเจ้าข้า

พระราชา ทรงสะดุ้งพระทัย ตรัสว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น เราขอมอบชีวิตไว้ในมือของพวกท่านเถิด พวกท่านรีบกระทำความสวัสดีแก่เราเร็ว ๆ เถิดพวกพราหมณ์พากันร่าเริงยินดีว่า พวกเราต้องได้ทรัพย์มาก จักต้องได้ของเคี้ยวกินมามาก ๆ แล้วพากันกราบทูลปลอบพระราชาว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า อย่าได้ทรงวิตกเลยพระเจ้าข้า แล้วพากันออกจากราชนิเวศน์ จักทำหลุมบูชายัญที่นอกพระนคร จับฝูงสัตว์ ๔ เท้ามากเหล่า มัดเข้าไว้ที่หลักยัญ รวบรวมฝูงนกเข้าไว้เสร็จแล้ว เที่ยวกันขวักไขว่ไปมา กล่าวว่า เราควรจะได้สิ่งนี้ ๆ



ครั้งนั้นแล พระนางมัลลิกาเทวีทรงทราบเหตุนั้น ก็เข้าเฝ้าพระราชากราบทูลถามว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า พวกพราหมณ์พากันเที่ยวขวักไขว่ไปมา มีเรื่องอะไรหรือเพคะ พระราชาตรัสว่า แน่ะนางผู้เจริญ เธอมัวแต่สุขสบาย จึงไม่รู้ว่าอสรพิษมันสัญจรอยู่ใกล้ ๆ หูของพวกเรา พระนางทูลถามว่า ข้าแต่มหาราช เรื่องนั้นคืออะไรเพคะ พระราชารับสั่งว่า เราฝันร้ายถึงปานนี้ พวกพราหมณ์พากันทำนายว่า อันตรายใน ๓ อย่าง ไม่อย่างใดอย่างหนึ่งก็จักปรากฏ เพื่อบำบัดอันตรายเหล่านั้น ต้องบูชายัญ จึงต้องสัญจรไปมาอยู่บ่อย ๆ

พระนางมัลลิกากราบทูลถามว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า ก็ผู้ที่เป็นยอดพราหมณ์ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก ทูลกระหม่อมได้ทูลถามถึงการแก้ไขพระสุบินแล้วหรือเพคะ ทรงรับสั่งถามว่า นางผู้เจริญ พระผู้เป็นยอดพราหมณ์ในโลกพร้อมทั้งเทวโลกนั้น เป็นใครกันเล่า พระนางกราบทูลว่า ทูลกระหม่อมไม่ทรงรู้จัก มหาพราหมณ์โคดมผู้ตถาคต หมดกิเลสบริสุทธิ์แล้ว เป็นสัพพัญู เป็นบุคคล ผู้เลิศในโลก พร้อมทั้งเทวโลก ดอกหรือเพคะ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น คงทรงทราบเหตุในพระสุบินแน่นอน ขอเชิญทูลกระหม่อม เสด็จพระราชดำเนินไปกราบทูลถามเถิดเพคะพระราชา ทรงรับสั่งว่า ดีละ เทวี แล้วเสด็จไปยังพระวิหาร ถวายบังคมพระบรมศาสดาแล้วประทับนั่งอยู่ พระศาสดาทรงเปล่งพระสุรเสียงอันไพเราะ ตรัสถามว่า มหาบพิตร เหตุไรเล่าบพิตรจึงเสด็จมา ดุจมีราชกิจด่วน พระราชากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อใกล้รุ่ง หม่อมฉันเห็นมหาสุบิน ๑๖ ข้อ สะดุ้งกลัว บอกเล่าแก่พวกพราหมณ์ พวกพราหมณ์ทำนายว่าข้าแต่มหาราชเจ้า พระสุบินร้ายแรงนัก เพื่อระงับสุบินเหล่านั้น ต้องบูชายัญ ด้วยยัญญวัตถุ อย่างละ ๔ ครบทุกอย่าง แล้วพากันเตรียมบูชายัญ ฝูงสัตว์เป็นอันมากถูกมรณภัยคุกคาม ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์เป็นบุคคลผู้เลิศในโลก ทั้งเทวโลก เญยยธรรมที่เข้าไปกำหนดอดีต อนาคต ปัจจุบัน ที่ยังไม่มาถึงซึ่งครรลองในญาณมุขของพระองค์นั้นมิได้มีเลย ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดทำนายผลแห่งสุบินของหม่อมฉันเหล่านั้นเถิด พระเจ้าข้า

พระศาสดาตรัสว่า ขอถวายพระพร เป็นเช่นนั้นทีเดียวมหาบพิตร ในโลกทั้งเทวโลก เว้นตถาคตเสียแล้ว ผู้อื่นที่จะได้ชื่อว่าสามารถรู้เหตุ หรือผลของพระสุบินเหล่านี้ ไม่มีเลย ตถาคตจักทำนายให้มหาบพิตร ก็แต่ว่ามหาบพิตรจงตรัสบอกพระสุบินตามทำนองที่ทรงเห็นนั้นเถิด พระราชาทรงรับพระพุทธดำรัสว่า ดีละ พระพุทธเจ้าข้า เริ่มกราบทูลพระสุบิน ตามทำนองที่ทรงเห็นอย่างถี่ถ้วน โดยทรงวางหัวข้อไว้ดังนี้ ว่า

" โคอุสุภราชทั้งหลาย ต้นไม้ทั้งหลาย ๑ แม่โคทั้งหลาย ๑ โคทั้งหลาย ๑ ม้า ๑ ถาดทอง ๑ สุนัขจิ้งจอก ๑ หม้อน้า ๑ สระโบกขรณี ๑ ข้าวไม่สุก ๑ แก่นจันทน์ ๑ น้าเต้าจม ๑ ศิลาลอย ๑ เขียดขยอกงู ๑ หงส์ทองล้อมกา ๑ เสือกลัวแพะ ๑ "

แล้วตรัสว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันเห็นสุบินข้อ ๑ อย่างนี้ก่อนว่า โคผู้ สีเหมือนดอกอัญชัน ๔ ตัว ต่างคิดว่าจักชนกัน พากันวิ่งมาสู่ท้องพระลานหลวง จากทิศทั้ง ๔ เมื่อมหาชนประชุมกันคิดว่า พวกเราจักดูโคชนกัน ต่างแสดงท่าทางจะชนกัน บรรลือเสียงคำรามลั่น แล้วไม่ชนกัน ต่างถอยออกไป หม่อมฉันเห็นสุบินนี้เป็นปฐม อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลของสุบินข้อนี้ จักไม่มีในชั่วรัชกาลของมหาบพิตร ในชั่วศาสนาของตถาคต แต่ในอนาคต เมื่อโลกหมุนไปถึงจุดเสื่อม ในรัชกาลของพระราชาผู้กำพร้า ผู้มิได้ครองราชย์โดยธรรม และในกาลของหมู่มนุษย์ผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อกุศลธรรมลดน้อยถอยลง อกุศลธรรมหนาแน่นขึ้น ในกาลที่โลกเสื่อม ฝนจักแล้ง และตีนเมฆจักขาด ข้าวกล้าจักแห้ง ทุพภิกขภัยจักเกิด เมฆทั้งหลายตั้งขึ้นจากทิศทั้ง ๔ เหมือนจะย้อยเม็ด พอพวกผู้หญิงรีบเก็บข้าวเปลือกเป็นต้น ที่เอาออกผึ่งแดดไว้เข้าภายในร่ม เพราะกลัวจะเปียก เมื่อพวกผู้ชายต่างถือจอบถือตะกร้าพากันออกไป เพื่อจะก่อคันกั้นน้ำ ก็ตั้งเค้าจะตก ครางกระหึ่ม ฟ้าแลบ แล้วก็ไม่ตกเลย ลอยหายไป เหมือนโคตั้งท่าจะชนกันแล้วไม่ชนกันฉะนั้น นี้เป็นผลของสุบินนั้น แต่ไม่มีอันตรายไร ๆ แก่มหาบพิตร เพราะเรื่องนั้นเป็นปัจจัย มหาบพิตรเห็นสุบินนี้ ปรารภอนาคต ฝ่ายพวกพราหมณ์ อาศัยการเลี้ยงชีวิตของตน จึงทำนายดังนี้ พระบรมศาสดาครั้นตรัสบอกผลแห่งสุบินด้วยประการฉะนี้แล้ว ตรัสว่า จงตรัสเล่าสุบินข้อที่ ๒ เถิด มหาบพิตร



ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นสุบินข้อที่ ๒ อย่างนี้ว่า ต้นไม้เล็ก ๆ และกอไผ่ แทรกแผ่นดินพอถึงคืบหนึ่งบ้าง ดอกหนึ่งบ้าง เพียงแค่นี้ก็ผลิดอกออกผลไปตาม ๆ กัน นี้เป็นสุบินข้อที่ ๒ ที่หม่อมฉันได้เห็น อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแม้ของสุบินข้อนี้ ก็จักมีในกาลที่โลกเสื่อม เวลามนุษย์มีอายุน้อย ด้วยว่าสัตว์ทั้งหลายในอนาคตจักมีราคะกล้า กุมารีมีวัยยังไม่สมบูรณ์ จักสมสู่กะบุรุษอื่น เป็นหญิงมีระดู มีครรภ์ พากันจำเริญด้วยบุตรและธิดา ความที่กุมารีเหล่านั้น มีระดูเปรียบเหมือนต้นไม้เล็ก ๆ มีดอก กุมารีเหล่านั้น จำเริญด้วยบุตรและธิดา ก็เหมือนต้นไม้เล็ก ๆ มีผล ภัยแม้มีนิมิตรนี้เป็นเหตุ ไม่มีแก่มหาบพิตรดอก จงตรัสเล่าข้อที่ ๓ ต่อไปเถิด มหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นแม่โคใหญ่ ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโค ที่เพิ่งเกิดในวันนั้น นี้เป็นสุบินข้อที่ ๓ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินนั้น พระเจ้าข้า

มหาบพิตร แม้ผลของสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคตเหมือนกัน จักมีผลในเวลาที่มนุษย์ทั้งหลาย พากันละทิ้งเชษฐาปจายิกกรรม คือความเป็นผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ เพราะในอนาคตฝูงสัตว์จักมิได้ตั้งไว้ซึ่งความยำเกรงในมารดาบิดา หรือในแม่ยาย พ่อตา ต่างแสวงหาทรัพย์สินด้วยตนเองทั้งนั้น เมื่อปรารถนา จะให้ของกินของใช้แก่คนแก่ ๆ ก็ให้ ไม่ปรารถนาจะให้ก็ไม่ให้ คนแก่ ๆ พากันหมดที่พึ่ง หาเลี้ยงตนเองก็ไม่ได้ ต้องง้อพวกเด็ก ๆ เลี้ยงชีพ เป็นเหมือนแม่โคใหญ่ ๆ พากันดื่มนมลูกโคที่เกิดในวันนั้น แม้ภัยมีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ไม่มีแก่มหาบพิตร ตรัสเล่าสุบินข้อที่ ๔ ต่อไปเถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันเห็นฝูงชนไม่เทียมโคใหญ่ ๆ ที่เคยพาแอกไป ซึ่งสมบูรณ์ด้วยร่างกายและเรี่ยวแรง เข้าในระเบียบแห่งแอก กลับไปเทียมโครุ่น ๆ ที่กำลังฝึกเข้าในแอก โครุ่น ๆ เหล่านั้นไม่อาจพาแอกไปได้ ก็พากันสลัดแอก ยืนเฉยเสีย เกวียนทั้งหลายก็ไปไม่ได้ นี้เป็นสุบินข้อที่ ๔ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลของสุบินนี้พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลของสุบินแม้ข้อนี้ ก็จักมีในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในภายหน้า พระราชาผู้มีบุญน้อย มิได้ดำรงในธรรม จักไม่พระราชทานยศแก่มหาอำมาตย์ผู้เป็นบัณฑิต ฉลาดในประเพณี สามารถที่จะยังสรรพกิจให้ลุล่วงไปได้ จักไม่ทรงแต่งตั้งอำมาตย์ผู้ใหญ่ ผู้เป็นบัณฑิต ฉลาดในโวหารไว้ในที่วินิจฉัยคดีในโรงศาล แต่พระราชทานยศแก่คนหนุ่ม ๆ ตรงกันข้ามกับที่กล่าวแล้วนั้น แต่งตั้งบุคคลเช่นนั้นไวในตำแหน่งผู้วินิจฉัยอรรถคดี คนหนุ่มพวกนั้น ไม่รู้ทั่วถึงราชกิจ และการอันควรไม่ควร ไม่อาจดำรงยศนั้นไว้ได้ ทั้งไม่อาจจัดทำราชกิจให้ลุล่วงไปได้ เมื่อไม่อาจ ก็จักพากันทอดทิ้งธุระการงานเสีย ฝ่ายอำมาตย์ที่เป็นบัณฑิต เป็นผู้ใหญ่ เมื่อไม่ได้ยศ ถึงจะสามารถที่จะให้กิจทั้งหลายลุล่วงไป ก็จักพากันกล่าวว่า พวกเราต้องการอะไรด้วยเรื่องเหล่านี้ พวกเรากลายเป็นคนภายนอกไปแล้ว พวกเด็กหนุ่มเขาเป็นพวกอยู่วงใน เขาคงรู้ดี แล้วไม่รักษาการงานที่เกิดขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเสื่อมเท่านั้นจักมีแก่พระราชาเหล่านั้น ด้วยประการทั้งปวง เป็นเสมือนเวลาที่คนจับโครุ่น ๆ กำลังฝึก ยังไม่สามารถจะพาแอกไปได้ เทียมไว้ในแอก และเป็นเวลาที่ไม่จับเอาโคใหญ่ ๆ ผู้เคยพาแอกไปได้ มาเทียมแอกฉะนั้น แม้ภัยมีสุบินนี้เป็นเหตุก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๕ เถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นม้าตัวหนึ่ง มีปากสองข้าง ฝูงชนพากันให้หญ้าที่ปากทั้งสองข้างของมัน มันเคี้ยวกินด้วยปากทั้งสองข้าง นี้เป็นสุบินที่ ๕ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลของสุบินแม้นี้ ก็จักมีในรัชกาลของพระราชาผู้ไม่ดำรงในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในกาลภายหน้า พวกพระราชาโง่เขลา ไม่ดำรงธรรม จักทรงแต่งตั้งมนุษย์โลเล ไม่ประกอบด้วยธรรม ไว้ในตำแหน่งวินิจฉัยคดี คนเหล่านั้นเป็นพาล ไม่เอื้อเฟื้อในบาปบุญ พากันนั่งในโรงศาล เมื่อให้คำตัดสิน ก็จักรับสินบนจากมือของคู่คดีทั้งสองฝ่ายมากิน เป็นเหมือนม้ากินหญ้าด้วยปากทั้งสองฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตรดอก เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๖ เถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันเห็นมหาชนขัดถูถาดทองราคาตั้งแสนกษาปณ์ แล้วพากันนำไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง ด้วยคำว่า เชิญท่านเยี่ยวใส่ในถาดทองนี้เถิด หมาจิ้งจอกแก่นั้นก็ถ่ายปัสสาวะใส่ในถาดทองนั้น นี้เป็นสุบินข้อที่ ๖ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินข้อนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลของสุบินนี้ก็จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่า ในกาลภายหน้า พวกพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ทรงรังเกียจกุลบุตรผู้สมบูรณ์ด้วยชาติเสีย แล้วไม่พระราชทานยศให้ จักพระราชทานให้แก่คนที่ไม่มีสกุลเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สกุลใหญ่ ๆ จักพากันตกยาก สกุลเลว ๆ จักพากันเป็นใหญ่ ก็เมื่อพวกมีสกุลเหล่านั้น ไม่อาจเลี้ยงชีวิตอยู่ได้ จักคิดว่า เราต้องอาศัยพวกเหล่านี้เลี้ยงชีวิตสืบไป แล้วก็พากันยกธิดาให้แก่ผู้ไม่มีสกุล การอยู่ร่วมกับคนพวกไม่มีสกุลของกุลธิดาเหล่านั้น ก็จักเป็นเช่นเดียวกับถาดทองรองเยี่ยวหมาจิ้งจอก ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๗ เถิดมหาบพิตร



ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นอย่างนี้ บุรุษผู้หนึ่งฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปที่ใกล้เท้า แม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั่ง กัดกินเชือกนั้น เขาไม่ได้รู้เลยทีเดียว นี้เป็นสุบินข้อที่ ๗ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินข้อนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแม้ของสุบินข้อนี้ ก็จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในกาลภายหน้า หมู่สตรี จักพากันเหลาะแหละโลเลในบุรุษ ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว ชอบเที่ยวเตร่ตามถนนหนทาง เห็นแก่อามิส เป็นหญิงทุศีล มีความประพฤติชั่วช้า พวกนางจักกลุ้มรุมกันแย่งเอาทรัพย์ที่สามีทำงาน มีกสิกรรมและโครักขกรรมเป็นต้น สั่งสมไว้ด้วยยาก ลำบากลำเค็ญ เอาไปซื้อสุราดื่มกับชายชู้ ซื้อดอกไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้มาแต่งตน คอยสอดส่องมองหาชู้ โดยส่วนบนของบ้านที่มิดชิดบ้าง โดยที่ซึ่งลับตาบ้าง แม้ข้าวเปลือกที่เตรียมไว้สำหรับหว่านในวันรุ่งขึ้น ก็เอาไปซ้อม จัดทำเป็นข้าวต้ม ข้าวสวย และของเคี้ยวเป็นต้น มากินกัน เป็นเหมือนนางหมาจิ้งจอกโซ ที่นอนใต้ตั่งคอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่นแล้ว หย่อนลงไว้ใกล้ ๆ เท้าฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินข้อที่ ๘ เถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมลูกใหญ่ใบหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ประตูวัง ล้อมด้วยตุ่มเป็นอันมาก วรรณะทั้ง ๔ เอาหม้อตักน้ำมาจากทิศทั้ง ๔ และทิศน้อยทั้งหลาย เอามาใส่ลงตุ่มที่เต็มแล้วนั่นแหละ น้ำก็เต็มแล้วเต็มอีก จนไหลล้นไป แม้คนเหล่านั้นก็ยังเทน้ำลงในตุ่มนั้นอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่มีผู้ที่จะเหลียวแลดูตุ่มที่ว่าง ๆ เลย นี้เป็นสุบินข้อที่ ๘ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในกาลภายหน้า โลกจักเสื่อม แว่นแคว้นจักหมดความหมาย พระราชาทั้งหลายจักตกยาก เป็นกำพร้า องค์ใดเป็นใหญ่ องค์นั้นจักมีพระราชทรัพย์เพียงแสนกระษาปณ์ในท้องพระคลัง พระราชาเหล่านั้นตกยากถึงอย่างนี้ จักเกณฑ์ให้ชาวชนบททุกคน ทำการเพาะปลูกให้แก่ตน พวกมนุษย์ถูกเบียดเบียน ต้องละทิ้งการงานของตน พากันเพาะปลูก ปุพพันพืช (อาหารมีข้าวสาลีเป็นต้น) แล อปรันพืช (ของว่างหลังอาหาร มีถั่ว งา เป็นต้น) ให้แก่พระราชาทั้งหลายเท่านั้น ต้องช่วยกันเฝ้า ช่วยกันเก็บเกี่ยว ช่วยกันนวด ช่วยกันขน ช่วยกันเคี่ยวน้ำอ้อย เป็นต้น และช่วยกันทำสวนดอกไม้ สวนผลไม้ พากันขนปุพพันพืชเป็นต้นที่เสร็จแล้ว ในที่นั้น ๆ มาบรรจุไว้ในยุ้งฉางของพระราชาเท่านั้น แม้ที่จะมองดูยุ้งฉางเปล่า ๆ ในเรือนทั้งหลายของตนจักไม่มีเลย จักเป็นเช่นกับการเติมน้ำใส่ตุ่มที่เต็มแล้ว ไม่เหลียวแลตุ่มเปล่า ๆ บ้างเลยนั่นแล ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ จะยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๙ เถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นโบกขรณีสระหนึ่ง ดารดาดไปด้วยปทุม ๕ สี ลึก มีท่าขึ้นลงรอบด้าน ฝูงสัตว์ สองเท้า สี่เท้า พากันลงดื่มน้ำในสระนั้นโดยรอบ น้ำที่อยู่ในที่ลึกกลางสระนั้นขุ่นมัว ในที่ซึ่งสัตว์สองเท้าสี่เท้าพากันย่ำเหยียบ กลับใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว หม่อมฉันได้เห็นอย่างนี้ นี้เป็นสุบินข้อที่ ๙ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในกาลภายหน้า พระราชาทั้งหลาย จักไม่ตั้งอยู่ในธรรม ลุอคติ ด้วยอำนาจความพอใจเป็นต้น เสวยราชสมบัติ จักไม่ประทานการวินิจฉัยอรรถคดีโดยธรรม มีพระหฤทัยมุ่งแต่สินบน โลเลในทรัพย์ ขึ้นชื่อว่าคุณธรรมคือความอดทน ความเมตตา และความเอ็นดูของพระราชาเหล่านั้น จักไม่มีในหมู่ชาวสวนแว่นแคว้น จักเป็นผู้กักขฬะ หยาบคาย คอยแต่เบียดเบียนหมู่มนุษย์ เหมือนหีบอ้อยด้วยหีบยนต์ จักกำหนดให้ส่วยต่าง บังเกิดขึ้น เก็บเอาทรัพย์ พวกมนุษย์ถูกรีดส่วยอากรหนักเข้า ไม่สามารถจะให้อะไร ๆ ได้ พากันทิ้งคามนิคมเป็นต้นเสีย อพยพไปสู่ปลายแดน ตั้งหลักฐาน ณ ที่นั้น ชนบทศูนย์กลางจักว่างเปล่า ชนบทชายแดนจักเป็นปึกแผ่นแน่นหนา เหมือนน้ำกลางสระโบกขรณี น้ำที่ฝั่งรอบ ๆ ใส ฉันใด ก็ฉันนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าพระสุบินข้อที่ ๑๐ เถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้เห็นข้าวสุก ที่คนหุงในหม้อใบเดียวกันแท้ ๆ แต่หาสุกทั่วกันไม่ เป็นเหมือนผู้หุงตรวจดูแล้วว่าไม่สุก เลยแยกกันไว้เป็น ๓ อย่าง คือ ข้าวหนึ่งแฉะ ข้าวหนึ่งดิบ ข้าวหนึ่งสุกดี นี้เป็นสุบินที่ ๑๐ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินข้อนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแม้ของสุบินข้อนี้ จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในกาลภายหน้า พระราชาทั้งหลายจักไม่ดำรงในธรรม เมื่อพระราชาเหล่านั้นไม่ดำรงในธรรมแล้ว ข้าราชการก็ดี พราหมณ์และคฤหบดีก็ดี ชาวนิคม ชาวชนบทก็ดี รวมถึงมนุษย์ทั้งหมด นับแต่สมณะและพราหมณ์ จักพากันไม่ตั้งอยู่ในธรรม แม้เทวดาทั้งหลายก็จักไม่ทรงธรรม ในรัชกาลแห่งอธัมมิกราชทั้งหลาย ลมทั้งหลายจักพัดไม่สม่ำเสมอ พัดแรงจัด ทำให้วิมานในอากาศของเทวดาสั่นสะเทือน เมื่อวิมานเหล่านั้น ถูกลมพัดสั่นสะเทือน ฝูงเทวดาก็พากันโกรธ แล้วจักไม่ให้ฝนตก ถึงจะตก ก็จะไม่ตกกระหน่ำทั่วแว่นแคว้น มิฉะนั้น จักไม่ตกให้เป็นอุปการะแก่การใด การหว่านในที่ทั้งปวงจักไม่ตกกระหน่ำทั่วถึง แม้ในชนบท แม้ในบ้าน แม้ในตระพังแห่งหนึ่ง แม้ในสระลูกหนึ่ง เหมือนกันกับในแคว้นฉะนั้น เมื่อตกตอนเหนือของตระพัง ก็จักไม่ตกในตอนใต้ เมื่อตกในตอนใต้ จักไม่ตกในตอนเหนือ ข้าวกล้าในตอนหนึ่งจักเสียเพราะฝนชุก เมื่อฝนไม่ตกในส่วนหนึ่ง ข้าวกล้าจักเหี่ยวแห้ง เมื่อฝนตกดีในส่วนหนึ่ง ข้าวกล้าจักสมบูรณ์ ข้าวกล้าที่หว่านแล้วในขอบขัณฑสีมาของพระราชาพระองค์เดียวกัน จักเป็น ๓ สถาน ด้วยประการฉะนี้ เหมือนข้าวสุกในหม้อเดียวมีผลเป็น ๓ อย่างฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ จะยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๑ ต่อไปเถิด มหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นคนทั้งหลายเอาแก่นจันทน์ มีราคาตั้งแสนกษาปณ์ ขายแลกกับเปรียงเน่า นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๑ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้เล่าพระเจ้าข้า

มหาบพิตรแม้ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคต ในเมื่อศาสนาของตถาคตเสื่อมโทรมนั่นแล ด้วยว่าในกาลภายหน้า พวกภิกษุอลัชชีเห็นแก่ปัจจัย จักมีมาก พวกเหล่านั้น จักพากันแสดงธรรมเทศนาที่ตถาคต กล่าวติเตียนความละโมภในปัจจัยไว้แก่ชนเหล่าอื่น เพราะเหตุแห่งปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้น จักไม่สามารถแสดงให้พ้นจากปัจจัยทั้งหลาย แล้วตั้งอยู่ในฝ่ายธรรมนำสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ มุ่งตรงสู่พระนิพพาน ชนทั้งหลายก็จะฟังความสมบูรณ์แห่งบทละพยัญชนะ และสำเนียงอันไพเราะอย่างเดียว เท่านั้น แล้วจักถวายเอง และยังชนเหล่าอื่นให้ถวายซึ่งปัจจัยทั้งหลายมีจีวรเป็นต้น อันมีค่ามาก ภิกษุทั้งหลายอีกบางพวก จักพากันนั่งในที่ต่าง ๆ มีท้องถนน สี่แยก และประตูวัง เป็นต้น แล้วแสดงธรรมแลกรูปิยะ มีเหรียญกษาปณ์ครึ่งกษาปณ์ เหรียญบาท เหรียญมาสก เป็นต้น โดยประการฉะนี้ ก็เป็นเอาธรรมที่ตถาคตแสดงไว้ มีมูลค่าควรแก่พระนิพพาน ไปแสดงแลกปัจจัย ๔ และรูปิยะมีเหรียญกษาปณ์และเหรียญครึ่งกษาปณ์เป็นต้น จักเป็นเหมือนฝูงคนเอาแก่นจันทน์มีราคาตั้งแสน ไปขายแลกเปรียงเน่าฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๒ ต่อไปเถิดมหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นกระโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้ นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๒ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้ พระเจ้าข้า มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคตกาล เมื่อโลกหมุนไปถึงจุดเสื่อม ในรัชกาลของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ด้วยว่าในครั้งนั้นพระราชาทั้งหลาย จักไม่พระราชทานยศแก่กุลบุตรผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ จักพระราชทานแก่ผู้ไม่มีสกุลเท่านั้น พวกนั้นจักเป็นใหญ่ อีกฝุายหนึ่งจักยากจน ถ้อยคำของพวกไม่มีสกุล ดุจกระโหลกน้ำเต้า ดูประหนึ่งหยั่งรากลงแน่นในที่เฉพาะพระพักตร์พระราชาก็ดี ที่ประตูวังก็ดี ที่ประชุมอำมาตย์ก็ดี ที่โรงศาลก็ดี จักเป็นคำไม่โยกโคลง มีหลักฐานแน่นหนาดี แม้ในสังฆสันนิบาต (ที่ประชุมสงฆ์) เล่า ในกิจกรรมที่สงฆ์พึงทำ และคณะพึงทำก็ดี ทั้งในสถานที่ดำเนินอธิกรณ์เกี่ยวกับบาตรจีวร และบริเวณเป็นต้นก็ดี ถ้อยคำของคนชั่วทุศีลเท่านั้น จักเป็นคำนำสัตว์ออกจากทุกข์ได้ มิใช่ถ้อยคำของภิกษุผู้ลัชชี เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จักเป็นเหมือนกาลเป็นที่จมลงแห่งกระโหลกน้ำเต้า แม้ด้วยประการทั้งปวง ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๓ เถิด มหาบพิตร



ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นศิลาแท่งทึบใหญ่ ขนาดเรือนยอดลอยน้ำเหมือนดังเรือ นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๓ อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินแม้นี้ ก็จักมีในกาลเช่นนั้นเหมือนกัน ด้วยว่าในครั้งนั้น พระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมทั้งหลาย จักพระราชทานยศแก่คนไม่มีสกุล พวกนั้นจักเป็นใหญ่ พวกมีสกุลจักตกยาก ใคร ๆ จักไม่ทำความเคารพในพวกมีสกุลนั้น จักกระทำความเคารพในพวกที่เป็นใหญ่ฝุายเดียว ถ้อยคำของกุลบุตรฉลาดในการวินิจฉัย ผู้หนักแน่น เช่นกับศิลาทึบ จักไม่หยั่งลง ดำรงมั่นในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระราชา หรือในที่ประชุมอำมาตย์ หรือในโรงศาล เมื่อพวกนั้นกำลังกล่าว พวกนอกนี้จักคอยเยาะเย้ยว่า พวกนี้พูดทำไม แม้ในที่ประชุมภิกษุ พวกภิกษุก็จักไม่เหล่าภิกษุมีศีลเป็นที่รัก ผู้ควรทำความเคารพว่าเป็นสำคัญ ในฐานะต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว ทั้งถ้อยคำของภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักเหล่านั้น ก็จักไม่หนักแน่นมั่นคง จักเป็นเหมือนเวลาเป็นที่เลื่อนลอยแห่งศิลาทั้งหลายฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าพระสุบินข้อที่ ๑๔ เถิด มหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นฝูงเขียดตัวเล็ก ๆ ขนาดดอกมะซาง วิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ ๆ กัดเนื้อขาดเหมือน ตัดก้านบัวแล้วกลืนกิน นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๔ อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแห่งแม้สุบินข้อนี้ ก็จักมีในอนาคต ในเมื่อโลกเสื่อมโทรมดุจกัน ด้วยว่าในครั้งนั้น พวกมนุษย์จะมีราคะจริตแรงกล้า ชาติชั่ว ปล่อยตัวปล่อยใจ ตามอำนาจของกิเลส จักต้องเป็นไปในอำนาจแห่งภรรยาเด็ก ๆ ของตน ผู้คนมีทาส และกรรมกรเป็นต้นก็ดี สัตว์พาหนะมีโคกระบือเป็นต้นก็ดี เงินทองก็ดี บรรดามีในเรือนทุกอย่าง จักต้องอยู่ในครอบครองของพวกนางทั้งนั้น เมื่อพวกสามีถามถึงเงินทอง โน้น ๆ ว่าอยู่ที่ไหน หรือถามถึงจำนวนสิ่งของว่ามีที่ไหนก็ดี พวกนางจักพากันตอบว่า มันจะอยู่ที่ไหน ๆ ก็ช่างเถิด กงการอะไรที่ท่านจะตรวจตราเล่า ท่านเกิดอยากรู้สิ่งที่มีอยู่ และไม่มีอยู่ในเรือนของเราละหรือ แล้วจักด่าด้วยประการต่าง ๆ ทิ่มตำเอาด้วยหอกคือปาก กดไว้ในอำนาจดังทาสและคนรับใช้ ดำรงความเป็นเจ้า เป็นใหญ่ของตนไวสืบไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จักเป็นเหมือนเวลาที่ฝูงเขียดขนาดดอกมะซาง พากันขยอกกินฝูงงูเห่า ซึ่งมีพิษแล่นเร็วฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็จักไม่มีแก่มหาบพิตรดอก เชิญตรัสบอกนิมิตรที่ ๑๕ เถิด

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นฝูงพญาหงษ์ทองที่ได้นามว่า ทองเพราะมีขนเป็นสีทอง พากันแวดล้อมกา ผู้ประกอบด้วยอสัทธรรม ๑๐ ประการ เที่ยวหากินตามบ้าน นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๕ อะไรเป็นผลแห่งพระสุบินนี้ พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคต ในรัชกาลของพระราชาผู้ทุรพลนั่นแหละ ด้วยว่าในภายหน้าพระราชาทั้งหลาย จักไม่ฉลาดในศิลปะมีหัสดีศิลปะเป็นต้น ไม่แกล้วกล้าในการยุทธ ท้าวเธอจักไม่พระราชทานความเป็นใหญ่ให้แก่พวกกุลบุตรที่มีชาติเสมอกัน ผู้รังเกียจความวิบัติแห่งราชสมบัติของพระองค์อยู่ จักพระราชทานแก่พวกพนักงานเครื่องสรง และพวกกัลบกเป็นต้น ซึ่งอยู่ใกล้บาทมูลของพระองค์ พวกกุลบุตรผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ และโคตร เมื่อไม่ได้ที่พึ่งในราชสกุล ก็ไม่สามารถเลี้ยงชีวิตอยู่ได้ จักพากันปรนนิบัติบำรุงฝูงชนที่ไม่มีสกุล มีชาติและโคตรทราม ผู้ดำรงอิสริยยศ จักเป็นเหมือนฝูงพญาหงษ์ทอง แวดล้อมเป็นบริวารกา ฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๖ ต่อไปเถิด มหาบพิตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในกาลก่อน ๆ เสือเหลือง พากันกัดกินฝูงแกะ แต่หม่อมฉันได้เห็นฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง กัดกินอยู่มุ่มม่ำ ๆ ทีนั้นเสืออื่น ๆ คือเสือดาว เสือโคร่ง เห็นฝูงแกะอยู่ห่าง ๆ ก็สะดุ้งกลัว ถึงความสยดสยองพากันวิ่งหนี หลบเข้าพุ่มไม้และป่ารก ซุกซ่อนเพราะกลัวฝูงแกะ หม่อมฉันได้เห็นอย่างนี้คือสุบินข้อที่ ๑๖ อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้พระเจ้าข้า

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินแม้นี้ ก็จักมีในรัชกาลแห่งพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในครั้งนั้น พวกไม่มีสกุลจักเป็นราชวัลลภ เป็นใหญ่เป็นโต พวกคนมีสกุลจักอับเฉาตกยาก ราชวัลลภเหล่านั้นพากันยังพระราชาให้ทรงเชื่อถือถ้อยคำของตน มีกำลังในสถานที่ราชการ มีโรงศาล เป็นต้น ก็พากันรุกเอาที่ดินไร่นาเรือกสวนเป็นต้น อันตกทอดสืบมาของพวกมีสกุลทั้งหลายว่า ที่เหล่านี้เป็นของพวกเรา เมื่อพวกผู้มีสกุลเหล่านั้นโต้เถียงว่า ไม่ใช่ของพวกท่าน เป็นของพวกเรา แล้วพากันมาฟ้องร้องยังโรงศาลเป็นต้น พวกราชวัลลภก็พากันบอกให้เฆี่ยนตีด้วยหวายเป็นต้น จับคอไสออกไป พร้อมกับข่มขู่คุกคามว่า พ่อเจ้าไม่รู้ประมาณตน มาหาเรื่องกับพวกเรา เดี๋ยวจักไปทูลพระราชา ให้ลงพระราชอาญาต่าง ๆ มีตัดตีน ตัดมือ เป็นต้น พวกผู้มีสกุลกลัวเกรงพวกราชวัลลภ ต่างก็ยินยอมให้ที่ทางที่เป็นของตน ว่า ที่ทางเหล่านี้ถ้าเป็นของท่าน ก็เชิญครอบครองเถิด แล้วพากันกลับบ้านเรือนของตนนอนหวาดผวาไปตาม ๆ กัน แม้ภิกษุผู้ชั่วช้าทั้งหลายเล่า ก็จักพากันเบียดเบียนภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ตามชอบใจ พวกภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักเหล่านั้น ไม่ได้ที่พำนัก ก็พากันเข้าป่าแอบแฝงอยู่ในที่รก ๆ ข้อที่กุลบุตรผู้มีชาติสกุลทั้งหลาย และภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักทั้งหลาย ถูกคนชาติชั่ว และถูกภิกษุผู้ลามกทั้งหลาย เข้าไประทุษร้ายอย่างนี้ จักเป็นเหมือนกาลที่พวกเสือดาว และเสือโคร่งทั้งหลาย พากันหลบหนีเพราะกลัวฝูงแกะฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร

ด้วยสุบินนี้ ที่มหาบพิตรเห็นแล้ว ปรารภอนาคตทั้งนั้น แต่พวกพราหมณ์มิได้ทำนายสุบินนั้นด้วยความจงรักภักดีในพระองค์ โดยถูกต้องเท่าที่ถูกที่ควร ทำนายไปเพราะอาศัยการเลี้ยงชีพ เพราะเห็นแก่อามิสว่า พวกเราจักได้ทรัพย์กันมาก ๆ ครั้นทรงทำนายผลแห่งสุบินใหญ่ ๑๖ ข้อ อย่างนี้แล้ว ตรัสว่า ดูก่อนมหาบพิตร มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่มหาบพิตรได้เห็นสุบินเหล่านี้ แม้พระราชาทั้งหลายแต่ก่อน ๆ ก็ได้ทรงเห็นแล้วเหมือนกัน แม้พวกพราหมณ์ ก็ถือเอาสุบินเหล่านี้ นับเข้าในยอดยัญพิธีอย่างนี้เหมือนกัน ภายหลังอาศัยคำแนะนำที่พวกเป็นบัณฑิตพากันกราบทูล จึงถามพระโพธิสัตว์ แม้ท่านโบราณบัณฑิตทั้งหลาย เมื่อทำนายสุบินเหล่านี้ แก่พระราชาเหล่านั้น ก็พากันทำนายทำนองนี้แหละ อันพระเจ้าปเสนทิโกศลทูลอาราธนา จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์กำเนิดในตระกูลอุทิจจพราหมณ์ เจริญวัยแล้วบวชเป็นฤๅษี ให้อภิญญาสมาบัติเกิดแล้ว ได้ประลองฌานอยู่ในหิมวันตประเทศ ในครั้งนั้น ณ พระนครพาราณสี พระเจ้าพรหมทัตทรงเห็นพระสุบินเหล่านี้ โดยทำนองนี้เหมือนกัน มีพระดำรัสถามพวกพราหมณ์ พวกพราหมณ์ปรารภจะบูชายัญอย่างนี้เหมือนกัน บรรดาพราหมณ์เหล่านั้น ท่านปุโรหิตมีศิษย์เป็นบัณฑิตฉลาด กล่าวกะอาจารย์ว่า ท่านอาจารย์ครับ คัมภีร์พระเวทย์ทั้ง ๓ ท่านอาจารย์ให้ผมเรียนจบแล้ว ในพระเวทย์ทั้ง ๓ คัมภีร์นั้น ข้อที่ว่า การฆ่าคนหนึ่งแล้ว ทำให้เกิดความสวัสดีแก่อีกคนหนึ่ง ไม่มีเลยมิใช่หรือ ขอรับ ท่านอาจารย์ตอบว่า พ่อคุณ ด้วยอุบายนี้ทรัพย์จำนวนมากจักเกิดแก่พวกเรา ส่วนเจ้าชะรอยอยากจะรักษาพระราชทรัพย์กระมัง มาณพกล่าวว่า ท่านอาจารย์ครับ ถ้าเช่นนั้น พวกท่านจงกระทำงานของพวกท่านไปเถิด กระผมจักกระทำอะไรในสำนักของพวกท่านได้ แล้วเดินเรื่อยไปจนถึงพระราชอุทยาน



ในวันนั้นเอง แม้พระบรมโพธิสัตว์ก็รู้เหตุนั้น คิดว่า วันนี้ เมื่อเราไปถึงถิ่นมนุษย์ ความพ้นจากการจองจำจักมีแก่มหาชน ดังนี้แล้วจึงเหาะมาทางอากาศ ลงที่อุทยานนั่งเหนือแผ่นศิลาอันเป็นมงคล ประหนึ่งรูปที่หล่อด้วยทองฉะนั้น มาณพเข้าไปหาพระโพธิสัตว์ ไหว้แล้ว นั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง ได้ทำการต้อนรับพระโพธิสัตว์ แม้พระโพธิสัตว์ ก็ได้ทำการปฏิสันถารอย่างไพเราะกับเขาแล้ว ถามว่า เป็นอย่างไรเล่าหนอพ่อมาณพ พระราชายังจะเสวยราชสมบัติโดยธรรมอยู่หรือ มาณพกราบเรียนว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระราชายังได้พระนามว่า ธรรมิกราชอยู่ดอกครับ ก็แต่ว่า พวกพราหมณ์กำลังชักจูงพระองค์ให้วิ่งไปผิดทาง พระราชาทรงเห็นพระสุบิน ๑๖ ข้อ ตรัสบอกแก่พวกพราหมณ์ พวกพราหมณ์กล่าวว่า พวกเราจักต้องบูชายัญ แล้วเตรียมการทันที

พระคุณเจ้าผู้เจริญขอรับ การที่พระคุณเจ้าทำให้พระราชาทรงเข้าพระทัยว่า ขึ้นชื่อว่าผลแห่งสุบินนี้เป็นอย่างนี้ แล้วช่วยให้มหาชนพ้นจากภัย จะมิควรหรือขอรับ พระโพธิสัตว์กล่าวว่า พ่อมาณพ เราเองก็ไม่รู้จักพระราชา พระราชาเล่าก็มิได้ทรงรู้จักเรา ถ้าพระองค์เสด็จมาถาม ณ ที่นี้ เราพึงบอกแก่พระองค์ได้ มาณพกราบเรียนว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ กระผมจักนำพระองค์เสด็จมา ขอพระคุณเจ้าได้โปรดนั่งรอการมาของกระผมสักครู่หนึ่ง นะขอรับ ขอให้พระโพธิสัตว์ปฏิญญาแล้ว ก็ไปสู่พระราชสำนัก กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า ดาบสผู้เที่ยวไปในอากาศได้องค์หนึ่ง ลงมาในอุทยานของพระองค์ กล่าวว่า จักทำนายผลของพระสุบินที่พระองค์ทรงเห็น กำลังรอพระองค์อยู่ พระราชาทรงสดับคำของมาณพนั้น ก็รีบเสด็จไปพระอุทยาน ด้วยบริวารเป็นอันมากทันที ทรงไหว้พระดาบสแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง มีพระดำรัสถามว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ได้ยินว่า พระคุณเจ้าทราบผลแห่งสุบินที่กระผมเห็นหรือ พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ขอถวายพระพร มหาบพิตร อาตมภาพทราบ พระราชาตรัสว่า ถ้าเช่นนั้นนิมนต์พระคุณเจ้าทำนายเถิด

พระโพธิสัตว์ กล่าวว่า ขอถวายพระพร มหาบพิตร อาตมาภาพจะทำนายถวาย เชิญมหาบพิตรตรัสเล่าพระสุบินตามที่ทรงเห็นให้อาตมาภาพฟ๎งก่อนเถิด พระราชาตรัสว่า ดีละพระคุณเจ้าผู้เจริญ พลางตรัสว่า โคอุสุภราช ๑ ต้นไม้ทั้งหลาย ๑ แม่โค ทั้งหลาย ๑ โคทั้งหลาย ๑ ม้า ถาดทอง ๑ นางสุนัขจิ้งจอก ๑ ตุ่มน้า ๑ โบกขรณี ๑ ข้าวไม่สุก ๑ จันทน์แดง ๑ น้าเต้าจม ๑ ศิลาลอย ๑ เขียดขยอกงู ๑ หงษ์ทองล้อมกา ๑ เสือดาว เสือโคร่ง กลัวแพะจริง ๆ ๑ ดังนี้แล้วตรัสบอกสุบิน ตามนัยที่พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสบอกนั่นเอง แม้พระโพธิสัตว์ ก็ทำนายผลแห่งสุบินเหล่านั้น โดยพิสดารตามทำนองที่พระศาสดาทรงทำนายในบัดนี้แหละ

ในที่สุดถวายพระพรดังนี้ ด้วยตนเองว่า จะเป็นไปต่อเมื่อโลกถึงจุดเสื่อม ยังไม่มีในยุคนี้ อรรถาธิบาย ในคำนั้น มีดังนี้ คือ ดูก่อนมหาบพิตร ผลแห่งพระสุบินเหล่านั้น มีดังนี้ คือ การบูชายัญที่กำลังดำเนินไป เพื่อปัดเป่าพระสุบินเหล่านั้น ย่อมดำเนินไปผิดหลักเกณฑ์ ท่านกล่าวอธิบายว่า ย่อมเป็นไปอย่างผิดตรงกันข้าม ความเสื่อม จากความจริง เพราะเหตุไร เพราะเหตุว่า ผลแห่งสุบินเหล่านี้ จักมีในกาลที่โลกถึงจุดเสื่อม คือในกาลที่ต่างถือเอาข้อที่มิใชเหตุว่าเป็นเหตุ ในกาลที่ทิ้งเหตุเสีย ว่ามิใช่เหตุ ในกาลที่ถือเอาข้อที่ไม่จริง ว่าเป็นจริง ในกาลที่ละทิ้งข้อที่จริงเสียว่าไม่เป็นจริง ในกาลที่พวกอลัชชี มีมากขึ้น และในกาลที่พวกลัชชี ลดน้อยถอยลง ยังไม่มีในยุคนี้ หมายความว่าแต่ผลของพระสุบินเหล่านี้ยังไม่มีในบัดนี้ คือในรัชกาลของมหาบพิตร หรือในศาสนาของตถาคตนี้ ในยุคนี้ คือในชั่วบุรุษปัจจุบันนี้ เพราะเหตุนั้น การบูชายัญที่กำลังดำเนินไป เพื่อปัดเป่าผลแห่งพระสุบินเหล่านี้ จึงเป็นไปโดยคลาดเคลื่อน เลิกการบูชายัญนั้นเสียเถิด ภัยหรือความสะดุ้งอันมีพระสุบินนี้เป็นเหตุ ยังไม่มีแก่มหาบพิตร พระมหาบุรุษทำพระราชาให้เบาพระทัย ปลดปล่อยมหาชนจากการจองจำแล้ว กลับเหาะขึ้นอากาศ ถวายโอวาทแด่พระราชา ชักจูงให้ดำรงมั่นในศีล ๕ แล้วถวายพระพรว่า ตั้งแต่บัดนี้ต่อไป มหาบพิตรอย่าได้ร่วมคิดกับพราหมณ์บูชายัญ ที่มีชื่อว่า ปสุฆาตยัญ (ยัญฆ่าสัตว์) อีกต่อไป

ครั้นแสดงธรรมแล้ว กลับไปที่อยู่ของตนทางอากาศนั่นแล ฝ่ายพระราชาตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทรงทำบุญมีให้ทานเป็นต้น แล้วเสด็จไปตามยถากรรม พระบรมศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสให้พระเจ้าปเสนทิโกศลเลิกบูชายัญ ด้วยพระพุทธดำรัสว่า เพราะพระสุบินเป็นปัจจัย ภัยยังไม่มีแก่มหาบพิตรดอก มหาบพิตรจงสั่งให้เลิกยัญเสียเถิด พระราชทาน ชีวิตทานแก่มหาชน แล้วทรงสืบอนุสนธิประชุมชาดกว่า พระราชาในครั้งนั้นได้มาเป็นพระอานนท์ในครั้งนี้ มาณพได้มาเป็นพระสารีบุตร ส่วนพระดาบส ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล

ก็และครั้นเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว พระสังคีติกาจารย์ทั้งหลาย ยกบททั้ง ๓ มีอสุภาเป็นอาทิขึ้นสู่อรรถกถา กล่าวบททั้ง ๕ มีลาวูนิเป็นอาทิ ยกขึ้นสู่บาลีเอกนิบาต ด้วยประการฉะนี้ จบ อรรถกถามหาสุบินชาดกที่ ๗



อย่างไรก็ดี ก็ยังมีพุทธทำนาย เพิ่มเติมที่มีผู้ถอดความจากศิลาจารึก เชตวันมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย ความว่า พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า "....เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบกับความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนเวียนไปใกล้ความแตกทำลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น (ปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัย และคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น...ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรง พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง เมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ (น่าจะหมายถึงพระศรีอาริยเมตตไตรย์)....จะเสด็จมาเสริมสร้างพระศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไปอีก ๕,๐๐๐ พระวรรษา…คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาในอำนาจและลาภยศ ตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล "

นี่คือพุทธทำนายที่ทรงตรัสไว้ กว่า ๒,๕๐๐ ปีล่วงมาแล้ว ส่วนใครจะเชื่อ จะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร ก็คงเป็นไปตามกรรม ของแต่ละคนดังพระพุทธองค์ว่าไว้ ระยะนี้ กระแสโลกแตก กำลังมาแรง พุทธทำนายก็เลยถูกรื้อค้นนำมากล่าวอ้างกันให้วุ่นวายไปหมด ไม่เพียงแต่พุทธทำนายเท่านั้น ยังมีเกจิทำนายอีกมากมาย รวมทั้งบรรดานักโหราศาสตร์ทั้งหลายด้วย พระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อด้วยเหตุด้วยผล มิใช่ว่าตามเขามา คนเราเกิดมาแต่กรรม อยู่ด้วยกรรม เป็นไปก็เพราะกรรม ให้ระลึกไว้เสมอว่าเกิดมาเพื่อตาย หายใจเข้า-ตาย หายใจออก-ตาย คิดได้เช่นนี้แล้วจะกลัวโลกแตกไปใย...







เพลง รักต้องห้าม








Create Date : 18 กันยายน 2556
Last Update : 18 กันยายน 2556 8:15:04 น. 77 comments
Counter : 3234 Pageviews.

 
อุฏฺฐฺานวโต สติมโต สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมการิโน
สญฺญฺตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ

ยศย่อมเจริญแก่ผู้มีความหมั่น มีสติ มีการงานสะอาด
ใคร่ครวญแล้วทำ ระวังดีแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท

ครองสติในการดำเนินชีวิตมิให้เผลอ ตลอดไป...นะคะ






โดย: พรหมญาณี วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:8:15:57 น.  

 
เนื้อหายาวมากจริงๆครับพี่ปอปอ้า
แต่อ่านมาจนถึงบทสรุป
ก็เกิดคำว่า

"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"

ขึ้นมาในใจครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:9:29:16 น.  

 


ยาวมากๆ จริงๆ คะปอป้า
วันนี้ยังอ่านไม่หมด
แต่พอได้อ่านย่อๆ มาบ้าง
แล้วจะมาติดตามอีกนะค่ะ


โดย: Pikake วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:9:34:36 น.  

 
ขอบคุณพี่ปอป้าและครอบครัวด้วยนะครับที่ร่วมทำบุญกับโครงการฯ
อนุโมทนาบุญครับพี่

ปล. ส่วนของชื่อพี่ปอป้ากับลูกสาว
ให้ผมแจ้งในบล้อกว่าอย่างไรดีครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:9:38:33 น.  

 
นี่อาจถึงกาลสมัยที่คำพุทธทำนาย ที่มีต่อ พระสุบินของพระเจ้าปเสนทิโกศล จะเป็นจริงแล้วกระมังคะคุณป้า...

ขออนุญาตนำไปแชร์ที่เพจเรานะคะ
ขอบพระคุณค่ะ
คุณป้าดุแลสุขภาพด้วยค่ะ _/\\_


โดย: ณ ปลายฉัตร IP: 171.97.41.108 วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:9:40:02 น.  

 
สวัสดียามสายครับน้องพรหมญาณี





โดย: ก้อนเงิน วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:9:40:55 น.  

 

อ่านครับ มาตามอ่านไปเรื่อยๆ เก็บความรู้
ไปฝึกคิดตาม

มะนาวความ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ มะนาวสี
ผลใหญ่น้ำเยอะแต่ผิวหนา ต้องผึ่งไว้จน
เปลือกนิ่ม ตั้งแต่มะนนาวแพง เราใช้บริการ
เจ้านี่มาตลอด และเรียกเค้าว่ามะนาวควาย
เพราะเปลือกหนาประมาณหนังควาย

คุณปอป้าไม่โง่หรอกครับ เพราะใฝ่รู้ใฝ่อ่าน
ขนาดข้อเขียนเล็กๆของผมยังอ่านละเอียด
แล้วตามมาเก็บความรู้เรื่องมะนาวควาย แม้
มันจะแต่เรื่องสัพเพเหระ แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่า
ใส่บ่าแบกหามนี่นะครับ

ไลค์และโหวตครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:9:41:21 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอป้า

คุณปอป้าเป็นยังไงบ้างคะ
เห็นรูปในเฟช ผอมไปเยอะเลย
ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกวันนะคะ

อ่านพุทธทำนาย ยาวมาก
ขอสารภาพว่า อยากรู้ตอนจบ
ไล่อ่านบทสรุปตอนท้าย

...ไม่แปลกใจค่ะ และเชื่อพุทธทำนาย
จินเคยฟังซีดีธรรมะที่ รศ.ดร.สุทัสสา อ่อนค้อม
ที่เล่าธรรมนิยายของหลวงพ่อจรัญ
มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่พูดถึงพุทธทำนาย
และมีช่วงสุดท้าย เป็นการเล่าสิ่งที่ได้รู้ได้เห็น
ของหลวงพ่อ กับ พระเถระเจ้า

มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่จินขนลุกและเศร้าใจมาก
ที่ว่า พุทธศาสนาในประเทศไทยจะค่อย ๆ เสื่อม
โดยจากคนไม่ดี แล้วพุทธศานาจะไปเจริญในโลกตะวันตก
(พระอาทิตย์จะขึ้นทิศตะวันตก)
จะมีคนไม่หวังดี เปลี่ยนแปลงพระไตรปิฎก
จะทำให้คนที่หลงผิด เข้าใจว่า พุทธศาสนาเกิดขึ้นที่ประเทศไทย
ไม่ใช่พุทธภูมิที่อินเดีย ....
และก็มีอะไรอีกหลายอย่าง

กับหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย
จินค่อนข้างมั่นใจในพุทธทำนายมาก
พยายามที่จะปลง ไม่หลงและหลุดเข้าไปในวังวน
ที่ผิดแผกไปจากคำสอนของพระพุทธศาสนา
เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและก็ยากนะคะ

แม้จะรู้ว่าซักวัน มีอยู่ แล้วก็ต้องดับไป
ยังรู้สึกสะท้อนใจ ยากแก่การยอมรับอะไรที่ไม่ดี
ที่จะเกิดกับพุทธศาสนาในเมืองไทยค่ะ

อีกอย่าง เรายังอยู่ในพุทธศาสนาที่มีพระสมนะโคดม
แต่คนกลับไม่นำคำสอนของท่านมายึดเหนี่ยวจิตใจ
กลับไปยึดเอาพระศรีอานฯ ที่ยังไม่มาเกิด
เราก็ไม่รู้ว่า จะเกิดมาได้เจอพุทธศาสนาอีกมั้ย
จะได้เกิดมาในยุคของท่านรึเปล่า
กว่าพระองค์ท่านจะมาเกิด อีกตั้งหลายปี

ทำไมคนเราไม่นับถือ
พระศาสดาที่เป็นองค์ปัจจุบันให้มาก
ยึดคำสั่งสอนพระองค์ท่านให้มาก ๆ เนอะ

วันนี้มาแบบไม่ล็อกอิน
ไว้มาทักทายคุณปอป้าใหม่นะคะ^^


โดย: JinnyTent IP: 118.172.148.84 วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:10:07:44 น.  

 



อืมม...

ปอป้า ขา... ป๋องจะมา แซว เรื่อง Dance กระจาย...

พอเข้ามาปุ๊บ...

ต้องหยุด... อ่าน...


...


คงถึงเวลา ที่ "พุทธทำนาย" จะเป็นจริงแล้ว มั้งคะ???

Wait (not for a long time) & See...




Love You So Much My Dear Love...



บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น







โดย: foreverlovemom วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:10:13:06 น.  

 
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog

อ่านได้ 10 ข้อแล้วค่ะ ขนลุกด้วย
เดี๋ยวไปทำธุระเสร็จแล้วจะมาอ่านต่อค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:11:22:25 น.  

 
สวัสดีครับแวะมาเยี่ยมมาเยียนครับ ขอบคุณมากนะครับคุณป้าปอที่แวะไปให้คะแนนกัน..ขอบคุณมากครับผม


โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:11:41:42 น.  

 




อ่ะ...









โดย: foreverlovemom วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:11:45:23 น.  

 
ได้ครับพี่ปอป้า
ขอบคุณแทนเด็กๆทุกคนด้วยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:12:22:57 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:12:30:59 น.  

 
ยาวจริงแต่ต้องอ่านหลายครั้งค่ะเก็บไว้อ่านวันละนิด


โดย: maistyle วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:12:40:45 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ปอป้า กิ่งมาอ่านแล้วค่ะ ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 กิ่งอยากจะเปรียบเทียบโลกปัจจุบันจริงๆว่่าเป็นดังพุทธองค์แล้วค่ะ

โหวตและไลท์ให้พี่ปอป้าค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pantawan Health Blog ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



มีความสุขยามบ่ายนะคะ กิ่งเอาดอกบัวที่บ้านมาฝากค่ะ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:14:32:53 น.  

 
คุณป้า.....

ดีใจจังค่ะที่คุณป้าดีวันดีคืน
นางเชื่ออยู่อย่างนะคะ...คนที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้
ย่อมเป็นคนที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ก่อนเสมอ
เรื่องที่คุณป้าเล่า...ยิ่งทำให้เนื่องเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ

ช่วงนี้นางไม่ค่อยได้แวะไปคุยด้วยบ่อยๆ
ข้อแก้ตัวเหมือนเดิมค่ะ...ยุ่งมว๊ากกก ....อิอิ

รักและคิดถึงคุณป้าเสมอ


โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:16:09:59 น.  

 
สวัสดีครับคุณปอป้า

อ.เต๊ะมาอ่านได้5 ข้อแล้วครับ เกิน7 บรรทัดด้วย555
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นแยะเลยครับ
วันนี้โหวตกันก่อนนะครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการใช้ชีวิตด้วยนะครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog



โดย: multiple วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:17:23:12 น.  

 
~ มาอ่านค่ะปอป้า สนุกดีจังค่ะ ~


โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:20:24:27 น.  

 
อนุโมทนาบุญค่าปอป้าขา

หนูก็คิดเหมือนปอป้าเลย พริตตี้เมืองนี้ไม่ต้องโป๊ก็ขายรถได้เนาะ

รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: schnuggy วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:20:26:08 น.  

 
เนื้อหายาวมากเลยค่ะ มาแอบขอแปะโป้งไว้ก่อนนะคะ
ขอบคุณกำลังใจที่คุณปอป้ามีให้มาเสมอค่ะ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:22:33:44 น.  

 
ต้องยอมรับจริงๆ ครับว่าพุทธทำนายในไทยมีเยอะ แต่หลายๆ อันก็หาที่มาไม่ได้ ทำให้น่าคิดเหมือนกันว่ามันเป็นพุทธทำนายของจริงหรือไม่ ผมมองว่าอ่านไว้เพื่อทราบ จะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทจะดีที่สุดครับ

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:23:54:28 น.  

 



ปอป้า...

ไว้เราไป... เอ่อ... ประกวด... เอ่อ... กัน ค่ะ...

(เอาน่า ความสวย อาจจะ ยากสักหน่อย ... แต่ความน่ารัก เรา กิน ขาด...)









ถ้า มี เวลา ก็ เชิญ ชม ฉบับ เต็ม นะคะ...












โดย: foreverlovemom วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:1:43:06 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:6:22:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอป้า..

แวะมาอ่านพุทธทำนายด้วยค่ะ

เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อนะค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ฝนกำลังจะถล่มทลายทุกพื้นที่



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:6:47:44 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
มัชชาร Fanclub Blog ดู Blog
ตาลเหลือง Diarist ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณป้า





โดย: ญามี่ วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:8:34:43 น.  

 
โหวตค่ะ

อ่านแล้วก็สะท้อนใจ

หลายอย่างก็เป็นไปแล้วนะคะคุณปอป้า

ขอเอาไปแชร์หน้าแฟนเพจนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:9:47:01 น.  

 




โดย: ขึ้น15ค่ำ วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:9:55:27 น.  

 


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:10:21:24 น.  

 



กลางวัน... ทำงาน...

กลางคืน... ถ้าตื่น (โอกาส 90% เพราะ แก่...)

จะไปเยี่ยม ทุกท่าน ทุกบ้าน...


(เปล่าหรอก กลางวัน พิมพ์งาน ก็ดัง รบกวนชาวบ้านอยู่แล้ว...

ขืน พิมพ์ กลางคืนอีก...

คงจะโดน ล้อมบ้าน...

... เผา ... )





โดย: foreverlovemom วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:10:40:08 น.  

 
ยาวมากค่ะ (แต่ก็อ่านจนจบ)

บางส่วนก็เกิดขึ้นตามพุทธทำนายบ้างแล้ว
เห็นชัดๆก็เรื่องไม้อ่อนผลิดอกออกผล กับเรื่องอลัชชี
เป็นข่าวกันมาต่อเนื่องเลยนะคะ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:11:16:10 น.  

 
หวัดดี ยามค่ำคืนคับ ปอป้า
มารายงานตัวคับ...
ขอบพระคุณที่ให้ข้อคิดดี เสมอมาคับ...
สำหรับพุทธทำนาย...เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านอย่างจดจ่ออีกครั้งนะคับ...


โดย: biocellulose วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:0:08:49 น.  

 
โหวตให้ครับ
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
อายุศาสนาพุทธ 5000 ปี สมัยพระราชาไม่ทรงธรรม
ทุกครั้งก่อนใส่บาตร
ข้าวของข้าพเจ้า ขาวดังดอกบัว ยกขึ้นเหนือหัว ถวายแด่พระสงฆ์ ขอให้ได้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้ทันศาสนาพระศรีอาริย์ ในอนาคตกาล เบื้องหน้าโน้นเ ทอญ

ฝันดีครับ คุณแม่
ช่วงนี้เน็ตที่บ้านไม่ค่อยดีครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:0:57:11 น.  

 



คนแรก...









โดย: foreverlovemom วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:9:24:46 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
NENE77 Literature Blog ดู Blog
หนูซายูริ Parenting Blog ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:14:47:17 น.  

 
เราชอบคุยกันอยู่เรื่อย ถ้าโลกแตกจะทำยังไง...

น่าทึ่งกับคำทำนายเมื่อกว่าสองพันปีล่วงมาแล้วนะคะ หนูว่าตอนนี้เราก็เข้าใกล้โลกเสื่อมลงทุกทีแล้วมังคะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:18:56:31 น.  

 
พระสีวลี ที่ปอป้าฝากไว้ในคอมเมนท์ จากวัดข่อย เพชรบุรี หรือเปล่าคะ หนูจำได้ปกติจะเห็นพระสีวลีในท่ายืนค่ะ พอเป็นปาง (เรียกแบบนี้หรือเปล่าคะ) นั่ง เลยจำิติดตาเลย ผนังด้วยค่ะ เป็นลายยันต์

หนูยังไม่เคยเจอคุณก๋า ตัวเป็นๆ เลยค่ะ ยังเคยคุยกับเธอว่า พี่ก็คุยกับคุณก๋าผ่านบล็อกนี่แหละ ยังกะเรารู้จักกันมานานมากเนาะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:19:00:05 น.  

 
แวะมาส่งคุณปอป้าเข้านอนนะคะ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: white in the dark วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:20:13:20 น.  

 
หวัดดีค่าปอป้า

สรุปตอนท้ายบอกว่าชีวิตเรานี่เกิดมาก็ต้องดับไปในที่สุด
ฉะบั้นเราก็อย่าได้ยึดติดกับอะไรมากนัก
รู้สึกเช่นนั้นจริงๆด้วยค่ะ

ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างถาวร
แล้วเราจะไปทุกข์กับสิ่งนั้นๆทำไม ^^

ทำให้ได้รับข้อคิดดีๆ จริงๆนะคะปอป้า ^^

เดี๋ยวรินมาโหวตให้ค่า




ทริปที่ฟินที่สุด
ทริปที่ชิลที่สุด
และทริปที่เรามีความสุขที่สุด






โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:23:20:12 น.  

 
วิ่งๆ มาโหวตให้ปอป้าก่อนนอนค่า อิอิ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:0:11:58 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะคุณปอป้า

นู๋เปิ้ลเข้ามากะว่าจะอ่านให้หมด
แต่ขอติดไว้ก่อนนะคะ มันยาวมากกกกเลยค่ะ
แล้วนู๋ก็ง่วงด้วยอ่ะค่ะ

เรื่องทานอาหารของคุณป้า นู๋ว่าป่านนี้น้ำหนักของคุณป้าคงค่อยๆเริ่มเพิ่ม
ขึ้นช้าๆแล้วนะคะ
ถ้าคุณป้าทานได้ พยายามพักผ่อนมากๆ
คุณป้าก็จะกลับมาแข็งแรงอย่างเดิมแน่นอน
นู๋ขอเป็นกำลังใจให้คุณป้านะคะ

หลับฝันดีค่ะคุณป้าขา


โดย: Suessapple วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:2:28:22 น.  

 



More Saturday Comments

-----------------------------------------
สวัสดียามเช้าวันเสาร์นะคะ หายไปหลายวันมากไม่ได้เคยอยู่นิ่งสักวันเลยค่ะ ทำงานตลอดเลย วันนี้ช่วงเช้าพอว่างนิดนึง เลยแวะมาทักทายให้หายคิดถึง ระลึกถึงอยู่เสมอค่ะปอป้า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:7:55:40 น.  

 



ป่าว เป็นคนแรก...

แต่... เป็น คน ที่ ต้อง มา หา...









โดย: foreverlovemom วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:11:31:23 น.  

 
ตามมาอ่านพุทธทำนายค่ะปอป้า

พระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อด้วยเหตุด้วยผล มิใช่ว่าตามเขามา
คนเราเกิดมาแต่กรรม อยู่ด้วยกรรม เป็นไปก็เพราะกรรม
ให้ระลึกไว้เสมอว่าเกิดมาเพื่อตาย หายใจเข้า-ตาย หายใจออก-ตาย
คิดได้เช่นนี้แล้วจะกลัวโลกแตกไปใย...

เป็นบทสรุปที่เตือนใจได้ดียิ่ง


ไลค์แล้วโหวตค่ะปอป้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Gargen Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:14:48:08 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 9
แหล่มค่ะปอป้า.....ปอป้าสุขภาพแข็งแรงนะคะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:22:04:19 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กันยายน 2556 เวลา:6:39:36 น.  

 
สวัสดียามเย็นครับ





โดย: ก้อนเงิน วันที่: 22 กันยายน 2556 เวลา:16:25:57 น.  

 
สวัสดียามเย็นครับ

โหวต และไลค์ส่งกำลังใจไปให้ปอป้าด้วยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog


โดย: **mp5** วันที่: 22 กันยายน 2556 เวลา:18:23:37 น.  

 

อุ้มแวะมาคิดถึงปอป้าก่อนนอนค่ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 22 กันยายน 2556 เวลา:22:43:40 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:6:35:41 น.  

 

สวัสดีวันจันทร์
กับธรรมะดี ๆ จากหลวงตาค่ะ
ครองสติได้ในทุกสถานการณ์เพื่อความสุขสถาวรตลอดไปนะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:9:04:15 น.  

 
ขอบคุณในน้ำใจไมตรีเช่นปิยมิตรครับ
คนที่นั่นคงจัดการได้เรียบร้อยในเร็ววัน
คงไม่ต้องรบกวนญาติผู้ใหญ่ละครับ อิอิ
ไม่ใช่รัย กลัวจะเพรียวลงไปกว่านี้ จะ
ลำบาก"ขุน"กันแย่ 55++เอิ๊กๆ



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:10:29:55 น.  

 
สนามกอล์ฟท้ายเหมือง พังงา หลังซึนามิค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:10:36:31 น.  

 
หมิงหมิงตอนนี้จะว่าซนก็ซน
ออกแนวอยากรู้อยากเห็นอยากลองไปทุกอย่างครับพี่ 555

ตัวโตขึ้นมากเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:12:04:13 น.  

 
สวัสดีครับพี่ปอป้า ^^

มาอ่านพุทธทำนาย หลายๆข้อก็เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้แล้วนะครับ

แต่ก็ยังไม่รุนแรงมาก บางคนทำบางคนไม่ทำ แหะๆ

อ่านแล้วให้สติสอนใจว่าโลกก็คงไม่พ้นสิ่งไม่ดีเหล่านี้

ถ้าไม่ช่วยกันรักษาธรรมะไว้ ทำบุญกันไว้มากๆนะครับ

สังคมที่มีแต่บาปก็จะยิ่งทำให้คำทำนายเป็นไปเร็วขึ้นครับ

โหวตธรรมะให้เลยนะครับ

พี่ปอป้าดีสบายดีแล้วนะครับ อิอิ ^^






โดย: วนารักษ์ วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:15:13:50 น.  

 
กับธรรมะดี ๆ จากหลวงตาค่ะ
ครองสติได้ในทุกสถานการณ์เพื่อความสุขสถาวรตลอดไปนะคะ
...
ขอบคุณสำหรับคำพรดีดี ค่ะ คุณปอป้า
มีความสุขมากมากค่ะ


โดย: white in the dark วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:16:15:47 น.  

 
สวัสดีค่ะทานอาหารเย็นให้อร่อยนะคะคุณปอป้า





โดย: ญามี่ วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:18:02:46 น.  

 
~ สวัสดีค่ะปอป้า ~


โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:19:16:23 น.  

 
ยาวจริงปอป้า
ขออนุญาติเก็บไว้ก่อน
นี่แหละคนมีบาปอ่านพุทธธรรมะ ไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราว สองบรรทัดตากับใจก็จะลอยแล้ว

ปอป้าอุตส่าห์ค้น หามาให้อ่านไงๆก็ต้องอ่านค่ะ แต่ตอนนี้ลิงสองตัวยุกยิกอยู้ข้างๆ
เก็บไว้อ่านตอนสงบกว่านี้นะคะ



โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:21:31:31 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ปอป้า ขอบคุณ บทความธรรมมะดีๆ
ที่นำไปวางไว้ให้นะคะ

ขอให้พี่ปอป้ามีความสุขนอยหลับฝันดีค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:22:17:38 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:6:42:25 น.  

 


ส่งกำลังใจให้คุณปอป้านะค่ะ



โดย: Pikake วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:8:46:05 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะปอป้า^^


โดย: พจมารร้าย วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:9:53:57 น.  

 




มาหา.. คนแรก... ค่ะ...


พระพี่นางเจ้าขา... คอมพ์ป๋องเจ๊งค่ะ...

3 วันเข้านี่แล้ว...

อยู่ ร้าน Internet Cafe ค่ะ...

ยักแย่ ยักยัน กว่าที่คิดเยอะเลย...


เฮ้อ...




ขอตัวไปทำงานนะจ๊ะ ที่รัก ไม่ได้ทำงานมา 3 วัน...


เด๋ว เขา ไม่จ่ายงานใหม่...


ซว... เลย...





โดย: foreverlovemom วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:10:11:59 น.  

 


รันทดจริงๆ...

เปิดหนังไม่ได้!!!

จะแปลหนัง เปิดหนังไม่ได้!!!

เซ็ง... รอบที่ 1

...


รอบต่อไป..

น้าสาว รู้ว่าไปอินเดีย...

ส่งเทปนี้ มาทาง เมล์...

เจ็บแค้นเท่านั้น ไม่พอ...

...


อยู่ ร้าน เน็ต... หัวเราะ ดังไม่ได้...



นั่งกระอักเลือด อยู่ ยาม นี้...













โดย: foreverlovemom วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:10:46:48 น.  

 
สวัสดีครับ ใกล้เที่ยงแล้วครับ





โดย: ก้อนเงิน วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:11:30:37 น.  

 
แม่หมูแวะมาเยี่ยมค่ะคุณปอป้า
ส่งกำลังใจพร้อมส่งคุณปอป้าเข้านอนด้วยเลยนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ About Weblog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Gargen Blog ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: jamaica วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:20:08:44 น.  

 
หวัดดีคับปอป้า...
ขอบพระคุณสำหรับข้อคิดดีๆๆจาก ท่านหลวงตาคับ
ปล.เข็มทิศที่ผมกำลังประกอบคือเข็มทิศสำหรับการประกอบอาีชีพการงานคับ...พอดีทำไปสักพักสับสนกับทิศทางคับ...
ขอบพระคุณคับ...




โดย: biocellulose วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:22:53:45 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ

ภาพไม่เป็นไรหรอกครับ^^ เพราะระบบของบล็อกแกงค์มันจัดการให้ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 24 กันยายน 2556 เวลา:23:15:40 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:6:22:01 น.  

 



More Wednesday Comments

-----------------------------
สวัสดียามสายๆวันพุธ ช่วงนี้งานเริ่มเบาลงแล้วค่ะ คงได้ทักทายกันบ่อยขึ้น ฝนตกทุกวันเลยช่วงนี้ ยังไงก็รักษาสุขภาพกันนะคะ ระลึกถึงอยู่เสมอค่ะปอป้า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:9:47:18 น.  

 
สวัสดีค่ะปอป้า หนูหายไปนานเลย

ปอป้าสบายดีนะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างฝนก็ตกบ่อย

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ส่วนหนูก็หายหัวเรื่อยๆ ค่ะ



โดย: maitip@kettip วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:10:57:19 น.  

 
ขอบคุณโหวตค่ะปอป้า

ยังไม่ต้องเจอเค้า หนูก็เชื่อค่ะว่าหมิงหมิงแสบ ดูเค้าต่อปากต่อคำแต่ละเรื่องสิคะ ฉลาดนัก

เคยเห็นมาดามแว๊บๆ ค่ะ คุณก๋าเคยลงบล็อกนานแล้ว เธอน่ารักดีนะคะ

ฝนตกเกือบทุกวัน คุณป่วนของปอป้าแวะมาหาบ้างหรือเปล่าคะ รักษาไมเกรนกับคุณหมอ ถึงไหนแล้วคะนี่


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:19:23:14 น.  

 
สวัสดีค่ะปอป้า สบายดีนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ


โดย: auau_py วันที่: 26 กันยายน 2556 เวลา:8:25:52 น.  

 







บอกแล้ว... ไม่ว่าจะ คนที่เท่าไหร่...


ก้อ... ต้อง มา...











โดย: foreverlovemom วันที่: 26 กันยายน 2556 เวลา:10:51:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอป้า ช่วงนี้สุขภาพกาย
และสุขภาพใจแข็งแรงแล้วนะคะ
ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ๆ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: AppleWi วันที่: 26 กันยายน 2556 เวลา:23:12:30 น.  

 




ตาม พี่วิ มาค่ะ...











โดย: foreverlovemom วันที่: 27 กันยายน 2556 เวลา:8:35:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรหมญาณี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]








Prommayanee Tansukchai




ส่งอีเมล์ถึงป้า
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรหมญาณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.