ที่มาของบทสรรเสริญพระธรรมคุณ เมื่อสวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณจบแล้ว ก็ต่อด้วยบทสรรเสริญพระธรรมคุณ ซึ่งมีคำบาลีดังนี้.... โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ (กราบลง ภาวนาว่า ธัมโม เม นาโถ พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสิรฐของข้าพเจ้า)คำแปล พระธรรมนั้นใด เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระธรรมนั้น ข้าพเจ้านอบน้อมพระธรรมนั้นด้วยเศียรเกล้า
ธรรมปริทรรศน์ พระธรรม คือหลักความจริง หลักความดีงาม ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ และทรงแนะนำสั่งสอน ซึ่งผู้มีศรัทธาพึงเรียนสดับรับมาพิจารณาด้วยโยนิโสมนสิการ ให้เข้าใจถูกต้องตามจริง เพื่อจะปฏิบัติให้เป็นมรรคและให้สำเร็จผล ชาวพุทธพึงปฏิบัติต่อพระธรรม โดยการดำเนินตามมัชฌิมาปฏิปทา โดยเบื้องแรกให้รับเอาพระพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตร แล้วสดับเล่าเรียนธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ จากนั้นปฏิบัติต่อธรรมด้วยโยนิโสมนสิการ รวมครบ ๒ ขั้นตอน ที่เรียกว่า บุพภาคแห่งมัชฌิมาปฏิปทา เป็นปัจจัยแห่งสัมมาทิฏฐิ เกิดความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง จึงปฏิบัติธรรมนั้นต่อไปอย่างถูกหลัก เป็นธรรมานุธรรมปฏิบัติ คือ ดำเนินในตัวมรรค หรือมัชฌิมาปฏิปทาอานิสงส์ ๑. ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมย่อมนำตนมิให้ตกลงไปสู่ที่ชั่ว ๒. ผู้นำพระธรรมมาปฏิบัติเห็นแจ้งแทงตลอด เท่ากับผู้นั้นได้เห็นและอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ๓. ผู้ปฏิบัติตามพระธรรม ย่อมได้รสแห่งความสงัด ได้ดื่มรสแห่งความสงบ จิตใจไม่เดือดร้อน ไม่มีบาป ๔. ผู้มีธรรมปราโมทย์ธรรมปีติประจำใจ ย่อมอิ่มเอิบมีใจผ่องใส อยู่เย็นเป็นสุข สบาย
ขอบคุณ ภาพประกอบเรื่อง จากคุณหนูหล่อ ที่มา : หนังสือธรรมะในพระพุทธมนต์ โดย : พระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) เพลง ห่วงน้อง
สมคฺคา สขิลา โหถ เอสา พุทฺธานุสาสนี
ท่านทั้งหลายจงเห็นความวิวาทโดยความเป็นภัย
และความไม่วิวาทโดยความปลอดภัยแล้ว
เป็นผู้พร้อมเพรียง มีความประนีประนอมกันเถิด
นี้เป็นพระพุทธานุศาสนี