เวสารัชชกรณญาณ ๕

คือคุณธรรมที่ทำให้เกิดความแกล้วกล้า, ธรรมทำความกล้าหาญ ได้แก่

๑. ศรัทธา – ความเชื่อที่มีเหตุผล มั่นใจในหลักที่ถือและในความดีที่ทำ

๒. ศีล – ความประพฤติถูกต้องดีงาม ไม่ผิดระเบียบวินัย ไม่ผิดศีลธรรม

๓. พาหุสัจจะ – ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก

๔. วิริยารัมภะ – ปรารภความเพียรจริงจังในกิจที่ทำอยู่นั้นอย่างมั่นคง

๕. ปัญญา – ความรอบรู้ เข้าใจในเหตุผล ดี ชั่ว ประโยชน์ ไม่ใช่ประโยขน์ ฯ รู้คิด รู้วินิจฉัย และจัดการ

พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ธรรม ๕ ประการนี้ จะทำให้ภิกษุที่ยังต้องศึกษา (เสขบุคคล) เป็นผู้แกล้วกล้า และ...

“ ความครั่นคร้ามย่อมมีแก่ผู้ไม่มีศรัทธา แต่ไม่มีแก่ผู้มีศรัทธา, ความครั่นคร้ามย่อมมีแก่ผู้ทุศีล แต่ไม่มีแก่ผู้มีศีล, ความครั่นคร้ามย่อมมีแก่ผู้มีการศึกษาน้อย แต่ไม่มีแก่ผู้ศึกษามาก, ความครั่นคร้ามย่อมมีแก่ผู้เกียจคร้าน แต่ไม่มีแก่ผู้ปรารภความเพียร, ความครั่นคร้ามย่อมมีแก่ผู้ทรามปัญญา แต่ไม่มีแก่ผู้มีปัญญา “

พระองค์ยังทรงกล่าวถึงธรรมที่ทำให้พระองค์แกล้วกล้า ๔ ประการ คือ

๑. พระองค์เป็นสัมมาสัมพุทธะ เพราะตรัสรู้ ไม่มีธรรมใดที่พระองค์ยังไม่ตรัสรู้

๒. พระองค์เป็นพระขีณาสพ เพราะละอาสวะกิเลสทั้งปวงได้ ไม่มีอาสวะใดหลงเหลืออยู่

๓. พระองค์ตรัสว่าธรรมเหล่านี้อันตราย จะทำร้ายคนเสพ ธรรมเหล่านั้นย่อมทำอันตรายได้จริง เช่น อาบัติ ๗ กอง ที่จงใจล่วงละเมิด ย่อมทำอันตรายแก่มรรคผลของผู้ละเมิดได้

๔. พระองค์ทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์ใด ผู้ปฏิบัติย่อมได้รับประโยชน์ คือ ความสิ้นทุกข์ได้จริง

พระพุทธเจ้าทรงประกอบพร้อมด้วยธรรม ๔ ประการดังนี้ จึงทำให้พระองค์กล้าหาญ องอาจ กล้ายืนยัน เปล่งสีหนาท ในพุทธบริษัททั้งหลาย และประกาศพรหมจักร คือจักรอันประเสริฐสูงสุด

ขอบคุณ

ข้อมูลจากหลักธรรมในพระไตรปิฎก

ภาพประกอบเรื่อง จาก คุณอ๋า..วนารักษ์



เพลง ใครจะรักเธอเท่าฉัน