ฤดูร้อนอันหฤโหดได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับในบ้านเมืองของเรา เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับความร้อนได้ในอีก 2 เดือนที่กำลังจะถึงนี้ได้..
อย่างว่าครับ ประเทศเรามันอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร บริเวณที่รับแสงอาทิตย์เต็มที่เกือบทั้งปี ประเทศร้อนชื้นที่เคยมีคนโบราณว่าไว้ว่า ควรจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ เนื่องจากเมืองร้อนคนในประเทศมักขี้เกียจ.. นานวันเข้าเราอาจจะยอมรับมันก็ได้ว่า ประเทศเรามันไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบในอุดมคติ แต่เต็มไปด้วยอิทธิพลและอำนาจมากมาย บางทีก็เผด็จการ...
เข้าเรื่องกันดีกว่า... วันก่อนมานั่งนึกๆ ดู หลังจากที่ได้ยินและได้เห็นครอบครัวหลายครอบครัวที่แต่งงานกันไป แล้วสุดท้ายมันไปกันไม่ได้ จะมีลูกหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายมันก็ทนกันไม่ได้ ต้องเลิกรากันไป ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ และปัจจุบันก็มีให้เห็นรอบๆ ตัวจนพาลให้นึกไปว่า แล้วจะแต่งงานไปทำซากอะไรกันนี่
พูดถึงการแต่งงานบางทีก็ให้มาคิดว่าคนแก่คนเฒ่าจะอยากให้ลูกหลานแต่งงานกันไปทำไม โดยมักบอกว่า จะได้เป็นฝั่งเป็นฝา (ทำไมต้องเป็นฝา เป็นผนังมันดียังไงนะป้า).. เห็นลูกมีครอบครัวพ่อแม่ก็สบายใจ จะได้นอนตายตาหลับ.. ว่าไปนั่น.. แต่เปอร์เซ็นที่ว่าแต่งแล้วอยู่กันยืดยาวนั้น มันน้อยจริงๆ นะ.. เรียนว่า ยากกว่าการปลดหนี้เกษตรกร หรือยากกว่าการเอานายกลงจากตำแหน่งซะอีก... (เปรียบเทียบไม่ค่อยดีแฮะ)...
บางทีก็คิดว่า ตกลงคนเฒ่าคนแก่เขาอาจเคยแต่งงานแล้วแย่มาก่อน เลยจะแกล้งคนรุ่นต่อไปบ้าง ให้มันลองเจอบ้าง กูเจอมาแล้ว มันทรมานขนาดไหน ต้องรับรู้ 555.. แต่ผู้หญิงมากกว่าครึ่งที่เห็นการแต่งงานเป็นเส้นชัยในชีวิตและความรัก.. แบบว่าถ้ามีคนขอแต่งงานมันเหมือนว่าจะถูกหวยรัฐบาลหรือว่าได้รับการโอนหุ้นมาให้แบบไม่ต้องเสียภาษียังไงยังงั้นเลยนะ ว่าเข้าไป.. โดยที่จะอยู่กันได้รึเปล่า หรือต้องเสียภาษีหุ้นรึเปล่า หรือหวยไม่สามารถไปเบิกเงินได้เพราะคนขายหวยไม่ได้ลงทะเบียนไว้ให้ อันนี้สาวๆ ก็ไม่ค่อยได้สนใจกัน.. ขอแต่งไว้ก่อน
ในสายตาผม
การแต่งงานมันก็คงเหมือนระบอบคอมมิวนิสต์นั่นเอง... เริ่มงงสิครับ.. คอมมิวนิสต์ยังไงวะ... ก็คือระบอบคอมมิวนิสต์เนี่ย มันเป็นการปกครองที่จะทำให้ทุกคนเสมอภาค ไม่มีคนรวยล้นฟ้า ไม่มีคนจนไม่มีจะกิน ไม่มีนายทุนโอนหุ้น ปั่นหุ้น เบียดเบียนคนจน ไม่มีคนจนที่ทำนามาเพื่อแค่ใช้หนี้ ต้องหนีตายมาเก็บขยะในเมืองหลวง.. คอมมิวนิสต์ในอุดมคติมันดีมากๆ ..
แต่คอมมิวนิสต์ในอุดมคตินั้นมันไม่มีจริง.. ในหลักการมันสุดยอด concept แนวคิดมันดีมากๆ .. จะเปรียบเหมือนการแต่งงานก็ไม่ผิด.. ที่แนวคิดมันดี ว่าคนรักกันจะได้อยู่กันจนตาย... แต่ความรักถ้ามันไม่จืดจางลงไปซะก่อนมันก็คงดี.. หรือจะไม่มีใครเขวออกนอกระบบมันก็จะดีมาก จะไม่เบื่อกันไปก่อน จะไม่เหม็นหน้ากันไป ก็คงเหมือนสังคมยูโทเบียที่มันสมบูรณ์แบบ .. เหมือนคอมมิวนิสต์ที่ทุกคนเสมอภาค.. แต่มันเป็นแค่ความคิด ความฝัน.. เฉกเช่นเดียวกับการแต่งงานที่ยากจะรักษาความรักที่หอมหวานในช่วงแรกๆ กันไปจนวันที่ต้องตายจากกันไว้ได้...
ว้า... เขียนยาวเกินไปอีกแล้วสิ... หวังว่าจะอ่านกันจนจบนะครับ... คราวหน้าจะเขียนแบบสั้นๆ หน่อยนะครับ กลัวจะเบื่อกันไปซะก่อน.. ทุกคนคงสบายดีนะครับ.. ความรักเป็นอย่างไรกันบ้าง.. หมั่นคอยรักษามันให้ดีนะ ความรักมันก็เหมือนอากาศที่เรามองไม่เห็นแต่ต้องมีเสมอ ไม่งั้นคงขาดใจตาย อากาศดีๆ มันก็สดชื่น อากาศเสียๆ มันก็ทรมานไม่อยากดม เหมือนให้ต้องไปยืนริมถนนแถวบ้านผม นานๆ ก็คงไม่ไหว รถติดเหลือเกิน ส่วนเรื่องแต่งงาน ยังไงก็คิดให้ดีนะ...