สายวันอาทิตย์อันร้อนระอุ บรรยากาศเตรียมเข้าสู่ฤดูร้อนอันหฤโหดเต็มรูปแบบของประเทศแถวเส้นศูนย์สูตร อุณหภูมิการเมืองในวันนี้ (26 กพ.) ก็คงจะร้อนแรงพอๆ กับอุณหภูมิรอบกายเรา แม้บางคนพยายามจะดับร้อนด้วยการประกาศยุบสภา แต่ความร้อนแรงกลับยิ่งดุเดือดขึ้น... รางกับว่าสารประกอบทางเคมีบางอย่างถูกถอดออกไปทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงขึ้น.. โอ้ว เหลี่ยมมันยอดมาก...
ช่วงนี้เวลาฟังเพลงไทยในยุคปัจจุบันจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคมของบ้านเมืองเราและแนวคิดของเด็กวัยรุ่นในสมัยนี้อย่างเห็นได้ชัดนะครับ.. ย้อนกลับไปสมัยผมยังเด็กๆ เพลงรักจะค่อนข้างจริงจังและออกแนวบูชาความรักกันมากมาย รักแสนจะยิ่งใหญ่ในเพลงเหล่านั้น การรักเดียวใจเดียวถูกประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด.. แต่เพลงสมัยนี้มักจะแสดงออกซึ่งความสวิงกิ่งหรือการกิ๊กกันอย่างออกนอกหน้า...
ตัวอย่างเช่น
- ก่อนคนนั้นของเธอจะมาให้ฉัน นั่งเป็นเพื่อนใจ..เมื่อเขามาฉันจะไป
- ก็ยังจับมือฉันตอนที่เขาโทรเข้ามา และเธอโกหกเข้า ข้างในใจก็เริ่มชา..
- เธอยังคงมาวนเวีนนอยู่ในความฝันยามค่ำคืนให้ฉันเองสับสนในใจ
- เป็นมากเกินกว่าเพื่อน แต่ว่าฉันไม่ใช่คนรัก....
- จะโทษใครก็เธอง่ายเอง...
- อย่าบอกให้ใครรู้ ว่าเรารู้สึกต่อกันเช่นไร แค่เรามองตากันก็สั่นสะท้านไปทั้งหัวใจ...
ฯลฯ อื่นๆ อีกมากมาย....
แต่มีเพลงอยู่เพลงหนึ่งที่ผมฟังแล้วมานั่งคิดตาม.. นี่มันเป็นปัญหาของความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ของเด็กไทยรึเปล่านี่.. อะไรกัน พระเจ้า จอร์จ ซาร่า พาราดอน...
คงจะเคยได้ยินเพลงนี้กันนะครับ ของ
Endorphin "เธอเป็นแก้วใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยน้ำเปล่า ยิ่งเทน้ำลงไปมีแต่ล้นออก......"ฟังๆ ดูเพลินๆ ก็คงไม่มีอะไรนะครับ แต่ลองมาคิดแบบหลักการธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แล้ว มันผิดจริงๆ คนแต่งเพลงน่าจะรอบคอบกว่านี้... น้ำเป็นของเหลว เวลามีของใหม่เข้าไปแทนที่มันก็จะต้องเคลื่อนที่ออกไปมิใช่หรือ.. อย่างน้อยถ้าเทน้ำลงไปตลอดเวลา มันก็จะผสมกันและทำให้น้ำของเดิมในแก้วค่อยๆ โดนดันออกไป
นอกเสียจากว่า ในแก้วนั้น น้ำเป็นน้ำแข็ง (แต่ก็ละลายได้อยู่ดี) หรือในแก้วนั้นเต็มไปด้วยหิน น้ำก็คงเข้าไปได้ในร่องหิน แต่เข้าได้ไม่หมด....
คิดให้ลึกกว่านั้น ถ้าเป็นน้ำเกลือที่มีน้ำหนักมากกว่าน้ำ มันอาจลงไปแทนที่น้ำในแก้วเดิมได้เลย ค่อยๆ ดันของเก่าให้ลอยและล้นออก... ถ้าจะเปรียบเป็นความรัก ก็น่าจะเป็นรักที่หนักแน่นกว่า รักที่ดูดีกว่า รักที่สวยกว่า หรือคนที่มารักสวยกว่าคนรักเก่า (โอ้ว)
... ถ้าเป็นน้ำมันก็จะเบากว่า อาจเข้าไปไม่ได้ และติดไฟเผาไหม้ตัวเองได้ด้วย อาจเปรียบเหมือนความรักที่เบาๆ มองดูไม่หนักแน่น ยากที่จะเข้าไปแทรกแทนที่รักเก่าของเขา (หรือหล่อน)
มองกันให้ลึกอาจทำให้รู้สึกว่า คนไทยเราไม่ใส่ใจกับวิทยาศาสตร์ หรือไม่สนใจมันซักเท่าไหร่ แค่น้ำจะเทลงแก้ว เทสูงๆ เทแรงๆ น้ำในแก้วเก่าก็ต้องกระเด็ดออกไปอยู่แล้วละครับ จะเปรียบเป็นความรักมันก็มีอยู่หลายวิธีนะครับจากไอ้เรื่องน้ำเต็มแก้วนี้น่ะ แต่ถ้าพูดถึงเพลงมันก็กระแทกกระทั้นดีนะ เห็นเวลาเปิดตามสถานบันเทิงเหล่าอิสตรีจะกรี๊ดกร๊าด ชอบกัน...
ลองคิดให้ลึกกันซักหน่อย อาจมีอะไรสนุกๆ ซ่อนเร้นนะครับ.... สวัสดีวันหยุด(อันร้อนแรง)...
หรือคนแต่งเองก็ไม่รู้ แต่ตั้งใจเปรียบเทียบ
อย่างว่าคนไทยมีวัฒนธรรม"ความไม่เป็นวิทยาศาสตร์แห่งชาติ"อยู่
แต่เข้าใจจับผิด เอ๊ย เข้าใจสังเกตดีนะ