ยุคสมัยนี้อะไรๆ มันเปลี่ยนไปรวดเร็วมากเลยนะครับ.... นึกย้อนไปเมื่อไม่ถึงสิบปีก่อนใครจะคิดว่าชาวไทยยุคเหลี่ยมจะมีมือถือใช้กันได้ทุกคน.. ช่วงต้นๆ ศตวรรษใหม่นั้น ผมกลับมาเมืองไทยพบว่าคนขี่ซาเล้งยังมีมือถือ ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจ.. แต่อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปแล้วอะนะครับ.. ต้องยอมจำนนต่อเทคโนฯ และกระแส globalization จริงๆ...
นอกจากระบบมือถือที่คนใช้กันทั่วไปแล้ว การสื่อสารทางโลกไซเบอร์ก็ยังแพร่ระบาดไปทั่วเหมือนกัน พักหลังนี้โปรแกรมในการสื่อสารได้ถูกพัฒนาจนคนเราติดต่อกันได้ทุกเวลาทั่วโลกซะแล้วสิ... ในยุคแรกๆ ของ internet เราก็มีโปรแกรมสื่อสารหลายๆ แบบ.. แต่ที่มีผลกระทบ impact ต่อวิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่ในโลกน่าจะเป็น msn messenger
พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว หลายสิ่งหลายอย่างในร่างกายเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีเหมือนกันนะครับ.. ยังไงหรือนี่.... ก็พอมีการสื่อสารด้วยโปรแกรม chatting แล้ว คนเราก็เลยไม่ใช้ปากในการพูดกันแล้วน่ะสิ..
สมัยนี้คนเราใช้ ตาในการฟัง และใช้นิ้วในการพูด แทนซะแล้ว!!!เวลาเพื่อนคุณทักทายคุณด้วยโปรแกรมสื่อสาร มันก็เหมือนการที่เขาพูดผ่านนิ้วของเขาที่สมองสั่งการ.. กดแป้นพิมพ์ผ่านสื่ออิเล็กโทรนิกแปลงเป็นสัญญาณเดินทางข้ามโลกและแปลงเป็นข้อความมาสู่หน้าจอมอนิเตอร์ให้คุณรับฟังด้วยสายตา และพูดตอบกลับด้วยนิ้วที่กดพิมพ์ลงบนแป้น...
หลายคนพอได้มาเจอตัวจริงนอกโลกไซเบอร์แล้วก็เป็นอันอึ้งครับ พูดอะไรไม่ค่อยจะเป็น .. อันนี้เพราะว่าหลายคนใช้แต่นิ้วในการพูด พอจะให้พูดปกติก็เลยเขิน พูดกันไม่ค่อยจะได้ หูที่เคยใช้รับฟัง ตอนนี้พอเปลี่ยนเป็นการใช้ตาฟัง (อ่าน) ข้อความต่างๆ จนตาไม่กล้าสู้กับผู้คน คนในโลกอินเตอร์เน็ทส่วนใหญ่จึงเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูดจา ชอบอยู่กับโลกส่วนตัว อาจจะยิ่งใหญ่ในโลกไซเบอร์มีคนรู้จักมากมาย แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว อวัยวะต่างๆ กลับทำงานผิดพลาด กลายเป็นคนติ๋มๆ ไปซะอย่างนั้นแหละ.. เอ่อ เป็นไปได้
พูดถึงอวัยวะที่ทำงานไม่ตรงสาขาที่เรียนมาแล้ว จะว่าไปมันก็มีหลายๆ ครั้งที่มันไม่เกี่ยวกับโลกอินเตอร์เน็ทนะครับ... อย่างเช่น ตับที่มักจะสั่งสมองให้ขยับปากชวนเพื่อนไปกินเหล้า.. กระเพาะที่สร้างจินตนาการไปสู่สมองให้คิดถึงอาหารต่างๆ นาๆ และรสชาติชวนน้ำลายสอ และสั่งการให้ขับรถไปกินอาหารอร่อยเพื่อสนองลิ้นและกระเพาะอาหาร...
หรือฮอโมนที่ไปกระตุ้นร่างกายให้สั่งสมองให้เดินเข้าไปทักทายคนแปลกหน้าเพื่อสานสัมพันธ์ความรักต่อไป....
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ.. เพราะมันเป็นแค่เรื่องจินตนาการที่สมองผมชอบมองหาเรื่องเปรียบเทียบ และมันก็ชอบมาสั่งนิ้วให้เล่าเรื่อง เพื่อให้ท่านๆ ใช้ตาในการฟัง....
ไปตรวจตากันบ้างนะครับ เดี๋ยวจะได้ยินอะไรเบลอๆ ไปหน่อย.....
จริงๆแล้วก็คิดอย่างนี้มาตั้งนานละ ไอ้เอ็มเอสเอ็นเนี่ย
รู้สึกพัฒนาการทางการพูดลดลงทุกที
ทุกวันนี้ภาษาที่ไม่ถนัดที่สุดคือภาษาคน
สงสัยเป็นเพราะมันแน่ๆ.....