สวัสดียามค่ำคืนครับ... ห่างหายจากการเขียนบล๊อกไปหลายเพลา.. ก็ยุ่งๆ กันบ้างตามประสาคนวัยทำมาหากิน อยู่เฉยๆ นิ่งๆ คนก็หาว่าไม่กระตืนรือร้น
วันนี้ไฟดับในซอยบ้านผมครับ.. จริงๆ ก็ไม่ได้ดับแบบทางการอะไรนักหรอกนะครับ แค่ไฟส่องสว่างตามถนนในซอยมันไม่เปิด (สงสัย กทม.จะแสดงให้รู้ว่ากูนี่มีบุญคุณนะ).. แค่ไฟถนนดับนี่รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วครับ เวลาเดินในซอยก็รู้สึกว่าอันตราย กลัวโจรมาปล้น.. ขับรถพอหรี่ไฟก็เสียว กลัวมีคนแอบตามซอกออกมาปล้น กลัวโจรขึ้นบ้าน กลัวผี กลัวโดนตีหัว กลัวโดนข่มขืน กลัวโดนกระชากสร้อย.. สารพัดจะกลัว
ขาดไฟส่องสว่างนี่มันน่ากลัวจริงๆ เลยนะครับมันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงวันที่ฝนตกหนัก พายุเข้า และไฟฟ้าดับทั้งซอย.. ไม่ใช่แค่ไฟถนนดับ แต่ในบ้านก็มืดตึ๊บเลย....
เราต้องจุดเทียน ใช้ไฟฉาย อยู่ในบ้านอย่างร้อนๆ เงียบๆ เหงาๆ เปิดคอมพ์ก็ไม่ได้ ทีวีก็อดดู....
แต่พอได้ออกไปยืนนอกบ้าน ก็รู้สึกว่ามันมีแสงสว่างอันนึงที่เรามองข้ามมันไป มองไม่เห็นมันมาตลอด
มันคือ แสงจันทร์ครับบางทีทำให้ผมนึกไปถึงหนุ่มสาวเวลามีความรัก
เวลาเรามีความรักมันก็เหมือนมีไฟฟ้าส่องสว่าง
เราไม่สนใจใยดีกับอะไรรอบข้าง ไม่สนว่ามีคนในครอบครัวที่เป็นห่วงเป็นใยเรา
คือเราลืมให้เวลากับคนที่บ้าน ลืมความสำคัญของหมาที่บ้าน ลืมเพื่อน ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น
จนตอนที่เราไม่มีใคร.. เฉกเช่นเดียวกับตอนไฟฟ้าดับ
แสงจันทร์ที่เราเคยมองข้าม มันก็ช่างดูสวยงาม และสว่างเสียนี่กระไร
ของเล่นที่วางบนชั้นจนฝุ่นเกาะ เราเคยเล่นกับมัน เคยรักมัน
พ่อแม่ที่เราเคยกินข้าวด้วยทุกเย็น เราช่างลืมพวกเขาไปได้ เพียงเพราะเรามีความรักของหนุ่มสาวจนลืมทุกสิ่งไป
ว่างๆ ลองเดินออกมาดูดาวดูเดือนตอนไฟดับกันดูนะครับ.. แสงจันทร์เวลามันเต็มดวงนี่ มันสวยงามจริงๆ