ลายเซ็นในทุกสิ่งที่แตะต้อง... [signature in your works]
บ่ายสามกว่าๆ วันอาทิตย์ ... บรรยากาศครึ้มๆ ไม่ร้อนดี แต่มันดูเนือยๆ เฉื่อยๆ สร้างความรู้สึกนิ่งๆ เหมือนว่ากรุงเทพ เมืองที่วุ่นวายขอหยุดเพื่อหายใจซักวันนึง..
หลายครั้งหลายคราที่เวลาเราทำอะไรก็ตาม เราจะต้องเซ็นชื่อกำกับลงไปเสมอ เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นชื่อรับของจากไปรษณีย์ เซ็นชื่อว่าตัวเองอยู่ที่แห่งนั้น เซ็นชื่อเพื่อยืนยันสิ่งต่างๆ ...
และหลายๆ ครั้งที่ แม้เราจะไม่ได้เซ็นชื่อด้วยลายมือ สิ่งของที่เราสร้างสรรค์มันก็แสดงออกถึงตัวตนของเราด้วย เช่น เวลาเราอ่านงานเขียนบางอัน เราสามารถระบุได้ว่า ใครเขียน
เวลาเราเห็นภาพเขียนของบางคนเราสามารถระบุได้ว่าเป็นงานของใคร
เห็นนักบอลวิ่งไกลๆ ก็ระบุได้ว่า เป็นลีลาการวิ่งของใคร
เห็นเบ็คแฮมเตะบอลทำเท้าเฉียงๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นมัน
กินอาหารฝีมือกุ๊กบางคนก็ระบุได้ว่าใครปรุง
ได้ยินเสียงก็ระบุได้ว่าเป็นเสียงของใคร..
ซึ่งมันเกิดขึ้นเสมอ............ เช่นนั้น
เหมือนว่า DNA ของเรามันติดเข้าไปในงานที่เราสร้างสรรค์
เหมือนลายเซ็นของเรามันติดไปในผลงานที่เราสร้างสรรค์
เสื้อผ้าที่เราใส่ประจำก็ติดลายเซ็นของเราไป
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเราก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา
วิธีการคิด การจัดการ การเดินทาง การตรงต่อเวลา การเบี้ยวนัด .. ทุกๆ อย่างมันแสดงออกถึงตัวตนของเรา จนหลายๆ คนสามารถบอกได้ว่า ถ้าเป็นไอ้คนนี้ คนนั้น มันจะต้องทำแบบนี้แน่ๆ หรือมันจะมาสายกี่นาที มันจะโผล่มาเวลาไหน มันจะซื้อของแบบไหน..
เหมือนวิเคราะห์ได้จากโครโมโซม.. เช่นนั้น...
และเมื่อคุณอ่านสิ่งที่ผมเขียนมาถึงตอนนี้ คนที่อ่านบ่อยๆ ก็จะจำได้ว่า เออ ไอ้บ้านี่มันชอบเขียนเรื่องแบบนี้..
บางคนชอบเขียนเรื่องดวง
บางคนชอบแปะรูป
บางคนชอบใส่เพลง
บางคนชอบแต่งบล๊อก
ทุกอย่างแสดงออกถึงตัวตนและลายเซ็นไว้เต็มไปหมด
นักสืบเลยตามหาทุกสิ่งจากสิ่งที่เราทำหกเกลื่อนกลาดไว้ในที่ต่างๆ ที่เราไปแตะต้องได้...
เช่นนั้นแล
บ่นไปเรื่อยๆ ครับ .. ตามสไตล์
ว่าแล้วก็แปะรูปลีลาการทำบะหมี่หมูแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าแถวบ้าน
ลองคอมเมนท์ไม่ลงชื่อดูซะหน่อย
เจ้าของบล็อกจะรู้มะว่าใคร