สวัสดียามสายอันสดใสของกรุงเทพเมืองฟ้าอมร ณ สยามประเทศเมืองยิ้มนะครับ!!!
เริ่มต้นประโยคด้วยการทักทายที่มีกลิ่นไอของความแดกดันซ่อนเร้นอยู่เหมือนกันนะครับ...
ผมเองเป็นคนนึงที่ช่างประชดต่างๆ นาๆ ไม่รู้ทำไมสินะมันถึงเป็นเช่นนั้น เหมือนกับว่าการประชดแดกดันมันเป็นกลไกในการติเตียนสิ่งต่างๆ ให้เจ็บๆ คันๆ อย่างหนึ่ง
อาจจะเพราะว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ชอบรักษาน้ำใจคนด้วยการไม่กล้าจะพูดตรงๆ ให้มันทำร้ายจิตใจเขา.. เป็นความหวังดีอย่างหนึ่ง... แต่บางทีการพูดอ้อมๆ ก็ถือเป็นการทำร้ายอย่างหนึ่งเหมือนกัน.. (อาจเจ็บกว่าเดิม)
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นเหล่านักการเมืองทุกฝ่ายจะเล่นลิ้นเล่นคำให้แสบสันทรวงในกับฝ่ายตรงข้าม ส่วนผู้ที่ทนกับสภาพการณ์เช่นนี้ได้ก็ต้องเป็นคนที่"หนา"พอสมควรถึงจะไม่สะดุ้งกับการเสียดสีและแดกดันของผู้กระทำได้
จนเหมือนกับว่า บ้านเมืองเรานิยมใช้การประชดเป็นการแกล้งกัดผู้อื่นให้สะดุ้ง ซึ่งก็มีมาตั้งแต่ยุคโบราณกาลแล้วนะครับ ไม่เชื่อลองไปอ่านพงศาวดารเมืองพระเจ้าเหาดูได้เลย.. หรืออ่านโครงแปดสุภาพของพระยาเจ้าแดกดันหลวงฯ ที่เคยแต่งไว้หลอกด่าพวกพม่าเขมรลาวและกิจกรรมหมากเตะ รวมถึงผู้ที่คิดไม่ตรงกับท่านพระยาฯเขา...
จนเกือบว่าจะมีการตั้งสมาคมแห่งการประชดประชันเกิดขึ้นในบ้านเราแล้วในหลายๆ ยุคสมัย ในครั้งก่อนการเสียกรุงฯครั้งที่ 2 นั้น หลวงพิเรณฑ์ประดิษฐ์คำฯ ได้แต่งบทบัญญัติขึ้นเกี่ยวกับการใช้ประโยคประชดไว้แล้วด้วย เพียงแต่ศัตรูได้ลอบเข้ามาเผาเมืองเสียก่อน และตำราพิชัยการเสียดสีก็ได้ถูกทำลายลงไป
ดังเช่นนี้การประชดจึงได้ขาดแบบแผนอันพึงปฎิบัติตามตำราหลวงแห่งกรุงศรีฯไป.. ทุกอย่างในยุคนี้จึงเป็นฝีมือการประชดล้วนๆ ที่เกิดจากภูมิปัญญาส่วนตัวว่าใครจะประชดได้แสบสันและมีนัยยะแอบแฝงได้เด็ดดวงกว่ากัน
สมาคมแห่งการประชดประชันแห่งประเทศไทย หรือ
Sarcastic & Ironic Association of Modern Thailand (SIAM) สมาชิกน่าจะมาจากทุกสายอาชีพ โดยอาจมีการสอบสัมภาษณ์เพื่อเข้าสู่การเป็นสมาชิก.. อาจมีระดับขั้นเป็นเหมือนพวกยูโด เช่น ประชดสายขาว ประชดสายแดง สายดำ หรือแบ่งเป็นระดับดั้งเช่นพวกเซียนหมากล้อม หรือเป็นระดับซีของข้าราชการเช้าชามฯ (แค่นี้ก็เต็มไปด้วยการประชดแล้ว)....
อันเรื่องการประชดนั้นจริงๆ มันถูกปลูกฝังแทบจะอยู่ในสายเลือดชาวไทยกันอยู่ทุกวันทุกคืนนะครับ.. ลองดูละครไทยๆ สิครับ นางเอกนางอิจฉา คนใช้คนสวน แม่นางเอก คุณท่านคุณหลวง นมเมี้ยน นมทิพย์ คุณแม่คะคุณแม่ขา อีแจ๋ว คุณพจน์ ฯลฯ.. ล้วนแล้วแต่พูดด้วยคำพูดประชดประชันทั้งน้าน... เช่น.. คุณแม่ขา ดูอีนังพจมานสิค่ะ แหม มันทำเป็นผู้ดีมีสกุล ที่แท้ก็บ้านนอก.. เหม็นสาบคนจนจังเลย... และอาจโดนสวนด้วยการแดกดันระดับตำนาน... ก็ดีกว่าคนบางคน ที่ว่ามีเชื้อไขผู้รากมากดี แต่กริยาต่ำเสียเหลือเกิน... จนนางอิจฉากรี๊ดทนไม่ได้.. ต๊าย คุณแม่ขา หนูเหมือนจะโดนว่านะคะ อ๊ายยย อีนางบ้านนอก หนอย ด่าแล้วหายตัวเหรอย่ะ.. ... เป็นต้น...
หรือทางซีกการเมืองละ.. ประชดกันอย่างไรบ้าง... ตัวอย่างของท่านเหลี่ยม.. "มันเป็นใครวะ จะมาบอกให้นายกลาออก.. ผมละนอนหัวเราะกับเมียก่อนนอนทุกคืนเลย.." หรือ.. "ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ละมั้ง ที่ผมจะลาออก..." หรือ "ใครไม่เลือกพรรคผม จังหวัดนั้นก็ลำบากหน่อยนะ..." เป็นต้น...
ชักจะยาวนะครับ.. เอาเป็นว่า.. จบดื้อๆ ก็แล้วกัน มันชักจะหาทางจบเรื่องราวประชดประชันนี้ยากเต็มทน .. ก็ใครมันจะไปเก่งเท่าคุณกันเล่า... ผมมันก็แค่.. โอ๊ะ.. เผลอประชดไปหน่อยนึง.. เป็นอันว่า โชคดีมีชัยในประเทศที่สวยงามนี้นะครับ.. สุดสัปดาห์นี้ว่าจะไปดูหมากเตะ อ๊ะ โดนแบนซะแล้ว งั้นไปดูดาวินชี่โค๊ด โอ๊ะ โดนตัดตอนฉากสำคัญไปแล้วหรือนี่... ว๊า อดดูหมดเลย.. แย่จัง
สวัสดีค่ะท่านประธานสมาคมการประชดประชันแห่งประเทศไทย
ตำแหน่งนี้เหมาะสมกับท่านจริงๆ นะคะ
ไม่ได้ประชดนะ ....พูดจากใจเลย