Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
เคล็ดลับน่ารู้ ซื้อเต้าหู้ดูอย่างไรไม่ใส่สารกันบูด











เป็นที่ยอมรับกันอยู่ในปัจจุบันว่า นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว "เต้าหู้" เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง เวลาเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ เราก็จะได้เห็นหน้าค่าตา เต้าหู้ บ่อยเป็นพิเศษ แต่ถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลากินเจ เราก็ยังคงนิยมใช้ เต้าหู้ มาประกอบอาหารกันอยู่เป็นประจำ ในปัจจุบันเต้าหู้ที่เห็นขายกันอยู่ใน ท้องตลาด มีทั้งเต้าหู้สดและเต้าหู้อุตสาหกรรม

เต้าหู้สด เต้าหู้สดที่ผลิตด้วยวิธีธรรมชาติ จะไม่ใส่สารกันบูด เวลาใช้ ควรซื้อมาแล้วใช้ประกอบอาหารทันที เต้าหู้ที่สดใหม่ จะมีกลิ่นหอม และรสดีที่สุด เต้าหู้ที่ทำขายวันต่อวัน ไม่มีของเหลือค้างก็ไม่น่าจะมีสารกันบูด แต่ถ้าอยากพิสูจน์ก็ไม่ยาก แค่เอาเต้าหู้วางไว้เปลือยๆ ไม่ต้องหล่อน้ำเลี้ยง ไว้นอกตู้เย็น ถ้าไม่บูดเปรี้ยวในหนึ่งวัน ก็สันนิษฐานได้เลยว่า เป็นเต้าหู้ที่ใส่สารกันบูด

เต้าหู้อุตสาหกรรม จะใช้ความร้อนสูงและบรรจุภัณฑ์มายืดอายุเต้าหู้ จะระบุอายุการเก็บไว้ต่างๆกัน ถ้าบรรจุในบรรจุภัณฑ์พลาสติกสูญญากาศ จะระบุอายุตั้งแต่ 3-6 สัปดาห์ ส่วนเต้าหู้หลอดอายุ 6 สัปดาห์ แต่คุณรู้หรือไม่ ว่าความอร่อยของเต้าหู้อยู่ที่ความสด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเต้าหู้ ที่ทั่วโลกยอมรับ William Shurtleff และ Akiko Aoyagi บอกว่า เต้าหู้อุตสาหกรรม ในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ สามารถคงความสดอยู่ได้ประมาณ 7 วัน

หลังจากนั้น ถึงไม่เสียแต่ก็ไม่สด รสชาติเสื่อมลง ดังนั้นเราควรซื้อ เต้าหู้ที่มีอายุไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่ผลิต (โอ้.. จะหาซื้อได้ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือเปล่านี่) เอาเป็นว่า เวลาหยิบนอกจากจะดูว่ายังไม่หมดอายุ ก็เลือกเอาที่เก่าน้อยที่สุดแล้วกัน แล้วก็ถ้าใครที่ชอบซื้อมาเก็บไว้ทีละเยอะๆ คงต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ ซื้อมาพอใช้ หมดแล้วซื้อใหม่ดีกว่า

 

From: //variety.teenee.com/foodforbrain/18855.html


Create Date : 11 เมษายน 2553
Last Update : 11 เมษายน 2553 0:26:17 น. 0 comments
Counter : 397 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lifewater
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add lifewater's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.