Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ชาร์ลีกับลูกค้าร่างยักษ์

ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ชาร์ลีกับลูกค้าร่างยักษ์

พูดถึงชื่อ "ชาร์ลี" ทุกคนคงคุ้นเคยกับชื่อพื้นๆนี้มาบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับผม เท่าที่นึกออกแบบเร็วๆก็น่าจะมี

1) กัณหา-ชาลี ... ลูกของพระเวสสันดรในนิทานชาดก ที่ถูกบริจาคให้ขอทานเฒ่าชูชกไปตามคำขอ

2) นางฟ้าชาร์ลี ... 3 มือพิฆาตสาวสวย จากหนังบู๊แอ็คชันฟากฝั่งฮอลลีวู้ด หนังเรื่องนี้ทำให้ผมได้รู้จักกับ ลูซี่ หลิว ดารานักบู๊จากฟากเอเชีย ที่แสดงฉากแอ็คชันได้สนุกมาก แล้วก็ยังประทับใจไม่ลืมกับ นางฟ้าซามูไร ภาคแรก ในบทนักฆ่าของบิลล์ ตอนที่เธอเป็นประธานประชุมยากูซ่าอยู่หัวโต๊ะ แล้วปราดไปตัดคอของสมาชิกที่ต่อต้าน ด้วยสีหน้านิ่งสนิท เลือดพุ่งกระฉูดท่วมโต๊ะ

และ 3) เด็กผอมคนนั้น ชาร์ลีกับโรงงานชอคโกแลต ... ผมว่าผู้ใหญ่เกือบทุกคนที่โตขึ้นกลายเป็นนักอ่านหนังสือ น่าจะเคยอ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อนตอนเป็นเด็ก ผมเองจำได้ว่าเคยอ่านมาไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง ตั้งแต่เด็กมาจนโต แล้วก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับชาร์ลีและปู่ทุกครั้งตอนที่ลุ้นบัตรทอง ยังจำเด็กอ้วนนิสัยไม่ดีที่ตกลงไปในบ่อชอคโกแลต แล้วก็เด็กผู้หญิงที่ทำสถิติเคี้ยวหมากฝรั่งนานทีสุด ตอนนอนก็แปะไว้ตรงหัวเตียง ตื่นมาก็เคี้ยวต่อ ผมเองปกติจะเคี้ยวหมากฝรั่งตอนขับรถเพื่อกันง่วง แต่บางทีชินปากเคี้ยวต่อเนื่องสัก 3-4 ชั่วโมง หมากฝรั่งก็จะเริ่มละลายคาปากแล้ว เลยยังไม่เคยเจอหมากฝรั่งยี่ห้อไหนที่เคี้ยวได้เป็นวันๆ เหมือนในหนังสือเลย และแทบทุกครั้งที่เคี้ยวหมากฝรั่งก็จะนึกถึงหนังสือเรื่องนี้เสมอ

ผมจำได้ว่าตั้งแต่ตอนเด็กสมัย 8-9 ขวบนั้น เมื่อเริ่มอ่านหนังสือได้ ผมก็หลงรักการอ่านตั้งแต่นั้นมา โดย 4 อรหันต์หนังสือขั้นเทพที่ผมเริ่มอ่านก็คือ เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก - ใครๆก็รู้จัก ใช่ไหมครับ เล่มนี้เทพสุดๆ / ระแวงไพร เรื่องของ 2 พี่น้องผิวขาวที่เครื่องบินตกในทะเลทรายออสเตรเลีย ได้รับการช่วยเหลือจากเด็กผิวดำ ที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมจากความต่างระหว่างผิวพรรณ / ตะเภานักโม้ - หนูตะเภาบั๊ม / และชาร์ลีกับโรงงานชอคโกแลต ของโรอัลด์ ดาห์ล นี่แหล่ะครับ

เกริ่นมาตั้งนาน ... เอาล่ะ เข้าเรื่องเสียทีนะครับ ตัดฉากมาที่ร้าน เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน งานประจำอย่างหนึ่งของคนทำร้านหนังสือก็คือ จัดหนังสือ ผมว่ามันเป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลิน และมีความสุขมากนะครับ โดยเฉพาะกับคนที่รักหนังสือ สำหรับหนังสือที่ร้านแล้ว พวกไกด์บุ๊คมือ 2 ภาษาต่างๆนี่ผมจะห่อด้วยถุงพลาสติคน่ะครับ ไม่ได้ห้ามอ่านนะครับ เพียงแต่กันฝุ่นและก็รักษาสภาพหนังสือให้ดีไว้ นอกจากนั้นหนังสืออ่านบางเล่มที่ผมชอบ ก็จะห่อไว้เช่นกัน วันนั้นผมใช้เวลาอยู่กับมุมหนังสือวรรณกรรมเด็กค่อนข้างนาน จัดไปก็อ่านไปพร้อมกับซ่อมมุมและห่อหนังสือไปด้วย เนื่องจาก 2-3 วันก่อนมี หนังสือกลุ่มนี้ที่รับซื้อเข้ามาหลายเล่ม เช่น 5 สหายผจญภัย ของอีนิต ไบล์ตัน 5 เล่มที่ครอบครัวฝรั่งแคนาดามาขายให้ เขามาอยู่ที่เมืองไทยนี่เกือบ 2 ปีแล้ว และกำลังจะกลับบ้านกัน / วอร์คราฟท์ หนังสือแฟนตาซี ประมาณ 5-6เล่ม ที่ถูกแลกกับหนังสือมหากาพย์แฟนตาซีชุด กงล้อแห่งกาลเวลา "Wheel of time" ของโรเบิร์ต จอร์แดน จากลูกค้าเยอรมัน / ทอม ซอเยอร์ - ฮักเคิลเบอร์รี ฟิน ของ มาร์ค ทเวน นอกจากนี้ก็มี นิยายประเภทแวมไพร์ของ แอน ไรซ์ และอื่นๆ

ผมนั่งชั่งใจอยู่ว่า จะเอาหนังสือ 1984 ของ จอร์จ ออร์เวลส์ เข้ามารวมกลุ่มดีไหม หรือจะแยกไปอยู่กับ "White fang & Call of the wild" ของแจ็ค ลอนดอน ในประเภทหนังสือคลาสสิค ขณะนั้นก็มีเสียงเปิดประตูพร้อมโมบายล์ดังกรุ๋งกริ๋งเข้ามา

"สวัสดีครับ" เสียงทุ้มๆหล่อๆ ของลูกค้าทักขึ้น

"สวัสดี มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" ผมเอ่ยถามพร้อมเงยหน้ายิ้มทักทายลูกค้า ก่อนหยุดชะงักนิดหนึ่ง

สาเหตุที่ชะงักก็เพราะลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ภาพที่ผมเห็นก็คือ ชายตัวใหญ่ร่างท้วมหนา สูงกว่าผมเกือบ 1 ช่วงหัว หน้าปรุเล็กน้อย ใส่หมวกแก๊ป ผมยาวฟู ถักเดรดล็อคบางส่วน สวมเสื้อเชิร์ทลายสก็อตแขนยาว พับเลยข้อศอกขึ้นมา ชายเสื้อลอยปกคลุมกางเกงยีนส์หนา คะเนน้ำหนักเจ้าตัวน่าจะขึ้นชกรุ่นเดียวกับไมค์ ไทสันได้สบาย ลูกค้ายืนทะมึนกลางร้าน ทำให้ร้านหนังสือหน้ากว้าง 3.5 เมตร สูง 3 เมตรของผมเล็กลงถนัดใจ

"คุณมีหนังสืออ่านเล่นด้วยใช่ไหม นอกจากไกด์บุ๊ค" ลูกค้าร่างยักษ์ถาม

"ใช่ คุณอ่านภาษาอะไรล่ะ ผมมีเยอรมัน ฝรั่งเศส สวีเดน ฮอลแลนด์ ฟิแลนด์ ฮีบรู นอร์เวย์ อิตาลีกับสเปน บ้างนิดหน่อย และแน่นอน ภาษาอังกฤษ" ผมตอบจาระไน

"ผมอ่านเยอรมันได้นิดหน่อย แต่ผมขอเลือกภาษาอังกฤษดีกว่า" ลูกค้าตอบ

ผมยิ้มพร้อมชี้โซนหนังสือภาษาอังกฤษให้เลือก ทั้งเก่า-ใหม่ และที่แยกเป็นกลุ่มต่างๆ มีนวนิยาย / เรื่องจริง-ประวัติศาสตร๋ / คลาสสิค / แฟนตาซี / อื่นๆ พร้อมแยกกองหนังสือที่ยังจัดไม่เสร็จออกมาไว้ที่โต๊ะสำหรับคิดเงิน เสร็จแล้วผมก็เดินมานั่งหลังโต๊ะ ปล่อยพื้นที่ให้ลูกค้าได้เดินเลือกพลิกหนังสือดูตามสบาย

ขณะที่ผมตกแต่งหนังสือกองที่แยกออกมา สายตาก็เหลือบมองลูกค้าเป็นครั้งคราว ลูกค้าร่างยักษ์ค่อยๆพิจารณาดูชื่อหนังสือแต่ละปกแล้วก็วางกลับ ขยับหนังสือที่อยู่ตรงมุม สันปกถูกบังอออกเพื่อดูชื่อหนังสือ แล้วก็ขยับกลับอยู่เป็นนาน 2 นาน ผมนึกอยู่ในใจ "ท่าทางพี่แกจะหาหนังสือมวยปล้ำละมังเนี่ย"

จนกระทั่งในที่สุดลูกค้าก็เดินมาหาผมที่โต๊ะ

"คุณมีหนังสืออื่นอีกไหม" ลูกค้าถาม

"มีอยู่ตรงนี้อีก 2 ตั้ง ผมกำลังซ่อมแซมมุมหนังสืออยู่ คุณหาเรื่องอะไรล่ะ" ผมตอบ พร้อมชำเลืองมองดูสันปกหนังสือสำหรับเด็ก แล้วยิ้มในใจ "สงสัยจะฟาล์วแล้ว ลูกค้าคนนี้"

"Charlie and Chocolate factory" ลูกค้าถามแล้วยิ้ม ผมมองดูเหมือนยิ้มของ ฮัลค์ โฮแกน นักมวยปล้ำดังในอดีต

"ขอโทษที เรื่องอะไรนะ" ผมถามย้ำไม่แน่ใจ กระพริบตาปริบๆ

"Charlie and Chocolate factory" ลูกค้าตอบซ้ำมาอีกที

"ชาร์ลีกับโรงงานชอคโกแลต ของ โรอัลด์ ดาห์ล ใช่ไหม" ผมถามย้ำชื่อนักเขียนเพื่อความแน่ใจ

"ใช่ๆ ถูกแล้ว คุณมีหรือเปล่า" ลูกค้าร่างยักษ์พยักหน้า

ผมค้นดูในกองหนังสือ แล้วก็หยิบหนังสือปกอ่อนออกมา ยื่นให้ "คุณโชคดีมากเลย ผมมีอยู่ 1 เล่มพอดี เล่มนี้โอเคไหม"

ลูกค้าหยิบไปดูอย่างยินดี "ใช่เลย ผมซื้อเล่มนี้แหล่ะ" กล่าวพร้อมหยิบเงินชำระค่าหนังสือตามป้ายราคาที่แปะไว้ที่ปกหลัง

"คุณอ่านเองหรือ" ผมถาม หยิบหนังสือใส่ถุงพร้อมโปสการ์ดแถมให้ 1 ใบ รับเงินแล้วยิ้มในใจ

"ใช่ ผมอ่านเอง" ลูกค้ายิ้มแยกเขี้ยวตอบ

"ขอให้อ่านหนังสือให้สนุกนะครับ ขอบคุณมากครับ" ผมสัมผัสมือกับลูกค้า ก่อนเดินออกจากร้าน

หลังลูกค้าออกไป ผมนึกถึงรสชาติชอคโกแลตของวองก้า แล้วยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เด็กชายตัวเล็กในร่างยักษ์ก็คงรู้สึกเหมือนกัน


Create Date : 05 ตุลาคม 2553
Last Update : 5 ตุลาคม 2553 17:29:13 น. 3 comments
Counter : 1189 Pageviews.

 
มาทำเป็นหนังก็มีนะ


โดย: jejeeppe วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:21:45:36 น.  

 
เคยอ่านเล่มนี้นายมากแล้ว สนุกดี กำลังคิดว่าจะไปยืมมาอ่านอีกรอบหลังจากเห็นเล่มนี้ในห้องสมุด
:-)


โดย: canossa IP: 161.200.125.211 วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:12:12:54 น.  

 
อ่านเมื่อไหร่ก็สนุกครับ โรอัลด์ ดาห์ล - ของจริง


โดย: jettajan (jettajan ) วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:21:47:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.