Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
24 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน Out of sight

....... อยู่นอกสายตา ของเธอตั้งไกล

ฉันนั้นก็ทำได้ แค่มองจากตรงนี้

แต่ฉันยังรอซักวัน เธอหันมองผ่านทางนี้

แค่ซักวินาที เธอเห็นฉันคนนี้ในสายตา .......

(จากเสียงใสๆของ แคทลียา อิงลิช)

... สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ได้พบกันอีกกับเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือในข้าวสาร ร้านหนังสือเล็กๆร้านหนึ่งที่มีหนังสือไกด์บุ๊คภาษาต่างประเทศไว้ให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะโลนลีแพลนเน็ตทั้งใหม่และมือสอง นอกจากนี้ก็ยังมีแบรนด์อื่นๆอีกบ้าง ทั้งราฟท์ไกด์ อินไซด์ไกด์-ภาษาอังกฤษ รุทตาร์ทและเปติทฟุต-ภาษาฝรั่งเศส สเตฟานโรเซและดูมองต์-ภาษาเยอรมัน ตลอดจนอะไรก็ไม่รู้ แต่เป็นภาษาจีน ... (คือกำลังพยายามใส่ใจให้อ่านออกได้อยู่บ้างครับ แต่ดูเหมือนจะยังไม่มากพอ)

หนังสือไกด์นั้นขายคืนที่ร้านได้ครึ่งราคาครับหลังจากซื้อไปใช้แล้ว หรือถ้ามีเยอะๆ จะเอามาแลกไข่แลกข้าวที่ร้านก็ได้ครับ ถ้าไม่อยากได้หนังสือภาษาอังกฤษไปอ่านเล่นกัน นอกจากนั้นก็มีแผนที่ต่างประเทศบ้าง พอหาได้ เฟรสบุ๊คภาษาต่างประเทศบ้าง ไม่มากก็น้อย แต่บางทีลูกค้าฝรั่งมาหาอะไรที่เกินไปก็ไม่สามารถเหมือนกัน เช่นบางทีก็มาหาแผนที่โลก เอาแบบแผ่นใหญ่ๆแขวนผนัง ผมก็บอกว่า

"ยูรู้จักศึกษาภัณฑ์ไหม ห้างใหญ่ๆนะ ขายอุปกรณ์การเรียนเกือบทุกชนิดเลย ยูเดินไปสุดถนนข้าวสารนี่นะ แล้วเลี้ยวขวาออกไปจะเจอถนนใหญ่ประมาณชองเอลิเซร์ของฝรั่งเศส แล้วยูก็เลี้ยวซ้ายไปไม่ถึง 100 เมตร ยูก็จะเจอวิทยาศรมที่ขายอุปกรณ์เคมี สารเคมี ข้างๆนั้นแหละคือศึกษาภัณฑ์"

ฝรั่งหนุ่มคนหนึ่งทำเงินหาย เอกสารหาย เดินเซ็งมาบ่นเรื่องโทรศัพท์ทางไกลเรื่องแจ้งโน่นนี่ที่บ้านเกิดตอนดึก วันรุ่งขึ้นก็กลับมาใหม่พาเพื่อนมาพร้อมโทรศัพท์มือถือแบบมีฝาพับรุ่นเก่ามาถามว่าทำให้ใช้ได้ไหม ... ผมเช็คไปเช็คมาปรากฏว่ามันถูกล็อค ต้องใส่รหัส ... เจ้าตัวก็ไม่รู้รหัสได้แต่แบ๊ะๆ ถามมาว่ามีร้านไหนขายโทรศัพท์มือถือเก่าๆถูกๆไหม เอาแบบใกล้ๆด้วย

"ยูรู้จัก ไนท์มาร์เก็ต ไหม มืดๆนะ หลัง 2 ทุ่ม ยูเดินจากร้านนี่ไปทางขวานะ ข้ามไปฝั่งตรงข้ามตามโค้งไปทางซ้าย จะเห็นถนนหลายสายพาดไปมา ยูข้ามถนนไปนะแล้วก็จะเห็นแสงไฟเต็มไปหมดเลย ข้างคลองเล็กๆ น้ำดำสกปรก มีร้านขายของเป็นไนท์มาร์เก็ต ตลาดมืดคลองหลอด - แบบที่คนไทยเดินกัน มีของกิน ของใช้เต็มไปหมด แต่ประเด็นที่ยูควรจะต้องรู้ไว้ก็คือ ผมไม่แน่ใจว่าคนขายจะพูดภาษาอังกฤษได้หรือเปล่า แล้วก็ของที่ขายน่ะ มีที่มาจากไหน ถูกกฎหมายหรือเปล่า" 

พ่อหนุ่มถามกลับมาว่า "ทำไมตำรวจไม่ไปจับ"

ผมยิ้มๆถามกลับไปว่า "ใครจะไปรู้ล่ะ ใครเป็นโจทย์ ใครเป็นเจ้าทุกข์ รองเท้าหายคู่หนึ่ง ใครจะไปแจ้งตำรวจ ถ้าเป็นคุณที่รองเท้าหาย คุณจะไปแจ้งเหรอ"

พ่อหนุ่มเลยพยักหน้ายิ้มๆ แล้วก็เดินออกจากร้านไป

... ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น พ่อหนุ่มกลับมาพร้อมกับแผนที่ในมือบอกว่ามันไม่เห็นมีอยู่ในแผนที่เลย เขาหาไม่เจอ ผมเลยต้องเปิดกูเกิลแมพ พร้อมกับโชว์ "สตรีทวิว" ให้ดูว่ามันเป็นแผงขายของอยู่บนถนน ไม่ใช่อาคารมีหลังคาคุมแดดคุมฝนนะ พอเห็นภาพแล้วพ่อหนุ่มก็เริ่มพยักหน้าเข้าใจ แล้วบอกว่าจะลองไปใหม่อีกที

ตลาดมืดคลองหลอด (ผมเรียกเล่นๆว่าตลาดสามศาล) กินแดนยาวตั้งแต่ศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผมลากยาวหลังศาลฎีกาเลียบคลองไปจนถึงศาลหลักเมือง

สุดสัปดาห์ คนเยอะหน่อยก็จะมีร้านเพิ่มเติมมาบนทางเดินหน้าศาลฎีกา สนามหลวง ................... แต่ไม่มี "โป๊มั๊ยเพ่" เหมือนสมัยก่อน

บางทีหายากแต่หาได้ก็สร้างความประหลาดใจให้ทั้งตัวผมเองและลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหนุ่มใหญ่ที่เดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับเพื่อนเดินทางสาวชาวไทย 2 คนที่รออยู่ข้างนอก จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ หนุมใหญ่ชาวเดนส์ผู้นี้ลองสุ่มเข้ามาถามหาเฟรสบุ๊คแดงส์-ไทย ซึ่งพอดี๊พอดี ที่ผมมีเหลืออยู่ 1 ชุด ขายคู่กับแผ่นซีดีเรียน ไม่สามารถแยกได้เพราะถ้าลูกค้าซื้อเฉพาะหนังสือแล้วแผ่นซีดีที่เหลืออยู่จะขายใครล่ะ พี่แกเลยพยักหน้าแล้วจ่ายเงินสำหรับทั้งซีดีและหนังสือทันที ... ดูท่าทางอยากจะสปีคไทยกับ 2 สาวที่รออยู่หน้าร้านเต็มที ขี้เกียจเมื่อยมือ

ส่วนคู่ฮันนีมูนน่ารักๆชาวรัสเซียนอีกคู่ก็ดีอกดีใจกันใหญ่ ที่ได้แผนที่กรุงเทพในเวอร์ชันภาษารัสเซียติดมือไปเพื่อใช้เวลา 4 วันกับกรุงเทพให้คุ้ม แม้ราคาจะสูงกว่าเวอร์ชันภาษาอังกฤษเล็กน้อย แต่หลังจากที่ลองดูเวอร์ชันภาษาอังกฤษแล้วส่ายหน้า ... ดูไม่เข้าใจ ไม่อาววววว ดีกว่า

วันก่อนสาวสวยชาวอังกฤษเข้ามาขอชาร์จโทรศัพท์หน่อยนึง เธอบอกว่าหลงกับเพื่อน นัดไว้ที่ถนนข้าวสารนี่แหละ แต่พอดีแบตเตอรีของสมาร์ทโฟนเธอหมด จะขอต่อสายชาร์จคุยกับเพื่อนนิดนึง ... ผมชำเลืองมองสมาร์ทโฟนในมือเธอ พลิกดูด้านข้างนิดหนึ่ง แล้วก็ส่ายหน้าหยิบโทรศัพท์ของผมให้ดู ขั้วเสียบสายชาร์จของเธอกับของผมไม่เหมือนกัน ได้แต่ขอให้เธอลองหาเบอร์เพื่อนมาให้ได้ แล้วใช้โทรศัพท์ของผมโทรแทน เธอจำไม่ได้แต่ลองคุ้ยๆอยู่ในกระเป๋าพักหนึ่ง โชคดีไปที่เธอค้นเจอเบอร์โทรศัพท์ ก็เลยคุยบอกเพื่อนหาตำแหน่งนัดเจอได้

แต่ว่าประเภทที่เข้ามาถามหาเมมโมรีการ์ดของกล้องบ้าง ดึกๆเมากรึ่มเข้ามาถามซื้อเบียร์บ้างนี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

............................................................................

"สวัสดีครับ คุณมีหนังสือดำน้ำบ้างไหมครับ" ลูกค้าหนุ่มเข้ามาถามอย่างเดาสุ่ม

"พอมีอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจนะ คุณลองบอกเพิ่มเติมอีกหน่อยสิ" ผมพึมพำขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจ หยิบโลนลีแพลนเน็ตไดวิงไทยแลนด์จากชั้นซ้ายมือมาวางไว้บนโต๊ะให้ดู ส่วนสายตาสอดส่ายมองไปใต้ชั้นล่างสุดที่วางไว้ติดกับพื้นแถวๆกลางร้าน

"ที่ผมหาอยู่เป็นแมนนวลของสคูบ้าไดวิง ภาษาเยอรมันก็ยิ่งดีเลย" เสียงตอบมาอย่างไม่ศรัทธาเท่าไหร่ ท่าทางหมอคงจะวืดมาหลายร้าน

"อ้า นี่ไงเจอแล้ว" ผมคว้าหนังสือ 4-5 เล่มปึกนั้นขึ้นมา มันเป็นคู่มือดำน้ำลึกของ "PADI" สันหนังสือสีฟ้าน้ำทะเล ปกติคนที่เรียนคอร์สดำน้ำจะได้รับแจกประจำตัว ซึ่งส่วนใหญ่พอเลิกเรียนก็ไม่ได้ใช้ก็จะวางทิ้งไว้ ไม่มีใครพกติดกลับบ้านไปด้วยให้หนักโดยเฉพาะถ้าไม่ได้คิดดำน้ำจริงจังอะไรนัก

"ไหน ขอดูหน่อย" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหางเสียงตื่นเต้น พร้อมกับทำตาโต ... ผมเอาเศษผ้าเช็ดฝุ่นทีละเล่ม ยื่นให้ดูยิ้มๆ อย่างไม่ศรัทธานัก ... ราคาก็ไม่ได้แปะไว้ ใจก็นึกปรามาส "มันเป็นคู่มือ ... เหมือนกับคู่มือการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือคู่มือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ... ใครจะซื้อ"

"นี่ไง ผมเจอแล้ว เล่มนี้เป็นภาษาเยอรมันด้วย ผมเอาเล่มนี้แหละ ราคาเท่าไหร่นี่" ชายหนุ่มถามมา ขณะที่ผมกระพริบตาปริบๆ ถามไปเบาๆ

"จริงเหรอ คุณเอาเล่มนี้เหรอ"

ชายหนุ่มยิ้มกว้าง วางหนังสือลงบนโต๊ะ อีกมือหนึ่งล้วงกระเป๋าเงินมาถือไว้ "ใช่แล้ว ... ไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกนะ"

"มันไม่มีป้ายราคานี่นะ ... คุณให้เท่าไหร่ล่ะ" ผมพยักหน้าให้ยิ้มๆ ... ปฏิบัติการ ขายเอามันส์ เท่าไหร่ก็เท่านั้น วัดใจกันไปเลย

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว หยิบแบงก์ออกมากำหนึ่ง เห็นสีแดงๆแว๊บๆ ซ้อนกันอยู่หลายใบ "เท่านี้โอเคไหม"

"ได้เลย" ผมรับเงินมาใส่ลิ้นชัก มือความหาม้วนป้ายราคากระดาษกับปากกามาวางไว้บนโต๊ะ ถามย้อนไปด้วยความสงสัย "คุณสนใจอยากอ่านหาความรู้หรือ ต้องใช้จริงๆหรือแค่อยากอ่านเพื่อศึกษา"

"ผมเรียนดำน้ำอยู่ พอดีคู่มือมันหาย ผมไปลืมไว้ที่ไหนก็ไม่รู้" ชายหนุ่มบอกก่อนเซย์กู๊ดบาย แล้วหันหลังรีบเดินออกไป

... ผมหาถุงพลาสติกใสและสก็อตเทปใสมาวางไว้รวมกับ ป้ายราคา ปากกา

... และเริ่มลงมือทำความสะอาดหนังสือที่เหลือปึกนั้นอีกครั้ง สายตาสอดส่ายมองหาที่เหมาะๆ บนชั้นสำหรับรวบรวมหนังสือเกี่ยวกับดำน้ำ พร้อมป้ายติดไว้เป็นเป้าหมายใหม่

... และ ... ไม่ปรามาสอีก ...

โซน "Diving" ไทยแลนด์ ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ... แถม "Rock Climbing Thailand" ให้ด้วย

เจตตจัน

085-8035412

087-0719858

jettajan227@yahoo.com

หมายเหตุ

สัปดาห์นี้มีภาพโปสการ์ดสวยๆมาฝาก ... "Paper Story" เป็นหนึ่งในโปสการ์ดที่พบบ่อยๆจากลูกค้าที่มาฝากส่งที่ร้าน ด้านหลังพิมพ์ตัวหนังสือไว้เป็นข้อมูล เช่น "paperstory@asia.com" / "SS-027" ... น่าจะเป็นรหัสประจำโปสการ์ดแต่ละแบบ / 02-3817057 ... น่าจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์

โปสการ์ดที่ลูกค้ามาฝากส่ง 6 ใบ 6 แบบ มี Floating market / Wat phra kaew / Bangkok @ night / Koh Samui / Phuket / Thai art

ใบที่เป็น "Bangkok @ night" มีภาพที่เป็นที่เที่ยวในกรุงเทพสวยๆยามค่ำคืนหลายอย่าง เช่น Songkran festival / Khaosan Road / China town / Phra sumen fort / ภาพสะพานพระราม 8 บ้าง ภูเขาทองบ้าง




Create Date : 24 พฤษภาคม 2556
Last Update : 25 พฤษภาคม 2556 20:51:28 น. 0 comments
Counter : 2394 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.