Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ลายแทงกับการเดินทาง

สวัสดีครับ คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ กับการย่างเข้าสู่ฤดูฝนที่พัดพาความร้อนระอุอ้าวในอากาศออกไป และทดแทนด้วยความฉ่ำชื้นของละอองฝนในบรรยากาศรอบตัว

ร้านหนังสือยังคงเปิดให้บริการอยู่ครับทั้งหนังสือใหม่และหนังสือมือสอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คภาษาอังกฤษอย่างโลนลีแพลนเน็ตเป็นเพื่อนเดินทางทั้งการเตรียมตัวล่วงหน้าระยะยาว หรือแม้แต่ระยะสั้น ประเภทที่เรียกว่า ด่วนพิเศษ

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เดือนก่อน ตอนดึกๆในวันสุดสัปดาห์วันหนึ่ง วันซึ่งไม่มีลูกค้าเข้าร้านมาดูหนังสือเป็นตัวเป็นตน เป็นชิ้นเป็นอัน หญิงสาวผิวแทน ตาแขกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในร้านพร้อมกับถามหาไกด์บุ๊คอินเดีย ตอนเที่ยงคืนกว่า

"คุณมีไกด์บุ๊คอินเดียไหม" เสียงสวยนุ่มถามมา

"มีสิ ทั้งโลนลีแพลนเน็ตปกล่าสุด ใหม่และใช้แล้ว รวมทั้งราฟไกด์ใหม่ ปกล่าสุดและปกเก่า" ผมสาธยายพร้อมผายมือไปทางชั้นหนังสือไกด์บุ๊คติดกำแพงด้านซ้าย นับจากด้านบน ชั้นที่ 2 เป็นไกด์บุ๊คใหม่ ส่วนชั้นที่ 3 เป็นไกด์บุ๊คใช้แล้ว ภาษาอังกฤษทั้งคู่

"หรือถ้าคุณต้องการภาษาเยอรมัน ผมก็พอมีอยู่" ผมเสริม กะเผด็จศึกเต็มที่ พลางชี้มือไปที่ชั้นหนังสือติดกำแพงกระจกหน้าร้าน ที่โชว์สันหนังสือเรียงรายเป็นแถว

เธอยิ้มหวานก่อนตอบ "ภาษาอังกฤษดีกว่า" พลางหยิบออกมาพิจารณารายละเอียดหลังปกทีละเล่ม จนสุดท้ายเลือกได้ในมือ 1 เล่ม มันคือราฟไกด์ปกเก่า พร้อมกับต่อรองจนได้ราคาที่พอใจ

 หน้าปกราฟไกด์อินเดีย ปกเก่าที่ขายไปวันนั้น ปี 2008

"คุณจะไปเที่ยวที่นั่นนานไหม" ผมถามพลางหย่อนหนังสือลงถุงพลาสติก เสียบที่คั่นหนังสือลงไปด้วย 1 อัน ยื่นส่งให้

"ประมาณ 3-4 เดือน" เธอรับเงินทอนพลางหยิบเฉพาะหนังสือกับที่คั่นถือไว้ในมือ แล้วยื่นถุงพลาสติกกลับมา พร้อมๆกับค่อยๆแกะพลาสติกที่ห่อไว้ออก "เดี๋ยวฉันต้องใช้แล้ว"

ผมรับถุงพลาสติกและพลาสติกห่อกลับมาถือไว้ในมือ พร้อมเลิกคิ้วถาม "คุณบินเมื่อไหร่"

"อีก 2 ชั่วโมงนี่แล้ว" เธอตอบพร้อมหัวเราะสดใส

"คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า" ผมถามเสียงสูง ตาโต หน้าผากย่นเป็นริ้วแล้วหัวเราะเสียงดัง ความง่วงของยามดึกกระจายสลายไป "คุณจะไปอินเดีย 3 เดือนโดยยังไม่ได้เตรียมตัวศึกษาข้อมูลเลย"

"ช่ายแล้ว" เธอกล่าวยานคาง "ฉันเดินหาหนังสือมา 2-3 ชั่วโมงแล้ว ก็มาเจอร้านคุณนี่แหละ ขอบคุณมากนะที่ปิดร้านดึก"

"เธอแน่มาก" ผมคิดในใจพลางอวยพรให้เธอเดินทางโดยสวัสดิภาพ เธอกล่าวขอบคุณ ก่อนออกจากร้านไป หลังจากนั้นผมก็ปิดร้าน

ใช่แล้ว เสน่ห์อย่างหนึ่งของการปิดร้านดึก ก็คือบรรยากาศความเงียบสงบของร้านที่เปิดอยู่ การเป็นที่พึ่งสุดท้ายสำหรับนักเดินทาง คำขอบคุณของลูกค้าจากการได้พบสิ่งที่ต้องการในเวลาที่เหมาะสมที่สุด ณ เวลานั้น ... ถูกแล้ว ลูกค้าที่วางแผนการเดินทางรัดกุมดีๆ ย่อมไม่ค่อยเคยเจออะไรที่ไม่คาดฝันบ่อยนัก แต่โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบเสมอไปหรอก คนที่ตั้งใจที่จะไม่วางแผนก็มี หรือแม้แต่คนที่คิดเยอะ รอบคอบ แต่พลาดก็มีอยู่เสมอๆ ... ลูกค้าสาวสวยเธออาจจะเป็นแบ็คแพ็คเกอร์มือใหม่ก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะมองหาอยู่หลายวันแล้ว แต่อาจจะมีอย่างอื่นที่ต้องทำจนลืมๆไป มานึกได้อีกทีก็จวนตัว ... จวนใจ

แล้วใครเล่าจะไปคาดคิดว่าจะมีร้านหนังสือแปลกๆร้านไหน ที่เปิดรอลูกค้าจนดึกดื่นเที่ยงคืน ประมาณว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายของสาวๆ ประมาณนั้น


หน้าร้านหนังสือ (เพื่อนกันกับร้านอาหารอินเดีย Chilli Chilli) ที่เปิดไฟสว่างจนดึกจนดื่น ไม่หลับไม่นอน อย่าง "มีของ" ประเภท "ขายเอามันส์ ไม่ได้ขายเอาเงิน" ... เอ๊ะ หรือจะทำเป็นร้านหนังสือที่เปิด 24 ชั่วโมงดี ให้มัน All day All night กันไปเลย ต้องใช้ต้นทุนชีวิตสักเท่าไหร่กันหนอ ถึงจะเป็นจริง แล้วมันจะอยู่ได้สักกี่น้ำกันนะ ... อยากรู้

พูดถึงการเดินทาง สมัยก่อนก็ต้องวารสารท่องเที่ยวสุดฮิตเลยครับ อสท. บ้าง TRIP บ้าง หนังสือท่องเที่ยวที่ต่างๆ โบรชัวร์เป็นตั้งๆ สำหรับเตรียมข้อมูล แต่สมัยนี้มีตัวช่วยที่สะดวกสบายกว่าเยอะครับทั้งหนังสือท่องเที่ยวประเภทแบ็คแพ็คเยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะต่างประเทศ เจาะไปเป็นเมือง เป็นประเทศ เป็นทวีป เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ... สบาย หรือนอกจากนี้ก็หาเอาจากกูเกิลแม็พ กำหนดจุดได้ หาระยะทางได้ เปลี่ยนเส้นทาง ถึงขั้นบอกเป็นเวลาโดยประมาณก็ได้ ล่าสุดนี่ผมได้ใช้ประโยชน์กูเกิลแมพชัดเจนมากเลยครับ คือว่าหลังจากปีใหม่มานี่ ถนนวงแหวนตะวันตก-กาญจนาภิเษก เกิดมีวาระต้องซ่อมแซมใหญ่หลังจากถนนเปื่อยเพราะน้ำท่วม ทำให้ต้องซ่อมยาวจนถึงกันยายน (พอดีน้ำท่วมใหม่ ได้ลองคุณภาพพอดี) รถก็จะติดเป็นช่วงๆ ตอนเย็นผมเลยต้องเปลี่ยนเส้นทางประจำ ไปวิ่งอีกเส้นทางหนึ่งซึ่งไม่เคยวิ่ง ก็ลองใช้กูเกิลแมพลากเส้นใหม่ ... พอลากเสร็จคำนวนเส้นทางออกมา ปรากฏว่าต่างกันแค่ 3 กิโลเมตร แถมประหยัดเวลารถติดช่วงเย็นไปได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นคุณูปการของเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวที่สุดในชีวิตทีเดียว

ก่อนนี้ผมเคยเล่าถึงแผนที่ลายเส้นวาดมือของคุณแชนด์เลอร์ไปแล้ว จำได้ว่ามีอีกเว็บไซต์หนึ่งที่ใช้แผนที่วาดมือเหมือนกัน เห็นว่าสวยน่ารักดี เลยเก็บมาฝากกันครับ (ตัดมาบางส่วนที่เขาเปิดให้ดูฟรี ฉบับเต็มถ้าจำไม่ผิดต้องเสียเงินครับ)

แผนที่แรกนี่ลายเส้นออกแนวการ์ตูนน่ารัก เป็นเกาะรัตนโกสินทร์ครับ ... เขาบอกว่าอย่าพลาดการลองนั่งตุ๊กๆ / แวะชมมวยไทย / ลองล่องเรือดินเนอร์ ชิมผลไม้รถเข็น และทานอาหารตามสั่งข้างถนน เดินชอปปิงก็อย่าลืมทาซันบล็อคด้วย

แผนที่นี้เป็นไฮไลท์เกาะรัตนโกสินทร์เหมือนกัน เช่น ด้านซ้ายเป็นภาพเรือพายของแม่ค้าในตลาดน้ำ มีแม่น้ำเจ้าพระยา ตลาดดอกไม้-น่าจะเป็นปากคลองตลาดครับ แล้วก็เป็นหอนาฬิกาสวนจตุจักร พระนอนวัดโพธิ์ วัดพระแก้ว รถไฟฟ้า ตุ๊กๆ พิพธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน

แผนที่นี้เป็นเกาะรัตนโกสินทร์เหมือนกันครับ แต่พยายามระบุภาพและตำแหน่งสถานที่ท่องเที่ยวชัดเจน เช่น สนามหลวง วัดพระแก้ว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภูเขาทอง เสาชิงช้า สนามมวย ถนนข้าวสาร-เป็นรูปหัวหุ่นถักผมเดร็ดล็อค

แผนที่นี้ออกเป็นลายไทยโบราณ มีหนุมานแทนวังหลัง วัดพระแก้ว วัดอรุณ ธรรมศาสตร์ ว่าวงู-ว่าวจุฬาที่สนามหลวง นวดแผนโบราณที่วัดโพธิ์ ผัดไทยที่ถนนข้าวสาร สนามมวยราชดำเนิน เยาวราช และขนมหวานแทนวังบูรพา

แผนที่ตลาดนัดสวนจตุจักรครับ เขาแนะนำว่าเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในไทยแลนด์ ไฮไลท์ที่ หอนาฬิกา ขนมรวมมิตรน้ำแข็งใส เครื่องเซรามิค เสื้อยืด ไอติมกะทิในลูกมะพร้าว พิพิธภัณฑ์เด็ก และ หมอดูโรโบคอป (ไม่รู้จักแฮะ)

แผนที่นี้เป็นเกาะสีชังครับ มีไฮไลท์ให้ไปกางเต๊นท์ตกปลาที่เขาขาด วัดอัษฎางค์นิมิตร ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ พระจุฑาธุชราชฐาน

มีแผนที่ภูมิภาคอยู่อันหนึ่งที่เป็นแผนที่เส้นทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มักจะเดินทางเข้ามาใช้เวลาแถบนี้ มันคือเส้นทาง "เวียตนาม กัมพูชา ลาวและภาคเหนือของไทย" หรือกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง

ทริปท่องเที่ยวหลักประจำภูมิภาคที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง

จะเห็นว่ากาญจนบุรีนั้นปรากฏตัวบนทริประดับโลกอันเนื่องมาจาก สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่ทหารญี่ปุ่นวางแผนไว้ในการลำเลียงกำลังพลเข้ายึดประเทศพม่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีตลาดน้ำและวัดถ้ำเสือเป็นตัวชูโรงเพิ่มเข้ามาในตอนหลัง (ฝรั่งนักท่องเที่ยวนั้นอยากมาเห็นคนเลี้ยงเสือกอดเสือ หรือพรานเอาหัวล่อปากจระเข้ เป็นเรื่องหวาดเสียว แปลก และมหัศจรรย์ที่น่ามาเห็นด้วยตาตัวเอง)

ในกรณีที่นักท่องเที่ยวมาตั้งต้นที่ประเทศไทยนั้น กรุงเทพมักจะเป็นจุดเริ่มต้น จะออกซ้ายไปเขมรก่อน หรือขึ้นบนไปหนองคายก่อนทะลุเข้าเวียงจันทร์ก็ได้ ส่วนที่เพิ่มเติมจากทริปนี้ก็คือ เส้นทางจากเวียนจันทร์-เชียงใหม่ หรือต่อไปถึง "ปาย" หลังจากการก่อกำเนิดขึ้นอย่างโด่งดังในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา

แผนที่ชุดกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงนี้ ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นนะครับที่ใช้กัน ลูกค้าคนไทยก็เคยมี ผมจำได้เป็นลุงสูงวัยสัก 50 ปลายๆคนหนึ่งเข้ามาถามหา "แผนที่ของทางด่วนในกรุงเทพ" กับ "แผนที่ของรอยต่อไทย-ลาว" ประมาณนั้น ซึ่งผมก็หยิบแผนที่ชุดนี้ขึ้นมาให้ดู แกเห็นแล้วก็ถูกใจใช่เลย ... ถามไปถามมาก็ประมาณว่า แกทำงานคุมคนงานก่อสร้างอยู่แถวชายแดนไทย-ลาว และรวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างในประเทศลาวด้วย ก็เลยอยากได้ติดไว้เพื่อเวลาเดินทางจะได้สะดวก นอกจากนั้นบางทีแกจำเป็นต้องเข้ามาติดต่อธุระในกรุงเทพ ก็เลยหาแผนที่ทางด่วนเก็บไว้เพราะเคยมาหลายรอบแล้ว มาทุกทีก็หลงทุกที

***************************************************************

เย็นวันนั้น คู่สามีภรรยาสูงวัยคู่หนึ่งให้เกียรติแวะเข้ามาในร้านหนังสือเล็กๆของเรา ทั้งสองทักทายอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับถามหาแผนที่กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงสักแผ่นประกอบการเดินทาง จุดหมายแรกหลังออกจากกรุงเทพคือ "โฮจิมินห์" หรือ "ไซ่ง่อน" เมืองหลวงเก่าของเวียตนามใต้ก่อนถูกตีแตกโดยพลพรรคเวียตกง ลูกหลานของลุงโฮฯ

กูเกิลแมพคำนวณให้เสร็จสรรพ พร้อมรายละเอียดขั้นตอนการขับรถทั้งหมด 84 ขั้นตอน มุ่งตะวันออกของประเทศไทย ทะลุผ่านกัมพูชาเข้าสู่เวียตนามใต้ เส้นทาง NH6 ระยะทาง 910 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนตร์ 13 ชั่วโมง 51 นาที

เส้นทางที่แนะนำ

  1. 910 กม., 13 ชั่วโมง 51 นาที
    NH 6
  2. 1,102 กม., 16 ชั่วโมง 9 นาที
    National Highway 6 และ NH 6
  3. 1,124 กม., 17 ชั่วโมง 43 นาที
    เส้นทาง 24 และ NH 6
เส้นทางการขับรถไปยัง นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เส้นทางนี้มีการเก็บค่าผ่านทาง
เส้นทางนี้ข้ามผ่านประเทศกัมพูชา

มันยอดเยี่ยมมากใช่ไหมครับ กูเกิลแมพเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ แถมมีออพชั่นให้เลือกด้วยนะครับว่าจะเดินทางโดย รถยนตร์ ขนส่งสาธารณะ หรือว่า เดินเท้า ........ แต่ทั้งสองท่านบอกว่าเลือกที่จ "ขี่จักรยานไปครับ

ทั้งสองบอกว่าได้เดินทางใช้ชีวิตด้วยกัน มีความสุขดี อายุขนาดนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว ผมอวยพรขอให้ทั้งสองท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพก่อนออกจากร้านไป และผมอวยพรในใจว่า "ขอให้พระเจ้าอยู่เคียงข้างท่าน และถ้าไม่ได้พบกันอีกก็ขอให้โชคดี"


ภาพ 2 สามีภรรยาผู้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข กับความปรารถนาที่จะเดินทางโดยจักรยานจากกรุงเทพสู่โฮจิมินห์

********************

ในค่ำคืนของโลว์ซีซันที่ไม่ค่อยจะมีลูกค้าเท่าใดนัก เสียงเพลงแผ่วๆ ลอยมากับละอองฝนแรก ไกลแสนไกล

..........

บนท้่องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้

เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง

อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น

สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง

อย่าไปยึด อย่าไปถือ อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ

ตลอดชีวิต ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร

จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน ก็อยู่ที่จะมอง

----- วัชราวลี ... "ร่มสีเทา" -----




Create Date : 24 มิถุนายน 2555
Last Update : 29 มิถุนายน 2555 23:37:46 น. 0 comments
Counter : 14437 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.