สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ ยังมีลมหายใจ กินได้ นอนหลับ และครบ 32 พอที่จะสามารถเขียนเรื่องราวเรื่อยเปื่อยให้อ่านฆ่าเวลากันอีก จากร้านหนังสือในข้าวสาร ร้านเล็กๆชั้นล่างของตึกแถว-อาคารพาณิชย์ริมถนน ติดกับประตูวัดชนะสงครามด้านที่เป็นทางออกรถยนตร์ โดยห้องแรกริมสุดจะเป็นร้านอาหารอินเดีย "ชิลลี ชิลลี" ซึ่งเปลี่ยนมาจากร้านตัดสูทหลายปีก่อน ถัดมาห้องที่สองจะเป็นร้าน "เกียรติ" ร้านรองเท้าหนังแฮนด์เมดที่อยู่ยงคงกระพันมากว่าครึ่งศตวรรษ ใครมีรสนิยมชมชอบรองเท้าหนังแฮนด์เมดสวยๆ ไม่เหมือนใคร ก็ขอเชิญมาแวะชมได้ครับ ผมเห็นในตู้โชว์หน้าร้านมีตั้งแต่รองเท้าแตะหนังแท้ รองเท้าคัทชูส์หนังงู หนังจระเข้ ตลอดจนบู้ทคาวบอยสูงถึงเข่า

รองเท้าบู้ทที่เห็นกันบ่อยๆ ในหนังคาวบอยจากโลกตะวันตก

ร้าน "เกียรติ" ร้านรองเท้าหนังแฮนด์เมดข้างบ้านที่อยู่ยงคงกระพันมาร่วมครึ่งศตวรรษ

รองเท้าบู้ทหนังคาวบอยทรงสูง ในตู้โชว์หน้าร้าน เป็น "ของดี" ที่หาชมไม่ได้ง่ายๆนัก

หนึ่งใน "ตัวโชว์" ที่ไม่ใช่จะหาดูคนใส่ได้ง่ายๆในเมืองไทย ... เป็นแม่เหล็กชั้นดีสำหรับดึงดูดลูกค้าต่างชาติขาประจำ ผู้นิยมชมชอบรองเท้าหนังแฮนด์เมดสวยๆ ให้แวะเวียนกลับมาที่ถนนข้าวสาร

ถัดมาห้องที่สามก็เป็นร้านหนังสือเล็กๆของบล็อกเรื่องเล่านี้เองครับ ... ร้านหนังสือยังคงเปิดอยู่ เพื่อให้บริการมิตรรักนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คทั้งไทย-เทศ ที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊คมือหนึ่งและมือสอง ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ต อินไซด์ไกด์ ดีเค หรือเฟรสบุ๊คภาษาแปลกๆก็พอมีให้ได้เลือกชมกัน ไม่มากก็น้อย ... ล่าสุดนี่ผมเพิ่งได้โลนลีแพลนเน็ตอลาสก้ามือสองเข้ามา แต่เสียดายที่ไม่ทันลูกค้าสาวคนหนึ่งซึ่งมาถามหาเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ตรงกันข้ามกับอีกหนึ่งหนุ่มที่เข้ามาตามหา เกมส์ออฟโทรน เล่ม 4 ขณะที่ผมเพิ่งแลกได้เล่ม 1 เข้ามาอีกเล่มวานซืน ... ชีวิตก็เป็นอย่างนี้เอง อะไรๆมักจะคลาดกันเสมอ ไม่มากไป ก็น้อยไป เป็นธรรมดา

จำได้ว่าวันก่อน คุณลุงลูกค้าเก่าแก่คนหนึ่งเข้ามาซื้อโลนลีแพลนเน็ตเม็กซิโกมือสอง ปี 2006 ไป เสื้อเชิ๊ตแขนยาวติดกระดุมกับกางเกงยีนส์ สวมหมวก ยังเหมือนเดิมกับที่เคยเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว

"Hello, see you again.  Welcome back to Thailand." ผมทักไปทันที เพราะจำหน้าและบุคลิกได้ ผอม ไม่สูง คล้ายอดีตนายกชวน แต่มีหนวดเคราสั้นๆสีขาวประดับหน้าประปราย จำได้ว่าปีก่อนที่มา แกเดินเข้าออกร้านอยู่หลายครั้ง หลายวันเหมือนกัน

"Hi, You remember me?" ลูกค้าถามแล้วยิ้มกว้าง

"Yes, of course. Why not. Which one do you want, this time?" ... แหงสิ ทำไมจะจำไม่ได้ คราวนี้มองหาเล่มไหนอยู่ล่ะ ผมยิ้มแล้วตอบไป

"Do you have lonely plane Mexico?" ลูกค้าคุณลุงถามมา

"Yes, but second hand and old edition 2006.  Anyway I offer special price for you, my old friend." มีสิแต่เป็นมือสองนะ ปี 2006 ผมลดราคาให้เป็นพิเศษสำหรับคุณ ลูกค้าเก่า เพื่อนเก่า ... ผมพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นไกด์บุ๊คภาษาอังกฤษมือสอง ยื่นให้

คุณลุงขอแกะห่อพลาสติก พลิกดูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วจ่ายเงินค่าหนังสือ ในขณะที่ผมหยิบหนังสือใส่ลงในถุงยื่นให้

"Thank you, bye.  See you next time." ลูกค้าหันมาโบกมือให้จากหน้าร้าน

"Have a nice trip and happy new year." ผมอวยพรให้แกเดินทางโดยสวัสดิภาพก่อนออกจากร้านไป

ลูกค้าเก่ารุ่นลุงจากปีก่อน ที่มาซื้อโลนลีแพลนเน็ตเม็กซิโก ปี 2006 ไป ... ลักษณะเด่นคือการแต่งกายด้วยเสื้อเชิ๊ตแขนยาวติดกระดุมถึงข้อมือ สวมกางเกงยีนส์และหมวกปีก แตกต่างจากลูกค้าแบ็คแพ็คเกอร์ทั่วไป ที่เห็นกันเกลื่อนกับเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ... จะมอมไปไหนกันก็ไม่รู้

พูดถึงคาวบอยขึ้นมาทำให้นึกถึงหนังฝรั่ง "7 สิงห์แดนเสือ" (Magnificent 7) หนังคาวบอยขึ้นหิ้งจากปี 1960 ที่ดูเมื่อไรก็สนุกเมื่อนั้น โดยเฉพาะ 3 ตัวเอก ยูล บรินเนอร์ / สตีฟ แมคควีน และ เจมส์ โคเบิร์น ที่ผมชอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะท่าเดินของบรินเนอร์ ที่ก้าวช้าๆเป็นจังหวะสอดคล้องกับแขนที่แกว่งนิดๆ และลีลา-ฝีมือมีดจากร่างสูงโย่งของโคเบิร์น ... และจะเป็นการไม่ให้เกียรติกันถ้าไม่ได้พูดถึงต้นฉบับ "7 เซียนซามูไร" (7 Samurai) ของอากิระ คุโรซาวา ที่โด่งดังตั้งแต่ ปี 1954 และกลายเป็นหนึ่งในหนังอมตะที่ไม่ควรพลาด สำหรับนักดูหนังมือใหม่ทุกคน

นอกจากนั้นก็มีหนังคาวบอยอีกหลายเรื่องที่ผมเคยดูและแว่บๆ นึกขึ้นได้อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหลายเรื่องของ คลิ้น อีสต์วู้ด / ไวแอท / ทูมบ์สโตน ตลอดจนคาวบอยสมัยใหม่อย่างโบรคแบ็คเมาเทน หรือแม้กระทั่งคาวบอยกับเอเลียน ที่เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเล็กๆของเจมส์ บอนด์คนล่าสุด แต่จำได้ว่าเมื่อก่อนชอบมากที่สุดอยู่เรื่องเดียวคือ "Young guns" แก๊งค์คาวบอยนรกแตก ทั้ง คีเฟอร์ ซุทเทอร์แลนด์ - ชาร์ลี ชีน - ลู ไดมอนด์ ฟิลิป ที่นำโดย เอมิลิโอ เอซเตเวซ หัวหน้าแก๊งค์ "Billy the kid" โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่ฝ่าวงล้อมของกองทหารหนีออกไปได้ไกลลิบแล้ว เดอะคิด ยังอุตส่าห์หันม้ากลับมายิงแสกหน้าศัตรูตัวฉกาจก่อนหนีรอดไปได้ ... ผมว่า เอซเตเวซ เล่นได้มันส์มาก ไม่ได้กลัวเกรงกับความตายจากการโดนตามล่าอยู่ตลอดเวลาเลย ... ว่าแล้วต้องลองไปค้นวิดีโอในลังมาเปิดดูอีกสักรอบดีกว่า ชักจะคิดถึงตะหงิด ตะหงิด

"Billy the kid" กับแก๊งค์คาวบอยนรกแตก นำโดย Emilio Estevez

สำหรับนักอ่านที่สนใจในประวัติศาสตร์สงครามระหว่างอินเดียนแดงและคนขาวผู้บุกเบิกโลกใหม่บนแผ่นดินอเมริกา ขออนุญาตแนะนำว่า หนังสือเล่มนี้ควรไปหาอ่านกันครับ "ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี"

"Bury my heart at wounded knee" โดย "ไพรัช แสนสวัสดิ์" ผู้แปล

จะว่าไปแล้ว พูดถึงอะไรที่มันเป็นหนังแนวผู้ชายๆ ประมาณนี้ก็ต้องไม่ลืมชุดเก่าแก่ร่วม 20 ปีก่อน "Lethal Weapon" ของเมล กิ๊บสันที่บู๊ระห่ำ ส่วนถ้าเป็นสมัยใหม่นี่ก็ต้องเป็น "The Fast and The Furious" ของพี่บึ้กวิน ดีเซล กับ พอล วอคเกอร์ ที่ซิ่งกันสะบั้นหั่นแหลก โดยเฉพาะบรรยากาศของแหล่งสุมหัวของเหล่าขาซิ่งที่เอารถมาประลองความเร็วกัน อันเป็น "Home sweet home - วิมานของเรา" สำหรับทั้ง Dominic Toretto และ Brian O'Conner

กลับเข้ามาในร้านหนังสือกัน ลูกค้าฝรั่งเองก็มีมาถามเหมือนกันครับกับกีฬาผู้ชายๆของคนไทยเรา ก็เกี่ยวกับมวยไทยนี่แหละครับ เช่น

"ยูรู้ไหม ค่ายมวยไปทางไหนนี่" ... อันนี้ก็แน่นอน ค่าย ส.วรพินทร์ ในตรอกกษาปณ์ ออกจากร้านเดินไปทางด้านขวา เลยเรนโบว์ เลยลักกี้เฮ้าส์ คุณจะเห็นซอยเล็กๆ ทางขวามือ เดินเข้าไปเลย ไม่ถึง 50 เมตร ก็เจอแล้ว ... คำถามนี้ไม่เฉพาะฝรั่งผู้ชายบ้าพลังที่เข้ามาถามนะครับ บางทีก็ฝรั่งผู้หญิงนี่แหล่ะที่มาถาม ตอนแรกผมก็แปลกใจเพราะส่วนใหญ่นักมวยไทยมีแต่เพศชาย ไม่ค่อยมีเพศหญิง แต่ฝรั่งจะไม่คิดเหมือนเรา เขามองว่ามันคือการออกกำลังกายเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง กับอีกอย่างหนึ่งคือมองว่าเป็นศิลปะการป้องกันตัว ลูกค้าสาวคนหนึ่งเคยแวะเข้ามาทุกวัน หลังจากไปซ้อมมวยไทยในค่ายแถวนี้แหละ

"คุณรู้ไหมว่า สนามมวยอยู่ไหน" ... กรณีนี้ผมก็จะถามหาแผนที่กรุงเทพมากางให้ดู สนามมวยราชดำเนินบ้าง สนามมวยลุมพินีบ้าง ถ้าไม่มีแผนที่ติดตัวมา บางทีผมก็จะเปิดกูเกิลแมพให้ดู พอเห็นภาพ รู้เส้นทาง ระยะทาง ไกลใกล้

"คุณมีหนังสือมวยบ้างหรือเปล่า" ... ผมก็จะหยิบให้ดู ปกติจะมีติดร้านอยู่ 2 ปก เนื้อหา 2 ภาษา เป็นขนาดพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มหนึ่ง กับเล่มใหญ่ประกอบภาพสีอีกเล่มหนึ่ง แต่เล่มใหญ่นี่ตัวแสดงในภาพประกอบดันเป็นฝรั่งซะงั้น

"วันนี้ ไอจะไปดูมวยได้ไหม" ... โอ้ พระเจ้า ตรูต้องเช็ครอบและวันเวลาแข่งมวยให้ด้วยหรือเนี่ย นี่มันร้านหนังสือนะโว้ย มันจะเกินไปแล้ว ... ผมตะโกนเงียบกริบอยู่ในใจ ขณะที่ตอบไปว่า "ซอรี่นะ ไอไม่เคยไปดู ก็ไม่รู้เหมือนกัน"

คำถามเรื่องมวยอีกคำถามหนึ่งที่จำได้ไม่ลืมเลย ขณะผมนั่งอยู่ในร้านตบแต่งไกด์บุ๊คเป็นตั้งที่วางอยู่บนโต๊ะ ภาพที่ปรากฏในสายตาของผมคือ สาวไทยคนหนึ่งเดินเข้ามา ถามว่า ... "พี่มีหนังสือมวยไชยาไหมคะ" !!! ... ทำเอาผมอึ้งไปเลย 

เจตตจัน

085-8035412

087-0719858

jettajan227@yahoo.com

Create Date : 26 มกราคม 2556
Last Update : 26 มกราคม 2556 16:02:31 น.		1 comments
Counter : 9592 Pageviews.
Share Tweet