Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
22 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
นอกร้านหนังสือ ... ตอน ปิดเทอมใหญ่ฯ ภาคพิเศษ สงกรานต์ ฮ่า ฮ่า

สวัสดีครับ คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ... ยินดีที่มีโอกาสมาเขียนบล็อกอีกครั้ง โดยที่ยังมีอวัยวะครบ 32 ประการ กินได้ นอนหลับ ปวดเมื่อยบ้าง เป็นหวัดบ้าง ตามสมควร

หายไปนานก็ยังรู้สึกงงกับตัวเองเหมือนกัน ว่าเป็นอะไรทำไมไม่แวะเข้ามาเขียน ... มานั่งคิดๆดู ก็น่าจะเป็นเพราะเหตุแรกคือ มีกิจกรรมเข้ามาในชีวิตเยอะเลยเหนื่อยและเหตุที่สองคือมีอย่างอื่นมาดึงความสนใจไป ทำให้กินเวลาที่ใช้เขียนเรื่องลงบล็อกหายไปจนหมด

จริงๆแล้ว ประมาณต้นมีนาคมนั้นมีขึ้นต้นเรื่องไว้แล้ว แต่ว่าไม่จบครับ ... เพราะ

1) ติดธุระกับสุสานในวันเช็งเม้งตอนต้นเดือนมีนาคม
2) หลังจากนั้นก็ติดธุระกับโรงเรียนไปจนปลายเดือนมีนาคม
3) ต่อด้วยธุระกับวัดป่า แถวบางบัวทอง ลากยาวไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน
4) พร้อมกันกับธุระมหกรรมสงกรานต์ ถนนข้าวสาร ควบคู่กันไป และ
5) ธุระไปต่างจังหวัดเพื่อใช้หนี้ชีวิต 3 - 4 ครั้งติดๆกันภายในไม่กี่สัปดาห์
6) ดูปฏิทินอีกทีปลายพฤษภาคม ก็มีธุระกับโรงเรียนอีกแล้ว

จนผมคิดแว้บๆอยู่ว่า จะเปิดบล็อกใหม่สัก 2-3 บล็อกดีไหม ให้ชื่อว่า "เรื่องเล่าจากคุณพ่อลูกสอง" - เล่าเรื่องชีวิตครอบครัวสมัยใหม่ ... "เรื่องเล่าจากโรงงาน" - เล่าเรื่องประสพการณ์การทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนในโรงงาน ... และอื่นๆอีกสารพัด แต่คิดไปคิดมาก็ได้ข้อสรุปว่า อย่าดีกว่า ... เอาแบบชิลล์ๆ ไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า ... ไม่งั้น ถ้าเขียนเยอะไป เกิดจับพลัดจับผลูรวมเล่มได้ ขายดีขึ้นมาจะยุ่งกันใหญ่ เดี๋ยวจะเดือดร้อนต้องมานั่งเซ็นต์ชื่อหลังขดหลังแข็งใน "งานสัปดาห์ขายหนังสือลดราคาแห่งชาติ" เหมือนกาละแมร์ สาวโสด สวย รวย โคตร ไปอีกคน

เอาเป็นว่า เรื่องเล่าแรกหลังปิดเทอม 4 เดือนไปนี่ ขอเป็น "นอกร้านหนังสือ" ไปก่อนก็แล้วกันนะครับ พร้อมรูปภาพแชร์ๆ แบ่งๆ กันไป แล้วเดี๋ยวค่อยแวะกลับเข้ามาในร้านกันอีกที

- ภาพธุระแรกกับงานไหว้บรรพบุรุษประจำปี ที่สุสานจังหวัดสระบุรี โดยออกจากบางลำพูตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า ตระเวณรับสมาชิกที่ศรีย่าน-รัตนาธิเบศร์ แล้วก็มุ่งสู่สุสาน ไหว้เสร็จตั้งแต่ 9 โมงครึ่ง แล้วก็ไปกินอาหารที่โรงเจ ... 30 ปีก่อน ตอนเด็กๆ เท่าที่จำได้ บ้านผมจะเหมารถ 2 แถวไปกัน โดยกลับมาพร้อมกับผมแข็งฟูเพราะถนนเป็นดินแห้ง ฝุ่นเยอะมากกกกกก ...... แต่ปัจจุบันก็ดีกว่าเดิมครับ การเดินทางดีขึ้น ถนนดีขึ้น แถมขากลับยังมีปัญญาแวะอยุธยาได้อีก ไหว้พระวัดพนัญเชิงบ้าง วัดท่าการ้องบ้าง ปีนี้แหวกแนวหน่อยเป็นตลาดน้ำอโยธยา ที่น้ำท่วมแล้วมีคนตายเยอะๆน่ะ ... เอ๊ย ไม่ใช่ครับ (ขอโทษที นั่นมันสึนามิ) ... ที่ปีที่แล้วเจอน้ำท่วมถึงหลังคาน่ะครับ 



รถบัสเล็กเย็นสบาย ขนาดประมาณ 20 ที่นั่ง มารอตั้งแต่ตี 5



หลุมศพธรรมดาๆ ในสุสานธรรมดา ที่จังหวัดสระบุรี



ภารกิจไม่ธรรมดาสำหรับผู้กล้า - จุดประทัดเพื่อกำจัดสิ่งเลวร้ายให้พ้นไป



หลุมศพไม่ธรรมดา ที่รถวิ่งผ่านระหว่างทาง



สินค้าพื้นบ้านตามฤดูกาลของสระบุรี มะม่วง ถั่วเขียว กะหรี่ปั๊บ ... ที่เห็นถุงขาวๆ กองท่วมหัวนั่นคือดินสอพองครับ เอาไว้ขายวันสงกรานต์



ภาพชายหนุ่มที่จดจ่ออยู่กับแท็บเล็ตในมือ แปลกแยกออกจากบรรยากาศการจับจ่ายของตลาดรอบๆ ... เป็นการปะทะกันของกาลเวลาระหว่าง ตลาดพื้นบ้านที่คงสภาพแช่แข็งไว้จาก 30 ปีก่อน กับ แท็บเล็ต - กระดานชนวนอิเล็กทรอนิกส์แห่ง Generation - C ... ผมว่ามันย้อนแย้งกันอย่างลงตัว (ประมาณว่า พี่จะขายของก็ขายไป ... ผมจะสไล์หน้าจอง้างหนังสติ๊กยิงหมู กรุณาอย่ารบกวน)

- ภาพธุระถัดไปที่วัดป่ามณีกาญจน์บางบัวทอง อันเนื่องมาจากว่ามีเด็กร้อนวิชาอยากทดแทนคุณพ่อแม่ให้ได้ขึ้นสวรรค์ ก็เลยตัดสินใจบวชสามเณรภาคฤดูร้อนตามโครงการ "บวช 1 ได้ถึง 3" ของหลวงปู่เจ้าอาวาส ทำให้เกิดมหกรรมใส่บาตรทุกเช้า + เข้าวัดทุกเย็นเพื่อไปฟังเทศน์ มาราธอน 35 วัน อันเป็นการเข้าใกล้พระพุทธศาสนามากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ



ปลงผมผู้กล้าวัย 9 ปี



เณรผ้าขาวนั่งสำรวมระหว่างรอฉันจังหัน วันละ 1 มื้อ



พันธมิตรผ้าเหลือง จากโรงเรียนเดียวกัน



ลูกเณรออกรับบาตรโยมย่า ... ครั้งหนึ่งในชีวิต

- ภาพธุระกับมหาสงกรานต์ถนนข้าวสาร ประจำปี 2555 ... ภาระกิจ วันที่ 13 เมษายน หลังกลับจากวัดป่าก่อนเที่ยง คือการดัดแปลงหน้าร้านเป็นปราการแห่งความสันโดษ ... ขอโทษครับ ผิดเรื่องไปหน่อย ... เป็นป้อมอลาโม เอาไว้ต่อกรกับศัตรูต่างชาติ ตลอดจนไส้ศึกคนไทยร่วมชาติด้วยกันเอง พรั่งพร้อมด้วยอาวุทธหนักคือปืนฉีดน้ำกระบอกใหญ่ 8 โหล / อาวุทธเบาคือปืนฉีดน้ำกระบอกเด็กอีก 13 โหล (กระบอกเด็กนี่คือ ฉีดน้ำได้ประมาณเหงื่อออกจากการเดินข้ามถนน 4 เลนสัก 2 รอบครับ ... คือเอาไว้ฉีดอ้อนเปียกน่ะครับ ไม่สามารถไปสู้รบปรบมือกับใครได้ ... ได้ฉีดคนอื่นเขาแบบพอขำๆ) นอกจากนั้นก็มีกำลังสำรองเป็นสายยางก๊อกน้ำ 20 เมตร 1 เส้น รวมกับถังน้ำพลาสติกสูงพอใส่น้ำแข็งกั๊กได้พอดี

ตื่นแต่เช้าไปวัดใส่บาตร กลับมาก่อนเที่ยงขายปืน ยันเที่ยงคืนปิดร้าน ตัวเปียกแฉะทั้งวัน ได้ทุนคืน + กำไรนิดหน่อย พอขำๆ ประมาณยิ้มมุมปาก กับ เสียงหัวเราะ หึหึ ในลำคอ ... ไม่ใช่แหกปากหัวเราะอย่างสะใจนะครับ ... จะอะไรเสียอีก ก็แม่ค้าขายปืนปีนี้มีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก เล่นขายกันเกือบทุก 5 ก้าว 10 ก้าว ตลอดทางเดินทุกเส้นในบางลำพูทีเดียว แถมคนมาเที่ยวยังน่าจะถูกแบ่งไปที่อื่นๆทั่วกรุงเทพไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราชประสงค์ สีลม ใกล้ๆนี่เอง ... เห็นบอกกันว่าคนแน่นขนาดเดินแบบไม่ต้องเดินคือไหลไปเรื่อยๆได้เลย ... ก็คนละบรรยากาศกับที่ข้าวสารนี่ครับ เพราะปีนี้คนมาไม่มากนัก เดินกันเต็มถนนพอหลวมๆ และมีพื้นที่ให้ฉีดน้ำได้แบบสนุก ดัชนีชี้วัดอีกอย่างก็คือสปอนเซอร์ครับ ปีนี้น้ำดำไม่ติดต่อขอขึ้นป้ายผ้าแลกกับเคาเตอร์ ร่ม หรือไม่ก็น้ำ 2 ลังอย่างเคย สีสันก็เลยน้อยลงไปบ้าง

ความมันส์มาบังเกิดก็ตอนเย็นวันอาทิตย์ที่ 15 น่ะครับ หลังจากได้ค่าปืนคืนทุนตอนบ่ายๆ (ปีก่อนคืนทุนตั้งแต่ 14 สายๆครับ) ผมก็เริ่มเลหลังสต็อคที่เหลือกระบอกใหญ่ร้อยเดียวกับกระบอกเด็กแจกฟรี แรกๆคนก็งง เพราะราคาร้านอื่นข้างนอกกระบอกใหญ่ 250 - 500 บาท แล้วแต่ทำเล ... แต่พอมีคนก้าวออกไปพร้อมปืนกระบอกใหญ่แลกกับร้อยเดียว พร้อมกับเสียงตะโกนของผม

"เลหลัง พี่!!! หมดแล้ว หมดเลย กระบอกใหญ่ ร้อยเดียว ขายเอามันส์ ไม่ได้ขายเอาเงิน"

คนที่ต้องการปืนก็รุมเข้ามาจนเติมน้ำให้แทบไม่ทัน บางคนก็มากันเป็นทีม 4-5 คน ต่างคนต่างเติมน้ำกันเอง บางคนก็รับไปทั้งซองไม่ต้องแกะเหมือนกับจะเก็บไว้เล่นปีหน้า ส่วนกระบอกเด็กผมกันไว้ 30-40 กระบอกไว้บริจาคเด็กเล็กตามวัด โดยปีนี้ฝากไปกับบริษัทซึ่งไปบริจาคของที่วัดแถวสระบุรี



ป้อมอลาโมหน้าร้าน พร้อมอาวุทธยุทโธปกรณ์ทำสงครามเต็มอัตราศึก



ปืนรวมทั้งหมด 21 โหล 252 กระบอก ... วันที่ขนกลับมาบ้าน ผมเองยังงงอยู่เลยว่าซื้อเข้าไปได้ไง



เห็นร่มตลอดแนวนั่น ขายปืนเกือบทั้งนั้นนะครับ ไม่ใช่ข้าวกล่อง ... ผมเดินสำรวจตลาดรอบเดียว ก็ปาดเหงื่อเลย



นักท่องเที่ยวบางคนก็เผ่นไปตั้งหลักนอกพื้นที่เลยครับ เพราะ 3 วันนี้เอเจนซีทัวร์ในบางลำพูปิดทั้งหมด เข้า-ออกลำบากมาก เนื่องจากสายๆหน่อยคุณตำรวจก็ปิดถนนแล้ว เรียกว่าใครไม่เล่นน้ำ-ถอยไป ... เหลืออยู่แต่เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาลุยเท่านั้น ... สาวสวยคนนี้ก็มาซื้อหนังสือไกด์บุ๊ค ได้แล้วก็เผ่นเหมือนกัน



สาวน้อยผู้เปลี่ยนสถานะชั่วคราวจากญาติกลายเป็นหุ้นส่วน เธอหน้าเบ้หลังจากเดินทางมาจากลาดพร้าวในวันแรกพร้อมชำระค่าหุ้น เมื่อเห็นร้านขายปืนวางเป็นตับ ... แต่ก็สู้ตายจนวันสุดท้ายเหมือนกัน



2 สาวนี่ เธอบอกว่าเป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลพระมงกุฏ มาขายน้ำอยู่ข้างๆ 3 วัน ... ไม่ต้องเข้าเวรเฝ้าคนไข้กันพอดี ... มาวันแรก ผมยังแซวไปว่า หาเรื่องเหนื่อยเปล่า แต่ 2 สาวก็สู้ตายตลอดรอดฝั่ง 3 วัน ... ขายปืนสงกรานต์มาหลายปี เห็นแต่น้ำในขวดใสบ้าง ขวดขุ่นบ้าง ขวดกลมบ้าง ขวดเหลี่ยมบ้าง เพิ่งมีปีนี้แหละที่เห็นขวดทรงดัมเบล พอดูใกล้ๆเลยเห็นชัด คุณพยาบาลเธอเล่นเอาขวดน้ำเกลือมาใส่น้ำขายวันสงกรานต์ ... เยี่ยมจริงๆ

- ธุระต่างจังหวัด คือรับเพื่อนเณรที่ลาสิกขากับหลวงปู่สาคร ที่วัดเวฬุวัน ทองผาภูมิ กาญจนบุรี แวะน้ำพุร้อนหินดาดและสะพานข้ามแม่น้ำแคว รวมทั้งงานหลวง-งานราษฎร์ที่หัวหิน 2 รอบกับชะอำอีก 1 รอบ



เพื่อนเณร-สหายธรรม ที่ไปไกลถึงวัดเวฬุวัน อ.ทองผาภูมิ



สามเณรลาสิกขากับหลวงปู่สาคร



มะไฟคู่รีสอร์ท (บ้านรถบัส) ที่พักแรมคืน อันเนื่องมาจากคำร่ำลือว่าที่วัดเวฯ นั้น "เทวดา" เยอะมาก นอนกลางคืนก็มีเสียงกุกกักเรื่อยๆ ทำให้ญาติโยมที่ไปด้วยกันเกิดอาการปอดลอย กลัวจะนอนไม่หลับ เดี๋ยวจะเดือดร้อนต้องปลุกหลวงปู่มาอยู่เป็นเพื่อนกลางดึก ก็เลย ... ถอยดีกว่า นอนนอกวัด ดีกว่า



แวะสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไฟต์บังคับตั้งแต่ออกทัศนศึกษาสมัยประถม



น้ำพุร้อนหินดาด สวยดีและน่าแช่มากครับ มีให้เลือกทั้งบ่อร้อนน้อย ร้อนมาก และ สามารถลงแช่ธารน้ำธรรมชาติที่ติดกันได้เลย ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือฝรั่งเยอะมากทั้งวัยรุ่นจนถึงสูงวัย โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ถึงขั้นที่มีป้ายบริการเป็นภาษารัสเซียติดไว้หลายป้ายทีเดียว ... ว่าแต่ฝรั่งจะลงแช่โดยใส่ชุดว่ายน้ำกันทุกคนไม่ว่าจะแก่หรืออ้วนแค่ไหน แต่คนไทยนั้นลงแช่ทั้งกางเกงยีนส์เสื้อยืด ... แปลกนะครับ



ผลงานจากการเป็นชาวประมงมือเปล่า เคยแต่ได้ยินเขาว่าระวังปูหนีบ ... ปรากฏว่าโดนหนีบจริงครับรอบนี้ อาจเพราะย่ามใจที่ได้มากกว่า 20 เลยโดนหนีบถึงเลือดเหมือนกัน โชคยังดีที่เป็นตัวขนาดย่อมลงมาหน่อย ไม่ใช่เจ้าตัวใหญ่กลางกะละมัง ไม่งั้นคงหมดสนุกแน่



ต่างจากปีก่อนที่ได้ปลากระเบนเด็กหลงน้ำมาแถวๆชายหาดอยู่ตัวหนึ่ง น่าสงสารที่พอปล่อยออกไปได้ไม่เกิน 15 นาที ก็โดนมืออาชีพแถวนั้นเหวี่ยงแหจับไปได้ พี่แกบอกว่าโดนหางมันทิ่มเอาตอนแกะออกจากแห และก็จับไปคงจะทอดกินวันนั้นเอง



ขากลับแวะที่ Santorini park ก็มีเจ้า "กำแพงตัวหนอน (Walholla)" จาก Dutch design award 2008 สำหรับเด็ก 6-10 ปีให้เล่นด้วย นอกเหนือไปจากเจ้า "G-Max giant swing" จากนิวซีแลนด์ซึ่งจำกัดความสูงขั้นต่ำไว้ที่ 1.25 เมตร

ช่วง 2-3 เดือนนี้ เพื่อนเก่าแวะกลับมาเยี่ยมเยียนผมและพักอยู่นานเลยครับ มันคือ อะม็อกซีคลาฟฯ ยาแก้หวัด + อักเสบ ชนิดแรงงงงงง 1000 มิลลิกรัม ขนาดประมาณ 1 ข้อนิ้วก้อย ชนิดที่ว่าคุณเภสัชกรร้านยาที่ผมแวะบ่อยๆนั้นจำหน้าได้ และแทบจะออกบัตรสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้ผม ... ก็คงต้องพักผ่อนมากๆ และดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ เข้าไว้ จะได้อยู่ต่อไปยาวๆและมีโอกาสกลับมาเล่าประสพการณ์ร้านหนังสือในข้าวสารให้ฟังกันอีก ... ขออนุญาตลาไปเตรียมตัวเชียร์บอลยูโรคู่อังกฤษ-อิตาลีก่อนนะครับ (ดึกอีกแล้ว ...)

ขอให้วันพรุ่งนี้ ฟ้าเป็นใจกับเราด้วย

ราตรีสวัสดิ์ครับ

SmileySmileySmiley



Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 24 มิถุนายน 2555 23:43:41 น. 0 comments
Counter : 3761 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.