สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งกับเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยจากร้านหนังสือในข้าวสาร ร้านหนังสือเล็กๆสุดปลายถนนสายสั้นๆ ที่รอคอยต้อนรับลูกค้านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการหนังสือไกด์บุ๊ค เฟรสบุ๊ค แทรเวลลิ่งแมพ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโลนลีแพลนเน็ตภาษาอังกฤษมือสองหรือใหม่กิ๊ก รุทตาร์ทภาษาฝรั่งเศส และไกด์บุ๊คภาษาเยอรมัน สเปน ฮีบรู

ในส่วนของหนังสือไกด์บุ๊คที่ซื้อจากร้านไปนั้น ลูกค้าสามารถนำมาขายคืนที่ร้านได้ในอัตรา 50% ของราคาที่ซื้อไป โดยไม่ควรมีหน้าใดฉีกขาดหรือเปียกน้ำกระดาษย่นเปื่อยไปทั้งเล่ม ในขณะเดียวกันทางร้านก็รับซื้อไกด์บุ๊คใช้แล้วด้วยครับ เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากร และ/หรือ จะแลกเปลี่ยนเป็นหนังสือเล่มอื่นๆก็ได้ โดยอาจจะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่กรณี

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์หนึ่งในกลางเดือนมิถุนายน เป็นเดือนกลางปีที่ผมขออนุญาตยกเมฆว่าเข้าสู่หน้าฝนเต็มตัวแล้ว โดยอ้างอิงจากการที่ฝนตกเกือบทุกวัน โดยเฉพาะตอนเย็นเวลาเลิกงาน-เลิกเรียนที่ทุกคน-ทุกคัน จะออกมานัดเจอกันบนท้องถนน ให้สายฝนสาดกระหน่ำหนักบ้างเบาบ้าง-แล้วแต่โชคชะตา ใครมีที่หลบหรืออยู่ในรถ-อาคารก็โชคดี แต่ใครที่ไม่มีก็โชคร้ายเปียกปอนกันไป กลับบ้านก็อย่าลืมอาบน้ำ สระผม เช็ดตัวให้แห้ง ทำตัวให้อุ่นๆและดื่มน้ำอุ่นสักแก้วก็น่าจะทำให้สุขภาพดี เสี่ยงจากการเป็นหวัดน้อยลง

ผมลองตามๆข่าวสถานการณ์อุทกภัยในยุโรปกลางที่ติดต่อกันมากว่าสัปดาห์ ก็บรรลุแจ้งแก่ใจว่าโลกยุคปัจจุบันนี้ มีสิทธิ์เจอภัยธรรมชาติอาละวาดได้ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวขาวหรือผิวเหลือง บ้านเมืองพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนาอยู่ เพราะสภาพที่ยุโรปกลางเจออยู่นั้นมันไม่แตกต่างจากที่บ้านเราเจอมาแล้วเมื่อสองปีก่อนเลย (ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของธรรมชาติล้วนๆหรือฝีมือของคนล้วนๆก็เสี่ยงพอกัน) แถมหนักกว่าอีกที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ครอบคลุมถึง 8 ประเทศ โดยหนึ่งในคำพูดของผู้ประสพอุทกภัยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวรอยเตอร์บอกว่า "เรากำลังประสพกับความท้อแท้สิ้นหวังจริงๆ ทั้งๆที่เรามีการเตรียมการและเครื่องไม้เครื่องมืออย่างพร้อมเพรียงเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจะหยุดยั้งความเสียหายจากอุทกภัยที่กำลังขยายตัวเป็นวงกว้างออกไปนี้ได้เลย"

ภาพจำลองแผนที่โลก แสดงแนวพายุฝนที่กระหน่ำลงสู่ยุโรปกลาง 8 ประเทศหลัก ประกอบไปด้วยเยอรมันนี ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ สโลวาเกีย สวิสเซอร์แลนด์ เบลารุส และฮังการี

ภาพแสดงจุดศูนย์กลางของอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 400 ปี ... กรุงปราก - เมืองหลวงของเช็ก โดนหนักสุด ... ในข่าวล่าสุดบอกว่า หลังจาก 1 สัปดาห์ผ่านไป มวลน้ำเริ่มกระจายขึ้นสู่ภาคเหนือของเยอรมันนีผ่านทางแม่น้ำเอลเบ ขณะเดียวกับที่ระดับน้ำในแม่น้ำดานูบสูงขึ้นและกำลังเคลื่อนเข้าสู่ฮังการี

ภาพมุมสูงแสดงระดับน้ำที่ท่วมจรดหลังคา (ถ้าเปลี่ยนเป็นหลังคาบ้านทรงไทยก็เป็นภาพน้ำท่วมอยุธยา '54 ดีๆี่นี่เอง) เมืองพาสเซา ในเยอรมันนีก็โดนหนัก เพราะเป็นเมืองที่เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำดานูบ แม่น้ำอินน์ และแม่น้ำอิลซ์ (สภาพเดียวกับอยุธยา ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก ... อยุธยาท่วมยังไง พาสเซาก็ไม่แตกต่าง)

ภาพจากเรือกู้ภัยที่อพยพผู้คนออกมาจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมหนัก ... ไม่ค่อยเห็นแพลอยน้ำภูมิปัญญาชาวบ้านแบบไทยประดิษฐ์ ดูๆจะอนามัยกว่าคนไทยพอสมควร

เยอรมันนี / ภาพมุมสูงของแนวโค้งลำน้ำบางส่วนที่ถูกกันไว้ ไม่ให้ท่วมเข้าสู่เขตพื้นที่สำคัญอันจะทำให้เกิดความเสียหายขนาดหนัก

เยอรมันนี / กำแพงโลหะที่ถูกออกแบบอย่างแข็งแรงและตระเตรียมไว้เป็นอย่างดี เพื่อรองรับแรงดันมหาศาลจากน้ำในระดับสูงไม่น้อยกว่า 2-3 เมตรจากพื้นดิน ทั้งๆที่ระดับน้ำปกตินั้นจะต่ำกว่าระดับตลิ่งอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 1 เมตร

ถัดไปไม่กี่วัน ฝนก็กระหน่ำเข้าที่อินเดียภาคเหนือ สำนักข่าวต่างประเทศบอกว่า ฝนตกหนักกว่าปกติ 3 เท่า พื้นที่รับน้ำก็เป็นบริเวณภูเขาภาคเหนือ ซึ่งพื้นดินพออุ้มน้ำมากเกินไป ก็รับน้ำหนักไม่ไหว เกิดแลนด์สไลด์ทำเอาสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือนพังกันเป็นแถบๆ เหมือนกับที่เคยเจอกันบ่อยๆตามแถบป่าเชิงเขาบ้านเรา พร้อมๆกันกับที่แม่น้ำก็กลายเป็นทะเลโคลนเชี่ยวกรากพัดกลืนเอาชีวิต ทรัพย์สินของผู้ที่อยู่อาศัยตามริมฝั่งแม่น้ำ เห็นบอกว่าตายเป็นร้อย และรอความช่วยเหลืออีกเป็นหมื่นคน ... ดูๆแล้ว ถึงแม้จะแตกต่างจากน้ำท่วมที่ยุโรปไปบ้าง แต่การเตรียมพร้อมแตกต่างกันเยอะพอสมควร ทำให้ความเสียหายมากกว่ากันหลายเท่า น้ำท่วมยุโรปหลายประเทศยืดเยื้อเป็นอาทิตย์รวมคนตายเป็นแค่หลักสิบเท่านั้น แต่อินเดียเจอเข้าไปแค่ประเทศเดียว คนตายเกินร้อยเข้าไปแล้ว

แม่น้ำสีโคลนเอ่อสูงจนท่วมระดับสะพานข้ามฟาก ไม่สามารถใช้งานได้ ... ยังดีที่ไม่เจอกองทัพผักตบ หรือแพซุงแบบบ้านเรา ไม่งั้นสะพานเก่าๆแค่นี้ไม่เหลือแน่

ทะเลโคลนเชี่ยวกรากแบบนี้ อย่าว่าแต่รถบรรทุกหนักเป็นตันหรือรถตักเหล็กหนักๆทั้งคันในรูปเลยครับ ขนาดตึกริมตลิ่งยังถูกแรงน้ำเซาะจนถล่มลงมาทั้งตึก ... แล้วคนที่ถูกน้ำซัดลงไปจะเหลือรึ

เทวรูปสักการะขนาดใหญ่กับระดับน้ำในแม่น้ำสีโคลนที่ท่วมสูงขึ้นมา

ร่องรอยความเสียหายหลังจากน้ำฝนชะดินโคลนถล่มลงมาจากเชิงเขา ... ดูไม่จืด

จริงๆแล้ว ผู้คนที่อยู่อาศัยตามเชิงเขาคงคุ้นเคยกับภาวะฝนตก เผชิญน้ำป่ากันมาบ้างพอสมควร แต่คงคาดไม่ถึงว่าจะพบกับปริมาณฝนตกมากผิดปกติ 2-3 เท่าแบบนี้ ... อย่างว่าครับ สภาพอากาศเปลี่ยนไป โลกก็เปลี่ยนตาม เราทุกคนคงต้องเตรียมความพร้อมไว้บ้าง

ตามรายงานข่าวล่าสุด ผู้เสียชีวิตแตะ 200 แล้ว ขณะที่จำนวนผู้ตกค้างต้องการความช่วยเหลืออยู่ที่ตัวเลขหลายหมื่นคน หวังว่าคงไม่มากขึ้นเท่าไรนัก และขอให้กลับสู่สภาวะปกติเร็วๆ

แวะเข้าร้านหนังสือนิดหนึ่งก็แล้วกันครับ สัปดาห์นี้ไม่มีอะไรมากนัก เพราะโลว์ขนาดหนักแทบจะไม่มีลูกค้าหนังสือเข้าร้านเลย แถมวันนี้ลูกค้าสาวสวยมาฝากส่งโปสการ์ด รีบๆเขียนรีบๆส่ง ก่อนออกจากจากร้านไป เห็นบอกว่ามีทริปรออยู่

โปสการ์ดภาพชายทะเล หาดพระแอะ เกาะลันตา กระบี่ ... สวยถูกใจเธอ ทำให้สาวน้อย "เอสเทอร์" ซื้อทีเดียว 3 ใบรวด ส่งให้แม่และเพื่อนที่ อ๊อคแลนด์ / นิวซีแลนด์

หายนะเกิดขึ้น เมื่อเธอฝากส่งทั้ง 3 ฉบับแล้วจากไป ฉบับที่ส่งถึงแม่และเพื่อนสาว "มิเชลล์" นั้นถึงมือแน่นอนที่ปลายทาง แต่เพื่อนสาว "Siddhi Aggar" ผู้รับโปสการ์ดฉบับล่างที่เพิ่งแต่งงานนี่สิ ... คงต้องให้เธอไปรอรับโปสการ์ดที่ ... Somewhere over the rainbow ... ซะแล้ว

เจตตจัน

085-8035412

087-0719858

jettajan227@yahoo.com

Create Date : 22 มิถุนายน 2556
Last Update : 22 มิถุนายน 2556 18:03:42 น.		0 comments
Counter : 2150 Pageviews.
Share Tweet