Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
19 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ในร้านหนังสือ

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้มีโอกาสมาเขียนบล็อกเพื่อแชร์ประสพการณ์ร้านหนังสือให้ได้อ่านกันอีก หลังจากระเบิดไล่นักท่องเที่ยวในวันแห่งความรักได้ดังขึ้น พาเอาฝรั่งนักท่องเที่ยวปลิวไปราวกับละอองฝุ่นในสายลมแล้ง ... ที่เห็นคึกคักอยู่หน่อยหนึ่งก็คือขบวนลูกค้าที่พากันเฮละโล ซื้อตั๋วรถบัสหนีขึ้นเชียงใหม่ นัยว่ากรุงเทพไม่ปลอดภัยยามนี้

ร้านหนังสือยังคงเปิดให้บริการลูกค้านักท่องเที่ยวอยู่ตามปกติ แม้ลูกค้าจะน้อยลงแต่มันก็เป็นภารกิจที่ยังคงต้องดำเนินต่อไป กอปรด้วยรอยยิ้มร่าเริงเล็กๆน้อยๆ หรือเสียงหัวเราะดีใจของลูกค้า ก็ทำให้บรรยากาศในร้านสดชื่นขึ้นแม้ในยามดึกดื่น

ห้าทุ่มครึ่งคืนก่อน ขณะที่ผมกำลังเตรียมปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนปิดร้าน ลูกค้าหนุ่มเคราดกชาวอิสราเอลเดินอย่างรีบเร่งเข้ามาพร้อมกับถามว่า "คุณมีหนังสือฮีบรูว์หรือเปล่า"

"มีสิ ที่ชั้นด้านนี้ไง แถวบนเป็นไกด์บุ๊ค ส่วน 2 แถวล่างเป็นหนังสืออ่าน" ผมบอกลูกค้า

"เยี่ยมเลย คุณช่วยชีวิตผมไว้เลยนี่" ลูกค้าหนุ่มกุลีกุจอเดินไปนั่งเลือกหนังสืออย่างอารมณ์ดี

"ทำไมล่ะ คุณจะกลับบ้านแล้วรึ" ผมถามยิ้มๆ

"ใช่แล้ว คืนนี้แหล่ะ 20 ชั่วโมงโดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่เคียฟก่อนต่อไปเทลอาวีฟ"

"นอนอย่างเดียวคงไม่ไหวแน่ๆ" ผมเปรย

"ใช่เลย ... เอ๊ะ เล่มนี้มันคือ "หญิงสาวกับรอยสักมังกร" ที่เป็นหนังโรงอยู่ใช่ไหมนี่" ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านคำโปรยที่ปกหลัง

"ถูกต้องแล้ว" ผมตอบพร้อมพยักหน้าพลางชำเลืองดูนาฬิกา



ปก The Girl with the Dragon Tattoo (Hebrew)
Naara Im Ka'akua Darkon (Milenium 1) By Stieg Larsson

ชายหนุ่มคุ้ยๆเล่มอื่นต่ออย่างรวดเร็ว ก่อนจะยื่นให้ผม 2 เล่มพร้อมต่อราคาเสร็จสรรพ ผมนึกในใจ "เอ๊ะ ไอ้นี่ ... ต้องการด่วนแล้วยังจะอุตส่าห์ต่อราคาอีก"

"เล่มนี้สำหรับขากลับ แล้วอีกเล่มสำหรับขามา ... เที่ยวหน้า ผมเอากลับมาเปลี่ยนคุณ" ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ

ผมหัวเราะก๊าก ก่อนจะส่งถุงหนังสือ 2 เล่มนั้นให้ไป หักส่วนลดนิดหน่อย พร้อมกับเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันในใจ "เอาเฮอะ วันพระไม่ได้มีหนเดียว ... นี่มันก็จวนจะเที่ยงคืนแล้ว เก็บเงินแล้วปิดร้านดีกว่า"

ชายหนุ่มรับถุงหนังสืออย่างดีใจ พร้อมยื่นมือมาสัมผัสหนักแน่น "Thank you very much, you save my flight" ... นั่งเครื่องเฉยๆเป็นสิบชั่วโมง ก็คงแย่เหมือนกัน ผมคิดในใจ พร้อมกับโบกมือลา ก่อนดึงประตูเหล็กปิดร้าน

..... เห็นปกของดรากอนแทททู มิลเลนเนียมอีดิชันวัน เล่มนี้แล้วทำให้ผมนึกถึงหนังสือฮีบรูว์อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งเห็นตอนแรกผมก็มองผ่านๆตามปกติ เพราะไม่เข้าใจภาษาอยู่แล้ว (ตามปกติ หน้าในจะมีชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ พร้อมคนแต่งบอกไว้ให้ด้วย ในกรณีหนังสือแปล) แต่พอเปิดหนังสือเพื่อเช็คสภาพแล้วเห็นแผนผังคุ้นๆตา ก็เลยต้องพลิกหน้าในดูชื่อหนังสือ ทำให้เจอเพื่อนเก่าจาก "มาคอนโด" เข้าให้ .... ใช่แล้วครับ มันคือ "หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว" ของการ์เบรียล การ์เซียร์ มาเกวซ นั่นเอง ... ไม่น่าเชื่อครับ ว่าพอแปลเป็นภาษาฮีบรูว์แล้ว เล่มเล็กนิดเดียวเอง



แผนผังเครือญาติของตระกูล "บูเอนดิยา"



ปก One hundred years of solitude / Hebrew language



หน้าในระบุชื่อเรื่อง และผู้เขียน



เวอร์ชันภาษาไทยที่เจอในห้องสมุดแสงอรุณ แปลโดย ปณิธาน-ร.จันเสน / คำนำโดย สุชาติ สวัสดิ์ศรี ... ผมติดกับดักของมาร์เกวซก็เพราะคำนำของคุณสุชาตินี่แหละ

"หนึ่งร้อยปีฯ" นั้นเราคุ้นเคยกันมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ผมยังแวะเวียนไปที่ห้องสมุดแสงอรุณที่สาธร ซอย10 อยู่บ่อยๆ ส่วนเล่มภาษาฮีบรูว์ที่ได้มานี้มีลูกค้า 2 สาว 1 หนุ่มชาวยิวเข้ามาดูอยู่ครั้งหนึ่ง

2 สาวนั้นได้หนังสือไปแล้ว หญิงสาวคนแรกได้หนังสือเกี่ยวกับ "Ayurveda" ไป (เป็นศาสตร์เก่าแก่ของอินเดีย คล้ายๆชีวจิตบ้านเรา แต่มันแตกแขนงออกไปเยอะมาก ทั้งเรื่องสุขภาพ อาหาร โยคะ การทำสมาธิ และอื่นๆอีกมากมาย)



Ayur is a Sanskrit word meaning life. Veda means knowledge, as in systematized knowledge. This term connotes the knowledge or science of living beings. It is an eternal knowledge but probably understood and practiced in its present theoretical form for around 3500 years.

ส่วนหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มาด้วยกัน เธอคว้าเอาหนังสือรวม 49 เรื่องสั้นของเฮมมิงเวย์ไปได้อย่างรวดเร็ว



The Short Stories By: Ernest Hemingway (Author)

หญิงสาวผู้เป็นแฟนเฮมมิงเวย์ออกตัวเชียร์ชายหนุ่มให้เลือกหนังสือของมูราคามิ ส่วนคนแรกเชียร์ "หนึ่งร้อยปีฯ" ตัวผมเองตอนนั้นกำลังจับตามองไปที่ทั้ง 3 คนอยู่ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย ก็เข้าทางพอดีที่ชายหนุ่มหันมาสบตาด้วย

"สำหรับผม หนังสือของมาร์เกวซเล่มนี้สนุกมาก ผมอ่านจบไปแล้ว" ผมบอกไป

"จริงเหรอ ... ฉันก็อ่านจบไปแล้วเหมือนกัน ชื่อเมืองในเรื่องมันชื่ออะไรนะ คุณจำได้ไหม" หญิงสาวถามมา ตาเป็นประกาย

"มาคอนโด" ผมจำได้แม่น ตอบยิ้มๆ

"ใช่ๆ มาคอนโด ... ประเทศโคลัมเบีย" หญิงสาวพยักหน้า

"แต่ฉันชอบมูราคามิมากกว่านะ เล่มนี้ใหม่กว่าด้วย"



Blind willow / Sleeping woman - Hebrew cover



Blind willow / Sleeping woman - 1 of English cover

(หนึ่งในคำพูดถึงงานเขียนของมูราคามิ ..... ผลงานของมุราคามิมักถูกวิจารณ์ว่าเป็น วรรณกรรมป๊อปที่ มีอารมณ์ขันและเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็สะท้อนความรู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยว และการโหยหาความรักในทางที่สามารถเข้าถึงผู้อ่านในอเมริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออกได้ งานของมุราคามิมักกล่าวถึงการที่ญี่ปุ่นหมกมุ่นในลัทธิทุนนิยม ความว่างเปล่าทางจิตใจของผู้คนรุ่นเดียวกับเขา และผลกระทบด้านลบทางจิตใจของญี่ปุ่นที่ทุ่มเทให้กับงาน งานของเขาวิพากษ์วิจารณ์ความตกต่ำของคุณค่าความเป็นมนุษย์ และการขาดการติดต่อระหว่างผู้คนในสังคมทุนนิยมของญี่ปุ่น ...)

หลังจากนั้นผมก็ปล่อยให้ทั้ง 3 คนส่งภาษากันจนกระทั่งสรุปได้เป็นมูราคามิ ส่วน "หนึ่งร้อยปีฯ" ยังคงวางอยู่ที่เดิมต่อไป ....



3 สหายที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่านักอ่านชาวยิวนั้น "มีของ" เหมือนกัน

ผมเองต้องหันกลับมามองมูราคามิมากขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว เพราะว่าในสายตาเท่าที่อ่านๆมา ผมว่า "Soul Mountain" ของเกาสิงเจี้ยน ก็ดี ... "คนสองโลก" ของเคนซาบุโร โอเอะ ก็ดี .... "เสียงแห่งขุนเขา" ของยาสึนาริ คาวาบาตะก็ดี มักจะกระโดดออกมาชัดเจนมากกว่า มูราคามิ ... แต่จากจำนวนเรื่องที่เขียนออกมามากมาย แปลให้กับเหล่านักอ่านหลายภาษา แม้กระทั่งชาวยิวเองก็ยังอ่านมูราคามิกันเป็นล่ำเป็นสันเลย คงต้องกลับมาคิดกันใหม่เพื่อประเมินราคากันอีกทีเสียแล้ว ... หุหุ

.....

วันถัดมา เปิดร้านแต่เช้าพร้อมแดดอ่อนระบายจางๆอยู่ที่กระจกและกระถางต้นนางกวักหน้าร้าน ... 2 ลูกค้าสาวชาวยุโรปผมทองเดินเข้ามาชมวิว 1 รอบก่อนหันมาโบกมือให้ผม

"Good business, reuse book !!!" เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้มสดใส

"Yes, we are green shop. More or less, we help the earth." ผมตอบเธอ พร้อมยิ้มรับคำชมก่อนเธอออกจากร้านไป ... ใช่แล้ว ร้านหนังสือเก่าของเราสีเขียวสวย และจะมาก จะน้อย เราก็รักษ์โลกเหมือนกัน




Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 23:23:24 น. 0 comments
Counter : 2360 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.