Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
22 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 

ร้านหนังสือในข้าวสาร ... ตอน ใต้แสงจันทร์ ... Under the moonlight

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกสัปดาห์หลัง 14 กุมภา วันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ผ่านพ้นไป อากาศบ้านเราเริ่มอุ่น ในขณะที่พายุหิมะยังคงถล่มสหรัฐอเมริกาภาคใต้อย่างหนัก ญี่ปุ่นก็หนาวเหน็บไม่แพ้กัน ส่วนอังกฤษก็เจอน้ำท่วมหนักเข้าให้บ้าง เห็นจากภาพข่าวต่างประเทศนั้น บางภาพโชว์ให้เห็นระดับน้ำสูงขนาดรถเก๋งจมมิด เดือดร้อนจนประชาชนเรียกร้องให้เอาเงินบริจาคช่วยต่างประเทศหลายร้อยล้านปอนด์ กลับมาแก้ปัญหาที่บ้านก่อน ... ส่วนบ้านเรานั้นอากาศอย่างนี้ ฝรั่งว่าดีครับ เมื่อปลายเดือนมกราที่ผ่านมา เจอไอ้กัน 2 คนเข้ามาที่ร้าน เขาบอกว่าหนีหนาวนรกจากบ้านเขามา เจออากาศหน้าหนาวบ้านเราสิบกว่าองศา บอกว่าเป็นอะไรที่ "มิราเคิล" มาก ... เหมือนกับสวรรค์ยังไงยังงั้นเลย ... ก็คงมีแต่คนไทยนี่แหละครับที่ติดกับดักพายุการเมืองพัดถล่ม จนเริ่มลามกลายเป็นการพังทลายของเศรษฐกิจแล้ว ... ได้แต่มองตาปริบๆ คิดอยู่ว่าอเมริกาหรือญี่ปุ่นเจอพายุหิมะ ไม่กี่วันก็คงหยุดไป หิมะละลายคลายความหนาวเหน็บ ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ... น้ำท่วมที่อังกฤษ สักพักน้ำลดไหลจากเกาะลงทะเลก็ทำความสะอาดได้ ... แต่ปัญหาบ้านเราอันมาจากนักการเมืองผู้ ..... &^*%$#@&^@ .....

... 555 ... อย่าดีกว่า พูดแล้วเดี๋ยวยาววววว .......

ร้านหนังสือยังเปิดอยู่ครับ รับลมร้อนที่เริ่มพัดโชยเข้ามาปะทะกับอากาศเย็นตอนกลางคืน ทำให้บางวันเกิดทะเลหมอกทิ้งไว้ในตอนเช้า ใกล้ๆบ้าน ให้ขับรถลุยไปทำงานดั่งที่ใจเคยคิด จากที่เคยเห็นภาพทะเลหมอก มองลงมาจากบนยอดเขาสวยๆ ทำให้เคยนึกอยากรู้ว่าถ้าได้เดินลุยอยู่ในกลุ่มหมอกหนาทึบอย่างนั้นบ้าง จะรู้สึกอย่างไร ก็ปรากฏว่าวันก่อนได้เจอจริงๆ ได้เห็นกับตา จากการขับรถอยู่บนไฮเวย์วงแหวนตะวันตก ลุยหมอกทึบยามเช้าที่มองเห็นไม่เกินระยะ 2-3 เสาไฟฟ้า ให้ความรู้สึกแปลกตา เป็นประสพการณ์ใหม่และตรงมาก เหมือนกับที่อเมริกาเจออุณหภูมิ -50 องศาบนผิวดาวอังคาร โดยไม่ต้องขยันตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อไปสมัครเป็นนักบินอวกาศกับนาซ่า บินไปกับกระสวยอวกาศลงไปสำรวจดาวอังคารด้วยตัวเอง ซึ่งไม่รู้ว่าตายแล้วเกิดใหม่อีกกี่ชาติถึงจะเกิดขึ้น อิ อิ

ประสพการณ์ขับรถลุยทะเลหมอกยามเช้า แถวปิ่นเกล้านี่เอง โดยไม่ต้องปีนขึ้นดอยไปไกลเป็นร้อยๆกิโลเมตร ... ภาพที่ 2 เป็นถนนใต้ทางลอยฟ้าบรมราชชนนี หมอกลงหนาขนาดที่รถจากเลนสวนกันยังมองไม่เห็น

ส่วนนักท่องเที่ยวฝรั่งต่างชาติ ที่เข้ามาเป็นลูกค้าพ่อค้ากันก็โซโซครับ พวกที่เที่ยวไทยจนเชี่ยวชาญเขาไม่สนใจเรือง "Demonstration" กันสักเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์มันต่างกับหลายๆที่ หลายๆประเทศ และพื้นที่เสี่ยงเองก็ไม่ได้อยู่ใกล้แถวนี้นัก เขาก็ยังเดินทางไปดูแกรนด์พาเลซได้ นั่งรถเมล์ไปวีคเอ็นมาร์เก็ตได้ นั่งรถไฟฟ้าไปสยามพารากอนได้ นั่งรถตู้ไปดูแอนเชียนซิตี้ที่อยุธยาได้ หรือไปดูสะพานข้ามแม่น้ำแควที่กาญฯ ไม่ก็นั่งรถไฟลงใต้ต่อเรือไปปาร์ตี้เกาะพงันได้ เขาก็โอเค สำคัญอย่าไปสั่งหยุดเดินรถไฟสุ่มสี่สุ่มห้า วันนั้นมีลูกค้าเก่าเข้าร้านมาบ่นให้ฟังเพียบเลย ว่าจองตั๋วรถไฟลงใต้ไว้แล้ว ปรากฏว่าอยู่ๆก็สั่งหยุด พอไปที่เคาเตอร์ก็เซย์ซอรี่แล้วก็คืนเงินเฉยๆ ต้องเสียเวลาหารถ หาที่พัก หรือไม่ก็เลื่อนวันเช็คอินโรงแรมกันให้วุ่นวาย ... พอดูข่าวหนังสือพิมพ์วันรุ่งขึ้นจึงถึงบางอ้อ ว่าพิษการเมืองทำเอารถไฟหยุดไปวันนึง ยังดีที่ไม่ได้ตกราง ทางขาด มีคนบาดเจ็บกัน

นอกจากนั้น ลูกค้าบางคนจะบอกว่า เดินทางลำบากนิดหน่อยพอได้อยู่ แต่ถ้าหยุดแบบไปไหนไม่ได้เลยสัก 3-4 วัน ก็คงต้องย้ายที่พักออกต่างจังหวัดกันแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกหัวเมืองท่องเที่ยวหลักๆ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ก็กินนิ่ม ปาดปากกันเลยทีเดียวเชียว

ค่ำวันนั้น ขณะที่ผมนั่งห่อหนังสือภาษาญี่ปุ่นที่รับซื้อไว้ เสียงเรียกจากชายหนุ่มหน้าร้านทำให้ผมเงยหน้าขึ้น

"I want someone to translate this paper. ... มีใครแปลภาษาให้ได้บ้างไหมครับ" ลูกค้าหนุ่มเดินเข้ามาในร้าน หน้าตาออกเครียด

"I know somewhere out there such the office nearby the university, 3-4 bus stops from here. They do some translation job for thesis. Or lawyer office which do some business consult for foreign invester. But quite far from here, Sukhumvit road. ... ผมเข้าใจว่าน่าจะมีสำนักงานแถวใกล้ๆมหาวิทยาลัย ประมาณ 3-4 ป้ายรถเมล์จากนี่ รับแปลเอกสารสำหรับนักศึกษาที่ทำวิทยานิพนธ์ หรือไม่ก็พวกสำนักงานทนายความที่ให้คำปรึกษานักลงทุนต่างประเทศ แต่น่าจะไกลนะ แถวสุขุมวิทโน่น" ผมขมวดคิ้วคิดอยู่แป๊บนึงก่อนตอบ

"No, I don't want some complicate like that. Just easy translate in short time, tomorrow I will leave here. ... ไม่อ่ะ ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น แค่แปลง่ายๆหน้าเดียว เพราะพรุ่งนี้ผมต้องไปจากนี่แล้ว" ชายหนุ่มส่ายหน้า พร้อมให้รายละเอียดเพิ่ม

"Let me see, what is it ? ... ไหนขอผมดูหน่อยสิ อะไรน่ะ" ผมแบมือขอกระดาษแผ่นนั้นมาเปิดดู

"This document is from police. I just want it to show to my insurance when back home. ... มันเป็นใบแจ้งความที่สถานีตำรวจ ผมต้องเอาไปโชว์ให้ประกันดูตอนกลับบ้านแล้วน่ะ" ชายหนุ่มอธิบาย

... ใช่ครับ ... มันเป็นใบแจ้งความจากสถานีตำรวจแห่งหนึ่งบนเกาะพงัน ... โอ้ โอ ลายมือของนายสิบท่านนี้ อ่านไม่ง่ายเลย ... แต่ดูเหมือนความตั้งใจอยากช่วยจะรุนแรงกว่าที่คิด

"Just the simple one in word-sheet, is ok ? ... แค่แปลธรรมดา พิมพ์ใส่ไฟล์เวิร์ด ได้ไหม ไม่มีแบบฟอร์มอะไรนะ" ผมถามและเม้มปากครุ่นคิด

"Yes, of course. ... ได้ ได้สิ" ชายหนุ่มพยักหน้า ตาเป็นประกาย

"Ok, I shall do for you. 1 hour later, you come back. ... ตกลง งั้นผมแปลให้ สักชั่วโมงนึงคุณค่อยกลับมาอีกทีแล้วกัน" ผมตอบไป

"Thank you very much, how much ? ... ขอบคุณมาก คุณคิดเท่าไหร่ล่ะ" ชายหนุ่มถามถึงค่าเสียเวลา

"Let you see first. ... คุณดูผลงานก่อนแล้วกัน" ค่าเสียเวลาค่อยว่ากันทีหลัง ผมคิดพร้อมกับพักหน้าแคนดี้ครัชทิ้งไว้ ก่อนจะกลับมาเก็บคอมโบท็อฟฟี่ลายขวางอีก 3 คู่ภายหลัง และเริ่มแปลข้อความ พิมพ์ลงในเวิร์คชีท

... วัน ว. เวลา น. บนเส้นทางสู่เกสต์เฮาส์ที่พัก ... หาดบ้านใต้ เกาะพงัน สุราษฎณ์ธานี นักท่องเที่ยวชื่อ ... ชาวบราซิลเลี่ยน กำลังเดินอยู่พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง ถูกชายไม่รู้จักเข้ามาเอาสิ่งของของเขาไป ประกอบไปด้วย ไอแพ็ดมินิ 32 กิ๊กพร้อมสมาร์ทเคส กล้องดิจิตอล 2 กล้องพร้อมเอสดีการ์ด สโตเรจฮาร์ดไดรฟ์ 1 เทอราไบท์ของซัมซุง กระเป๋าเงิน นาฬิกา เงินสด บัตรเครดิตและแว่นเรย์แบนด์อีก 1 อัน ... รวมเกือบ 10 รายการ ...

... จึงแจ้งไว้เป็นหลักฐาน ...

แปลเสร็จ ผมเซฟไฟล์เก็บไว้หน้าจอรอชายหนุ่มเจ้าของจดหมายมาดู ระหว่างนั่งเล่นแคนดี้ครัชรออยู่เงียบๆ หลังหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมยังไม่ผ่านด่านหิน ระหว่างพักรอชีวิตใหม่ สลับหน้าไปยังเกมส์ไดมอนด์แดช

"Hello, finish? ... ไง เสร็จไหม" เสียงทักมาจากหน้าร้าน ทำให้ผมเงยหน้าจากหน้าจอพร้อมพยักหน้า และกวักมือเรียกมาดูไฟล์ที่เซฟไว้

"He came with knife, do police write about this ? ... คนที่มาเอาของผมไปน่ะ มีมีดมาจี้ผมด้วยนะ เขาบันทึกไว้ในนั้นหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามเพิ่มเติม ผมชะงักก่อนพลิกเอกสารดูละเอียดอีกครั้ง

"No, no knife in the letter. Do you want me to add in the translation ? ... ไม่อ่ะ ไม่มีตรงไหนพูดถึงมีดในนี้เลย คุณจะให้เพิ่มไปด้วยไหม" ผมถามกลับไป

"Yes, please. ... เพิ่มด้วยดีกว่า" ชายหนุ่มพยักหน้าตอบ พร้อมกับชี้ตำแหน่งเพิ่มตัวเอสลงบนตัวสะกดของชื่อตัวเองในภาษาอังกฤษ ผมปรับแก้ตามที่เจ้าตัวบอก พร้อมกับส่งไฟล์จากเมล์ยาฮูของผมไปยัง อี-เมล์แอดเดรสของเจ้าตัว

"I will check my e-mail. Thank you very much, how much ? ... เดี๋ยวผมไปเช็คอีเมลของผมดูว่าได้รับไหม ขอบคุณมากเลย ตกลงค่าเสียเวลาเท่าไหร่" ชายหนุ่มยิ้มโล่งอก ถามพร้อมหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา

"Up to you. ... แล้วแต่" ผมตอบยิ้มๆ พร้อมยักคิ้ว อยากรู้ค่าเสียเวลาสำหรับ 10 นาทีในการแปลข้อความหน้านั้นว่าจะเทียบกับค่าแรงวันละ 300 บาทหรือค่าแรงเฉลี่ยต่อวันจากเงินเดือนประจำที่ทำอยู่ได้หรือไม่

ชายหนุ่มหยุดไปชั่วอึดใจ พร้อมกับหยิบแบงก์จากกระเป๋าเงินออกมา 4-5 ใบ วางลงตรงหน้าผมแล้วถามว่าโอเคไหม ... ผมเลิกคิ้ว ทำตาโตพร้อมพยักหน้าและกล่าวขอบคุณ ชายหนุ่มยิ้มและยื่นมือมาสัมผัส ก่อนหยิบจดหมายต้นฉบับและออกจากร้านไป

... ห่างไปไม่กี่วัน หญิงสาวอีกคนหนึ่งเดินเข้าร้านมาในเวลาเข้าไต้เข้าไฟ เธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับยื่นซองจดหมายสีขาววางลงบนโต๊ะต่อหน้าผม 1 ฉบับ

"I want someone to translate this paper. ... มีใครแปลภาษาให้ได้บ้างไหมคะ" หญิงสาวถาม พร้อมกับสังหรณ์ประหลาดแวบผ่านใบหน้าของผม

"Let me see. ... ขอดูก่อนนะ" ผมเลิกคิ้ว เงยหน้า หยิบซองจดหมายขึ้นมา เปิดออกดู ... ใช่จริงๆด้วย หาดบ้านใต้ / เกาะพงัน ... อีกแล้ว

"OK, I do. 1 hour later, you come back. ... ผมแปลให้ เดี๋ยวอีกชั่วโมงหนึ่งคุณกลับมานะ" ผมพยักหน้า หลังจากหญิงสาวกลับออกไป หันไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่ ไล่สายตาหาไฟล์ของเปโดร เริ่มปรับแก้ข้อความเดิมในส่วนที่แตกต่างกัน และเซฟไฟล์ใหม่เป็นชื่อของหญิงสาว "หลุยส์ หรือ ลูอิส" คือชื่อของเธอ ... 1 ชั่วโมงผ่านไป เธอกลับเข้ามาที่ร้านเพื่อขอดูงานแปล

"Did you drunk, that night ? ... คุณเมาหรือเปล่าน่ะ วันนั้น" ผมถาม หลังจากที่เธอพยักหน้าพอใจกับงานแปล เธอถูกฉกกระเป๋าเงินไปใบเดียว ประกอบด้วยเงินสด 8000 บาท บัตรเครดิตและใบขับขี่ ... ปาร์ตี้ฟูลมูนเป็นนาทีทองของมิจฉาชีพมือฉกาจ ที่มองตาเป็นมันไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติผู้มึนเมากับเครื่องดื่มและระเริงไปตามเสียงเพลงและแสงจันทร์ ... (ในจินตนาการ ถ้าหลายคนมีเชื้อหมาป่าซุกซ่อนอยู่ พวกเขาอาจแปลงร่างและเปล่งเสียงหอนโหยหวนสู่ท้องนภา)

"No, I and my friend drank that night. But my friend is ok. I doubt somebody might drop something to my beer. ... ไม่นะ ฉันกับเพื่อนดื่มด้วยกันคืนนั้น แต่เพื่อนฉันโอเค ส่วนฉันคิดว่าอาจจะโดนใครใส่ยาในเบียร์ก็ไม่รู้ เพราะฉันไม่รู้ตัวเลย" เธอตอบ ... ผมถามแค่นั้น ไม่อยากละลาบละล้วงถามมาก ... เธอเป็นผู้หญิง ผู้เสียหายในเหตุการณ์ และผมเป็นเพียงผู้แปลเอกสาร ไม่ใช่นักสืบ ... ผมส่งไฟล์ฉบับนั้นไปยังอี-เมล์ของเธอ พร้อมกับยื่นซองเอกสารคืนให้ และเล่าให้เธอฟังถึงหนุ่มบราซิลเลียนที่เผชิญเหตุการณ์คล้ายกันบนเกาะพงันก่อนเธอไม่กี่วัน คนร้ายถือมีดมาจี้เอา ทรัพย์สินมีค่าไป โชคดีในโชคร้ายคือหนุ่มบราซิลไม่โดนทำร้ายบาดเจ็บ หญิงสาวทำตาโตรับฟังเงียบๆ

"How much ? ... คุณคิดเท่าไหร่" หญิงสาวถามค่าใช้จ่ายสำหรับงานแปล

"Up to you ... แล้วแต่คุณ" ผมตอบพร้อมกับความอยากรู้ เหมือนเดิม ก่อนที่หญิงสาวจะเอี้ยวตัวลงหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา ...

คืนวันนั้น ผมนั่งมองไฟล์เอกสารที่แปลเสร็จแล้วส่งให้ลูกค้าไป จินตนาการเห็นภาพนักล่ารวมพลกันออกล่าเหยื่อ เหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคืนเพ็ญ ... ปาร์ตี้ฟูลมูนที่ผ่านมาตรงกับวันมาฆบูชา เห็นเขาบอกว่าเลื่อนไป 1 วัน สวรรค์ของปวงโสณทุจริตเลื่อนไปเป็นวันเสาร์ที่ 15 กุมภา ...

... อาทิตย์หน้าจะมีเหยื่อที่กลับมาจากเกาะพงัน มาให้แปลใบแจ้งความส่งประกันอีกไหมหนอ เฮ้อออ SmileySmileySmiley

ใบแจ้งความของนักท่องเที่ยวหนุ่ม สถานที่เกิดเหตุคือหาดบ้านใต้ เกาะพงัน

ขณะที่เปโดรเดินอยู่บนเส้นทางสู่บังกะโล ผู้ไม่ประสงค์ดีมาพร้อมกับมีด ก่อนจากไปพร้อมกับทรัพย์สินเกือบ 10 รายการ มูลค่าน่าจะหลายอยู่

ส่วนลูอิส ... เธอเมาจนไม่รู้สึกตัว ก่อนโดนล้วงกระเป่าไปหลังปาร์ตี้ในคืนเพ็ญ

เจตตจัน
02-2820358
087-0719858
085-8035412
jettajan227@yahoo.com




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2557
1 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2557 14:52:37 น.
Counter : 2727 Pageviews.

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 23 กุมภาพันธ์ 2557 3:58:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jettajan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add jettajan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.