|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
กลัวมากระวังส่อพิรุธ [4 ก.ย. 50 - 03:48]
กลัวมากระวังส่อพิรุธ [4 ก.ย. 50 - 03:48] ก่อนอื่นเลยต้องให้กำลังใจ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หลังเดินทางเข้าเช็กสุขภาพที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากมีอาการหูอื้อ ปวด
แพทย์สรุปว่า นายกรัฐมนตรีเป็นโรคหูอื้อ สาเหตุจากการขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่นั่นที่นี่
เอาเป็นว่า ถ้า พล.อ.สุรยุทธ์ไม่จับพลัดจับผลูมานั่งตรากตรำหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อยู่บ้านสบายๆ ท่องป่าเขาลำเนาไพรตามวิถีดั้งเดิม
สุขภาพไม่น่าเสื่อมโทรมขนาดนี้
จบข่าวนายกฯไทย ก็บังเอิญมีข่าวล่ามาจากเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง พล.ท.เต็ง เส่ง รักษาการนายกรัฐมนตรี และประธานการประชุมคณะกรรมาธิการการประชุมสมัชชาแห่งชาติพม่า กล่าวต่อผู้แทน 1,000 คน ที่ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้สามารถเริ่มดำเนินการในรายละเอียดหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญได้แล้ว
อันเป็นการยืนยันว่า โครงร่างรัฐธรรมนูญพม่าได้รับความเห็นชอบ หลังจากใช้เวลาในการดำเนินการนานถึง 14 ปี
โดยสิ่งต่อไปที่จะดำเนินการคือ การจัดลงประชามติ จัดการเลือกตั้ง และจัดประชุมรัฐสภา ภายใต้แผนโรดแมปสันติภาพ 7 ขั้น ที่ประกาศเมื่อปี 2546
รัฐธรรมนูญพม่ารอมา 14 ปี เพิ่งจะสรุปโครงร่างกันเสร็จ
อย่างน้อยก็พอยืดได้ ประเทศไทยเจ๋งกว่า เพราะผ่านการใช้รัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ โดยไม่ต้องรอกันแบบมาราธอน
ล่าสุดขนาดฉีกแล้วร่างกันใหม่ ใช้เวลาไม่ถึงปีก็เสร็จมาใช้งานได้
เทียบกับพม่าแล้ว ในเรื่องประชาธิปไตย ไทยเราก็ยังมีภาษีดีกว่า
แต่ในมุมเดียวกัน ถ้าเทียบกับประเทศศิวิไลซ์ที่บูชาประชาธิปไตยเหนืออื่นใด อย่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศในแถบตะวันตก
ไทยเราก็ยังห่างเขาอยู่อีกหลายขุม
ไม่ต่างอะไรกับการที่ครั้งหนึ่ง เราเคยจินตนาการภาพเผด็จการทหารที่ปกครองในพม่า ครั้งนี้ก็เป็นกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ที่คาใจกับบรรยากาศหลังรัฐประหารในเมืองไทย
ถึงขั้นสะกิดรัฐบาล ขอเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งใหญ่ในช่วงปลายปี
ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเมืองไทย
แต่มันจะทำให้ตกอกตกใจ สถานการณ์ตึงเครียดกันไปใหญ่ กับคิวที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปโครมเลยว่า
ถ้าอียูเข้ามา จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายก็ไม่ควรให้เข้ามา โดยเกรงว่า ผลการสังเกตการณ์ของอียูอาจเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ หากรัฐบาลใหม่ไม่ได้รับการยอมรับ จะมีการปฏิวัติขึ้นมาอีกหรือไม่ ซึ่งดิฉันไม่อยากให้ปัญหาแบบนั้นเกิดขึ้นอีก เมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า เรากำลังชักศึกเข้าบ้านหรือไม่
ฉายภาพ อ่านเกมข้ามช็อตซะน่ากลัว
คนระดับ กกต. พูดถึงปัญหาการเลือกตั้งที่ต่างชาติสงสัยในความโปร่งใสเป็นทุนเดิม แถมโยงไปผูกกับเงื่อนไขการปฏิวัติที่อาจจะเกิดขึ้นอีกรอบ
ก็ยิ่งตอกย้ำทัศนคติด้านลบให้ฝรั่งต่างชาติไปกันใหญ่
ยังดีที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เป็นมวย รีบออกตัวนิ่มๆ วันที่ 6 กันยายนจะเชิญกลุ่มประเทศอียูมาหารือ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
เรายินดีที่จะให้กลุ่มอียูเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฎหมายของเรา
สอดรับกับสิ่งที่นายสุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ออกมาสอนเชิง
ถ้า กกต.โปร่งใสก็ไม่เห็นต้องกลัว
ไม่ควรปิดโอกาสให้องค์กรระหว่างประเทศมาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง แต่ก่อนจะให้อียูเข้ามา กกต.จะต้องเจรจาในขอบเขตที่ไทยยอมรับได้
หากอียูยอมรับเงื่อนไข การเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างภาพลักษณ์ของไทย เพราะไทยเพิ่งผ่านการรัฐประหารมา ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยเสียเวลาไปกับการชี้แจงเหตุผลในการทำรัฐประหาร แต่ก็มีหลายประเทศที่ยังไม่เข้าใจ
ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะสร้างภาพพจน์ที่ดีของประเทศ
ลบหรือบวก มันอยู่ที่กึ๋นจะพลิกเกมยังไงต่างหาก.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
//www.thairath.com/news.php?section=politics03&content=59814
Create Date : 06 กันยายน 2550 |
Last Update : 6 กันยายน 2550 17:01:06 น. |
|
0 comments
|
Counter : 248 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|