Thailand
Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
นักลงทุนถล่มหุ้นอีกระลอก ตื่นข่าวต่างชาติติดปม สำรอง 30% ขนเงินหนี [29 ธ.ค. 49 - 04:16]

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นวานนี้ (28 ธ.ค.) กลับมีแรงทรุดตัวลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง โดยนักลงทุนรายย่อย พากันตื่นตระหนกเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก กดดัชนีตลาดปรับตัวลงอย่างรวดเร็วลงไปแตะที่จุดต่ำสุดของวันที่ 676.77 จุด ลดลง 11.11 จุด ก่อนจะแกว่งตัวมาปิดตลาดที่ 680.36 จุด ลดลง 7.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11,889.29 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 71.28 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 505.06 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 433.79 ล้านบาท





ผู้บริหารระดับสูงในวงการโบรกเกอร์ กล่าวว่า มีกระแสข่าวแพร่สะพัดออกมาในห้องค้าว่า มาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งได้ผ่อนผันให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถฝากเงินในบัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นนอกประเทศให้มียอดคงค้างเกิน 300 ล้านบาทโดยไม่จำกัดจำนวน และระยะเวลาเพื่อความสะดวกในการถือเงินบาทหลังการขายหุ้นจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 ม.ค.2550 นี้ และจะมีผลให้เงินที่ต่างชาติขายหุ้นออกมาในสัปดาห์ก่อนมูลค่า 30,075 ล้านบาท ต้องนำออกไป ไม่เช่นนั้น จะต้องเจอกับมาตรการสำรองเงินตราต่างประเทศ 30% ของ ธปท.





กรณีดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้แก่นักลงทุนรายย่อยของไทย ซึ่งเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นแรงกดดันให้ต่างชาติเทขายหุ้นทิ้งอีกระลอก หลังเปิดตลาดทำการในต้นปีหน้า หรือในวันที่ 3 ม.ค. ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า การลงทุนจากต่างชาติอาจจะไม่กลับมาอีก เนื่องจากข้อเสนอของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โดยนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ ในฐานะประธานซึ่งทำถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ยกเลิกมาตรการของ ธปท.ไม่ได้รับการพิจารณาเช่นที่หลายฝ่ายตั้งความหวัง





ยังมีรายงานด้วยว่า นักลงทุนรายใหญ่ได้ให้ สัญญาณการขายหุ้นหลังเปิดตลาดต้นปีหน้าทันทีที่ผ่านช่วงเวลาของการฉลองเทศกาลไปแล้ว 2 สัปดาห์ ด้วย เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง โดย เฉพาะกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผูกมัดว่าจะลาออกจากตำแหน่งหากตรวจสอบพบว่าการถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยง นครราชสีมา มีความผิด และข่าวลือการปฏิวัติซ้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายโดยเฉพาะก่อนปิดตลาด มีแรงเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก จากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ





ขณะที่ผู้จัดการกองทุนต่างชาติรายหนึ่งกล่าวว่า ในช่วงก่อนปิดตลาดมี “โปรแกรม เซลล์” หรือคำสั่งขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติออกมาลอตใหญ่ ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ทำให้ตลอดทั้งวันที่ภาพรวมมีนักลงทุนต่างชาติบางกลุ่มที่เข้ามาทยอยซื้อหุ้นพอโดนแรงขายลอตนี้ออกมา จึงทำให้ต่างชาติพลิกกลับมาเป็นการขายสุทธิ




นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ธปท.จะใช้มาตรการบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นอยู่นอกประเทศ กลับมาอยู่ที่ไม่เกิน 300 ล้านบาทเหมือนเดิม จากเดิมที่ผ่อนผันไม่จำกัดวงเงิน ในจุดนี้ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้น และมีวงเงินเกิน 300 ล้านบาทต้องนำเงินออกนอกประเทศ และเมื่อเงินลงทุนต่างชาติไหลออก ก็จะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง





ทั้งนี้ จากช่วงที่ผ่านมาเมื่อนักลงทุนต่างชาติขายหุ้น และมีวงเงินเกิน 300 ล้านบาท ช่วงที่ผ่านมาสามารถนำเงินมาพักในตลาดตราสารหนี้ ด้วยการ นำเงินไปลงทุนในพันธบัตรระยะสั้น แต่เมื่อ ธปท.ออกเกณฑ์หากนำเงินไปลงทุนในตลาดพันธบัตรต้องกันสำรอง 30% ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นและมีวงเงินเกิน 300 ล้านบาท ต้องนำเงินออกนอกประเทศ และหากจะลงทุนหุ้นอีกก็สามารถนำเงินเข้ามาใหม่ ซึ่งไม่ต้องกันสำรอง 30% “การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในปีหน้า คาดเดาลำบาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับมาตรการของ ธปท. และการผ่อนปรนมาตรการที่มีอยู่แล้ว”





ส่วนความเคลื่อนไหวของเงินบาทตลาดในประเทศ เปิดตลาดที่ 36.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากนั้นก็อ่อนค่าต่ำสุดที่ 36.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะปิดตลาดที่ 36.13 บาทต่อดอลลาร์ สหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ส่วนในตลาดต่างประเทศ ผันผวนแตะจุดแข็งค่าสุดที่ 35.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนปิดตลาดที่ 35.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ





ผู้บริหารระดับสูงในวงการตลาดทุนเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เห็นสัญญาณการถอนทุนของนักลงทุนต่างชาติ กลุ่มที่ปกติจะเข้ามาถือหุ้นระยะยาวในบริษัทในตลาดหุ้น เพื่อหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลในระยะยาว ขณะนี้ได้เริ่มทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นลง เห็นได้จากรายการซื้อขายรายการใหญ่ หรือ “บิ๊กลอต” ที่มีเข้ามาจำนวนมากในแต่ละวัน หลังมาตรการของ ธปท.ออกมา





นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) กล่าวถึงรายการซื้อขายหุ้นบิ๊กลอตของ TKS เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ว่า เป็นของผู้ถือหุ้นกลุ่มบริษัทเอสเอ็นพี คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นกลุ่มทุนสิงคโปร์ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ 21 ล้านหุ้น หรือ 8.46% ให้กับกลุ่ม นักลงทุนไทย โดยทุนสิงคโปร์กลุ่มนี้ถือหุ้นบริษัทมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่หลังเกิดกรณีหุ้นชินคอร์ปได้ทำให้เกิดความกังวล และได้ตัดสินใจขายหุ้นออกมาทั้งหมดหลังมีมาตรการ ธปท.ออกมา.

//www.thairath.com/news.php?section=economic&content=31744


Create Date : 18 มกราคม 2550
Last Update : 18 มกราคม 2550 22:19:58 น. 0 comments
Counter : 355 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

จอบศักดิ์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Thailand
Friends' blogs
[Add จอบศักดิ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.