กลางเดือนตุลาคม 60 ก็เลยได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้
นั้นก็คือ ทำบุญถวายปัจจัยและเวชภัณฑ์เป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์
อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 และญาติผู้ใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้ว
เลยมีเวลาถ่ายรูปบริเวณรอบวัดมาฝาก
เผื่อใครมาแอ่วเหนือ เที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร / พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
หรือไปดอยปุย ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยน
สามารถแวะชมหรือทำบุญที่วัดผาลาดได้
วัดผาลาด (สกทาคามี) ตั้งอยู่ที่ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ระหว่างเส้นทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ขาขึ้นวัดจะอยู่ทางซ้ายมือ
ก่อนจะไปชมวัด มาทำความรู้จัก วัดผาลาด กันสักนิด
วัดผาลาด หรือ วัดสกทาคามี
เป็นวัดที่ได้ถูกกันออกจากเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
ตามพระราชกฤษฎีกาปี 2524 จำนวน 29 ไร่
สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ากือนา พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย
เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายแสวงหาสถานที่ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
พญาคชสารที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุนั้น ได้เดินมุ่งตรงไปทางดอยอ้อยช้าง
โดยมีพญาลิไทจากเมืองศรีสัชนาลัย สุโขทัย และเหล่าเสนาอำมาตย์ ก็แห่ฆ้อง กลอง ตามหลังช้างไป
พอถึงยอดดอยแห่งหนึ่ง ช้างที่อัญเชิญมาหยุดและย่อเข่าลงทำแบบนี้ 3 ครั้ง แล้วก็เดินต่อไป
เมื่อเดินมาถึงจุดที่ตั้งของวัดผาลาด ณ ปัจจุบัน
เป็นผาลาด ข้างธารน้ำตกมีอาศรมที่พักของฤาษี นักบวช มีบริเวณกว้างพอสมควร
ก็หยุดพากันหยุดพักชั่วขณะหนึ่ง แล้วเดินต่อไป
จนกระทั่งมาถึงมาถึงม่อนพญาหงษ์ ช้างก็หยุดพักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปถึงดอยอ้อย
ช้างก็เดินวนอยู่รอบบริเวณนี้ จึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ณ สถานที่นั้น
ซึ่งก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ณ ปัจจุบัน นั่นเอง
เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการหาสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระเจ้ากือนาทรงมีพระราชดำริให้สร้างวัดตามรายทางที่อัญเชิญเป็นอนุสรณ์ 3 แห่ง คือ
หนึ่ง วัดโสดาปันวนาราม หรือ วัดสามยอบ
ปัจจุบันเป็นวัดร้างในบริเวณของวัดผาลาด ห่างจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เพียง 1 กิโลเมตร
สอง วัดสกทาคามี หรือ วัดผาลาด (ปัจจุบัน)
เรียกตามลักษณะผาน้ำตกที่ลาดชัน
และสาม วัดอนาคามี หรือ ม่อนพญาหงษ์
ปัจจุบันคือสันกู่ เป็นป่าช้าของวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
ตั้งอยู่ก่อนที่จะถึงโค้งขุนกัณฑ์ จะมีทางแยกเล็ก ๆ เข้าไปทางซ้ายมือ
ทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของวัดผาลาดพอหอมปากหอมคอแล้ว
ปะ.. ไปชมความสวยงามของวัดกันเลยค่ะ
Credit : Photo by ลุงตู่ / ขอขอบพระคุณพี่ตู่ เด่นพงษ์ สมวงค์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
พระวิหารในวัดผาลาดเดิมสร้างในสมัยพระเจ้ากือนา และได้พังทลายลงมาเหลือแต่ฐาน
ต่อมาเมื่อครั้งที่ท่านครูบาศรีวิชัยสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพท่านก็ได้สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ทดแทน
โดยเลี่ยงไม่ให้ทับกับที่ตั้งวิหารหลังเดิมเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาผสมพม่า
เนื่องจากช่างเป็นชาวพม่า หน้าบันประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปนกยูง ประดับกระจกสีฟ้าเขียว
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบชาวลัวะ
Credit : Photo by ลุงตู่ / ขอขอบพระคุณพี่ตู่ เด่นพงษ์ สมวงค์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
พระพุทธเจดีย์ ที่อยู่ด้านหลังพระวิหารในวัดผาลาด
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา ต่อมาสมัยท่านครูบาศรีวิชัยท่านได้มาบูรณะ
สร้างวิหารขึ้นมาใหม่ จึงได้บูรณะพระเจดีย์แห่งนี้ไปด้วย จึงเป็นศิลปะแบบพม่า เพราะช่างเป็นชาวพม่า
องค์เจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ฐานเหลี่ยม ยอดแหลมไม่มีฉัตรกางกั้น
และในอดีตองค์เจดีย์ได้ถูกขุดเจาะเอาของมีค่าไป จึงเป็นเหตุให้ยอดเจดีย์พังลงมาและเป็นรูใหญ่
ปัจจุบัน ได้รับการบูรณะซ่อมแซมจนอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
Credit : Photo by ลุงตู่ / ขอขอบพระคุณพี่ตู่ เด่นพงษ์ สมวงค์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ภาพบน บ่อน้ำทิพย์ (เป็นการบอกเล่าต่อ ๆ กันมา)
บ่อน้ำแห่งนี้ มีการสร้างทับขึ้นหลายครั้ง
คาดเดาว่าสร้างขึ้นโดยชาวเมืองสุโขทัย ที่ติดตามพระเจ้ากือนาตอน เสี่ยงทายแสวงหาสถานที่
เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สร้างบ่อน้ำเผื่อเอาไว้กินไว้ใช้แทนน้ำจากลำห้วย
ครั้งที่สองสมัยพม่ายึดครองเมืองเชียงใหม่ ดูจากอิฐที่ปากบ่อน้ำ และ
ครั้งที่สามสมัยท่านครูบาศรีวิชัย สร้างมณฑปครอบบ่อน้ำ
ซึ่งเป็นประเพณีนิยมทำกันในถิ่นชาวไทยใหญ่และทางภาคเหนือของพม่า
ทางไป วัดผาลาด มีสองเส้นทางด้วยกัน คือ
เส้นทางโดยรถยนต์ เป็นเส้นทางเดียวกับทางขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
จากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยถึงทางเข้าวัด ประมาณ 6 กิโลเมตร
และอีกเส้นทางหนึ่งเป็นเส้นทางเดินเท้า เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติ
เริ่มต้นจาก สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เดินลัดเลาะขึ้นดอยไปยังวัด จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
เป็นอีกหนึ่งเส้นทาง ที่นักวิ่งมักจะใช้เป็นเส้นทางฝึกวิ่งเทลกัน
และเนื่องจากวัดตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นี่เอง
จึงมีต้นไม้สูงใหญ่ มีสายธารน้ำไหลเป็นน้ำตกติดกับตัววัด มีทิวทัศน์ที่สวยงาม
สามารถมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่จากน้ำตกได้ชัดเจน
VIDEO
Credit : Photo by ลุงตู่ / ขอขอบพระคุณพี่ตู่ เด่นพงษ์ สมวงค์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
Credit : Photo by ลุงตู่ / ขอขอบพระคุณพี่ตู่ เด่นพงษ์ สมวงค์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แปะภาพ.. อีกหนึ่งเส้นทางมาสามารถมาวัดผาลาดได้
โดยทางเท้า เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ลัดเลาะจากจุดเริ่มต้นที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7
มายังวัดผาลาด ระยะทางราว 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณหนึ่งชั่วโมง
..ปิดท้ายด้วยภาพนี้ค่ะ..
..ขอขอบคุณ..
หนึ่ง พี่ตู่ เด่นพงษ์ สมวงค์
ที่เอื้อเฟื้อภาพวัดผาลาดบางรูปมาประกอบการทำบล็อกในวันนี้
สอง เพื่อนเริ่ม ริเริ่ม ศรีวรรณะ
ที่เอื้อเฟื้อภาพเส้นทางเดินเท้า / เส้นทางเดินชมธรรมชาติ
จากสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ไปยังวัดผาลาด ราว 2 กิเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
และสาม อาจารย์อดุลย์ เหรัญญะ
ที่ให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาของวัดผาลาด (สกทาคามี)
ให้บล็อกมีความสมบูรณ์มากขึ้น
ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ..